ตอนที่ 483 หนูต้องการแค่ฟังจือหันเท่านั้น!
“คุณพ่อ…”
กู้ซูหลิงมองไปที่กู้เชิน ราวกับว่าเธอกำลังลอยอยู่ในมหาสมุทรแล้วจู่ๆ คว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้
เธอเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้วคุกเข่าข้างเท้าของเขาด้วยสีหน้าเศร้า “หนูต้องการแค่ฟังจือหันเท่านั้น คุณพ่อช่วยหนูหน่อยได้ไหมคะ ถ้าคุณพ่อเป็นฝ่ายเอ่ยปาก เขาต้องฟังคุณพ่อแน่ๆ คุณพ่อให้พวกเราได้อยู่ด้วยกันเขาก็ไม่กล้าปฏิเสธหรอกค่ะ”
“ถึงจะเป็นแบบนี้แต่ระหว่างลูกกับเขาก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่ดี พ่อเป็นผู้ชาย พ่อรู้ถึงไม่มีหัวใจของผู้ชายดี” กู้เชินเอ่ยอย่างเย็นชา
“แต่ถ้าไม่ลอง ไม่พยายาม หนูกลัวว่าจะเสียใจในอนาคต คุณพ่อช่วยหนูเถอะนะคะ” กู้ซูหลิงร้องไห้อ้อนวอน
กู้เชินแน่นิ่งไม่ขยับ “…หลิงหลิง ลูกควรมองไปข้างหน้า ควรหาผู้ชายที่ดีกับลูกสักคนเถอะนะ”
กู้ซูหลิงที่ถูกปฏิเสธร้องไห้อย่างเจ็บปวดหัวใจผิดหวังยิ่งกว่าเดิม
ในจานมีมีดปอกผลไม้เล็กๆ อยู่หนึ่งเล่ม ทันใดนั้นเธอเสียความควบคุมบ้าคลั่งหยิบมันขึ้นมาจี้ไปที่คอของตัวเอง แล้วเอ่ยอย่างสิ้นหวัง “คุณพ่อ หนูรักเขามากจริงๆ ถ้าหากไม่มีทางได้คบกับเขา ให้หนูตายไปเสียยังจะดีกว่า”
ในขณะที่พูดก็ทำท่าจะแทงลงไป
กู้เชินรีบจับมือเธอแล้วคว้ามีดด้วยความโกรธ “นี่ลูกยอมตายเพื่อผู้ชายคนหนึ่งเลยเหรอ นายฟังจือหันคนเย็นชาไม่มีหัวใจจะไปคู่ควรให้ลูกรนหาที่ตายโดยไม่คิดถึงคนในครอบครัวได้อย่างไร”
กู้ซูหลิงกอดขาของกู้เชินฝังใบหน้าที่ร้องไห้อย่างขมขื่นเอาไว้ “หนูขอ…คุณพ่อ หนูขอโทษ…”
มองสภาพของเธอที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่เพราะความรัก
กู้เชินนึกถึงเขากับเสี่ยวเหยียนของเขา แน่นอนว่าตอนที่เขาตามจีบเสี่ยวเหยียนก็คลั่งรักเช่นนี้เหมือนกัน สุดท้ายแสดงความรักจริงใจต่อเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนถึงตอบรับขอแต่งงานของเขา
เสียดายที่ร่างกายของเสี่ยวเหยียนไม่แข็งแรง…
ทิศทางแห่งความรัก
เพราะความชื่นชมบูชาและรักอย่างสุดซึ้งในหัวใจของทุกคนจึงทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง
เพราะว่ารักแท้พูดว่าให้ควบคุมก็ไม่สามารถควบคุมได้
กู้เชินถอนหายใจ “หลิงหลิง ลูกคิดให้ดีนะ”
กู้ซูหลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าและสะอื้น “หนูคิดดีแล้วค่ะคุณพ่อช่วยหนูเถอะนะคะ อีกอย่างน้องสาวก็กลับมาแล้วหนูไม่อยากให้น้องสาวแต่งงานกับเขา ให้หนูแต่งกับเขาจะดีที่สุด”
เธอปรารถนาในฟังจือหันอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ไม่สนว่าต้องใช้วิธีใดเธอก็ต้องได้ผู้ชายคนนี้ กู้เชินรักเธอมาก หากเธอเสียใจจนคิดอยากตาย มีหรือที่กู้เชินจะไม่ยอม
กู้เชินประนีประนอม “พ่อรับปาก แต่ลูกต้องจำไว้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย หากไม่สำเร็จลูกจะต้องเริ่มนัดดูตัวได้แล้ว พ่อจะจัดการหาผู้ชายที่ดีเพียบพร้อมที่สุดให้ลูกเอง”
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ” เธอรีบพยุงร่างลุกขึ้นยื่นแขนกอดกู้เชินแน่นไม่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอีก แล้วพูดด้วยสีหน้าเชื่อฟัง “คุณพ่อดีกับหนูมากจริงๆ ค่ะ หนูรู้ดีว่าถึงแม้เราจะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ในใจของพวกเราเปรียบเสมือนพ่อลูกแท้ๆ”
“แน่นอนสิ ก็ลูกเป็นลูกของพ่อนี่”
แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ความรักของพ่อกับลูกหลายปีนี้กลับเป็นเรื่องจริง
อาจเป็นเพราะตอนแรกเขาใช้เธอเป็นตัวแทนของเสี่ยวอวี๋ เพียงเพราะอาลัยอาวรณ์ลูกสาวของตนเอง แต่ว่าผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ในใจของเขา เธอได้รับการปฏิบัติเหมือนลูกสาวแท้ๆ ของเขาไปตั้งนานแล้ว
เธอเป็นคนเอาใจใส่และมีเหตุผลมาก เธอปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพและรัก แม้ว่าเธอจะไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ในใจของเธอเขาเปรียบเสมือนพ่อผู้ให้กำเนิดของเธอ
ดังนั้นอุบัติเหตุครั้งนั้น เธอไม่สนแม้กระทั่งชีวิตของตัวเองเพื่อเข้ามาบังหน้าร่างเขาเอาไว้
นั่นเป็นบุญคุณชีวิต
ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอจะเป็นบุตรบุญธรรมของเขา หากเป็นเพียงคนแปลกหน้าหรือต่อให้เสี่ยวอวี๋กลับมา หลิงหลิงก็ยังคงเป็นลูกสาวของเขาอยู่ดี
ตอนที่ 484 แพทย์แผนจีนที่อายุน้อยที่สุด
ในแผนกเภสัชกรรมอวี้อีถังมีกล่องลิ้นชักไม้การบูรเป็นช่องๆ เรียงจากบนลงล่าง แพทย์หญิงสาวในเสื้อกาวน์สีขาวเล่นกับห่วงทองแดงที่ฝังอยู่หน้ากล่องลิ้นชักและสนทนากับแพทย์ชายอีกคนที่ถือยาอยู่
“หยางซี อวี๋กานกานที่มาวันนี้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์หมอหวงเหรอ อายุน้อยจริงๆ อายุน้อยกว่าคุณหมอเฝิงของโรงพยาบาลของเราเสียอีก”
“ซุนหยวนเจิน คุณหมออวี๋เป็นที่อาจารย์หมอหวงแนะนำมา แต่เห็นเทคนิคการแพทย์แล้วไม่เลวเลย” หยางซีแพทย์หนุ่มที่กำลังใช้กระดาษสีน้ำตาลห่อยาอยู่เอ่ยตอบกลับไป
“เหอะๆ แต่สิ่งที่ฉันได้ยินมาไม่ใช่แบบนี้นะ” น้ำเสียงของซุนหยวนเจินเจือความเย้ยหยัน “ยังสาวขนาดนี้แถมยังอายุน้อยกว่าฉันอีกอย่างกับเด็กที่กำลังเรียนมหา’ลัย จะมีเทคนิคการแพทย์สักเท่าไหร่กันเชียวฮะ…”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังนินทากันอยู่นั้น แพทย์หญิงสาวอีกคนหนึ่งก็เดินเข้ามา ซุนหยวนเจินจึงรีบเอ่ยถาม “สวีจยาอี๋ ได้ยินว่าวันนั้นเธอคุยกับอวี๋กานกานแล้วนี่ ดูท่าทางอาจารย์หวงให้ความสำคัญกับเธอเป็นพิเศษเลยใช่ไหมล่ะ”
