ตอนที่ 467 เสื้อเชิ้ตของผม ชุดนอนของคุณ
อวี๋กานกานร้องอุทานพร้อมกอดมันเอาไว้ในอ้อมแขนแน่นขึ้นอีก ลูบขนฟูบนหัวของมันหลังจากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำ
ตอนที่ยาจุดกันยุงอาบน้ำไม่เชื่อฟังเลยสักนิด แถมยังมีอาการกลัวอีกด้วย ขัดขืน ต่อต้านอยู่บ่อยครั้ง จะวิ่งหนีก็หลายครั้ง ไม่ยอมให้ความร่วมมือเลยแม้แต่น้อย
อวี๋กานกานเปียกไปหมดทั้งตัว ใช้เวลาอย่างลำบากลำบนอยู่เกือบชั่วโมงกว่าถึงอาบน้ำให้ยาจุดกันยุงเสร็จ
หลังจากที่เป่าขนแมวให้จนแห้ง อวี๋กานกานก็ไปเตรียมตัวอาบน้ำ
ยาจุดกันยุงที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จขนฟูทั้งตัวเดินไปเดินมาอย่างสบายอารมณ์ในห้องรับแขก และยังกระโดดขึ้นโต๊ะอยู่บ่อยครั้ง เดินผ่านตรงหน้าฟังจือหันเหมือนอวด “เหมียว”
ฟังจือหันไม่ได้สนใจมัน พลิกเอกสารในมือ
การเคลื่อนไหวกะทันหันทำให้ยาจุดกันยุงหดตัว ก้าวถอยหลังมองฟังจือหันด้วยความตื่นตระหนก
เห็นฟังจือหันไม่มีการเคลื่อนไหวถัดไปก็ร้องขึ้นมาอีก “เหมียว”
ฟังจือหันมองยาจุดกันยุงแวบหนึ่ง
ยาจุดกันยุงรีบกระโดดลงจากโต๊ะแล้ววิ่งขึ้นไปหาอวี๋กานกานข้างบน
อวี๋กานกานขมวดคิ้วพลางหาเสื้อผ้าในตู้
ทำไมถึงไม่มีชุดนอนกันล่ะ
เธอลงมาชั้นล่าง ยาจุดกันยุงก็ลงมาชั้นล่างด้วย
มันอยู่ข้างหลังอวี๋กานกาน ก้าวนวดนาดลงมาโดยอาศัยบารมีของอวี๋กานกาน
อวี๋กานกานมองฟังจือหัน ใบหน้ามีความไม่เข้าใจอย่างชัดเจน “คุณซื้อเสื้อผ้ามากขนาดนั้น ทำไมถึงไม่มีชุดนอน”
ฟังจือหันย้อนถามเบาๆ “คุณจะใส่ชุดนอนเหรอ”
อวี๋กานกาน “…”
ชั่วร้ายจริง!
ฟังจือหันวางเอกสารในมือลง ลุกขึ้นไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวในตู้เสื้อผ้าเขาส่งให้อวี๋กานกาน “ชุดนอนของคุณ”
อวี๋กานกานรับเสื้อเชิ้ตขาวมา มึนงงอยู่นาน มองเสื้อเชิ้ตสีขาวในมืออีกทีและมองหน้าตาจริงจังของฟังจือหันอีกครั้ง “คุณไม่ได้ล้อเล่นนะ”
ใบหน้าหล่อหาที่เปรียบไม่ได้ดังหิมะที่ละลายในฤดูใบไม้ผลหยักยิ้มริมฝีปาก “ไม่ใช่ว่าคุณชอบเสื้อเชิ้ตของผมเป็นชุดนอนของคุณที่สุดเหรอ”
อวี๋กานกานคิดด้วยความงงงวย “ฉันเคยพูดคำพูดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่”
เธอกับฟังจือหันคบกันจริงๆ ไม่กี่วัน เธอจำได้แม่นว่าไม่เคยพูดเลย
และแต่ก่อนความสัมพันธ์ของพวกเขา เธอก็คงไม่พูดคำพูดแฝงความนัยเช่นนี้เป็นแน่
“ยังไม่ไปอาบน้ำอีก อยากจะชวนผมด้วยเหรอ”
ดวงตาของฟังจือหันหรี่ลงเล็กน้อย ปากบางเผยนิดหน่อยพลางโน้มตัวพรูลมหายใจข้างใบหูของอวี๋กานกาน
