ตอนที่ 14 เข้ามาพร้อมกันเลยค่ะ
เหล่าอันธพาลต่างหันมองหน้ากันและกันไม่คิดฝันว่าจะได้ยินคำพูดเฉกเช่นนี้จากปากหญิงสาว
ถ้าถามว่าเชื่อไหมเชื่อว่าหล่อนจะจัดการพวกมันทุกตัวด้วยพละกำลังของตัวเองด้วยร่างกายงดงามอันบอบบาง
แน่นอนว่าไม่เชื่อเลยแม้แต่น้อย
ไม่มีเค้าโครงให้น่าเชื่อถือ
“เชื่อเขาเลยเวลาแบบนี้ยังจะมาล่อเล่นอีก~”
“น้องสาวพี่ว่าน้องสาวน่าจะฝันหวานอยู่นะ”
“คิดจะใช้กำลังกับพวกพี่เหรอ?”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ~”
อาศัยกำลังหญิงสาวเพียงคนเดียวเข้าต่อกรกับผู้ชายร่วม 10 คน ไม่ว่าจะมองยังไงมองทางไหนก็ยากจะแปรเปลี่ยนผลลัพธ์สุดท้ายอยู่ดี
เว้นแต่ว่าจะมีปาฏิหาริย์บางสิ่งอย่างเกิดขึ้น
…‘โง่งม’
“…” ไอรีนขยับฝ่าเท้าเล็กน้อย
“ยังมีธุระอื่นที่ฉันต้องกลับไปจัดการต่อ”
”และฉันไม่อยากเสียเวลามากไปมากกว่านี้แล้วเพราะฉะนั้นเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ” แววตาหล่อนหรี่ลงหลายระดับ
ทั้งยังกล่าวตักเตือนให้ได้ยินกันซึ่งหน้า
“…จะลงมือแล้วนะคะ”
“มาเลยสาวน้อย”
“พี่ชายคนนี้อยากจะรู้เหลือเกิน—”
ยังไม่กล่าวจบประโยคบางสิ่งอย่างก็ขยับขับเคลื่อนตัวรวดเร็วสูง
เร็วจนมองอะไรไม่เห็น
ปัง!
“…” เสียงดังลั่นไปทั่วบริเวณ
ทั้งยังรวดเร็วเกินกว่าจะตอบสนองได้ทันสิ่งที่ลอยกลางอากาศพุ่งเข้ามาคือหินก้อนใหญ่ก้อนโต
ก้อนหินที่ไอรีนเตะส่งด้วยฝ่าเท้า
ด้วยเรี่ยวแรงหล่อนเกินขอบเขตมนุษย์ปรกติธรรมดาทำให้หินก้อนใหญ่ที่ควรลอยไปไหนได้ไม่ไกล
กับพุ่งแหวกอากาศไปด้วยความเร็วสูงพุ่งตรงเข้าหาเป้าหมายโดยตรงทันทีทั้งยังแม่นยำเหมือนจับวาง
ซัดเข้ากลางหน้าผากหนึ่งในอันธพาลเต็มแรง
“อ๊ากกกกก!”
“แต้ม?!”
“…” ร่างหนึ่งทรุดตัวลงกับพื้น
เสียงกรีดร้องโหยหวนปลุกสติผู้คนให้กลับมาสนใจอีกครั้งพวกมันต่างวิ่งเข้าไปหาเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายหวังช่วยเหลือ
น่าเสียดายที่สุดท้ายปลายทาง
“…” ทำได้แค่กล่าวปลอบใจเท่านั้น
“ใจเย็นนะไอ้แต้ม”
“แต้มใจเย็น”
“เพื่อนยากอดทนไว้”
ไอ้หัวแดงขมวดคิ้วมองร่างชายหน้าอ่อนนอนกลิ้งทรมานบนพื้นปูนก่อนหันสายตาโหดเหี้ยมกลับไปหาหญิงสาว
มองกลับไปหาไอรีน
…‘เป็นฝีมือของเธอเหรอ?’