สวีจยาอี๋เป็นแพทย์สาวที่ห้ามอวี๋กานกานไม่ให้ไปรักษาคนสุ่มสี่สุ่มห้าเมื่อวันนั้นพอดี เธอจึงตอบอย่างกระอักกระอ่วน “คุณหมอซุน คุณอย่าพูดถึงเลยค่ะ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอจะเป็นหมอจริงๆ พูดว่าเธอไปซะขนาดนั้น ขายขี้หน้าจริงๆ”
แพทย์หนุ่มหยางซีพูดกลั้วหัวเราะ “เธอดังมากเลยนะ แพทย์แผนจีนที่สวยที่สุดในอินเตอร์เน็ต คุณไม่รู้จักจริงๆ เหรอ”
สวีจยาอี๋ยกมือปิดหน้าอย่างร้องไห้ก็ไม่ได้หัวเราะก็ไม่ออก “…”
“แต่ฉันว่าเธออาจจะไม่ต่างกับพวกเรามาก ได้ยินมาว่า…” ซุนหยวนเจินพูดกดเสียงต่ำลง “ฉันก็แค่ได้ยินมาว่าฐานะครอบครัวไม่เลวถึงเข้าสมาคนกองทุนแพทย์ อย่างว่าแหละมีเงินมันก็แบบนี้”
สวีจยาอี๋และแพทย์หนุ่มหยางซีต่างพากันนิ่งแล้วยิ้ม
ไม่ว่าเธอจะมีความสามารถจริงๆ หรือไม่ก็ตาม เธอสามารถได้รับการแนะนำและรับรองจากอาจารย์หวงก็น่าจะไร้ข้อกังขาต่อความสามารถของเธอ
ถึงแม้จะยังแอบสงสัยในใจอยู่บ้าง แต่เพราะเห็นแก่หน้าอาจารย์หวงก็คงไม่ไปยั่วยุท่านหรอก
“ฉันคิดว่ายังไงก็น่าจะไปทักทายหน่อยแล้วถือโอกาสพูดถึงเรื่องวันนั้น” เมื่อเอ่ยจบสวีจยาอี๋จึงออกไปและตรงไปที่ห้องทำงานของอวี๋กานกาน
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู อวี๋กานกานจึงตะโกนตอบกลับไป “เชิญเข้ามาค่ะ”
ประตูห้องตรวจถูกเดออก คนที่เข้ามาไม่ใช่เพื่อนร่วมงานแต่เป็นแพทย์สาวที่ตำหนิเธอตรงทางเดินในวันนั้น เธอพูดอย่างแย้มยิ้ม “สวัสดีค่ะคุณหมออวี๋ ดิฉันสวีจยาอี๋เองค่ะ”
อวี๋กานกานลุกขึ้นแล้วกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “สวัสดีค่ะ เชิญนั่งก่อน คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
สวีจยาอี๋นั่งลงบนเก้าอี้อย่างระมัดระวังเล็กน้อย “ก็ไม่มีอะไรค่ะแค่มาทักทายเฉยๆ แล้ว…เมื่อวานนี้ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณคิดมากไปแล้ว”
“งั้นต่อไปนี้ฝากเนื้อฝากตัวกับคุณหมออวี๋ด้วยนะคะ”
“คุณถ่อมตัวไปแล้วค่ะ”
หลังจากที่ส่งสวีจยาอี๋ออกไปเรียบร้อยแล้วอวี๋กานกานก็ถอนหายใจออกมา มาทำงานวันแรกมีเพื่อนร่วมงานมากกว่าคนไข้เสียอีก วันนี้เธอรู้สึกราวกับเป็นลิงที่กำลังถูกจับตามองในสวนสัตว์เลย
หลังตรวจคนไข้เสร็จอวี๋กานกานกะว่าจะไปหาอาจารย์หวงสักหน่อยแต่เผอิญเจออาจารย์หวงกำลังจะออกไปข้างนอกพอดี
อวี๋กานกานเห็นผู้ช่วยของอาจารย์หวงถือกล่องปฐมพยาบาลในมือจึงเอ่ยถาม “คุณจะออกไปรักษาข้างนอกเหรอคะ”
อาจารย์หวงชี้ไปทางด้านนอก “ใช่ เธอจะไปด้วยกันหรือเปล่า ได้ยินมาว่าอาการของผู้ป่วยมีความซับซ้อน”
อวี๋กานกานพยักหน้ายิ้มๆ “ได้ค่ะ วันนี้ฉันจะเป็นผู้ช่วยของคุณเองค่ะ”
ผู้ช่วยของอาจารย์หวงรู้จักอวี๋กานกานมานานแล้ว เขาจึงรีบยื่นกล่องปฐมพยาบาลในมือให้อวี๋กานกาน “งั้นรบกวนคุณหมออวี๋ด้วยนะครับ รถมารออยู่ข้างนอกแล้ว”