ตอนที่ 17 เป็นห่วงพวกคุณต่างหากค่ะ
“ถ้าแกกล้าทำอะไรอีก”
“ฉันจะหักคอมัน”
“…” นิ้วมือทั้งห้าบีบกำลำคออีกฝ่ายเอาไว้แนบแน่น
ขอเพียงเอาตัวทราเวียร์มาเป็นตัวประกันจะมากจะน้อยย่อมดีกว่าปะทะกับหล่อนโดยครง
อย่างน้อยที่สุดมันก็เชื่อแบบนั้น
…‘ยุ่งยากแล้วสิ’
“…”
“ว่าแต่ไอ้ที่บอกว่าหักคอเขาเนี่ย”
“หมายถึงหักคอเขาเหรอคะ?”
“ถามอะไรโง่ ๆ ถ้าไม่ใช่คอมันแล้วจะเป็นคอใคร”
“คอฉันคนนี้เหรอหะ?!”
“…” หล่อนกระพริบตาน่ารักเป็นที่สุด
ก่อนจดจ้องมองระหว่างชายหนุ่มสวมแว่นกับหัวหน้าผมแดงจ้องมองสลับไปมาหลายต่อหลายครั้ง
พร้อมระเบิดเสียงหัวเราะออกมาไม่มีหยุดหย่อน
“ฮะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“…หัวเราะอะไร?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ฉันถามว่าหัวเราะอะไร?!”
“มีอะไรน่าขำนักหะ?!”
เสียงหัวเราะดังขึ้นมาไม่มีที่มาที่ไปทำเอาชายหนุ่มหัวหน้ากลุ่มเดือดดาลหัวจิตหัวใจเป็นที่สุด
แม้มันจะพยายามถามกลับไปหวังเอาคำตอบ
แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงเสียงหัวเราะเสียงหวานดังลั่นสนั่นไปทั่วบริเวณทั้งยังดังต่อเนื่องอีกต่างหาก
ไอรีนปาดน้ำตาทิ้งขณะหัวเราะ
“เปล่าค่ะ เปล่าหัวเราะ”
“ฉันเปล่าหัวเราะสักหน่อย”
“ฮะ ฮ่าฮ่า”
แม้ปากจะบอกว่าเปล่าหัวเราะแต่หญิงสาวแสนสวยก็ยังหัวเราะเสียงหวานต่อไม่ปล่อยให้ขาดตอน
ทำเอาหัวหน้าผมแดงยิ่งหงุดหงิดเดือดดาลหนักหน่วงเข้าไปใหญ่หากไม่ใช่ว่าหล่อนมีฝีมือมากเกินไป
มันคงบุกทะลวงเข้าไปเล่นงานหล่อนถึงตัว
“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้!”
“ฉันบอกให้หยุด!”
“หยุดซะ!”
ใช้เวลาร่วมนาทีกว่าหญิงสาวแสนสวยจะหยุดหัวเราะสะใจ
เมื่อหัวเราะเสร็จสิ้นห้วเราะจนพอใจหล่อนปาดน้ำตาทิ้งท้ายพร้อมหวนคืนสู่สภาพปรกติ
แน่นอนว่าระหว่างหัวเราะหล่อนยังจดจ้องมองไปทราเวียร์จดจ้องมองด้วยแววตามากไปด้วยเสน่ห์ทำเอาเจ้าตัวถึงกับถอยหายใจเหนื่อยหน่าย
…‘ขอละอย่ามองฉันแบบนั้นเลยนะ’
“…”
หากสีหน้าของทราเวียร์คือเหนื่อยหน่ายกับฉากภาพตรงหน้าสีหน้าเจ้าหัวหน้าผมแดงก็คงเดือดดาลขั้นสุด
โดยเฉพาะกับแววตาของมันที่อัดแน่นเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารมากมายมหาศาลพร้อมบดขยี้ทุกสิ่งอย่าง
ไอรีนโบกมือขอโทษแบบขอไปที
“…ขอโทษค่ะ”
“พอดีเมื่อกี้มันอดไม่ได้จริง ๆ”
จนถึงตอนนี้หล่อนก็ยังคงยียวนกวนประสาทไม่เลิกราไม่เห็นหัวเขาทำราวกับเขาเป็นเพียงอากาศธาตุ
…‘เห็นฉันเป็นตัวตลกรึยังไง?!’
“…” หัวหน้าผมแดงเนื้อตัวสั่นสะท้าน
เส้นเลือดมากมายปรากฏขึ้นกลางหน้าผากลามมาถึงต้นคอสีหน้าดำมืดแดงก่ำล้วนบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกด้านลบ
ก่อนเสียงตะโกนลั่นจะออกจากปาก
“กล้ามากที่หัวเราะใส่ฉัน?!”
“คิดว่าฉันไม่กล้าหักคอมันเหรอ?!”
“อย่ามาท้าฉันนะ?!”
เรียบร้อยพอโดนหล่อนหยอกล้อเล่นอาการคลุ้มคลั่งก็ถามหาทันทีและผู้ที่เดือดร้อนมากที่สุดก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน
เป็นทราเวียร์นั่นเอง
“…” ถึงจะเดือดร้อนสุ่มเสี่ยงมากน้อยเพียงใด
แต่เจ้าตัวก็ยังคงนิ่งเงียบตามเดิมเสมือนคนที่โดนจับรั้งเอาไว้เป็นคนอื่นไม่ใช่เขาที่เป็นโดนกระทำ
ไอรีนที่เห็นอดยิ้มไม่ได้
…‘คุณนี่มัน’
“…” หล่อนถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
ก่อนกลับมาสนใจเจ้าร่างตรงหน้าต่อ
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อค่ะ”
“แค่ประหลาดใจนิดหน่อยที่คุณลากเขามาเข้ามายุ่งวุ่นวายโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว”
“…หมายความว่ายังไง?”
“เรื่องนี้ฉันคงบอกไม่ได้”
“มากที่สุดก็ได้แค่เตือนเท่านั้น”
“ส่วนคุณจะทำตามหรือลงมือต่ออันนี้ก็แล้วแต่คุณเลยค่ะ”
“…” หัวคิ้วมันขมวดแน่นเป็นปม
ไม่มีท่วงท่าตึงเครียดอย่างที่มันครุ่นคิดเอาไว้ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามอารมณ์เป็นที่สุดกระทั่งเจ้าหนุ่มในมือก็ยังนิ่งเงียบไม่คิดเปิดปากพูดจา
สถานการณ์ผิดปรกติเฉกเช่นนี้รวมถึงคำพูดเมื่อครู่ของหล่อนเริ่มสั่นสะท้านหัวใจแข็งกร้าวดวงโตของมัน
เกิดความหวั่นไหวยากจะสลัดหลุด
…‘จะบอกว่าฉันคนนี้กำลังหาเรื่องใส่ตัวเหรอ?’
“…” มันส่ายหน้าปฏิเสธ
มันเชื่อในหลักเหตุและผลหาได้สนใจสัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ร้องเตือนมันตั้งแต่เมื่อครู่
เพื่อย้ำเตือนจิตใจให้แน่วแน่
“เธอก็แค่กลัวฉันทำร้ายมัน”
“ลูกไม้กระจอก”
“ลูกแบบนัันใช้งานใช้การกับฉันไม่ได้หรอก”
ไม่ใช่เพียงแค่หัวหน้าแต่ยังรวมไปถึงเหล่าลูกน้องด้วย
สุดท้ายปลายทางพวกมันก็เริ่มร้องตะโกนลั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์เดือดดาลขั้นสุด
จากเท่าที่ดูเจ้าหนุ่มสวมแว่นในกำมือหัวหน้าผมแดงน่าจะเป็นคนสำคัญของหล่อนหากหยิบจับมาใช้ประโยชน์
การเข้าควบคุมสถานการณ์ย่อมสามารถทำได้ทั้งยังมีความเป็นไปได้และความปลอดภัยเกินกว่าจะมาเป็นห่วง
พอคิดได้แบบนั้นความกล้าหาญมากมายที่ซุกซ่อนหนีเหมือนกับหมาขี้แพ้ตัวหนึ่งก็ผุดขึ้นมา
เค้นเอาเสียงด่าทอสวนกลับไม่มีเกรงกลัวเหมือนกับฉากขี้ขลาดตาขาวเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตา
“ฆ่าไอ้หน้าอ่อนนั่นเลย!”
“หักแขนมัน!”
“ดึงลิ้นมันออกมา!”
เสียงโกรธเกรี้ยวดังลั่นสนั่นไปทั่วบริเวณบ่งบอกให้รับรู้ถึงห้วงอารมณ์ภายในว่าเดือดดาลมากมายขนาดไหนเพียงใด
หัวหน้าผมแดงยิ้มกล่าวถามกลับไป
“ได้ยินแล้วใช่ไหม?”
“เสียงพี่น้องของฉันที่ขอให้บดขยี้มันให้ตายคามือ”
“หากฉันทำขึ้นมาเมื่อรับรองได้เลยว่ามันต้องตาย”
“ต้องตายอย่างแน่นอน”
“ให้ฉันลงมือ—”
ยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยคครบถ้วนกระบวนความหญิงสาวเข้าแย้งทะลุกลางปล้องขัดขวางไม่ให้มันพูดจบ
ทั้งยังกล่าวด้วยมาดมั่นเต็มเปี่ยมอีกต่างหาก
“เชื่อฉันเถอะถ้าเป็นฉัน”
“ฉันจะไม่ทำแบบนั้น”
“การทำแบบนั้นมีแต่จะส่งผลเสียโดยตรงถึงคุณ”
“ไม่ก่อให้เกิดผลดีเลยแม้แต่น้อย”
“…” รอยยิ้มของหล่อนยังคงเดิม
สายตาไม่มีเสแสร้งแกล้งทำทุกสิ่งอย่างล้วนมาจากใจจริงทั้งนั้นซึ่งมันทำให้หัวหน้าผมแดงงุนงงมาก
เข้าขั้นสับสนวุ่นวายไปหมดแล้วตอนนี้
…‘หรือจะเป็นแกล้งบ่ายเบี่ยง’
“…” หัวคิ้วมันขมวดเป็นปม
ครุ่นคิดจนหัวสมองแทบระเบิดสุดท้ายปลายทางมันก็เลือกเชื่อหลักเหตุและผลเลือกเมินเฉยคำเตือนของไอรีน
มันยังคงเดินหน้ากดดันต่อไม่ปล่อยให้ขาดตอน
“แล้วถ้าฉันยังดึงดันต่อไปละ?!”
“…”
“ใครจะรู้ละคะ”
“พวกคุณอาจจะกลายเป็นคนพิการไปเลยก็ได้”
“หรือไม่ก็อาจจะตายตามกันไปทัังหมด”
น้ำเสียงราบเรียบเย็นเฉียบเปรียบเสมือนน้ำเย็นราดเข้ากลางหนังหัวทั้งหนาวสั่นและเยือกเย็นจนบาดลึก
สีหน้ามันกลับมาสั่นไหวอีกครั้ง
…‘โกหกแน่นอนหล่อนต้องโกหกเพราะเป็นห่วงเจ้าหนูนี่?!’
“…” หัวหน้าผมแดงยังคงยึดมั่นในหลักการเดิม
ยึดมั่นไม่มีแปรเปลี่ยน
“เป็นห่วงตัวมันสินะ!”
“ถึงได้ออกปากขู่ฉันแบบนี้”
“เปล่าค่ะ”
“เปล่าเป็นห่วงเขา”
“…เป็นห่วงพวกคุณต่างหากค่ะ”