ตอนที่ 675 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน
อวี๋กานกานตกใจถึงขีดสุด
สองแม่ลูกคู่นี้แสดงละครเก่งมาก ก็ไม่รู้ว่ากู้เชินจะใจอ่อนหรือเปล่า หากใจอ่อนขึ้นมา เธอก็ไม่อยากกลับมาบ้านตระกูลกู้จริงๆ
กู้เชินแสยะยิ้ม “เธอเกือบจะทำให้ฉันตามหาลูกสาวแท้ๆ ไม่เจอแล้ว เธอบอกกับฉันแค่ว่าก่อเรื่องวุ่นวายอย่างนั้นเหรอ”
กู้ซูหลิงพลั้งเผลอพูดขึ้น “แต่ตอนนี้คุณพ่อก็ตามหาเสี่ยวอวี๋เจอแล้วไม่ใช่เหรอคะ”
คำพูดนี้ทำให้กู้เชินโกรธจนแทบกระอักเลือด สูญเสียบุคลิกของสุภาพบุรุษใช้แรงถีบเก้าอี้อย่างแรงจนล้มระเนระนาดกับพื้น กู้ซูหลิงตกใจจนตัวสั่นสะท้าน
เธอตระหนกและหวาดกลัวจริงๆ “คุณพ่อ หนูผิดไปแล้ว อย่าโกรธเลยนะคะ ต่อไปนี้หนูจะเชื่อฟังจะเป็นลูกสาวที่เชื่อฟังคุณพ่อค่ะ”
“ลูกสาวอย่างนั้นเหรอ” กู้เชินแสดงสีหน้ายิ้มเย้ยหยัน เขากระตุกมุมปากก่อนจะเอ่ยขึ้น “มีลูกสาวแบบเธอ ฉันควรจะรู้สึกเป็นเกียรติดีไหม”
คำพูดเช่นนี้ทำให้สมองของกู้ซูหลิงแทบระเบิด เธอกอดจูอวี้ลู่แน่น “คุณแม่คะ หนูสำนึกแล้ว หนูสำนึกผิดแล้วจริงๆ”
จูอวี้ลู่อับอายและรู้สึกผิดต่อกู้เชิน เธอกระอึกกระอักพูดขึ้น “อาเชิน หลิงหลิงผิดไปแล้ว ถึงยังไงเธอก็เป็นลูกสาวของฉัน หลายปีมานี้เธอก็กตัญญูกับคุณ…”
กู้เชินเอ่ยขัดเธอ “หลายปีมานี้เธอกตัญญูกับผม หรือว่าเป็นการกตัญญูที่เสียเปล่า ผมเลี้ยงเธอมาสิบห้าปี ให้เธอมีชีวิตสุขสบายที่สุด ตอนนี้โตแล้ว สามารถออกไปเผชิญโลกภายนอกได้แล้วคงไม่รั้งให้เธออยู่ตระกูลกู้ต่อไปเพื่อเสียเวลาชีวิตวัยสาวของเธอหรอก”
ความหมายของคำพูดนี้ก็คือต้องการไล่กู้ซูหลิงออกจากบ้าน
จูอวี้ลู่สะอึก
ใช้ชีวิตคู่ร่วมกับกู้เชินมาหลายปี เธอต้องรู้นิสัยของกู้เชินแน่นอนอยู่แล้ว
เมื่อเขาตัดสินใจแล้วก็ไม่มีทางแก้ไข นอกจากแสร้งทำเป็นสำนึกผิดและรักใคร่แล้วเธอยังไม่สามารถพูดหรือทำอะไรได้ในขณะนี้
มิฉะนั้น เกรงว่าจะทำให้เรื่องราวมันแย่กว่าเดิม
ไล่ออกไปเหรอ กู้เชินยังคงปรารถนาเช่นนี้ ดวงตาของกู้ซูหลิงเต็มไปด้วยความกลัวและเหลือเชื่อ
เธอปราดตามองอวี๋กานกานที่อยู่ตรงข้าง รู้สึกว่าสายตาของอวี๋กานกานที่มองตัวเองนั้นช่างเยาะเย้ยและเหยียดหยัน เธอทั้งโกรธเกลียดและริษยา ชี้หน้าอวี๋กานกานอย่างโกรธเกรี้ยวกัดฟันแล้วตวาดลั่น “เพราะเธอ ทุกอย่างต้องเป็นเพราะเธอแน่ๆ ที่ทำให้คุณพ่อต้องไล่ฉันออกจากบ้าน”
“อะไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน” อวี๋กานกานกะพริบตาปริบๆ แล้วถามอย่างงุนงง
“เธออย่าแสร้งทำเป็นเลอะเลือน ก็เพราะเธอ เธอต้องอยู่เบื้องหลังแน่นอน ให้ไป๋เสวี่ยมาใส่ร้ายฉันเพื่อยุยงปลุกปั่นความระหว่างฉันกับคุณพ่อ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอคุณพ่อคงไม่ทำกับฉันแบบนี้ นังแพศยา เธอต้องไม่ตายดีแน่…”
เธอพ่นคำด่าสาปแช่งหยาบคาย
อวี๋กานกานมีสีหน้าเรียบนิ่งแล้วไม่ถือสา แต่กู้เชินและฟังจือหันที่ได้ยินดังนั้นกลับมีสีหน้าเยือกเย็นลงทันที
กู้เชินตวามใส่กู้ซูหลิงอย่างเย็นชา “หุบปาก!”