อวี๋กานกานใช้มือแตะไปที่หน้าของฟังจือหันแล้วออกแรงดันไป ถือเสื้อเชิ้ตสีขาวเดินไปโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
เสียงน้ำดังเปาะแปะแว่วมาจากห้องน้ำ ฟังจือหันจึงกลับไปที่ห้องรับแขกอีกครั้ง นั่งบนโซฟาอ่านเอกสาร
ห้องรับแขกที่ใหญ่แบบนี้มีเธออยู่ ต่อให้ฤดูหนาวก็อบอุ่นจนไม่อยากจะนั่งในห้องหนังสืออันหนาวเย็น
ไม่นานอวี๋กานกานก็อาบน้ำออกมา ใส่เสื้อเชิ้ตของชายหนุ่ม ผมยาวที่เป่าแห้งครึ่งหนึ่งสยายไปตามหลัง ใส่สลิปเปอร์ผ้าฝ้ายเดินลงมาชั้นล่าง
เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งเห็นสัดส่วนเว้าเย้ายวนเลือนราง เพราะผู้ชายตัวใหญ่ ผู้หญิงตัวเล็ก เสื้อเชิ้ตของเขาถูกใส่บนตัวของเธอจึงเป็นกระโปรง ด้านล่างเผยขาขาวเรียวยาวซึ่งมีเสน่ห์เซ็กซี่เอาไว้
ฟังจือหันที่นั่งอยู่บนโซฟาเหลือบตาขึ้นมอง สายตาลึกซึ้งเล็กน้อย
อวี๋กานกานไม่สบายตัวไปหมด เธอดึงมุมหนึ่งของปลายเสื้อลงมาพลางพูดกับฟังจือหัน “พรุ่งนี้ซื้อชุดนอนให้ฉัน”
ฟังจือหันพิงโซฟาอย่างเอื่อยเฉื่อย นัยน์ตาเปี่ยมด้วยความสนุกสนาน “แบบนี้ก็ดี”
อวี๋กานกานกล่าว “งั้นฉันไปซื้อเอง”
ฟังจือหันพูด “คุณซื้อหนึ่งชุด ผมทิ้งหนึ่งชุด”
อวี๋กานกานมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “งั้นฉันไปพักที่คอนโดหลินจยาอวี่”
ตอนที่ 468 น่าสงสาร คุณฟังผู้พยายาม
ฟังจือหันจ้องมองเธอครู่หนึ่ง คาดว่ากำลังครุ่นคิดว่าจะตอบเธออย่างไร อวี๋กานกานโน้มตัวลงเล็กน้อยพลางเอ่ยถามเขาด้วยสายตาเฉียบแหลม “คุณกำลังคิดจะเอากุญแจฉันทิ้งใช่ไหม”
ริมฝีปากบางของชายหนุ่มโค้งขึ้นเล็กน้อย ยิ้มออกมาแล้ว “ใส่ใจ คิดแผนให้ผมเรียบร้อย”
อวี๋กานกานยิ้มกว้างพร้อมกับขู่ “ถ้าคุณกล้าทำแบบนั้นจริง ฉันจะรีบเปลี่ยนให้คุณกลายเป็นคนโสดทันที”
ฟังจือหันตอบพร้อมรอยยิ้ม “งั้นผมคงต้องศึกษาเกี่ยวกับอาการสต็อกโฮล์มสักหน่อย”
อาการสต็อกโฮล์มก็คือโรคสต็อกโฮล์ม โรคที่บ่งบอกถึงความรู้สึกของตัวประกัน ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นจากเหยื่อที่มีความรู้สึกดี ไว้เนื้อเชื่อใจกับคนร้ายและอื่นๆ
“ดูซิ คุณพูดอะไรน่ะ ถ้าฉันเป็นหมอ จะให้คุณป่วยได้ยังไงกัน” อวี๋กานกานประคองใบหน้าหล่อของเขาพลางลูบไปทีสองที “งั้นเพื่อรักษาคุณให้หาย ฉันคงต้องให้คุณชิมสมุนไพรร้อยชนิด ถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะมีอาการอย่างไร”
คำพูดของทั้งสองคนเจือความหมายลึกซึ้ง
การข่มขู่แสนหวาน
ฟังจือหันกอดเอวอวี๋กานกานเอาไว้ ดึงเข้ามาในอ้อมแขนและประทับจูบ
สารแห่งความครุมเครือกระจายฟุ้งไปทั่ว เสน่ห์จับใจแพร่กระจายจากในอกซ้าย ทั้งสองจูบกันจนไม่รู้รสแล้ว ดวงตาทั้งสองข้างของอวี๋กานกานพร่ามัวและชายหนุ่มที่เย็นชาก็ฉายความใคร่ อีกทั้งเจือความรีบร้อนที่ต้องการมากกว่านั้น…
อวี๋กานกานพลันยกมือข้างหนึ่งดันฟังจือหัน ก้าวถอยไปด้านหลังไม่กี่ก้าว “ขอพูดต่อหน้าก่อน แม้ตอนนี้เราจะคบกันแล้ว แต่ฉันไม่ได้ตอบตกลงที่จะอยู่กินกับคุณ ดังนั้นคุณนอนห้องนอนของคุณ ฉันนอนห้องนอนของฉัน ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ห้ามมาวุ่นวาย”
เรื่องที่บ่อน้ำพุร้อนในวันนั้นเธอยังจำได้อยู่
ผู้ชายคนนี้ควบคุมไม่ค่อยได้ คนที่ให้ความรู้สึกเย็นชา โอหังไม่เหมือนกันเลยสักนิด
ฟังจือหัน “…”
อวี๋กานกานส่งยิ้มทั้งน่ารักและหวานให้กับเขา “งั้นฉันไม่รบกวนคุณอ่านเอกสารแล้ว ฝันดี”
หันหลังแล้ววิ่งขึ้นชั้นบน ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะสดใส
ฟังจือหันขยับเอกสารในมือให้เข้าที่ หางคิ้วเลิกขึ้นและอ่านเอกสารต่อ
อวี๋กานกานตื่นขึ้นมากลางดึก เข้าห้องน้ำไปก็รู้สึกคอแห้งและอยากกินน้ำ
ตอนที่เดินผ่านห้องหนังสือพบว่าไฟข้างในกลับสว่างอยู่ อวี๋กานกานแปลกใจ หรือดึกขนาดนี้ฟังจือหันยังไม่นอน
เธอผลักประตูเบาๆ เปิดเข้าไป เห็นชายหนุ่มรูปหล่อร่างสูงกำลังนั่งบนเก้าอี้หมุนอยู่หลังโต๊ะทำงานจริงด้วย มือกดที่ตำแหน่งขมับ กำลังอ่านเอกสารแผนการฉบับหนึ่ง
ดวงตาเย็นชาและจริงจัง
พอเห็นอวี๋กานกาน ดวงตาของเขาก็อ่อนลง
“เกือบจะตีสี่แล้ว ทำไมคุณยังทำงานอยู่” อวี๋กานกานเดินไปตรงหน้าเขา มองแก้วกาแฟตรงข้างคอมพิวเตอร์พลางขมวดคิ้วแน่น “อดนอน ดื่มกาแฟดำ คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
เขาจูงมืออวี๋กานกานให้เธอนั่งบนหน้าขาของตนเอง มือลูบไปตามผมยาวนุ่มลื่นของเธอ “เดี๋ยวก็นอนแล้ว ทำไมคุณตื่นมาล่ะ”
“ฉันคอแห้ง อยากกินน้ำ พรุ่งนี้คุณค่อยอ่านเถอะ รีบไปนอน”
“คุณไปนอนก่อนเลย ผมรออีกสักพักก็เสร็จแล้ว”
อวี๋กานกานมองเขาด้วยความสงสาร
คนอื่นต่างก็คิดแค่ว่าเขาฉลาด แต่ที่จริงเขาต้องพยายามเสียยิ่งกว่าคนไหน ปู่เจียงมอบบริษัทให้เขา เหมือนเป็นงานสบาย ที่จริงอาจเป็นงานที่ยุ่งยากงานหนึ่ง
“นอน พรุ่งนี้ค่อยดูต่อ” อวี๋กานกานเอื้อมมือโอบรอบลำคอเขา
“พรุ่งนี้เช้าประชุมสามัญ” ความหมายคือเอกสารแผนการบนโต๊ะฉบับนี้ก่อนนอนจะต้องจัดการให้เสร็จ
“งั้นฉันไม่สน ไม่ว่ายังไง ตอนนี้คุณต้องนอนกับฉัน” สายตาของอวี๋กานกานที่มองเขาอ่อนโยนดุจน้ำ น้ำเสียงให้ความรู้สึกออดอ้อนเล็กน้อย