ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 102

ฟังจือหัน กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ

อวี๋กานกานมองแผ่นหลังที่จากออกไปของฟังจือหัน ขยับริมฝีปากแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรออกมา

 

 

ฟังจือหันมองความคิดที่อยู่ในใจของอวี๋กานกานออกหมดแล้ว เขารู้ว่าต่อจากนี้เธอจะทำอะไร ดังนั้นจึงตัดสินใจล่วงหน้าไว้อยู่ก่อนแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอให้เธอพูดจนชัดเจน เธอไม่ได้อยากจะไล่เขาไปเดี๋ยวนี้ตอนนี้ อย่างไรเสียเขาก็ช่วยเธอไว้ แม้จะโกหกว่าเป็นสามี แต่ก็ไม่ได้ทำร้ายเธอ

 

 

หากตอนนี้เขายังไม่มีที่ไหนให้ไป หรือติดปัญหาอะไร เขาสามารถพูดออกมาได้ ช่วยได้ก็จะช่วย ถือว่าเป็นการขอบคุณ แต่นี่ก็ไม่ได้หมายถึง เธอจะยินยอมให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอไปตลอด ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนล้วนไม่ควรปล่อยให้คนแปลกหน้าอาศัยอยู่ในบ้านเป็นระยะเวลานาน นี่เป็นความปลอดภัยของจิตใต้สำนึกขั้นพื้นฐาน

 

 

อวี๋กานกานกลับถึงห้อง กระเป๋าเดินทางของฟังจือหันยังคงอยู่ในห้องของเธอ แบบนี้นับว่าเขาจากไปตลอดกาลหรือเปล่า เราจะได้เจอกันอีก? หมายถึงสักวันหนึ่งจู่ๆ เขาก็จะปรากฏตัวอีกครั้ง? ยังไงซะเขาก็รู้จักรหัสประตูห้องของเธอ

 

 

หรือว่าจะเปลี่ยนรหัสอีกครั้งดี?

 

 

ช่างเถอะ อย่างไรเสียของของฟังจือหันก็ยังอยู่ในห้องเธอ ถ้าเกิดเขากลับมาเอาของ ผลปรากฏว่ารหัสประตูถูกฟังจือหันเจาะได้อีกครั้ง นั้นจะยิ่งแสดงให้เห็นว่าเธอทำเรื่องให้ยุ่งยากโดยเสียเวลาเปล่า

 

 

อวี๋กานกานรู้สึกว่าผ่านไปอีกสักสองวัน กระทั่งพรุ่งนี้ก็เป็นไปได้ ฟังจือหันจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าเธอแน่ อย่างไรเสียเขาก็เป็นพวกเจ้าแผนการอยู่แล้ว

 

 

แต่ทว่าผ่านไปแล้ววัน ฟังจือหันกลับไม่ปรากฏตัวออกมาเลย ในห้องก็ไม่มีร่องรอยว่าเขาแวะกลับมา หากไม่ใช่เพราะกระเป๋าเดินทางของเขายังอยู่ในห้องของเธอ คงทำให้เธอสงสัยว่าเคยมีผู้ชายชื่อฟังจือหันปรากฏตัวอยู่ในชีวิตของเธอจริงๆ หรือเปล่า

 

 

หลินจยาอวี่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอารมณ์ของอวี๋กานกานค่อนข้างเซื่องซึม หลายวันมานี้ผ่านการฝังเข็ม มุมปากของหลินจยาอวี่คืนฟื้นสู่สภาพปกติกว่าครึ่งแล้ว ต่อให้ไม่สวมหน้ากาก ขอแค่หลินจยาอวี่ไม่พูดก็จะมองดูเหมือนคนปกติทั่วไป เพียงแต่ว่ามุมปากยังค่อนข้างแข็ง

 

 

ในมุมมองของหลินจยาอวี่ เธอหายกลับมาได้ถึงขนาดนี้นับว่าโชคดีมากแล้ว

 

