ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 613 ไม่ได้การล่ะ ตกลงเธอเป็นใครกันแน่ / ตอนที่ 614 ประกาศสถานะกู้เหยียนอวี๋

ตอนที่ 613 ไม่ได้การล่ะ ตกลงเธอเป็นใครกันแน่  

 

 

ถึงแม้จูอวี้ลู่จะบอกให้กู้ซูหลิงไปสืบดูแต่ยังไงก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี  

 

 

คืนนี้นอนยังไงเธอก็นอนไม่หลับ  

 

 

คืนนี้จูอวี้ลู่นึกถึงเรื่องในอดีต  

 

 

เดี๋ยวก็นึกถึงหน้าอวี๋กานกานเดี๋ยวก็นึกถึงหน้าเสี่ยวเหยียนในหัว  

 

 

จนถึงตอนนี้กู้เชินยังไม่รู้ว่าเธอรู้จักเขาก่อนเสี่ยวเหยียนและตกหลุมรักเขาก่อนเสี่ยวเหยียนเสียอีก   

 

 

หลายคนเคยบอกว่าเธอคล้ายเสี่ยวเหยียน แม้จะคล้ายกันแต่ในสายตาของกู้เชินถึงได้มีแค่เสี่ยวเหยียนล่ะ  

 

 

เธอคิดว่าผู้หญิงอย่างเสี่ยวเหยียนนอกจากสวย ขี้แยและขี้โรค ผู้หญิงแบบนี้ไม่เหมาะสมกับกู้เชินเลยสักนิด ผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างกู้เชินน่าจะเหมาะสมกับผู้หญิงฉลาดปราดเปรียวแบบนั้นมากกว่า  

 

 

เธอได้ไปงานแต่งงานของกู้เชินกับเสี่ยวเหยียน ได้เห็นเขาดูแลเสี่ยวเหยียนอย่างทะนุถนอมในอ้อมแขน เธอทั้งอิจฉาและริษยา โกรธแค้นที่ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงไม่ใช่ตัวเอง  

 

 

เธอพยายามอย่างหนักเพื่อเข้ากู้กรุ๊ป ค่อยๆ ไต่เต้ามาทีละก้าวจนได้ใกล้ชิดเขา แต่ในสายตาของเขายังคงมีแค่เสี่ยวเหยียนอยู่ดี  

 

 

ใจหนึ่งก็เกลียดความรักมั่นคงของเขา อีกใจหนึ่งก็ถูกความรักมั่นคงของเขาทำให้หลงมัวเมา รักจนถอนตัวไม่ขึ้น  

 

 

ตอนแรกเธอคิดว่าชาตินี้คงได้แค่แอบรักเขาข้างเดียวและคิดว่าสามารถใช้ชีวิตอย่างไร้ความรักความรู้สึกกับผู้ชายอีกคนได้เท่านั้น  

 

 

คาดไม่ถึงว่าเสี่ยวเหยียนคนนั้นจะอายุสั้น มีลูกสาวให้กู้เชินไม่ถึงสองปีก็ดันมาป่วยตายไปเสียก่อน  

 

 

เธอถอนหายใจ นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตาต่อเธอ  

 

 

ในที่สุดก็มอบโอกาสให้เธออีกครั้ง  

 

 

เพื่อความเหมาะสมน่าเชื่อถือเธอลงทุนหย่ากับสามีในตอนนั้นแล้วเริ่มหาทางทำให้กู้เชินยอมรับ  

 

 

แม้ว่าเสี่ยวเหยียนคนนั้นจะตายไปแล้ว กู้เชินยังคงคิดถึงเธอไม่เคยลืม ไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนอื่น ไม่ว่าเธอจะใช้วิธีใด แม้เธอจะเป็นพนักงานดีเด่นของกู้เชิน แม้เธอจะเจอเขากี่ครั้ง แม้เธอจะคล้ายเสี่ยวเหยียน แม้กระทั่งชื่อของเธอกู้เชินกลับจำไม่ได้สักที  

 

 

สำหรับเสี่ยวเหยียนแล้วทำให้เธออิจฉาจนเสียสติ  

 

 

แต่เธอสาบาน ไม่ว่ายังไงก็ต้องได้ผู้ชายคนนี้มาครอบครอง  

 

 

เธอรอแล้วรอเล่า ในที่สุดโอกาสก็มาถึง มีครั้งหนึ่งที่กู้เชินดื่มจนเมาแล้วนึกว่าเธอคือเสี่ยวเหยียนจึงทำให้พวกเขามีเสี่ยวเนี่ยนขึ้นมา  

 

 

เขารักมั่นคงจนไม่สามารถแต่งงานได้อีกไปตลอดชีวิต แต่คุณหญิงท่านกลับไม่ยอม ท่านอยากให้ลูกชายแต่งงานแล้วต้องการหลานชายอีกด้วย  

 

 

ด้วยความสัมพันธ์เช่นนี้ ในที่สุดเธอก็แต่งงานเข้าตระกูลกู้ได้สำเร็จ แต่งงานกับผู้ชายที่แอบหลงรักมานานหลายปี  

 

 

แม้หลังจากแต่งงานกันไปเขามักจะเย็นชากับเธอหรือแม้กระทั่งไม่แม้แต่จะแตะต้องตัวเธอก็ไม่เป็นไร ขอแค่ได้แต่งงานกับเขาได้อยู่ด้วยกันกับเขาเพียงพอแล้ว  

 

 

และเธอเชื่อว่าจิตใจของมนุษย์นั้นยืนยาวเธอรักเขาและปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดีและวันหนึ่งเขาจะสัมผัสได้  

 

 

หลายปีมานี้เขายังคงมีท่าทีเย็นชาแต่เขาก็ดีกับเธอไม่น้อย แม้หลังจากที่คุณหญิงกู้ท่านสิ้นบุญเขาก็ไม่ได้แยกห้องนอนกับเธอ  

 

 

แต่ทว่าวันนี้…  

 

 

จูอวี๋ลู่หันหน้าไปมองที่ว่างข้างๆ เธอ ตั้งแต่ ‘กู้เหยียนอวี๋’ กลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับเข้ามานอนในห้องนี้  

 

 

มักจะทำให้เธอวิตกกังวลเสมอ  

 

 

แล้วก็ไม่รู้ว่ากู้เชินรู้อะไรมาบ้าง  

 

 

แน่นอนว่าเธอเองก็คิดมากเกินไป หากกู้เชินรู้อะไรแล้วเป็นไปไม่ได้ที่เงียบแบบนี้  

 

 

บางที ‘กู้เหยียนอวี๋’ พึ่งจะกลับมา เขาแยกห้องนอนเพื่อที่จะได้ดูแลลูกสาวของเขา  

 

 

เรื่องของ ‘กู้เหยียนอวี๋’ จะให้กู้เชินรู้ไม่ได้เด็ดขาด เธอเข้าใจกู้เชินดี ถ้ากู้เชินรู้ว่ากู้เหยียนอวี๋คนนี้คือตัวปลอมแล้วยังเป็นคนที่เธอและกู้เหยียนอวี๋หามาเขาต้องหย่าขาดกับเธอแน่นอน  

 

 

แต่ว่าฟังจือหันจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของกู้เหยียนอวี๋คนนี้หรือเปล่านะ  

 

 

   

 

 

   

 

 

ตอนที่ 614 ประกาศสถานะกู้เหยียนอวี๋  

 

 

แล้วยังมีอวี๋กานกานอะไรนั่น หล่อนเหมือนเสี่ยวเหยียนขนาดนี้ เธอจะใช่กู้เหยียนอวี๋หรือไม่  

 

 

