ตอนที่ 503 แยกแยะด้วยว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ
บรรยากาศภายในรถเงียบสนิททั้งประหม่าเย็นเยียบเต็มไปด้วยความรู้สึกกดดัน
ฟังจือหันนั่งตำแหน่งคนขับแต่กลับไม่สตาร์ทรถเสียทีเอาแต่จ้องมองอวี๋กานกานด้วยสายตาซับซ้อน
อวี๋กานกานปราดตามองเขาแวบหนึ่งแล้วหลบสายตามองไปข้างหน้ารอจนเมื่อไหร่ฟังจือหันจะขับรถสักทีแต่สุดท้ายฟังจือหันยังคงรักษาท่าเดิมเอาไว้
อวี๋กานกานกรอกตาเดาว่าฟังจือหันเป็นอะไรอีกแล้วหันไปจ้องฟังจือหันบ้าง “ทำไมถึงยังไม่สตาร์ทรถ”
ฟังจือหันไม่เอ่ยอะไรออกมาเอาแต่จ้องอวี๋กานกานไม่กระดิก
อวี๋กานกานกระพริบตาปริบๆเขายังคงอยู่ท่าเดิมร่างกายไม่ขยับไม่ว่าแต่เอาแต่เบิกตาจ้องตลอดเวลาไม่แสบตาบ้างหรือไร
ในขณะที่อวี๋กานกานกำลังจะแซวเขาว่าจะจ้องแบบนี้จนชั่วฟ้าดินสลายเลยหรือเปล่าฟังจือหันก็เปิดปากพูดเสียก่อน “ทำไมคุณถึงตอบตกลงเขาไป”
นัยน์ตาของชายหนุ่มนิ่งขรึม
อวี๋กานกานพูดแฝงความหมายลุกซึ้ง “ถ้าตามนิสัยของฉัน ฉันควรจะต้องเอาคืน”
ฟังจือหันพูดเสียงเรียบ “เรื่องของผมกับตระกูลกู้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของผม คุณจะปฏิเสธก็ได้”
ผู้ชายคนนี้คิดว่าเธอยินยอมรักษาให้กู้ซูหลิงเพราะเขาติดค้างเรื่องลูกสาวของกู้เชินเช่นนั้นเขาก็คิดผิดแล้ว
เขากับกู้เชินจะมีบุญคุณความแค้นอะไรก็ไม่เกี่ยวข้องกับเธอสักนิดแล้วเธอเองก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย
อวี๋กานกานขำ “ฉันยอมไปรักษาก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ วันก่อนฉันไปบ้านนั้นกับหมอหวงแล้วตอนนี้หมอหวงเสนอให้ฉันรักษา หากฉันไม่ไปหมอหวงต้องลำบากใจแน่ๆ อีกอย่างคนป่วยก็มักจะอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว จะให้อารมณ์ไม่ดีแล้วไม่รักษาให้อย่างนั้นเหรอ”
ฟังจือหันฉุกคิดเงียบๆ ไม่พูดสิ่งใด
อวี๋กานกานกุมมือเขาเอาไว้โน้มตัวไปข้างหน้าแล้วจิ้มแก้มถามเขาอย่างน่ารักออดอ้อน “คนที่กู้ซู
หลิงชอบคือคุณไม่ใช่ฉันสักหน่อย ฉันยังไม่หึงเลยแล้วคุณจะหึงทำไมคะ”
ด้วยเหตุนี้เธอจึงประทับริมฝีปากลงไปที่แก้มของฟังจือหัน
สีหน้าเย็นชากลับมาอบอุ่นดังเดิม ฟังจือหันบีบแก้มอวี๋กานกานอย่างหมั่นเขี้ยว “ผมจะไปกับคุณ รีบรักษาให้เสร็จเราจะได้ไปกินข้าวไวๆ”
“ค่ะ”
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงทั้งสองก็มาถึงอาณาบริเวณตระกูลกู้
ตอนที่พวกเขาเข้ามากู้ซูหลิงมองฟังจือหันด้วยสายตาลึกซึ้งแวบหนึ่ง
ก้าวเดินเชื่องช้าแล้วก็ไม่รู้ว่าลังเลอะไรอยู่
เมื่อเข้ามาในห้องบุตรสาวคนสวยก็รีบตะโกนเรียกกู้เชินทันที “คุณพ่อ”
กู้เชินตอบรับหนึ่งคำก่อนจะมองไปที่ฟังจือหัน
ฟังจือหันปราดตามองหญิงสาวแวบเดียวก็รีบหันกลับมารวดเร็วโดยไม่มีความรู้สึกเลยสักนิด
อวี๋กานกานมองหญิงสาวผิวขาวสวยอ่อนโยนตรงหน้าที่จ้องเธอกับฟังจือหันด้วยความอยากรู้อยากเห็นราวกับกำลังคาดเดาว่าเธอเป็นใคร
ในใจเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เจียงฉี่บอกว่ากู้เชินมีลูกสาวแค่สองคน
คนแรกคือกู้ซูหลิงซึ่งเป็นลูกติดส่วนอีกคนคือกู้เหยียนอวี๋เป็นลูกแท้ๆ ที่เกิดกับภรรยาเก่า
ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้เรียนกู้เชินว่าพ่อเช่นนั้นแล้วเธอไม่ใช่กู้เหยียนอวี๋หรอกหรือ
กู้เชินมองไปที่บุตรสาวแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ลูกกลับเข้าห้องก่อน”
หญิงสาวพยักหน้ายิ้มๆ แต่ยังมิวายเหลือบมองฟางจือหับแวบหนึ่งด้วยความสงสัยเป็นอยjางยิ่งก่อนหันหลังกลับไป
รอจนบุตรสาวกลับเข้าไปกู้เชินจึงผายมือเชิญอวี๋กานกานเข้ามา
อวี๋กานกานรับกระเป๋ายามาจากมือของฟังจือหันแล้วมองเขาด้วยนัยตาลึกซึ้ง
สายตาเย็นชาไม่ได้ให้ความสนใจผู้หญิงคนนั้น
แต่คนอย่างเขาฉลาดขนาดนั้นไม่มีทางเดาไม่ออกว่าผู้หญิงที่ควรเรียกกู้เชินว่า ‘พ่อ’ ควรจะเป็นใครมากกว่า
ตอนที่ 504 รักษาหายแล้วแต่ยังคันแผล
กู้ซูหลิงยังอยู่ในอาการโคม่าและแพทย์ประจำตระกูลกำลังดูแลเธอ
คราวนี้จูอวี้ลู่กระตือรือร้นพิถีพิถันกับอวี๋กานกานเป็นพิเศษราวกับเป็นคนในครอบครัว
แต่ระหว่างการรักษากลับถามนู่นนี่ด้วยสีหน้าเป็นกังวล
เมื่อเห็นอวี๋กานกานหยิบเข็มขึ้นมาเธอก็รีบเอ่ยถาม “เข็มที่ใช้ฝังเข็มพวกนี้เล็กแหลมหรือเปล่าทำไมถึงหนาขนาดนั้น”
อวี๋กานกานอธิบายให้เธอฟัง “เข็มที่ใช้ในการฝังเข็มแบ่งขนาดตามวัสดุเล็กใหญ่สั้นยาวต่างกัน พิษของคุณหนูกู้ดื้อมาก เข็มเบอร์เล็กรักษาได้ผลยากมากค่ะ คุณแน่ใจว่าต้องการให้ใช้เข็มเบอร์เล็กเหรอคะ”
จูอวี้ลู่เหลียวไปมองแพทย์ประจำตระกูลที่อยู่ข้างๆ
เมื่อเห็นสายตายืนยันจากหมอเธอจึงยิ้มให้อวี๋กานกานอย่างกระอักกระอ่วน “ฉันเข้าใจหมออวี๋ผิดแล้ว ฉันไม่ได้อยากถ่วงเวลารักษานะคะ ฉันแค่ถามเพราะอยากเข้าใจเฉยๆ”
อวี๋กานกานยกยิ้มแกนๆ ที่มุมปาก
ผ่านไปสักพักจูอวี้ลู่ก็ยังถามเธออีกว่าฝังเข็มจุดไหนทำไมถึงฝังตรงนี้แล้วจะเป็นรอยแผลเป็นหรือไม่
เป็นต้น
ทุกคำที่พูดแสดงถึงความไม่ไว้ใจอวี๋กานกานอย่างชัดเจน
อวี๋กานกานถูกถามจนรำคาญก็เลยเอ่ยหยุดออกมาตรงๆ “กรุณารักษาความสงบขณะกำลังรักษาด้วยค่ะ”
จูอวี้ลู่จึงจะได้ไม่ถามมากความอีกแต่ก็ยังเอาแต่จับตามองย่างประหม่าอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาเพราะเกรงว่าอวี๋กานกานไม่ระวังอาจรักษากู้ซูหลิงผิดพลาด
หลังจากฝังเข็มเสร็จเรียบร้อยอวี๋กานกานจึงให้ยากู้ซูหลิง
จูอวี้ลู่มองเห็นขวดยาสีดำที่ไม่มียี่ห้อและแหล่งผลิตในมืออวี๋กานกานก็รีบถามทันทีว่ายานี้ใช้ทำอย่างไรใช้ได้ผลไหม
อวี๋กานกานไม่ได้ตอบคำถามเธอเพียงแต่เขียนใบสั่งยายื่นให้จูอวี้ลู่ “ยาใช้ภายใน หนึ่งห่อกินได้สองครั้ง กินสองครั้งต่อหนึ่งวันค่ะ”
จูอวี้ลู่รับยามาแล้วเอ่ยขอบคุณหนึ่งคำ เมื่อเห็นอวี๋กานกานกำลังจะออกไปจึงรีบตามไปแล้วเอ่ยถาม “แล้วหลิงหลิงจะฟื้นเมื่อไหร่”
“รอสักครู่ก็ฟื้นแล้วค่ะ”
“รอหลิงหลิงฟื้นก่อนแล้วค่อยไปไม่ได้เหรอ” จูอวี้ลู่กล่าวด้วยรอยยิ้มและเมื่อเห็นอวี๋กานกานขมวดคิ้วจึงรีบพูดเสริม “หมออวี๋ไม่ต้องคิดมากฉันแค่กังวลใจกลัวว่าละเลยรายละเอียดจุกจิกระหว่างนี้ค่ะ”
กลัวละเลยเรื่องรายละเอียดจุกจิกหรือกลัวว่ายาของเธอจะมีปัญหากันแน่ อวี๋กานกานรู้ดีแก่ใจ
อวี๋กานกานยิ้มแล้วมองเธอด้วยสายตาเย็นเยือกราวกับหิมะ “แน่นอนว่าฉันยังรอเธอพูด ‘ขอโทษค่ะ’ สามคำกับดิฉันด้วยตนเองอยู่”
ฟังจือหันและกู้เชินนั่งรอที่โซฟาห้องรับแขกด้านนอกภายใต้บรรยากาศกดดัน
อวี๋กานกานไม่ทราบว่าเมื่อครู่นี้พวกเขาคุยอะไรกันสีหน้าทั้งสองถึงได้ดูเรียบนิ่งและระงับอารมณ์ไม่ดีเอาไว้เช่นนี้
กู้เชินรีบลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นเธอเดินออกมาแล้วปรี่ตัวเข้าถาม “หมออวี๋ เป็นอย่างไรบ้างครับ”
“พิษถูกขับออกแล้วกินยาสามวันเดี๋ยวก็ดีขึ้นค่ะ”
“ขอบคุณหมออวี๋นะครับ”
ฟังจือหันยื่นมือออกไปรับกระเป๋ายาจากอวี๋กานกาน “ไปกันเถอะ”
อวี๋กานกานยิ้มให้เขา “รออีกสักครู่นะคะ” ถึงจะรักษาได้แล้วแต่ยังไม่ได้ขอโทษ ละครฉากสำคัญยังไม่ได้เริ่มต้น
ประตูห้องไม่ได้ปิดจึงทำให้ได้ยินเสียงร้องดีใจของจูอวี้ลู่ดังลอดออกมา “หลิงหลิงฟื้นแล้วเหรอลูก ในที่สุดลูกก็ฟื้นแล้ว”
กู้ซูหลิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเจ็บปวดทรมานจนทนไม่ไหว “ทำไมถึงคันแผลแบบนี้”
“นี่ทายาเอาไว้น่ะลูก”
“ใครทายา”
ยังไม่ทันที่จูอวี้ลู่เอ่ยตอบกู้เชินก็พาอวี๋กานกานเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นอวี๋กานกานเข้ากู้ซูหลิงก็รู้คำตอบแล้วจึงแผดเสียงลั่นทันที “เธอเอายาอะไรมาทาให้ฉัน ทำไมฉันถึงได้คันมืออย่างนี้”