ตอนที่ 753 แทงใจ! ใครคือพี่สาวแท้ๆ ของผมกันแน่
ในขณะที่เธอพูดสีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปแล้วหันไปมองกู้เนี่ยนด้วยน้ำตาคลอเบ้า “เสี่ยวเนี่ยน นายดูสิ ตอนนี้นายเห็นรึยังว่าเธอยโสโอหังแค่ไหนแล้วทำอะไรกับพี่บ้าง ที่พ่อแม่ต้องหย่ากันก็เป็นเพราะเธอทั้งหมด!”
กู้เนี่ยนกำลังอยู่ท่ามกลางความตกตะลึง!
เขาอยู่เมืองนอกตลอด แต่พอพี่สาวชวนเขามาทานข้าวกลับไม่รู้เลยว่ามีคลื่นใต้น้ำแฝงอยู่
อวี๋กานกานทั้งเย็นชาและนิ่งขรึม “เธอยังมีหน้ามาพูดว่าฉันมาสร้างความวุ่นวายให้ ประธานสวีเป็นใครเธอไม่รู้เหรอ ฉันตบหน้าเธอ หากฆ่าคนแล้วไม่มีความผิดล่ะก็ตอนนี้ฉันอยากฆ่าเธอให้ดู”
กู้เนี่ยนพึ่งจะอายุไม่เท่าไหร่เอง ในฐานะที่หล่อนเป็นพี่สาวแล้วยังมีความคิดเช่นนี้โดยการลากเด็กหนุ่มมาทานข้าวเป็นเพื่อน
ทำไมเธอถึงไม่ไปขายตัวเองล่ะ!
เมื่อได้ยินอวี๋กานกานพูดถึงประธานสวีเช่นนั้น แววตาของกู้ซูหลิงก็วูบไหวโดยไม่รู้ตัว
กู้เนี่ยนไม่รู้เรื่องในวันนี้แล้วเธอก็ไม่คิดจะบอกให้กู้เนี่ยนรู้เช่นกัน แม้จะรู้สึกผิดในใจอยู่บ้างแต่ก็ทานข้าวสักมื้อไปดื่มด้วยกันสักครั้งแล้วมันจะเป็นยังไง ไม่ได้เอากู้เนี่ยนใส่พานถวายขึ้นเตียงกับประธานสวีสักหน่อย เธอจึงไม่รู้สึกว่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อเห็นท่าทางไม่รู้สำนึกของเธอแล้วอวี๋กานกานอยากถีบเธอลงทะเลให้รู้แล้วรู้รอด“เป็นความคิดของใคร ของเธอหรือของแม่เธอ ใครใช้ให้เธอพาเขามาฮะ”
กู้ซูหลิงรู้สึกผิดเพียงชั่ววูบแล้วตะเบ็งเถียงคอเป็นเอ็น “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ นี่มันเรื่องภายในครอบครัวของฉัน เธอไสหัวไปซะ”
จากนั้นเธอหันไปมองกู้เนี่ยนแล้วเอ่ยขึ้น “เสี่ยวเนี่ยน ไปกันเถอะ”
แน่นอนว่าอวี๋กานกานไม่ยอมแล้วกางมือขวางเอาไว้ “ไม่ได้!”
กู้เนี่ยนถอนหายใจแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง “พี่จะเอาไงกันแน่”
น้ำเสียงเย้ยหยันดังมาจากด้านหลัง หลิงนีบอกทุกอย่างด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เอาไงเหรอ แน่นอนว่าช่วยนายไงล่ะ เจ้าเด็กโง่”
“ช่วยผมเหรอ…”
กู้ซูหลิงรีบเอ่ยตัดบทกู้เนี่ยน “ช่วยอะไร แกไม่ต้องฟังเรื่องไร้สาระของพวกเธอ พวกเธอมันหมาหมู่ คราวก่อนจงใจวางแผนทำร้ายฉันจนเกือบเสียโฉม เสี่ยวเนี่ยนอย่าไปเชื่อพวกเธอเด็ดขาด”
หลิงนีสบถหนึ่งเสียงยกมุมปากแต่กลับไม่ได้ยิ้ม “นายโตที่เมืองนอก ดังนั้นไม่รู้ว่าประธานสวีมีรสนิยมอะไรก็ไม่แปลก แต่พี่สาวเธอคนนี้รู้ชัดเจนดีทุกอย่างว่าประธานสวีชอบเด็กหนุ่มแบบนี้”
หลังจากที่กู้เนี่ยนได้ยินคำนั้นสมองของเขาก็สั่นทันทีด้วยเสียง “ตู้ม” ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ
จางอี๋เสวี่ยเห็นท่าทางตกตะลึงของเขาจึงอดค่อนแขวะไม่ได้ “ที่แท้นายก็ถูกหลอกมาอีกที โถๆ นี่เป็นพี่สาวประสาอะไร พี่สาวแท้ๆ หลอกกันแบบนี้ได้เชียวหรือ”
กู้เนี่ยนมองกู้ซูหลิงด้วยสีหน้าซีดเผือด
กู้ซูหลิงรีบแก้ตัวน้ำขุ่นๆ “อย่าไปฟังพวกเธอ พวกเธอจงใจ ตกลงพวกเธอคิดจะทำอะไรกันแน่ ฉันจะขายน้องชายให้ประธานสวีได้ยังไง ฉันก็แค่พาน้องชายของฉันมากินข้าว ฉันแค่หลอกใช้ความบ้ากามของประธานสวีแล้วรอจนกว่าเขายอมเซ็นสัญญา ฉันไม่มีทางขายน้องชายฉันหรอก เพราะนี่เป็นถึงน้องชายแท้ๆ ของฉันเลยนะ”
เมื่อสิ้นเสียงก็แสยะยิ้ม
กู้ซูหลิงหันหน้าไปจึงเห็นว่าประธานสวีเดินออกมาจากห้องอาหาร เธอตื่นตระหนกในใจ ทันใดนั้นก็ร้อนรนไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เมื่อเห็นประธานสวีหันมาแล้วออกไปด้วยความโกรธ กู้ซูหลิงจึงรีบตามเขาไป
“ประธานสวีคะ ให้ฉันอธิบายก่อนค่ะ เรื่องไม่ได้เป็นแบบที่คุณได้ยินนะคะ…” เธอไม่สามารถทิ้งโครงการนี้ได้ เธอต้องทำให้กู้กรุ๊ปกับประธานสวีได้ร่วมงานกันให้สำเร็จ
ถึงยังไงกู้เนี่ยนก็เป็นน้องชายของเธอ กลับบ้านไปเอาอกเอาใจสักหน่อยก็หายโกรธแล้ว แต่จะทำให้ประธานสวีคนนี้ขุ่นข้องหมองใจไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นทุกอย่างคงพังย่อยยับแน่
ตอนที่ 754 แทงใจ! ใครคือพี่สาวแท้ๆ ของผมกันแน่ (4)
เมื่อเห็นว่ากู้ซูหลิงวิ่งตามประธานสวีไป กู้เนี่ยนรู้สึกนิ่งค้างราวกับห้องเก็บน้ำแข็ง
ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มเล็กน้อยดูเหมือนทั้งโกรธและกลัว
วัยรุ่นอายุแค่สิบห้าไม่ว่าจะโตแค่ไหนก็ยังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งที่ยังไม่รู้จักโต โลกและทัศนคติของเขาไม่มีทางโหดร้ายเช่นนี้เด็ดขาด
เขานึกแปลกใจอยู่แล้วเชียวว่าเหตุใดพี่สาวถึงลากเขาออกมาทานข้าว แต่ถึงยังไงเรียกเขามาทานข้าวคุยธุรกิจก็ยังแปลกๆ อยู่ดี
ที่แท้ก็…
แต่เธอเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเขานี่นา ทำไมถึงทำกับเขาแบบนี้ เธออยากให้เขาอยู่กับผู้ชายคนนี้แล้วคว้าเอาโครงการนี้ไปใช่ไหม
กู้เนี่ยนรู้สึกอัปยศอดสูมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ใบหน้าขาวซีดกลายเป็นสีแดงราวกับเลือดกำลังจะหยด
อวี๋กานกานเห็นเขาเป็นเช่นนี้ก็ไม่รู้จะพูดปลอบยังไง
อันที่จริง เธอไม่ได้อยากให้กู้เนี่ยนรู้ทุกอย่าง หากกู้ซูหลิงไม่ตามมา เธอก็แค่อยากลากกู้เนี่ยนออกไปเฉยๆ แล้วค่อยไปตักเตือนกู้ซูหลิงเป็นการส่วนตัว
แต่ทว่ากู้ซูหลองไม่ลดราวาศอกและแข็งข้อทำให้เรื่องมันวุ่นวายแล้วทำให้ทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องลำบากใจ
กู้ซูหลิงแพ้แล้วพาล
เธอตามไปอธิบายกับประธานสวี ประธานสวีไม่เพียงแต่ไม่ฟังคำอธิบายเท่านั้นแต่ยังด่ากราดเธอแรงมากอีกด้วย เขามีเงินต้องการเด็กหนุ่มแบบไหนก็ได้แล้วจะปล่อยให้คนมาวางแผนเช่นนี้ได้ยังไง
เพียงแค่ด่ากลับไปเท่านั้นไม่ได้แก้แค้นเอาคืนกลับไป เพราะเขาคิดว่าตัวเองเป็นคนใจดีมากพอ
กู้ซูหลิงทั้งโกรธทั้งแค้นทั้งอับอายและขายหน้า
เธอคิดว่าทุกอย่างเป็นความผิดของอวี๋กานกาน มื้ออาหารถูกเธอพังไม่เป็นท่า ไม่เพียงแต่คุยธุรกิจไม่สำเร็จแต่ยังทำให้ประธานสวีผิดใจอีกด้วย
เดิมทีก็เกลียดแค้นอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งสุมไฟลุกฮือ เธอกระทืบส้นเท้าร้องเท้าส้นสูงเดินตึงตังไปเผชิญหน้าอวี๋กานกาน
เธอชี้หน้าด่าอวี๋กานกานอย่างเกรี้ยวกราด “อวี๋กานกาน ฉันขอโทษเธออย่างถึงที่สุดไปแล้ว เธอทำแบบนี้กับฉัน เธอไล่ฉันออกจากตระกูลกู้ก็ช่าง ถึงยังไงเธอก็เป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณพ่อ เธอกับคุณหนูไฮโซเย่อหยิ่งสองคนนี้รวมหัวกันแกล้งฉันอยากทำลายฉันจนเสียโฉมก็ช่าง ถึงยังไงฉันเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวยากจน แต่ตอนนี้ทำไมเธอยังต้องการทำลายธุรกิจของฉันอีก เธอรู้รึเปล่าว่าเพื่อหน้าที่นี้ เพื่อโครงการนี้ฉันทุ่มเทไปตั้งเท่าไหร่ เธออยากให้ฉันตายไปเลยใช่ไหม เธออยากให้ฉันอัปยศอดสู เธอมันใจแคบ เธอเลวทรามแบบนี้ได้ยังไง”
จางอี๋เสวี่ยเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห “ใครรังแกเธอฮะ”
หลิงนีสบถ “เด็กที่มาจากครอบครัวยากจนอะไรกัน ลูกคนจนผู้ถูกกระทำ”
คราวนี้ในเมื่อกู้เนี่ยนรู้แล้ว อวี๋กานกานก็ไม่ปิดบังอะไร เธอขมวดคิ้วพูดขึ้น “เธอทุ่มเทกับโครงการของเธอไปเท่าไหร่ฉันไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าเธอต้องการคว้าโครงการนี้ผ่านน้องชายของเธอ ถ้าเขาเป็นลูกของแม่เธอกับผู้ชายคนอื่นฉันจะไม่ว่าสักคำ แต่พ่อของเขาคือกู้เชินแล้วกู้เชินเป็นพ่อของฉัน ฉันทนเห็นเธอหลอกใช้เขาไม่ได้ เขาเป็นแค่เด็กอายุสิบห้าเอง กู้ซูหลิง อย่าว่าแต่เธอเป็นพี่สาวของเขาเลย ต่อให้เป็นลูกของครอบครัวอื่นเธอก็ไม่ควรคิดหาทางทำกับเขาแบบนี้”
กู้ซูหลิงเอ่ยขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว “ฉันทำอะไร ก็แค่กินข้าวด้วยกันเท่านั้นเองทำไมจะไม่ได้ ให้เขาช่วยโครงการของกู้กรุ๊ปแล้วจะทำไม ฉันว่าเธอคงกลัวว่าน้องชายฉันจะได้ดีกว่า ตอนนี้ก็ช่วยบริษัทคว้าโครงการได้ ต่อไปพ่อฉันต้องแก้ไขพินัยกรรมยกกู้กรุ๊ปให้…”
“พอได้แล้ว!”
กู้เนี่ยนรู้สึกเจ็บปวดและทรมาน สายตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
เขายืนนิ่งมาโดยตลอดเพื่อรอเธอกลับมาอธิบายกับเขา ถึงอย่างไรเธอก็คือพี่สาวแท้ๆ ของเขา แต่สุดท้ายเธอกลับมาก็เอาแต่โทษอวี๋กานกานที่มาทำลายแผนการของเธอย่อยยับ
สำหรับทุกสิ่งนั้น เขาคิดว่ามันดูเป็นธรรมชาติมาก…
เขาทั้งเสียใจและโกรธจนในที่สุดก็ทนไม่ไหวจึงตะโกนออกมาเพื่อตัดบทกู้ซูหลิงให้หยุดพูดซะ