ยากมาก เธอยากมากแค่ไหนถึงจะได้แต่งงานกับกู้เชินถึงจะได้มีชีวิตในตอนนี้จะไม่ยอมให้ใครมาทำลายเด็ดขาด  

 

 

ในค่ำคืนที่ยากจะหลับใหล ในเช้าวันต่อมาจูอวี้ลู่จึงไม่ค่อยสดใส  

 

 

เธอแต่งหน้าจนสวยงามแล้วจึงออกไปทำอาหารเช้า  

 

 

หลังจากทานอาหารเสร็จ จู่ๆ จูอวี้ลู่ก็ตีหน้าเย็นชาเอ่ยถามกู้ซูหลิงที่อยู่ข้างๆ “เมื่อวานลูกพาน้องไปหาฟังจือหันมาเหรอ”  

 

 

กู้ซูหลิงมองจูอวี๋ลู่ด้วยความตกใจ  

 

 

จูอวี้ลู่จึงตำหนิเสียงเคร่งขรึม “ลูกเป็นอะไรไป พ่อของลูกบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้ลูกไปเจอฟังจือหันอีก ทำไมลูกยังจะไปหาเขาอีกฮะ”  

 

 

‘กู้เหยียนอวี๋’ “…”  

 

 

เห็นได้ชัดว่าจูอวี้ลู่รู้ทุกอย่าง แสดงละครได้สมบทบาทจริงๆ ดูเป็นมืออาชีพยิ่งกว่าเธอตอนเล่นละครเวทีเสียอีก  

 

 

กู้ซูหลิงเข้าใจความหมายของจูอวี้ลู่อย่างรวดเร็วจึงหรุบสายตาพูดเสียงอ่อน “แม่คะ หนูขอโทษ”  

 

 

จูอวี้ลู่สั่งห้ามเด็ดขาด “ต่อไปนี้อย่าได้ไปเจอฟังจือหันอีก เขากับตระกูลกู้ของเราไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น”  

 

 

จากนั้นจึงหันไปมองกู้เชินที่อยู่ข้างๆ แล้วกล่าวว่า “อาเชินขอโทษด้วยนะคะ เป็นเพราะฉันสอนลูกไม่ดีเอง ต่อไปนี้จะดูลูกให้ดีๆ ไม่ให้ลูกไปเจอฟังจือหันอีก”  

 

 

กู้เชินมีสีหน้าเย็นชาและนิ่งเงียบไม่พูดอะไร  

 

 

จูอวี้ลู่เอ่ยเสียงเรียบ “หลิงหลิงชอบเขามาตั้งหลายปี ชอบคนคนหนึ่งจะให้ตัดใจจะให้ตัดใจได้ยังไง ถ้าบอกให้ตัดใจแล้วตัดใจได้จริงๆ นั่นคงไม่เรียกว่าความรักเช่นนั้นคงไม่มีชายหญิงที่โง่เขลาบนโลกใบนี้”  

 

 

คำพูดนี้สะเทือนเข้าไปในส่วนลึกในใจของกู้เชิน  

 

 

พอรักแล้ว มีอย่างที่ไหนบอกไม่รักก็คือไม่รัก ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง เขาก็คงลืมเสี่ยวเหยียนได้ตั้งนานแล้ว  

 

 

กู้เชินมองจูอวี้ลู่ ครั้งนี้แม้ยังจะไม่ได้เอ่ยอะไรแต่สายตาของเขาก็ไม่ได้เย็นชาแล้ว  

 

 

รู้ว่าเขาไม่ได้โกรธขนาดนั้น จูอวี้ลู่จึงยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “ถึงยังไงเสี่ยวอวี๋ก็ไปหาฟังจือหันมาแล้ว งั้นเราก็อย่าโกรธเสี่ยวอวี๋เลยนะคะ สิ้นเดือนนี้ก็วันเกิดคุณแล้ว เราต้องจัดงานใหญ่ พอดีเลยวันนั้นเราจะได้ประกาศสถานะของเสี่ยวอวี๋ด้วย”  

 

 

มีเพียงแค่ประกาศสถานะเท่านั้น กู้เชินถึงจะแก้ไขพินัยกรรมได้  

 

 

กู้เชินมีความลังเลไม่เอ่ยสิ่งใดแล้วมองไปที่ ‘กู้เหยียนอวี๋’  

 

 

เมื่อถูกเตะขาใต้โต๊ะ ‘กู้เหยียนอวี๋’ ก็รีบยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “คุณพ่อคะ หนูหวังจริงๆ ว่าจะมีคนรู้หนูตามหาคุณพ่อเจอแล้ว”  

 

 

กู้เชินจิบกาแฟแล้วพยักหน้าเห็นด้วยกับคำแนะนำของจูอวี้ลู่  

 

 

จูอวี้ลู่จึงยิ้มออกแล้วบอกกับ ‘กู้เหยียนอวี๋’ “เสี่ยวอวี๋ หนูสบายใจได้ งานเลี้ยงวันนั้นจะต้องยิ่งใหญ่แน่นอน ป้าจะทำให้หนูกลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกแน่นอน”  

 

 

‘กู้เหยียนอวี๋’ ยิ้มให้จูอวี้ลู่แล้วพูดอย่างเกรงใจ “ขอบคุณค่ะคุณป้า”  

 

 

กู้เชินมองดูพวกเธอสนิทสนมกลมเกลียวกันมาก แต่ทำไมมันถึงทำให้เขารู้สึกไม่จริงอยู่เสมอ  

 

 

…  

 

 

ในคำคืนที่เงียบสงัด ลมหายใจที่มืดครึ้มเข้ามาเหนือท้องฟ้าราวกับจะกลืนกินผู้คน อวี๋กานกานขมวดคิ้ว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและดูอึดอัดทรมาน  

 

 

เธอขดตัวไปที่มุมหนึ่ง รู้สึกร่างกายหนาวสะท้าน  

 

 

ใต้แสงจันทร์ริบหรี่เห็นว่ามีสัตว์ประหลาดที่มีเลือดเต็มปากอยู่ข้างหน้าเข้ามาหาเธอทีละก้าว  

 

 

เธอตกใจกลัวตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้และกรีดร้องน่าเวทนา อ้าก…  

 

 

แต่สิ่งที่ทำให้คาดไม่ถึงคือสัตว์ประหลาดตัวนั้นจู่ๆ ก็เปิดปากพูดได้ “แกต้องตายๆๆๆๆๆ…”  

 

 

ยังคงพูดสามคำนี้ซ้ำวนเวียนราวกับว่ามันเป็นคำสาปของปีศาจ  

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

Status: Ongoing
“ขอโทษนะคะ คุณคือ…” “ฟังจือหัน สามีเธอไง” นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! นั่งในบ้านอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีสามีซะยังงั้น! อวี๋กานกาน เป็นแพทย์หญิงผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าจนหมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล บาดแผลไม่ได้สาหัส แต่กลับต้องนอนพักฟื้นเป็นครึ่งค่อนเดือน หลังจากที่เธอฟื้น กลับมีผู้ชายคนหนึ่งดันมายืนตรงหน้าเธอ บอกว่าเธอความจำเสื่อม และยังบอกอีกว่าเขาเป็นสามีของเธอ! เธอคนที่ไม่เคยมีความรัก ไม่เคยมีแฟน จะไปมีสามีได้ยังไงกัน… “คุณเป็นใครกันแน่” “ฟังจือหัน สามีเธอไง!” เจ็ดพยางค์เหมือนเมื่อกี้เป๊ะ… สรุปแล้วมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นระหว่างที่เธอหมดสติไปกันเนี่ย ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขา แล้วเพราะอะไรทำไมเขาถึงต้องอ้างว่าเป็นสามีของเธอด้วย หรือเธอจะความจำเสื่อมเข้าแล้วจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset