ตอนที่ 501 เธอสมควรได้รับคำขอโทษ
“ลูกสาวตระกูลกู้นิสัยเสียเธอสมควรต้องได้รับความทุกข์ทรมานซะบ้าง พิษนี้รักษาไม่กี่วันก็หายแล้ว เสี่ยวอวี๋เป็นคนที่ฉันเรียกมาวันนั้นช่วยฉันฝังเข็ม ฉันไม่ปล่อยให้เธอตามฉันมาเพื่อโดนด่าฟรีหรอกแม้แต่ขอโทษสักคำยังไม่มี”
คุณผู้ช่วยเข้าใจสิ่งที่หมอหวงพูดในทันทีซึ่งหมายความว่าต้องการให้คุณหนูกู้ขอโทษอวี๋กานกาน
เขาถามด้วยความกังวล “ถ้าสมมติคุณหมออวี๋แก้พิษไม่สำเร็จจะทำยังไงล่ะครับ”
“เด็กนั่นแม้อายุยังน้อยแต่ความสามารถในวงการแพทย์ถือว่าไม่เลว” แต่เพื่อกันไว้ก่อนหมอหวงจึงตัดสินใจโทรศัพท์หาอวี๋กานกาน
…
ทันทีที่หมอหวงกลับไปกู้ซูหลิงจึงโวยวายเสียงดังใส่จูอวี้ลู่ “หมอวิเศษอะไรกัน แค่พิษยังแก้ไม่ได้ หนูดูแล้วคงเป็นตาแก่ที่หากินกับชื่อเสียงมากกว่า”
“ไม่เป็นไรๆ ไว้เราค่อยตามหมอคนอื่นต้องรักษาหายแน่นอน”
จูอวี้ลู่กอดปลอบบุตรสาวของตน
กู้เชินเดินเข้ามาเห็นสองแม่ลูกกอดกันร้องไห้
“วางใจเถอะ มือของลูกจะต้องไม่เป็นอะไร หมอหวงบอกแล้วว่าอวี๋กานกานรักษามือให้ลูกได้”
ดวงตาของกู้ซูหลิงแดงก่ำแล้วอุทานขึ้นมา “ไม่ต้องตามอวี๋กานกานนะคะ เธอไม่ใจดีมาถอนพิษให้หนู เธอต้องเล่นเล่ห์เหลี่ยมแน่ๆ ไว้เราค่อยหาหมอดังๆ คนอื่นนะคะคุณพ่อต้อง…”
เธอร้อนรนพูดยังไม่ทันจบก็เกิดอาการหน้ามืดหมดสติล้มพับลงไปที่โซฟา
จูอวี้ลู่ตกใจจนหน้าซีดร้องตะโกนเสียงดัง “หลิงหลิง…หลิงหลิง”
“ยืดเวลาต่อไปไม่ได้แล้ว ผมจะรีบไปตามอวี๋กานกานส่วนคุณดูลูกดีๆ”
กู้เชินกล่าวจบก็หันตัวออกไปข้างนอก
ต้องบากหน้าไปขอโทษอวี๋กานกานด้วยตัวเอง ถึงแม้ผู้หญิงคนนี้จะไม่ลงรอยกับลูกสาวของตนแต่ความประทับใจของเขาที่มีต่อเธอก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้าย
เพียงแต่ว่าวันนั้นตอนมาดูอาการให้หลิงหลิงต้องยอมรับว่าเธอความไม่ยุติธรรมจริงๆ เกรงว่าเธอจะไม่ยอมมารักษาให้หลิงหลิงอีก
แต่ถ้าเธอยอมมาช่วยลูกสาวเขาไม่ว่าต้องการเงื่อนไขสิ่งใดเขายินดีรับปากอย่างแน่นอน
อวี๋กานกานรัยสายหมอหวงที่จู่ๆ ก็เอ่ยถามเธอ “พิษที่เด็กตระกูลกู้คนนั้น เธอรักษาได้ไหม”
“ก็ไม่ยากอะไรนี่คะ”
“งั้นก็ดี”
หมอหวงไม่ได้พูดอะไรอีกก็วางสายไป อวี๋กานกานรู้สึกแปลกใจที่จู่ๆ หมอหวงก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมา เธอไม่เชื่อหรอกว่าหมอหวงจะถอนพิษชนิดนี้ไม่ได้ถึงได้มาถามเธอ
เช่นนั้นมีความเป็นไปได้อยู่อย่างเดียวคือหมอท่านอื่นรักษาพิษของกู้ซูหลิงไม่ได้แล้วก็เลยตามหมอหวงไปรักษาให้อีกครั้งหมอหวงจึงมอบโอกาสนี้ให้กับเธอ
หวังว่าคนของตระกูลกู้จะให้เหตุผลในวันนั้นและขอโทษกับเธอ
แต่ว่าเธอไม่อยากเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลกู้ ทุกครั้งที่เจอคนในตระกูลเธอมักจะคิดสับสนวุ่นวายและมีความไม่สบายใจบางอย่าง
อวี๋กานกานเดินลงมาข้างล่างหยุดยืนหน้าหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสตรงห้องรับแขกแล้วก็เห็นฟังจือหัน
ช่วงนี้ฟังจือหันให้คนมาปรับปรุงห้องรับแขกใหม่ ตรงหน้าต่างนั้นมีโต๊ะรับแขกหนึ่งตัวและเก้าอี้นั่งเล่นอีกสองตัว
ในขณะที่ตอนนี้เขานั่งเอนกายพิงพนักเก้าอี้ถือแท็บเล็ตไว้ในมือ
อวี๋กานกานเดินย่องเบาเข้าไปหาอยากแอบส่องว่าเขาดูอะไรอยู่ เมื่อกวาดสายตาดูแล้วพบว่าเป็นข้อมูลการลงทุนทั้งหมดที่เธอไม่เข้าใจจึงปีนขึ้นเก้าอี้ใช้สองแขนโอบรอบคอเขาจากข้างหลัง
สายตาของฟังจือหันยังคงจดจ้องที่แท็บเล็ตต่อด้วยความตั้งใจ
ท่าทางจริงจังของผู้ชายมีเสน่ห์น่าหลงใหลที่สุด อวี๋กานกานชื่นชมอยู่ครู่หนึ่งก็คิดว่าจะออกไปเงียบๆ
กำลังจะขยับมือก็ถูกฟังจือหันยื่นมือมายึดแขนของเธอเอาไว้ข้างหนึ่ง อวี๋กานกานยกยิ้มมุมปากเอนศีรษะซบไหล่เขาเบาๆ “เดี๋ยวคุณเข้าบริษัทไหมคะ”
ตอนที่ 502 กลับไปรักษาให้อีกครั้ง
“ไปก็ได้ไม่ไปก็ได้” ฟังจือหันดึงแขนอวี๋กานกานให้มานั่งตักของตัวเอง
“ถ้างั้นเราออกไปกินข้าวกันไหม” หลังจากอวี๋กานกานนั่งมั่นคงแล้วจึงยื่นแขนโอบกอดรอบคอของเขา
“คุณอยากกินอะไร”
“ฉันคิดดูก่อน…กินหม้อไฟดีไหมคะ”
“ได้” ฟังจือหันเขี่ยปลายจมูกของเธออย่างรักใคร่
ทั้งสองขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวออกไปข้างนอก แต่เมื่อปิดประตูปุ๊บก็บังเอิญเจอกู้เชินที่ออกมาจากลิฟต์พอดี
ฟังจือหันกวาดสายตามองอวี๋กานกานเงียบๆ จากนั้นจึงเอ่ยเรียกเบาๆ “คุณลุงกู้”
ท่าทีที่กูเชินมีต่อฟังจือหันยังคงเย็นชาเหมือนเดิมแต่เขากลับมองอวี๋กานกานด้วยสายตาอบอุ่น “สวัสดีครับคุณหมออวี๋”
อวี๋กานกานก้มศีรษะให้กู้เชินอย่างมีมารยาทเป็นการทักทาย
กู้เชินมองอวี๋กานกานแล้วจึงพูดขึ้น “คุณหมออวี๋ ผมเชื่อว่าคุณคงรู้ว่าผมมาหาคุณเพราะอะไร”
อวี๋กานกานพยักหน้า “ฉันรู้ค่ะ แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นประธานกู้ก็น่าจะเห็นแล้ว”
กู้เชินกล่าวอย่างขอโทษ “ขอโทษเรื่องคราวก่อนด้วยจริงๆ แต่ขอเชิญคุณไปอีกครั้งได้ไหมครับ”
ฟังจือหันไม่รู้ว่าอวี๋กานกานไปดูอาการป่วยของกู้ซูหลิงที่บ้านตระกูลกู้ เขาหรี่ตาหันไปมองอวี๋กานกาน “คราวก่อน?”
อวี๋กานกานอธิบาย “คุณหนูกู้ถูกกิ้งก่าพิษกัดค่ะ เมื่อหลายวันก่อนฉันก็เลยตามไปดูอาการกับหมอหวงค่ะ”
เรื่องอื่นไม่อยากพูดมากแต่หลังจากนี้คงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนักไม่เช่นนั้นกู้เชินคงไม่ตามมาขอโทษถึงที่นี่
ฟังจือหันมองกู้เชินด้วยสายตาเย็นชาแล้วเอ่ยขึ้น “คุณลุงกู้ ขอโทษด้วยนะครับพวกเรากำลังจะออกทานข้าวคงต้องขอตัวก่อน”
เขาถือโอกาสช่วยอวี๋กานกานปฏิเสธตรงๆ
กู้เชินมองฟางจือหัวด้วยแววตาเย็นเยียบแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดี “ไปทานที่บ้านฉันสิ เธอมีแฟนแล้วก็ควรพาไปทานข้าวที่บ้านสักมื้อ”
ฟังจือหันหลุบสายตาต่ำ นัยน์ตาเรียบนิ่งฉายแววประชดอย่างเยือกเย็นครู่หนึ่ง
หลายปีมานี้กู้เชินมองเขาราวกับว่าเป็นศัตรู ต่อให้เขาไปเยี่ยมเยียนบ้านนั้นก็ไม่เคยได้รับสีหน้าดีๆ ตอบกลับนับประสาอะไรกับชวนให้อยู่ต่อเพื่อทานข้าวด้วยกัน
แต่ตอนนี้เขากลับถอยให้ก้าวหนึ่งเพื่อกู้ซูหลิง ‘ลูกสาว’ คนนี้ที่เขารักนักรักหนา
“ไม่เป็นไรครับ”
ฟังจือหันปฏิเสธทำให้สีหน้าของกู้เชินเรียบตึงด้วยท่าทางโมโห
อวี๋กานกานเดินไปข้างหน้าสองก้าวแล้วเอ่ยขึ้น “ประธานกู้คะ เรื่องอาหารไม่เป็นไรค่ะ ถ้าหากคุณหนูกู้ยินยอมให้ดิฉันรักษา เช่นนั้นดิฉันก็จะไปกับคุณแต่ดิฉันมีข้อแม้อย่างหนึ่ง”
ในฐานะที่เป็นหมอคนหนึ่งเธอไม่สามารถปฏิเสธได้อีกทั้งหมอหวงแนะนำเธอไปแล้วให้อีกฝ่ายกล่าวขอโทษเธอ เงื่อนไขแรกคือต้องการให้เธอไปรักษาดังนั้นเธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
แต่ในฐานะที่เธอเป็นอวี๋กานกานเธอกลับไม่ยินยอมสักนิด เมื่อครู่นี้ที่เอ่ยชวนฟังจือหันไปทานข้าวก็เพราะอยากหลบเลี่ยงกู้เชินไม่ไปทำตามข้อเงื่อนไขนี้
ใครจะไปคิดว่ากู้เชินรีบมาถึงที่นี่ขนาดนี้
“เชิญพูดครับ” อวี๋กานกานเห็นด้วยอย่างรวดเร็วและเสนอเงื่อนไขโดยตรงซึ่งทำให้กู้เชินพอใจมาก ไม่ว่าเธอต้องการอะไรเขาจะรับปากเธอและเสนอค่าตอบแทนสิบเท่า
“ให้คุณกู้ซูหลิงขอโทษที่เธอเสียมารยาทในวันนั้นค่ะ”
“แค่นี้เองเหรอ” กู้เชินประหลาดใจ
“ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะคะ ฉันยังจะเสนอเงื่อนไขอะไรได้อีก” อวี๋กานกานถามกลับไป
กู่เชินมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าเขาด้วยความอ่อนโยนที่ไม่อาจอธิบายได้ในใจของเขา
อันที่จริงเธอไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์เหมือนเสี่ยวเหยียนเท่านั้นแม้กระทั่งนิสัยยังเหมือนเสี่ยวเหยียนอีกด้วยเพราะเช่นนี้จึงทำให้กู้เชินนึกถึงเสี่ยวอวี๋ เขาตามหาเสี่ยวอวี๋เจอแล้วแต่ยังไม่เปิดเผยเพราะเขาไม่อยากให้ฟังจือหันรู้ว่าเสี่ยวอวี๋กลับมาแล้ว
แต่ว่าเสี่ยวอวี๋คนนั้นทั้งใบหน้ามีเพียงดวงตาที่เหมือนเสี่ยวเหยียนเล็กน้อยแต่ส่วนอื่นกลับมีข้อแตกต่างอยู่มาก