ลูกติดที่เขาเลี้ยงมาสิบห้าปี คิดไม่ถึงว่าจะด่าสาปแช่งลูกสาวแท้ๆ ของเขาแบบนี้
ทั้งยังต่อหน้าต่อตาเขา ภายใต้สถานการณ์ที่รู้ว่าเธอคือลูกสาวของเขา ใครจะไปนึกว่าเธอด่าแช่งและรังแกลูกสาวของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
“ใครใช้ให้เธอพูดแบบนี้” กู้เชินดุกู้ซูหลิง
กู้ซูหลิงมองไปที่ดวงตาไร้ความรู้สึกและขยะแขยงของกู้เชิน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือคุณพ่อที่เคยรักเธอมาก่อนจริงๆ
ความรู้สึกที่ถูกหมางเมินทำให้เธอเจ็บใจเหมือนโดนทิ่มแทง ทิ่มแทงจนเธอเจ็บปวดทรมานจึงอดตะโกนออกไปไม่ได้ว่า “คุณพ่อคิดว่าหนูอยากให้คุณพ่อมาเลี้ยงดูหนูเหรอ…”
ตอนที่ 676 ความแตก! ความลำเอียงและเผด็จการของกู้เชิน (6)
“คุณพ่อคิดว่าหนูอยากให้คุณพ่อมาเลี้ยงดูหนูเหรอ คุณพ่ออยากดูแลหนูจริงเหรอคะ ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้นหนูช่วยชีวิตเอาไว้คุณพ่อจะดูดำดูดีหนูไหม ตอนนั้นหนูไม่ควรโทรศัพท์ให้รถฉุกเฉินมาช่วยชีวิตคุณพ่อเลยน่าจะให้คุณพ่อตายๆ ไปซะ หนูกับแม่จะได้ไม่ต้องลำบากเหมือนตอนนี้!”
เธอโกรธจนสั่นเทาไปทั้งร่างและสติแตกไปแล้ว เธอพุ่งเข้าไปเพื่อตบอวี๋กานกานอย่างรั้งเอาไว้ไม่ทัน
มือที่ค้างกลางอากาศถูกฟังจือหันจับเอาไว้
ฟังจือหันสีหน้าเย็นชายิ่งกว่าเดิมและผลักเธอออกไปอย่างไม่แยแส กู้ซูหลิงยืนเซล้มไปกองกับพื้น ฝ่ามือเท้ากับพื้นล้วนเป็นเศษแตกละเอียด เธอเจ็บปวดจนสั่นสะท้าน
สุดท้ายเธอก็ส่งเสียงกรีดร้องอันแหลมคม
“พวกคุณเข้าข้างมัน พวกคุณเข้าข้างมันได้ยังไง นังแพศยาอวี๋กานกานมันมีดีตรงไหน!”
จูอวี้ลู่มีสีหน้าซีดหมอง น้ำตาคลอเบ้า ทันใดนั้นก็ก้าวเข้าไปสะบัดฝ่ามือตบหน้าเพื่อหยุดไม่ให้เธอบ้าคลั่งอีกต่อไป “หลิงหลิง ลูกพอได้แล้ว”
กู้ซูหลิงกุมใบหน้ามองจูอวี้ลู่ตัวสั่นเทิ้ม จ้องจูอวี้ลู่ราวกับได้สติกลับคืนมาทันที “…”
จูอวี้ลู่กล่าวด้วยน้ำเสียงผิดหวังอันสั่นเทา “ลูกทำกับคุณพ่อแบบนี้ได้ยังไง ลูกทำผิดก็ต้องสำนึกผิด แต่คิดไม่ถึงว่าลูกจะ…หลิงหลิง ลูกทำให้แม่ผิดหวังมาก”
“กรี๊ดดดดด!” กู้ซูหลิงกรี๊ดลั่น เธอผลักจูอวี้ลู่แล้ววิ่งพรวดพราดออกไป
ไปแล้วก็ดี จูอวี้ลู่โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง เพราะเกรงว่ากู้ซูหลิงจะทำให้เรื่องดูแย่ไปมากกว่านี้
เธอสะอึกสะอื้นแล้วมองไปที่กู้เชิน “อาเชิน ต้องขอโทษด้วยนะคะ เป็นเพราะฉันไม่ดีเองที่ฉันไม่ได้อบรมสั่งสอนหลิงหลิงให้ดี”
แล้วหันไปพูดกับอวี๋กานกาน “เสี่ยวอวี๋ น้าต้องขอโทษด้วยนะ น้าจะพาหลิงหลิงมาขอโทษเธอ น้องยังเด็ก เธอต้องให้อภัยน้องด้วยนะ”
อวี๋กานกานตอกกลับ “ถ้าฉันจำไม่ผิด เธอน่าจะแก่กว่าฉันนะคะ”
จูอวี้ลู่เอ่ยด้วยท่าทางไม่เต็มใจนัก “ใช่ๆๆ พี่เขาผิดไปแล้ว ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นพี่สาวเลยสักนิด น้าจะพาพี่เขามาขอโทษเธอ…”
กู้เชินมองผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างด้วยสายตาเย็นชา ผู้ช่วยหยิบเอกสารออกมาหนึ่งฉบับ กู้เชินรับไว้แล้วยื่นไปตรงหน้าจูอวี้ลู่ “เซ็นซะ”
เมื่อเห็นคำว่า ‘ใบสำคัญการหย่า’ ห้าพยางค์ จูอวี้ลู่ก็มีสีหน้าขาวซีดราวกับหิมะ เธอส่ายหน้าเอาเป็นเอาตายอย่างตกตะลึง “อาเชิน นี่คุณ…ไม่นะคะ…ไม่!”
กู้เชินเอ่ยเสียงเรียบ “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่สามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อีกต่อไป คุณเซ็นใบหย่าซะ ที่ฉันเคยสัญญาสิ่งไหนที่ยกให้พวกเธอสองแม่ลูกก็ยังคงเหมือนเดิม”
“แล้วลูกชายจะทำยังไงคะ อาเชิน คุณอยากให้เสี่ยวเนี่ยนกลายเป็นลูกไม่มีแม่เหรอคะ” จูอวี้ลู่ร้องไห้รวดร้าวสะอึกสะอื้นพูดขึ้น
“คุณก็ยังดีอยู่นี่ ต่อให้หย่ากันไปคุณก็ยังเป็นแม่ของเขาอยู่ดี”
“คุณอย่าทำกับฉันแบบนี้ได้ไหม ฉันให้กำเนิดทายาทตระกูลกู้เพื่อพวกคุณ พอนึกอยากหย่าแล้วจะหย่าได้ยังไง”
กู้เชินเอ่ยเสียงเย็น “คุณอยากมีลูกเอง ผมบอกคุณตั้งแต่แรกแล้ว ผมจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากคุณถึงเป็นเพราะคุณมีลูกก็ตาม!”
จูอวี้ลู่สั่นเทาไปทั้งร่าง “ฉันรู้ว่าคุณกำลังโกรธมาก เพราะหลิงหลิงจ้างไป๋เสวี่ยตัวปลอมมา แต่คุณอย่าไร้เยื่อใยกันแบบนี้ได้ไหมคะ สิบห้าปีแล้ว สิบห้าปีที่ฉันอยู่เคียงข้างคุณ ต่อให้เป็นน้ำแข็งก็ควรละลายบ้าง ฉันรักคุณขนาดนี้ ตอนนั้นที่เก็บลูกไว้ก็เพราะรักคุณ อยากใช้ชีวิตคู่กับคุณ ฉันเกือบตายตอนคลอดเสี่ยวเนี่ยน คุณไม่มีสิทธิ์ทำกับฉันแบบนี้…”
เธอร้องไห้จนเสียงแหบแห้งพร่ำพรูความรู้สึกในใจของเธอที่มีต่อกู้เชินออกมา