 

“บางครั้งผู้ชายก็ต้องการให้ง้อ ถ้าคุณรู้สึกว่าเขาดีต่อคุณ คุณก็โทรศัพท์หาเขาสักหน่อยเถอะ” หลินจยาอวี่พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย อวี๋กานกานมองเธอด้วยความสับสนงุนงง ไม่ค่อยเข้าใจว่าประโยคนี้เธอหมายถึงอะไร

 

 

อวี๋กานกานจ้องหน้าหลินจยาอวี่ ทันใดนั้นก็เข้าใจหลินจยาอวี่ทันทีว่าทำไมเธอถึงได้กังวลว่าคนอื่นจะเห็นปากอัมพาตของเธอ นั้นเป็นเพราะว่าเธอสวยมากจริงๆ

 

 

หญิงงามย่อมเอาใจใส่ในรูปลักษณ์ของตนเอง

 

 

อวี๋กานกานถามอย่างไม่เข้าใจ “ที่เธอพูดหมายถึงอะไร”

 

 

หลินจยาอวี่เอ่ยเสียงเย็น “ไม่เห็นสามีคุณมาหลายวันแล้ว พวกคุณไม่ได้ทะเลาะกันหรอกเหรอ”

 

 

เดิมทีริมฝีปากบางเฉียบของอวี๋กานกานปิดสนิทเป็นเส้นตรง พลันโค้งขึ้นปรากฏเป็นรอยยิ้ม ที่แท้หลินจยาอวี่ก็นึกว่าเธอกับฟังจือหันทะเลาะกัน ดังนั้นจึงให้เธอโทรศัพท์ไปหาฟังจือหันสักสาย

 

 

อวี๋กานกานส่ายหน้า “เปล่า เธอคิดมากไปแล้ว”

 

 

 โทรศัพท์หาฟังจือหันสักสาย? จะโทรอย่างไร เธอไม่มีแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ของฟังจือหันด้วยซ้ำ หากจะโทรก็น่าจะเป็นเขาที่โทรมา

 

 

ในขณะที่คิดอยู่ จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น อวี๋กานกานตะลึงไปเล็กน้อย มีความรู้สึกแปลกประหลาดสายหนึ่งแล่นผ่านอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ชั่วขณะหนึ่งเธอนึกว่าอาจจะเป็นที่ฟังจือหันที่โทรเข้ามาจริงๆ

 

 

ทว่าไม่ใช่ฟังจือหันเป็นสายเข้าจากทนายเฉิน ทนายเฉินเป็นอดีตทนายของคุณปู่ เขาเป็นผู้อ่านพินัยกรรมหลังจากที่คุณปู่เสียชีวิต

 

 

เธอรับโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ ทนายเฉิน”

 

 

ทนายเฉินที่อยู่อีกฝั่งของสาย พูดอย่างค่อนข้างจำใจ “คุณอวี๋ สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าบ่ายนี้คุณพอมีเวลาไหมครับ ทางนี้มีเรื่องต้องรบกวนให้คุณมาจัดการหน่อยน่ะครับ”

 

 

อวี๋กานกานพลันนึกถึงเรื่องที่ลุงใหญ่พูดในวันนั้น พินัยกรรมของคุณปู่ถูกเปิดอ่านไปตั้งแต่ตอนคุณปู่เสียแล้ว ที่ยังไม่ถูกเปิดอ่านน่าจะเป็นพินัยกรรมฉบับเสริม[1]

 

 

 

 

——

 

 

[1] พินัยกรรมฉบับเสริม คือ พินัยกรรมที่เขียนขึ้นภายหลังพินัยกรรมฉบับเดิม เพื่อเพิ่มเติม แก้ไข เนื้อหาหรือเงื่อนไขบางส่วนให้ครบถ้วนสมบูรณ์เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้เขียนมากยิ่งขึ้น 

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset