ตอนที่ 15 หนึ่งรุมสิบ
หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวขมวดคิ้วแน่นหลังจากได้ยินคำพูดอีกฝ่ายที่ดันไปทึกทักเอาเองโดยไม่สนเจ้าของร่างกาย
ช่างเป็นอะไรที่หยาบคายเสียเหลือเกิน
…‘ต่ำช้า’
“…”
“เอาร่างกายของฉันไปเป็นรางวัล?”
“ไม่คิดถามความสมัครใจของฉันหน่อยเหรอ?”
อยากจะเอาหล่อนไปเป็นรางวัลช่างเป็นแนวความคิดของเศษเดนเศษขยะอย่างแท้จริง
หล่อนส่ายหน้าเบื่อหน่าย
…‘อย่างที่คิดขยะยังไงก็ยังเป็นขยะเหมือนเดิม’
“…”
“…ถามความสมัครใจ?”
“ของกากเดนแบบนั้นพวกเราไม่ต้องการหรอก”
ในเมื่อสามารถอาศัยกำลังเหนือกว่าเข้าควบคุมสถานการณ์ทำไมพวกมันต้องมาสนใจเรื่องยิบย่อยพวกนี้ด้วย
อยากจะทำอะไรก็ทำอยากจะได้อะไรก็ต้องได้นั่นแหละคือสันดานดิบเถื่อนแท้จริงสันดานที่อัดแน่นอยู่ภายในร่างกาย
พวกมันในตอนนี้ต่างเปิดเผยรอยยิ้มน่าขยะแขยงเป็นที่สุดพร้อมปลดปล่อยแววตาชั่วร้ายสามานย์ไม่มีเกรงกลัวสิ่งใด
ก่อนพยายามคุกคามหล่อนด้วยถ้อยต่ำช้า
“สาวน้อยมากับพวกเราเถอะ~”
“พวกเราไม่นิยมชมชอบใช้ความรุนแรง~”
“โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนสวยแบบเธอ~”
“…”
“เพราะฉะนั้นอย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากเลย”
“…รีบมาเร็วเข้า”
ไอรีนหรี่ตามองในเมื่อเรื่องราวมันมาถึงจุดนี้แล้วการพูดคุยเจรจาคงไม่ต่างอะไรไปจากสายลมพัดพาใส่แท่งหิน
หล่อนแค่นเสียงเย็นเย้ยหยัน
“พวกเดรัจฉานหาที่ตาย”
“…” เพียงประโยคเดียวเท่านั้น
เกิดช่องว่างขึ้นระหว่างเหตุการณ์ทันทีหัวสมองพวกมันมึนงงสับสนไปชั่วขณะก่อนจะได้สติกลับมาอีกครั้ง
หลังจากที่หัวหน้าผมแดงออกคำสั่งเสียงดัง
“…ลงมือ!”
“ยอมเสียเถอะน้องสาว!”
“เธอต้องเป็นของฉัน”
“ของฉันต่างหาก”
เหล่าชายฉกรรจ์มากหน้าหลายต่างวิ่งเข้าหาหล่อนเสมือนกับแมลงตัวน้อยบินเข้ากองไฟ
สุดท้ายปลายทางก็ต้องตายอย่างไร้ค่าไปในที่สุด
“ขยะโง่เขลา”
“สมควรโดนกำจัด…”
เปลือกตาคู่งามปิดกั้นหมดทุกสิ่งอย่างก่อนประสาทสัมผัสทั้งหมดภายในร่างกายจะตื่นตัวสุดขีด
และวินาทีที่หล่อนเปิดตาขึ้นมองอีกครั้ง
“…” สัญญาณเริ่มแรกของศึกต่อสู้ในเขตเมืองร้างก็เริ่มต้นขึ้นไม่มีผู้ชมไม่มีผู้ร่วมสักขีพยาน
มีเพียงบรรยากาศฆ่าฟันเท่านั้นที่คอยอยู่เคียงข้าง
ปัง!
“…”
“อ๊ากกกกกกก!”
ร่างชายหนุ่มผู้เป็นลูกน้องเหยื่อรายหมายสองถูกหมัดขาวเนียนต่อยกระแทกเข้ากลางท้อง
บดขยี้อวัยวะจนทรุดลงไปกับนอนพื้น
“…” สีหน้าไอรีนยังคงราบเรียบ
ไม่บ่งบอกอารมณ์
ร่างหนึ่งล้มลงนอนกับพื้นอีกหนึ่งร้องเรียกด้วยความเป็นห่วงเป็นใยร้องเรียกโดยไม่สนใจเลยว่า
หายนะกำลังคืบคลานเข้าหาตน
“น้องสาม—”
“ไอัโง่อย่าหันหลังให้เธอ!”
ชักช้าเกินไปคำเตือนบอกกล่าวส่งไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางร่างไอรีนพุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูง
สูงจนน่าตกใจ
…‘ไม่ทันแล้ว!’
“…”
เหลืออีกเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้นก่อนหล่อนจะเข้าถึงตัวหากมันไม่บู่มบ่ามเกินไปคงไม่โดนเล่นงานรวดเร็วขนาดนี้
ขณะมันกำลังรอคอยการลงมือดุดันจากอีกฝ่าย
เหตุการณ์ผิดแปลกผิดปรกติก็เกิดขึ้นทั้งยังเป็นเหตุการณ์นอกเหนือจากการคาดเดาเนื่องจากหล่อนเปลี่ยนเป้าหมาย
ทั้งยังเปลี่ยนกระทันหัน
“…” เปลี่ยนโดยไม่บอกกล่าว
สายตาคนตักเตือนร้องด้วยความเป็นห่วงในตอนแรกรับรู้ได้เลยทันทีว่ามันเกิดบ้าบออะไรขึ้น
ซึ่งเป้าหมายแท้จริงของหล่อนไม่ใช่เจ้าโง่นั่น
ทั้งยังไม่ใช่ใครที่ไหน
…‘แต่เป็นเราต่างหาก’
“…”
ไอรีนอาศัยฝีเท้ายอดเยี่ยมร่นระยะเวลาเพียงหนึ่งลมหายใจเข้าออกหล่อนก็มาปรากฏตัวเบื้องหน้ามันแล้ว
ใบหน้างดงามดวงตากลมโตแต่เต็มเปี่ยมไปแรงกดดันมากมายมหาศาลกว่าจะรู้สึกตัวหล่อนก็มาถึงตัวเขาแล้ว
ริมฝีปากแดงอมชมพูกล่าวเบาบาง
“เตือนตัวเองเถอะค่ะ”
“อย่า—”
ปัง!
ยังไม่ทันกล่าวจบครบถ้วนกระบวนความฝ่าเท้าขาวเรียวหวดเข้าที่ต้นคอเต็มเรี่ยวแรงไม่มีกักเก็บ
ดีที่มันยกมือตั้งฉากกั้นเอาไว้ได้
ถึงแม้จะกันเอาไว้ได้แต่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรความเจ็บปวดเหนือล้ำจินตนาการไหลผ่านลำแขนเข้าสู่หัวสมองโดยตรง
ทำเอาสีหน้าเจ้าตัวขาวซีดขึ้นทันตาเห็น
…‘เจ็บ!’
“…”
มันรีบก้มหน้ามองแขนตัวเองพอได้มองก็พบเห็นรอยช้ำม่วงขนาดใหญ่ตรงกลางท่อนแขน
ดูก็รู้ว่าการลงมือเมื่อครู่ของหล่อนรุนแรงขนาดไหน
“บัดซบ!”
“ทำไมถึงได้แรงเยอะแบบนี้”
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นยังไม่ใช่จุดสิ้นหญิงสาวงดงามเปรียบเสมือนดอกไม้ปรกติธรรมดาในตอนแรกยังออกอาละวาดต่อ
“อ๊ากกกกก!”
“ขะ แขนของฉัน!”
“ขาฉันขา!”
“เจ็บ!”
ไม่ว่าใครเข้ามาขัดขวางล้วนประสบพบเจอชะตาเดียวกันไม่โดนเล่นงานจนหมดสภาพก็วิ่งหนีเอาตัวรอดไม่คิดชีวิต
ช่างเป็นอะไรที่ยากเกินกว่าจะหาคำใดมาบรรยาย
…‘นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย!’
“…”
“มัวรออะไรอยู่วะ!”
“รีบเข้าไปสิ” เสียงร้องตะโกนสั่งการดังขึ้นอีกครั้ง
หัวหน้าผมแดงถูกทำให้ตื่นตระหนกตกใจเป็นที่สุดหญิงสาวเพียงแค่คนเดียวกับสามารถรับมือกับผู้ชาย 10 คนได้โดยไม่มีบาดแผลหรือร่องรองบาดเจ็บให้เห็น
ช่างเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อเหลือเกินหากไม่มาเห็นด้วยสายตาตัวเองคงยากจะเชื่อถือ
น่าเสียดายที่ความจริงมันช่างโหดร้ายเหลือเกิน
…‘เธอไม่ใช่ธรรมดาหรอกเหรอ?!’
“…”
“เธอมีแค่คนเดียวพวกเรามีกันตั้งหลายคน”
“บุกเข้าไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเธอก็เหนื่อยเอง”
ไม่ได้การเหล่าลูกน้องทั้งหลายต่างหมดกำลังใจหลังจากโดนหล่อนจัดการกลับมาจนหน้าหงาย
ต้องหาเส้นทางอื่นเข้าช่วยเหลือ
“รีบลุกขึ้นมา!”
“ผู้หญิงคนเดียวเองนะ”
“มันไม่มีทางรับมือผู้ชายนับ 10 คนได้ตลอดรอดฝั่งหรอก”
ขณะเจ้าตัวผมแดงกำลังปลุกระดมรวมตัวอีกครั้งเสียงหวานราบเรียบก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเขา
เพียงแค่ได้ยินคำกล่าวก็เสียวไปทั่วทั้งแผ่นหลัง
“…คิดแบบนั้นเหรอคะ?”
“…”
“ตายซะ!” หัวหน้าผมแดงร้องตะโกน
มันอาศัยพละกำลังกล้ามทั่วทั้งร่างกายสร้างการจู่โจมครั้งเดียวหวังเล่นงานให้หมดสิ้นกำลังต่อต้าน
กำหมัดหวดกลับไปด้านหลังสุดแรงซึ่งมันควรโดนเป้าหมายส่งเรือนร่างงดงามกลิ้งพื้นไปหลายต่อหลายตลบ
มันควรจะเป็นแบบนั้นไม่สิมันต้องเป็นแบบนั้นต่างหาก
เป็นอีกครั้งที่ความจริงมันช่างโหดร้ายเหลือ
…‘ไม่อยู่?!’
“…”