ตอนที่ 673 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน (3)
กู้ซูหลิงให้ความร่วมมือกับจูอวี้ลู่โดยการร้องไห้ยอมรับผิดกับกู้เชิน “คุณพ่อคะ หนูผิดไปแล้ว หนูรู้ว่าผิดจริง แต่ที่หนูทำไปทั้งหมดก็เพราะคุณพ่อ หนูไม่มีความหมายอื่นเลยนะคะ”
สายตาของกู้เชินมองไปที่สองแม่ลูกอย่างเย็นเฉียบเข้ากระดูกราวกับลมหนาวสะท้าน
เขาไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งถึงความจริงใจของพวกเธอเลยสักนิด
คำพูดของเขาแฝงไปด้วยความประชดประชัน “สงสัยคงเป็นฉันที่ผิดเอง”
“เปล่านะคะ จะเป็นความผิดของคุณได้ยังไง เป็นความผิดของฉันเองที่อบรมสั่งสอนลูกไม่ดีถึงทำให้ลูกทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้” จูอวี้ลู่มองไปที่กู้เชินอย่างถ่อมตนอ่อนแอและน่าสงสาร
กู้เชินหัวเราะเย้ยหยันแล้วเอ่ยถามอย่างเย็นชา “ดังนั้นคุณหมายความว่าเรื่องที่เธอทำทุกอย่างโดยที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างนั้นเหรอ”
จูอวี้ลู่ส่ายหน้าดูไร้ความผิด “ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ นะคะ ถ้าฉันรู้ฉันจะปล่อยให้ลูกทำแบบนั้นทำไม แม้ลูกจะทำเพื่อคุณ ฉันไม่มีทางให้ลูกสร้างเรื่องโกหกแบบนี้แน่นอนค่ะ”
กู้เชินย้อนถาม “คำพูดนี้ของคุณยังจะมีใครเชื่ออีก”
จูอวี้ลู่พูดอึกๆ อักๆ “คุณหมายความว่าฉันให้หลิงหลิงทำเรื่องนี้เหรอคะ”
กู้เชิน “ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะ”
กู้ซูหลิงต้องรู้เรื่องนี้แน่นอน ทำไมถึงจะไม่เกี่ยวข้องกับจูอวี้ลู่ได้ล่ะ
มิฉะนั้นพวกเธอคงอาศัยอยู่ในตระกูลกู้ไม่ได้จริงๆ แน่ กู้ซูหลิงจึงรีบเข้าไปปฏิเสธเรื่องนี้กับกู้เชิน “คุณพ่อคะ คุณแม่ไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด ทั้งหมดนี้เป็นหนูที่ก่อเรื่องเองเพราะอยากช่วยคุณพ่อตามหาลูกสาวให้เจอ คุณพ่ออย่าถือโทษโกรธคุณแม่เลยนะคะ”
“เธอบอกว่าแม่ไม่รู้เรื่อง แล้วไม่ได้จ้างคนมาปลอมตัว เธอแค่บอกกับหมอให้ฉันตามหาลูกให้เจอ ดีมาก งั้นเรามาถามเจ้าตัวกันดีกว่าดูสิว่าเธอจะพูดยังไง”
กู้เชินตะโกนเรียก “พาตัวเข้ามา”
ไม่รู้ว่าผู้ช่วยทันออกไปตั้งแต่ตอนไหน เมื่อเขากลับเข้ามาอีกครั้งก็พาผู้หญิงสาวสวยเข้ามาด้วย ซึ่งก็คือไป๋เสวี่ยที่หนีไปเมื่อครู่นี้
เมื่อกู้ซูหลิงเห็นไป๋เสวี่ยเข้าดวงตาก็ฉายแววตระหนก
เป็นไปได้ยังไง
คุณแม่ให้เธอรีบไสหัวไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลับมาได้ หากเธอกลับมาจะเอาเรื่องทุกอย่างไปบอกกู้เชินหรือไม่
เธอมองจูอวี้ลู่ด้วยความกระวนกระวายเป็นอย่างมาก
จูอวี้ลู่ที่พยายามรักษาความใจเย็นของตัวเอง สีหน้าขณะนี้มีร่องรอยแตกร้าว แต่ยังคงเปลี่ยนสีหน้ากลับมาแข็งกร้าว จ้องไป๋เสวี่ยด้วยความสงสารแต่กลับมีคำเตือนแฝงอยู่ข้างใน
ไป๋เสวี่ยยกมือแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดแน่นแต่กลับควบคุมความกลัวในใจเอาไว้ไม่อยู่ ดวงตาสั่นเทาของเธอมองไปที่จูอวี้ลู่
เธอก็อยากรีบหนีไปเหมือนกัน
แต่ดูเหมือนจะมีคนมาดักรออยู่ตั้งแต่แรกแล้ว พอออกประตูไปก็ถูกจับตัวเอาไว้
เมื่อครู่นี้ผู้ช่วยของกู้เชินบอกเธอว่าขอแค่เธอพูดความจริงออกมาก็จะไม่ทรมานเธอ มิฉะนั้นเธอจะถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง
เธอจะติดคุกไม่ได้ เพราะเธอยังมีมารดาที่ต้องดูแล
เธอก็แค่ต้องการเงิน หากเป็นไปได้เธอก็ไม่อยากโกหกใคร เรื่องนี้จะโทษเธอฝ่ายเดียวก็ไม่ได้
ไป๋เสวี่ยคุกเข่าลงแล้วร้องขอชีวิตกับกู้เชิน “ฉันก็แค่ต้องการเงิน คุณหญิงกู้และคุณหนูกู้จ้างฉันให้ปลอมตัวเป็นลูกสาวของคุณ รอจนกว่าจะประกาศสถานะของฉัน ให้ฉันพยายามโน้มน้าวคุณให้แก้ไขพินัยกรรมไม่ให้นำเงินเข้ากองทุนใดๆ ทั้งสิ้นแล้วโอนหุ้นให้ฉัน พอคุณเสียชีวิตแล้วฉันต้องโอนหุ้นให้พวกเธอเพื่อแลกกับเงินหนึ่งก้อนใหญ่ให้ฉันได้สุขสบายไปทั้งชาติ ฉันไม่เคยอยากโกหกใครเลยค่ะ แต่ฉันก็หมดหนทางเพราะแม่ป่วยหนัก ฉันต้องการเงินจำนวนมากก็เลยสัญญากับพวกเธอว่าจะปลอมตัวเป็นลูกสาวของคุณค่ะ”
ตอนที่ 674 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน (4)
ไป๋เสวี่ยทำเหมือนเทกระจาดนำทุกสิ่งทุกอย่างพูดออกมาในคราวเดียว เสียงร้องไห้ดังระงม “ท่านประธานกู้คะ ขอร้องคุณปล่อยฉันกับแม่ไปเถอะนะคะ ต่อไปฉันจะไม่กล้าโกหกใครอีกแล้วค่ะ”
จูอวี้ลู่เดินโซเซแล้วชี้ไปที่ใบหน้าซีดเผือดของไป๋เสวี่ย “หล่อนโกหก พูดจาซี้ซั้วได้ยังไง ฉันไปสั่งเธอแบบนั้นตอนไหน เห็นกันจะจะว่าเธอมาเพื่อหลอกเอาเงินตระกูลกู้ พอถูกพวกเราจับได้ก็เลยหันมาแว้งกัด”
เหมือนเธอได้รับแรงกระตุ้นอย่างหนักจนแทบล้มทั้งยืน ยังดีที่มีกู้ซูหลิงประคองอยู่ข้างๆ
กู้ซูหลิงมีดวงตาที่เฉียบคมและแดงก่ำ
จู่ๆ เธอก็พุ่งเข้าไปตบหน้าไป๋เสวี่ยดังฉาด “ตอแหล เสียแรงที่พวกฉันอุตส่าห์ทำดีกับหล่อน คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะเป็นคนหลอกลวง โกหกพวกเราไม่ว่านี่ยังมาใส่ร้ายพวกเราอีก”
ไป๋เสวี่ยกุมใบหน้าที่โดนตบแล้วล้มไปกองข้างหลังของคุณผู้ช่วย “ฉันไม่ได้ใส่ร้ายพวกคุณ รู้ทั้งรู้ว่าพวกคุณจ้างฉันมา คราวก่อนที่ไปหาคุณฟังจือหันที่สมาคมยาไป่ฟางก็เป็นคุณที่ให้ฉันไปเอง แล้วยังให้ฉันทำลายความรักของคุณฟังจือหันและคุณอวี๋กานกานเพื่อที่จะให้คุณแทรกกลางเข้ามาได้”
“ฉันเปล่านะ หล่อนพูดมั่ว” กู้ซูหลิงร่ำไห้แล้วมองไปที่กู้เชิน “คุณพ่อ นังผู้หญิงลวงโลกคนนี้ คำพูดของหล่อนจะน่าเชื่อถือได้ยังไงล่ะคะ”
จากนั้นหันไปมองฟังจือหันที่เคียงข้างอวี๋กานกาน แล้วอธิบายเสียงดัง “พี่หันคะ ฉันเปล่านะคะ พวกพี่ต้องเชื่อฉันนะคะ”
บรรยากาศในห้องโถงรับแขกเย็นเยียบ
ฟังจือหันไม่สนใจเธอ
กู้เชินเองก็ไม่สนใจเช่นกัน เพียงแต่ผายมือให้ไป๋เสวี่ยออกไป ราวกับว่าไป๋เสวี่ยได้รับอภัยโทษเมื่อรู้ว่ากู้เชินไม่ติดใจเอาความกับคนโกหกเช่นเธออีก หลังจากขอโทษพัลวันก็รีบออกไปทันที
กู้ซูหลิงยังจะอธิบายต่อไปอีก “คุณพ่อ หนูเปล่าจริงๆ นะคะ ไป๋เสวี่ยใส่ร้ายหนู”
กู้เชินหลับตาลง ดูทั้งเหนื่อยล้าและเหมือนผ่านเรื่องราวมามาก น้ำเสียงของเขาจึงแฝงไปด้วยความผิดหวัง “ตอนแรกฉันคิดว่าหากพวกเธอพูดความจริงออกมา บางทีฉันอาจให้เรื่องนี้ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงอย่างไรฉันก็ตามหาลูกสาวแท้ๆ เจอแล้ว แต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าพวกเธอต่อให้ตีจนตายก็ไม่ยอมรับผิด…”
จูอวี้ลู่หน้าสลดเอาแต่ร้องไห้ “อาเชิน ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ นะคะ”
เธอพูดพลางกุมมือของกู้ซูหลิงเอาไว้แน่น
กู้ซูหลิงมองจูอวี้ลู่ด้วยใบหน้าขาวซีดก็เข้าใจความหมายของจูอวี้ลู่ทันที เธอกัดฟันแน่นแล้วรีบพูดกับกู้เชินด้วยดวงตาแดงก่ำ “คุณพ่อ หนูผิดไปแล้ว หนูทำทุกอย่างเอง แต่ก็เพื่ออยากช่วยตามหาลูกสาวให้คุณพ่อ ไม่ได้มีเจตนาร้ายอื่นๆ ที่หล่อนพูดถึงสมบัติเงินทองอะไรนั่น หนูไม่เคยพูดกับหล่อนจริงๆ นะคะ อีกอย่างคุณแม่ถูกใส่ร้าย คุรแม่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะคะ”
จูอวี้ลู่มองกู้เชินแล้วเอ่ยขึ้น “อาเชิน ฉันแต่งงานกับคุณมาหลายปี ฉันเชื่อฟังคุณทุกอย่าง คุณจะให้ลูกไปเมืองนอก ฉันก็ให้ไป ที่ฉันแต่งงานกับคุณก็เพื่อคุณคนเดียว ขอแค่ได้ดูแลข้างกายคุณ ได้โปรดเชื่อฉันนะคะ ฉันไม่ได้ทำจริงๆ เรื่องที่หลิงหลิงทำฉันเองก็ไม่รู้ด้วยเหมือนกัน”
กู้ซูหลิงพูดต่อ “คุณพ่อถ้าจะโทษก็โทษหนู เป็นเพราะหนูไม่ดีเอง คุณพ่ออย่าถือโทษโกรธคุณแม่เลยนะคะ มันไม่เกี่ยวกับคุณแม่จริงๆ ที่หนูทำลงไปแบบนี้เพราะหวังดีอยากให้คุณพ่อตามหาลูกสาวเจอ เพราะหนูคิดมาตลอดว่าเสี่ยวอวี๋ตายไปแล้ว แต่คุณพ่อกลับคิดถึงเสี่ยวอวี๋มากขนาดนั้น หนูก็เลยจ้างเสี่ยวอวี๋ตัวปลอมเพื่อทำให้คุณพ่อสมปรารถนาและมีความสุข ตอนนี้หนูสำนึกผิดแล้ว ต่อไปจะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายอีกแล้วค่ะ”