ตอนที่ 479 เอาแต่ใจ ชอบประกาศ
อวี๋กานกานหลุดขำอย่างมีเสน่ห์ “เอาแต่ใจ”
เธอหลับตาลงพลางซบไปในอ้อมแขนของฟังจือหัน ยิ้มด้วยใบหน้าร้อนฉ่ากระตุกความรู้สึก
ภาพอันอบอุ่นแสนสั้น ชายหนุ่มที่อ่อนโยนดุจสายน้ำนัยน์ตาประกายวาบ เขาหรี่ตาลงอย่างระแวดระวัง เอียงตัวไปด้านข้างพร้อมกับเบี่ยงหน้า
หลังจากที่สายตากวาดไปบางที่แล้ว เขาก็ขยับเข้ามาใกล้หูเธอแล้วเอ่ยเบาๆ “คันที่สามข้างหน้าเป็นรถของเรา คุณหันหลังขึ้นไปนั่งทันที”
อวี๋กานหานนิ่งไปทั้งตัว กำลังคิดจะถามว่าทำไม แต่ฟังจือหันกดตัวเธอเอาไว้และเอ่ยอีกครั้ง “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าหันหลัง และอย่าเปิดประตูรถ”
น้ำเสียงเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง
อวี๋กานกานเหลือบตาขึ้นเห็นหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยอยู่ตลอด ดูอันตรายและน่ากลัว
อันตราย
สองพยางค์นี้ทำให้ในใจของเธอหนักอึ้ง!
เธอไม่ยอมทิ้งฟังจือหันเอาไว้คนเดียว แต่เธออยู่ต่อก็อาจทำให้ยุ่งยากยิ่งขึ้น
อวี๋กานกานพยักหน้า
ขณะที่ฟังจือหันมือก็หันหลังทันที ก้าวเท้าออกวิ่งขึ้นมานั่งในรถอย่างรวดเร็ว
พอเธอขึ้นรถก็เห็นฟังจือหันรีบเดินไปด้านขวา หมุนตัวอย่างเท่ไม่กี่ครั้ง รวมกับกระโดดอย่างว่องไวอีกทีก็คว้าคนชุดดำคนหนึ่งที่เตรียมจะวิ่งได้แล้ว
คนผู้นี้ใส่เสื้อคลุมสีดำ สวมผ้าปิดปากสีดำ ทำท่าทางลับๆ ล่อๆ
สายตาเฉียบแหลมของฟังจือหันมองไปทั่ว กวาดมองด้วยความระแวดระวัง
ตอนที่เห็นว่าไม่มีใครออกมาจึงโยนคนที่อยู่ในมือลงไปกับพื้นอย่างแรง!!
คนคนนั้นถูกผลักลงกับพื้นจึงส่งเสียงร้องออกมา “อ๊ะ”
เป็นเสียงของผู้หญิง เธอถอดผ้าปิดปาก มองฟังจือหันด้วยน้ำตาคลอ “พี่หัน ฉันเอง…”
อวี๋กานกานนั่งในรถ สีหน้าหวาดกลัว ถือโทรศัพท์มือถือเตรียมจะแจ้งตำรวจ เห็นคนที่ล้มลงบนพื้นถอดผ้าปิดปากที่หน้า ปรากฏเป็นใบหน้าอันคุ้นเคย
เธออึ้งไปครู่หนึ่ง เห็นว่าไม่มีคนอื่นค่อยออกมา ผลักประตูรถออกแล้วเดินลงไปพลางมองหญิงสาวที่อยู่ตรงพื้น “กู้ซูหลิง ทำไมถึงเป็นเธอ เธอตามพวกเรามาทำไม”
กู้ซูหลิงลอบจ้องหน้าอวี๋กานกานแวบหนึ่ง
จากนั้นเธอจึงมองไปที่ฟังจือหันพร้อมกับอธิบายด้วยสีหน้าบริสุทธิ์ใจ “พี่หัน ฉันไม่ได้ตามพวกพี่ ฉันก็อยากมาดูหนังเหมือนกัน บังเอิญเจอพวกพี่ ฉันไม่อยากรบกวนถึงได้หลบมาอีกด้านหนึ่ง”
สายตาของฟังจือหันที่จับจ้องใบหน้าของกู้ซูหลิงเย็นชาดุจน้ำแข็งและยังเจือแรงอาฆาตเล็กน้อยเอาไว้
นี่ไม่เหมือนกับมองคนที่คุ้นเคย แต่เหมือนมองศัตรูคนหนึ่ง
อวี๋กานกานหัวเราะแห้ง “เธอหลอกใครกัน นี่มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว เธอยังบอกว่าไม่ได้ตามพวกเรามา งั้นขอถามหน่อยว่าแบบไหนถือว่าตามกัน”
กู้ซูหลิงเอื้อมมือออกไปอยากจะจับมือฟังจือหันเพื่ออธิบายกับเขา
ใบหน้าของฟังจือหันแข็งกร้าว ไม่มีร่องรอยความเปลี่ยนแปลงสักนิดเดียวและออกแรงสะบัดมือของตนเอง กู้ซูหลิงจึงล้มไปกับพื้นทันที เธออดตัวสั่นเทิ้มเสียไม่ได้ พูดออกมาด้วยความกลัวแต่บริสุทธิ์ใจ “เชื่อฉันเถอะ พี่หัน”
ฟังจือหันปรายตามองลงไปที่เธอ ดวงตาคู่นั้นดำมืดลึกซึ้งเหมือนคมดาบน้ำแข็งในหน้าหนาวที่ทั้งแหลมคมและเย็นชา “บังเอิญ งั้นแจ้งตำรวจให้ตำรวจมายืนยันว่าพวกเราบังเอิญกันจริงรึเปล่า”
สายตาเย็นเฉียบไร้ความอบอุ่น บรรยากาศตึงเครียดไร้ความปรานีทำให้กู้ซูหลิงที่เดิมเตรียมคำพูดเอาไว้บ้างติดอยู่ในลำคอในชั่วพริบตา
เธอกลัวฟังจือหันแจ้งตำรวจจริงๆ
เรื่องนี้ต้องไม่เป็นเรื่องใหญ่ ไม่งั้นเธอคงไม่เหลือหน้าตาอะไรเลยเชียว
เธอหน้าตาเศร้าสร้อยมองฟังจือหันเปี่ยมด้วยความรัก พลางเอ่ยอย่างน่าสงสาร “พี่หัน ขอโทษค่ะ ฉันแค่เห็นในเวยป๋อ รู้ว่าพวกพี่กำลังมาดูหนัง เพราะงั้นถึงได้มา แต่ฉันไม่ได้มีความคิดอย่างอื่น ฉันก็แค่อยากมาดูพวกพี่แค่นั้น ได้โปรด พี่ต้องเชื่อฉันนะ!”
ตอนที่ 480 เสี่ยวอวี๋กำลังจะกลับมา
เวยป๋อ?
อวี๋กานกานจำได้ว่าตนเองโพสต์ลงในแวดวงเพื่อน แต่ไม่ได้โพสต์เวยป๋อเลย เธอก็ไม่ได้มีเวยป๋ออยู่แล้วด้วย
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองมาล็อกอินดูเวยป๋อสักหน่อย เวยป๋อที่ชื่อว่าอวี๋กานนั้นโพสต์ความเคลื่อนไหวของเธอ บัญชีเวยป๋อนี้แม้จะถูกหลินจยาอวี่เลิกติดตามไปแล้ว แต่ว่ายังคงมีแฟนคลับมากมายติดตามอยู่ และแสดงความคิดเห็นในเวยป๋ออีกมาก
เพราะว่าบัญชีเวยป๋อนี้โพสต์ความเคลื่อนไหวของอวี๋กานกานล่าสุดสองครั้ง
อวี๋กาน : ดวงตาน้อยๆ สำคัญมาก ทุกคนต้องดูแลให้ดี! เป็นข้อความจากคุณเจี่ยนเวยเวย ขอบคุณหมออวี๋ใช้ผู่กงเองสองตำลึงรักษาดวงตาเธอให้หาย ทำให้เธอสามารถมองเห็นโลกหลากสีสันใบนี้ได้ชัดเจนอีกครั้ง
แนบรูปคู่เจี่ยนเวยเวยกับอวี๋กานกานทั้งสองคน รูปใบนี้น่าจะเป็นเจี่ยนเวยเวยที่โพสต์ให้เธอ
อวี๋กาน : ปลีกตัวจากงานยุ่ง ดูหนังผ่อนคลายสักรอบ
หลังจากนั้นก็แนบรูปถ่ายสองใบ รูปแรกเป็นตั๋วหนัง อีกรูปหนึ่งเป็นรูปมือที่จูงมือกัน
ความเคลื่อนไหวอันนี้คัดลอกมาจากโพสต์ที่เธอโพสต์ลงในแวดวงเพื่อนก่อนที่จะเข้าโรงหนัง ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรหรือว่ารูปภาพก็เหมือนไปหมด
อีกฝ่ายเหมือนไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร แค่อยากจะเพิ่มยอดติดตาม แต่อีกฝ่ายอยู่ในแวดวงเพื่อนของเธอด้วยเหรอ
ดังนั้นเวยป๋ออวี๋กานนี้ คนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใครกันแน่
ฟังจือหันเหลือบมองโทรศัพท์มือถือของอวี๋กานกาน สายตาจึงจับไปที่ตัวกู้ซูหลิงอีก แววตาเฉียบแหลมดุจดาบคม
กู้ซูหลิงรีบเอ่ยขึ้นมาประโยคหนึ่ง “พี่หัน เป็นเพราะฉันชอบพี่จริงๆ…อยากจะมามองพี่”
ฟังจือหันขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าพลันชิงชังขึ้นมา
น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ไม่มีคลื่นแห่งความอบอุ่นเลยสักนิด แต่กลับเจือคำข่มขู่กับคำสั่งอย่างเคร่งขรึมเอาไว้ “เห็นแก่หน้าของลุงกู้ ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาเรื่อง แต่อย่าให้มีครั้งหน้าอีกเด็ดขาด”
กู้ซูหลิงมองชายหนุ่มตรงหน้าเหมือนกับแหงนมองดาวบนท้องฟ้าที่ขั้วโลกเหนือ เหลือเพียงความหนาวเย็นในคืนขั้วโลกราตรี
ชายหนุ่มพาหญิงสาวเดินจากไป มือที่จับจูงกันนั้นดุจแรงดึงดูดที่แนบแน่น นัยน์ตาของกู้ซูหลิงแดงก่ำ ปรากฏเส้นเลือดไปทั่ว
เธอกำหมัดแน่น ในใจเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา
ความปรารถนาที่ต้องการได้กลับไม่สมหวังทำให้เธอตะโกนออกไปอย่างบ้าคลั่ง “พ่อฉันหากู้เหยียนอวี๋เจอแล้ว เธอกำลังจะกลับมาแล้ว”
จังหวะย่างก้าวของฟังจือหันหยุดไปเล็กน้อย และเดินต่อไปข้างหน้า พาอวี๋กานกานขับรถออกไป
ในรถเงียบมาก สายตาของอวี๋กานานมองฟังจือหันเหมือนมีความหมายลึกซึ้ง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กู้ซูหลิงบอกว่ากู้เหยียนอวี๋จะกลับมา
ดังนั้นบอกว่าเรื่องของกู้เหยียนอวี๋ไม่มีอะไรจริงๆ
งั้นกู้เหยียนอวี๋ในใจของฟังจือหันมีตัวตนที่พิเศษอย่างไรกันแน่
แต่ก่อนเธอจะไม่สนใจ
เพราะกู้เหยียนอวี๋ไม่ได้อยู่ใกล้ และนั่นก็เป็นเรื่องราวสมัยเด็กของเธอกับฟังจือหัน ผ่านมาหลายปี ถ้าเธอยังไปวุ่นวายกับกู้เหยียนอวี๋ ถ้าหันมาถามฟังจือหัน ถ้ากู้เหยียนอวี๋ยังอยู่ ระหว่างพวกเราคุณจะเลือกใคร
นั่นก็จะชัดเจนว่ามีแค่เธอคนนี้ที่ไร้สมองกับไร้เหตุผลเป็นพิเศษ
แต่ว่าในตอนนี้กู้เหยียนอวี๋กลับมาแล้ว งั้นเธอก็ต้องเผชิญหน้ากับคำถามนี้ ฟังจือหันจะสานความสัมพันธ์ครั้งเก่ากับกู้เหยียนอวี๋ไหม
จะคบเธอต่อไป ให้กู้เหยียนอวี๋เป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็ก?
หรือเลือกคบกับกู้เหยียนอวี๋ จากนั้นก็บอกเธอว่าขอโทษ และพยายามชดเชยให้เธออย่างที่สุดกันนะ?
คำถามนี้พอคิดก็เกิดความรู้สึกหายใจไม่ออก จินตนาการไม่ออกถ้าเธอถามออกไปและความรู้สึกขณะที่รอคำตอบอยู่
เธอนิ่งเงียบ ฟังจือหันย่อมรับรู้ได้เป็นธรรมดา
กลับไปถึงบ้าน อวี๋กานกานเตรียมจะกลับเข้าห้องนอนอย่างเงียบๆ ชายหนุ่มดึงมือของเธอเอาไว้ “ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลย”