ตอนที่ 569 ตกตะลึง งานราตรีสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
แม้จะแอบตกตะลึงในใจ แต่ใบหน้าอวี๋กานกานยังคงไว้ซึ่งรอยยิ้ม เธอกะไว้ว่าหลังจากมอบของขวัญให้คุณตาท่านนั้นแล้วก็จะหาข้ออ้างกลับก่อน
แต่กลับไม่รู้ว่าตอนเธอปรากฏตัวก็เป็นจุดดึงดูดความสมใจแก่สายตาของผู้มางาน
ไม่ใช่เพราะความสวยตะลึงของเธอ อย่างไรเสียคนที่มางานนี้ต่างก็มีคนสวยๆ ไม่น้อย แต่ว่าใบหน้าของเธอช่างไม่คุ้น หลายคนเมื่อเห็นเธอครั้งแรกต่างพากันเดาว่าเธอเป็นใคร
มีบาร์กลมเล็กๆ อยู่ด้านข้างของห้องโถง อวี๋กานานเดินผ่านไป ที่นี่ค่อนข้างห่างไกลและโดยทั่วไปไม่มีใครให้ความสำคัญกับเธอนัก
แต่แม้ว่าเธอจะลดความรู้สึกของการตกเป็นเป้าสายตาลง แต่ก็ยังมีคนจ้องมองเธออยู่
อวี๋กานกานสัมผัสได้ถึงความสงสัยอย่างเห็นได้ชัด โดยการถูกมองราวกับตรวจสอบจากความคุ้นตาแปลกๆ จนไม่เป็นตัวของตัวเอง สายตาสอดส่องหาชายชราท่านนั้น
จู่ๆ เธอก็เจอกับสายตาอันคุ้นเคย ชายหนุ่มรูปหล่อมาพร้อมกับความเย็นชา
คือเจี่ยนเหยี่ย
เขายังผงกหัวให้เล็กน้อยแสดงการทักทาย
เมื่อเจอคนรู้จัก อวี๋กานกานตื่นเต้นอยากวิ่งเข้าไปหาเดี๋ยวนั้น แต่คนรอบข้างมีมากเกินไปทั้งชายหญิงที่ไม่รู้จักก็เลยปล่อยช่างมัน ทำได้เพียงยิ้มให้เจี่ยนเหยี่ยเล็กน้อยเป็นการทักทายกลับ
เมื่อทุกคนเห็นว่าเจี่ยนเหยี่ยรู้จักหญิงสาวคนนี้ คนข้างๆ รีบถามขึ้นทันที “คุณชายเจี่ยน คุณรู้จักเหรอ เป็นคุณหนูตระกูลไหนล่ะ”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เจี่ยนเหยี่ยจึงเอ่ยตอบเสียงทุ้มต่ำ “ก่อหน้านี้ น้องสาวผมเกิดอุบัติเหตุรถชนสูญเสียการมองเห็นชั่วคราว หมอหลายคนรักษาไม่หาย ก็ได้เธอนี่แหละที่รักษาหายน่ะครับ”
“ที่แท้ก็เป็นหมอนั่นเอง” น้ำเสียงคนข้างๆ ดูผิดหวังเล็กน้อย
“ผมได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้คุณท่านฟางไปพบแพทย์แผนจีนคนหนึ่ง ทานยาแก้นอนไม่หลับที่เธอเขียนใบสั่งให้อาการก็ดีขึ้น สงสัยน่าจะเป็นคนนี้นี่แหละครับ”
“น่าจะเชิญเธอมางานเพื่อแสดงความขอบคุณ เพียงแต่ยังสาวขนาดนี้เป็นแพทย์แผนจีนแล้วเหรอ”
“ดูจากการแต่งกายและครอบครัวของเธอดูเหมือนว่าเธอจะอยู่ในครอบครัวที่ดีน่าจะเป็นลูกหลานของครอบครัวแพทย์”
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็มีคุณท่านเป็นผู้สนับสนุน ต่อไปเธอจะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในอนาคต”
“แต่ฉันได้ยินมาว่าการรักษาของคุณท่านเป็นเพียงแพทย์แผนจีนตัวเล็กๆ ธรรมดาๆ”
…
คนเหล่านี้พูดคุยกัน แต่ไม่มีใครเข้าไปทักทายอวี๋กานกานเลยสักคน บางคนเย่อหยิ่งและบางคนรู้สึกว่าไม่คู่ควรผูกมิตรกับแค่หมอคนหนึ่ง
ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งลุกขึ้นจับลำคอตนเอง “แพทย์แผนจีนเหรอ ช่วงนี้ฉันนอนไม่ค่อยหลับพอดี ให้หล่อนมาตรวจฉันดูหน่อยไหม”
“ดูสิหล่อนยืนอยู่คนเดียวช่างน่าสงสาร ฉันไปเป็นเพื่อนเธอด้วย”
“หลิงนี เธอช่างดีจริงๆ”
…
หลังจากที่อวี๋กานกานยืนขึ้นสายตาของเธอก็มองหาคุณตาอยู่ตลอดเวลา
งานราตรีแบบนี้ไม่เหมาะกับเธอเอาซะเลยทำให้เธออยากรีบออกไปไวๆ แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว ออกไปโต้งๆ ก็ไม่เหมาะสมเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่คนละชั้นกับตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่สัตว์ประหลาดกินคนซะหน่อย ไม่มีอะไรน่ากลัวทั้งนั้น เปิดใจให้กว้างเข้าไว้ สิ่งไหนควรทำก็ทำไป
ออกจากงานเลี้ยงไป ใครเป็นใครต่างก็เป็นแค่คนที่เคยเดินชนไหล่ผ่านไปมาเท่านั้น
“สวัสดีค่ะ ดิฉันจางอี๋เสวี่ย” จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นข้างๆ
อวี๋กานกานหันหน้าไปทางนั้นเห็นผู้หญิงสวมชุดเดรสสั้นสีฟ้าครามและหญิงสาวในชุดเดรสยาวสีขาวสีเดียวกันยืนอยู่ข้างๆ เธอเมื่อมองแวบแรกจะว่าไปชุดของทั้งสองก็คล้ายกันมาก
หญิงสาวคนนี้จัดว่างามล่มเมือง ยั่วเย้าเหมือนลูกพีช สวยใสมีเสน่ห์ไม่แพ้หลินจยาอวี่ แต่ไม่ได้ดูเย็นชาเหมือนหลินจยาอวี่ขนาดนั้น ทั้งดูเซ็กซี่และเป็นผู้หญิงอ่อนหวานมากกว่าหลินจยาอวี่ด้วยซ้ำ
ตอนที่ 570 พบแพทย์ หญิงสาวผู้เย่อหยิ่ง
หล่อนรอให้จางอี๋เสวี่ยพูดจบก็แนะนำตัวเองบ้างด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ฉันหลิงนี”
แม้หญิงสาวสองคนจะมีสีหน้าแย้มยิ้ม แต่ปลายคางกลับเชิดขึ้น ดวงตาเฉี่ยวคมเหยียดหยันเล็กน้อยราวกับไม่ได้อยู่ในสายตา
อวี๋กานกานไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงสองคนนี้มาแนะนำตัวเองกับเธอ เธอจึงยิ้มกลับไปตามมารยาท “สวัสดีค่ะ ดิฉันอวี๋กาน…”
ไม่รอให้อวี๋กานกานกล่าวแนะนำจบ จางอี๋เสวี่ยก็เอ่ยขัดเธอขึ้นมาเสียก่อน “ฉันรู้ เธอคือแพทย์แผนจีนคนหนึ่ง ได้ยินมาว่าเคยรักษาให้คุณท่านจนอาการนอนไม่หลับของคุณท่านดีขึ้น
อวี๋กานกานยิ้มตอบ “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ท่านพึ่งจะ…”
จางอี๋เสวี่ยเอ่ยขัดขึ้นอีกครั้งโดยที่ไม่อยากฟังในสิ่งที่เธอกำลังพูด “พอดีฉันนอนไม่หลับเหมือนกัน เธอตรวจดูให้ฉันหน่อยสิ ฉันให้ค่ารักษาคุรไม่น้อยเลยเชียวล่ะ”
อวี๋กานกาน “…”
เธอมาดื่มเหล้าฉลอง ทำไมถึงถูกเรียกไปตรวจคนไข้ได้ล่ะ
ดั่งโบราณท่านว่ายื่นมือไม่ตีคนหน้ายิ้ม[1]
แต่รอยยิ้มของสองสาวกลับดูเย่อหยิ่ง
อวี๋กานกานครุ่นคิดจากนั้นจึงตอบกลับไป “ดิฉันจะประจำอยู่ที่คลินิกอวี้อีถังทุกวันจันทร์พุทธศุกร์”
“ฉันไม่ได้ถามว่าเธอทำงานที่ไหน ฉันให้ให้เธอตรวจให้ฉันเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงของจางอี๋เสวี่ยเริ่มหมดความอดทน จากนั้นวางแขนบนบาร์ทรงกลมส่งเสียงในลำคอเพื่อบอกให้อวี๋กานกานดูเอาเอง
เมื่อเห็นอวี๋กานกานไม่กระเตื้องจึงเอ่ยขึ้น “หากเธอตรวจให้ฉันดีๆ ต่อไปเธอก็ถือว่าเป็นเพื่อนฉัน ฉันไปไหนก็จะพาเธอไปด้วย”
เป็นเพื่อนกับหล่อนนับว่าเป็นเกียรติอย่างนั้นเหรอ
น้ำเสียงดูแคลนพร้อมกับคำสั่งทำให้อวี๋กานกานรู้สึกต่อต้าน
อวี๋กานกานหมดคำจะพูด “ขอโทษนะคะ วันนี้ดิฉันมาเพื่อดื่มเหล้ามงคลค่ะ”
จางอี๋เสวี่ย “…”
เหอะๆ! นี่หล่อนกำลังปฏิเสธเธอหรือ
ท่าทีเฉยเมยไม่แยแสของอวี๋กานกานทำให้จางอี๋เสวี่ยไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
โดยปกติแล้วเมื่อลูกคุณหนูเห็นพวกหล่อนก็ทักจะพยักหน้าและค้อมศีรษะประจบสอพลอ
เธอก็เป็นแค่หมอตัวเล็กๆ คนหนึ่งคิดเสียว่าเป็นรากหญ้า ยังกล้าดีถือตัวกับหล่อนแบบนี้
จางอี๋เสวี่ยถามขึ้น “เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”
อวี๋กานกานถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก “ดิฉันจะปฏิเสธหรือไม่แล้วมันเกี่ยวกะไรกับการที่คุณเป็นใครเหรอคะ”
จางอี๋เสวี่ยแทบประคองรอบยิ้มบนใบหน้าไม่ไหวจึงเหยียดริมฝีปากแล้วมองไปที่อวี๋กานกานอย่างเย็นชา
หลิงนีที่ยืนอยู่ข้างๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “หมอคนนี้อวดดีจริงๆ”
อวี๋กานกานยังคงสงวนท่าทีด้วยรอยยิ้ม “ขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลางานของดิฉัน อย่างที่ดิฉันบอกไม่เมื่อกี้ ดิฉันประจำอยู่ที่คลินิกอวี้อีถังทุกวันจันทร์พุทธศุกร์ค่ะ”
ขณะนั้นเองที่อวี๋กานกานมองเห็นเงาร่างอันคุ้นเคยอยู่มุมหนึ่งที่ยังคงสวมชุดจีนโบราณเรียบง่ายและในมือถือไปป์
ถ้าไม่ใช่คุณตาที่เชิญเธอมาดื่มเหล้ามงคลแล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะ
ดีเลย ในที่สุดก็เจอท่านแล้ว เอาของขวัญให้ท่านคุยสักสองสามประโยคแล้วรีบกลับดีกว่า
อวี๋กานกานไม่อยากข้องแวะกับสองคนนี้อีกจึงผงกศีรษะเพื่อเป็นการบอกลาตามมารยาท จากนั้นก้าวข้าเข้าไปหาชายชราทันที
สองคนที่ถูกทิ้งหน้าเสียเป็นอย่างมาก มองตามหลังอวี๋กานกานด้วยความโกรธแค้น
“หล่อนคงไม่คิดว่ามีคุณท่านฟางให้ท้ายถึงได้ทำเป็นเมินเราหรอกมั้ง” จางอี๋เสวี่ยตะคอกอย่างขุ่นเคือง “หล่อนไม่ถามสืบหน่อยเหรอ ว่าเธอกับคุณชายหันมีความสัมพันธ์ยังไง ต่อไปเธอแต่งงานกับคุณชายหันแล้วก็ไม่ต้องให้ตระกูลฟางสนใจหล่อนอีก”
——