“…”
แม้จะเจอมองด้วยสายไม่เป็นมิตรแต่หล่อนหาได้สนใจแววตายังราบเรียบไม่บ่งบอกอารมณ์
เสมือนสิ่งที่ทำเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
ไอรีนยกฝ่ามือขาวเนียนขึ้นมา
“เข้ามา” ก่อนกวักท้าทายซึ่งหน้า
“เข้ามาทั้งหมดเลย”
บรรยากาศแรงกดดันที่หล่อนปลดปล่อยออกมาบีบบังคับให้อันธพาลทั้งหลายถอยห่างไม่กล้าเหยียบเท้าเข้าไปใกล้
กระทั่งเงยหน้ามองยังไม่กล้าด้วยซ้ำ
“…”
“เข้ามาทัังหมด?”
“…”
“เธอพูดจริงเหรอ?”
“…” นิ่งเงียบปราศจากคำตอบตอบกลับมาสิ่งที่หล่อนต้องการจะบอกกล่าวก็บอกกล่าวไปจนหมดสิ้น
ไม่มีความจำเป็นต้องพูดคุยไปมากกว่านี้แล้ว
…‘หยิ่งนักใช่ไหมได้’
“…”
สีหน้ามันกลับมามั่นคงอีกครั้ง
หัวหน้าผมแดงกำหมัดแน่นแววตาแดงก่ำบ่งบอกให้รับรู้ถึงอารมณ์ภายในติดตรงหล่อนหาได้สนใจเลยแม้แต่น้อยหล่อนยังคงนิ่งเงียบตามเดิม
ซึ่งนั้นก็ทำให้ขีดจำกัดของคนผู้หนึ่งต้องหมดลง
“เธอต้องการแบบนี้ใช่ไหม?!”
“…” ไอรีนเลิกคิ้วสูง
“ฉันต้องการ?”
“เปล่าค่ะ”
“ฉันไม่ได้ต้องการมีเรื่องกับใครหน้าไหนทั้งนั้นเป็นฝ่ายคุณมากกว่าที่ต้องการมีเรื่องกับฉันให้ได้”
“แต่เดิมแรกเริ่มเลยเป็นฝ่ายคุณที่เข้าหาเรื่องฉันก่อนทั้งที่ปฏิเสธไปแบบสุภาพแล้ว”
“แต่พวกคุณก็ยังดึงดันไม่เลิกรา”
“…”
“เพราะฉะนั้นหากจะโทษใครสักคนที่ทำให้สถานการณ์มันบานปลายขั้นสุดบานปลายมาถึงขนาดนี้”
“…โทษตัวเองเถอะค่ะ”
“โทษตัวเองที่โง่หาเรื่องคนอื่นเขาไปทั่ว”
คำพูดของหล่อนช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยเหตุผลมากมายนับไม่ถ้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความชอบธรรมขั้นสุด
ติดตรงพวกมันไม่คิดอาศัยความชอบธรรมเข้ามายุ่งเกี่ยวอยู่แล้วพวกมันต้องการอาศัยกำลังเป็นหลักแทน
เอาเข้าจริงกล่าวสำหรับพวกมันการเจอตอกหน้ากลับจากหญิงสาวคือความอัปยศในฐานะลูกผู้ชายคนหนึ่งและความอัปยศครั้งนี้ต้องถูกชำระล้างด้วยเลือดเท่านั้น
สีหน้าพวกมันต่างดำมืดเตรียมพร้อมลงมือกระทำสุดโต่งขอเพียงใครสักคนเปิดฉากรุกหน้าออกจัดการหญิงสาวทุกสิ่งอย่างย่อมเกินกว่าจะหักห้ามได้อีกต่อไป
ถึงอย่างนั้นไอรีนก็ยังกล่าวต่อ
“อย่างที่บอกไปตั้งแต่ตอนแรกฉันยังมีธุระอื่นต้องไปจัดการไม่มีเวลาว่างมากพอเอามาทิ้งกับเรื่องราวไร้สาระหรอกค่ะ”
“เพราะฉะนั้นเข้ามาให้หมดค่ะ”
“เข้ามาพร้อมกันเลยค่ะ”
“ฉันจะได้จัดการทีเดียว”
แววตาหล่อนราบเรียบเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจกดขี่ทุกสรรพชีวิตกดขี่จนไม่ว่าใครก็ต้องหวั่นเกรง
เหล่าอันธพาลเลวทรามต่ำช้าเมื่อเจอสายตาข่มขี่ขั้นสุดพวกมันต่างหวาดหวั่นหวาดกลัวจนเผลอก้าวเท้าถอยหลัง
แสดงอาการขลาดเขลาออกมาชัดเจน
…‘เพียงแค่ผู้หญิงคนเดียวเองนะ’
“…”
“…ฉันบอกให้เข้ามา”
“นังนี่!”
“…” ท่ามกลางคำด่าจากปากเหล่าอันธพาล
สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงสายตาเย็นชาจับจิตเท่านั้นเพียงแค่เปรยตามองไปตามอารมณ์ก็ไม่มีใครหน้าไหนกล้าลงมือเปิดฉากรุกหน้า
หัวหน้าผมแดงตัวสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว
“ดี!”
“มันต้องแบบนี้สิถึงจะสนุก”
“ให้ลักพาตัวธรรมดามันจะไปสนุกอะไร”
ปากบอกว่าดีแต่แววตากับให้ความรู้สึกแตกต่างอย่างสุดขั้วเห็นทีงานนี้คงไม่ง่ายดายเหมือนกับที่คิดเอาตอนแรก
หัวหน้าผมแดงเริ่มประเมินหญิงสาวแสนสวยใหม่อีกครั้ง
…‘ฝีมือไม่ธรรมดามองก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา’
“…”
“เอายังไงดีครับ?”
“ในเมื่อเธอต้องการแบบนั้น”
“ฉันก็ไม่ขัดศรัทธา”
“ลงมือ” หัวหน้าผมแดงออกคำสั่ง
สิ่งที่ขาดแคลนมากที่สุดคือข้อมูลเขาต้องการข้อมูลมากกว่านี้ถึงจะดูโหดร้ายไปสักหน่อย
แต่คงต้องปล่อยให้เหล่าลูกน้องเป็นหนูทดลองไปก่อน
…‘ขอดูหน่อยเถอะเธอจะมือกับพวกมันยังไง?’
“…”
เพื่อให้ผลลัพธ์สุดท้ายปลายออกมาเป็นเหมือนกับที่มันมุ่งหวังเอาไว้จำต้องมีเหยื่อล่อสักหน่อย
เหยื่อล่อสุดพิเศษไม่มีชายใดไม่ต้องการ
“ใครก็ตามที่จับเธอได้”
“…อยากจะทำอะไรก็ทำเลย”
“…”
“หมายถึง?”
สายตาพวกมันลุกวาวทันทีคล้ายคนหิวโหยพบเจอเข้ากับบ่อเงินบ่อทองพบเจอเข้ากับอาหารจานเลิศ
แน่นอนว่าการตอบสนองเฉกเช่นนี้ล้วน
“…” น่าพึ่งพอใจเป็นที่สุด
“ก็ตามที่ฉันบอก”
“จับเธอได้จะเอาไปทำอะไรก็ทำเลย”
“แต่ถ้าเป็นแบบนั้น—”
“ฉันออกหน้าให้ลงมือได้เลยไม่ต้องเป็นห่วง”
ขอเพียงกัดกินนิดหน่อยย่อมไม่ทำให้หล่อนพังทลายจนใช้งานใช้การไม่ได้อีกอย่างด้วยฝีมือของหล่อน
หากไม่มีปัจจัยเข้ามาช่วยเสริม
…‘พวกมันคงต้องถอดใจแน่นอน’
“…”
“หัวหน้าพูดจริงใช่ไหม?”
“ขอแค่ไม่ทำให้พังจนใช้งานใช้การไม่ได้ก็พอ”
“…” ความรู้สึกของพวกมันตอนนี้คือหื่นกระหายขั้นสุด
มนุษย์ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ขับเคลื่อนด้วยตัณหาราคะพอได้ยินข้อเสนอจากปากหัวหน้าผมแดง
พวกมันจากที่เคยไร้ซึ่งเรี่ยวแรงในการทำงานหวนคืนกลับมามีชีวิตชีวาทันทีไม่สิแรงดียิ่งกว่ายามปรกติเสียอีก
“ต้องแบบนี้สิ”
“มันถึงค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย”