ตอนที่ 18 ตัวประกันหาย
พอได้ยินคำกล่าวจากหญิงสาวแสนสวยพวกมันต่างมองหน้าซึ่งกันและกันมองด้วยความงุนงงสับสนไม่เข้าใจ
กระท้่งตัวของหัวหน้าผมแดงเองยังขมวดคิ้วแน่น
…‘ยัยนี้กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่?’
“…”
“เป็นห่วงพวกเรา?”
“ไร้สาระ”
“เป็นห่วงตัวเองดีกว่า”
“…เอาเข้าจริงสถานการณ์ในตอนนี้มันไม่ควรห่วงใครหน้าไหนทั้งนั้นนอกจากห่วงตัวเอง”
“เชื่อฉันเถอะห่วงตัวเองดีกว่าก่อนเวลาจะสายเกินแก้’
ถึงแม้คำพูดคำกล่าวของหล่อนจะชวนสับสนงุนงงไม่เข้าใจแต่หากไม่เก็บมาใส่สมองย่อมปล่อยผ่านได้ตามสบาย
หัวหน้าผมแดงเลือกที่เมินเฉย
ทั้งยังกล่าวตอกหน้ากลับไป
“อะ ขอโทษละกัน”
“ถ้าทำให้เธอลำบากใจ”
“ใช่ ๆ เธอไม่จำเป็นห่วงมันหรอก”
“ยังไงฉันก็ไม่บีบขยี้มันตรงนี้—”
“น่าสมเพช”
“…เมื่อกี้เธอพูดว่าไงนะ?”
“ก็บอกว่าน่าสมเพชไง”
“…เธอ!!!” หัวหน้าผมแดงร้องตะโกนลั่น
ว่าถ้อยคำเมื่อครู่ของหล่อนมันรุนแรงแล้วแต่มันเทียบไม่ได้กับสายตาเมินเฉยสมเพชเวทนาขั้นสุด
อารมณ์เดือดดาลยิ่งเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ
“กล้ามองฉันด้วยสายแบบนั้นได้ยังไง?!”
“ไม่ห่วงมันแล้วใช่ไหมหะ?!”
“อยากให้มันตายนักเหรอ?!”
สภาพของมันในตอนนี้เหมือนกับหมูป่าบ้าคลั่งไม่ว่าหล่อนจะทำอะไรจะพูดอะไรออกมาจะสื่อสารยังไง
ไม่เกินสองสามประโยคต้องมีคำข่มขู่จะบดขยี้ทราเวียร์ให้ตกตายตามมาตลอดเหมือนกับพวกแผ่นเสียงตกร่อง
เล่นซ้ำไปมาอยู่ที่เดิมจนน่ารำคาญ
“…” ไอรีนถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
ก่อนบอกให้มันรับรู้ถึงความโง่เขลาเบาปัญญาของตนความโง่เขลาที่ยากเกินกว่าจะรับรู้ด้วยตัวเอง
“คุณหัวหน้ากลุ่ม”
“มองมือตัวเองก่อนเถอะค่ะ”
“อย่ามัวแต่โมโหกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย”
“…” มันขมวดคิ้วมึนงงไปชั่วขณะ
แน่นอนว่าในตอนแรกเริ่มมันไม่เข้าใจในสิ่งที่หล่อนต้องการจะบอกกล่าวยังคงหรี่ตามองหวาดระแวงกับเรื่องไม่เป็นเรื่องถ้าไม่ได้เหล่าลูกน้องคอยชี้นำสู่เส้นทางแสงสว่างให้
ก็คงโง่งมดักดานอยู่อย่างนั้นไม่มีวันพัฒนา
“…หะ หัวหน้า”
“อะไร?!”
“เจ้าหนุ่มนั่นมันหายไปไหนแล้ว?!”
“…”
“จะหายไปได้ยังไงฉันยังจับมันอยู่”
“ที่หัวหน้าจับมันคือท่อนไม้”
…‘ท่อนไม้พูดห่าเหวอะไรออกมาวะ!’
“…” มันหันกลับมามองที่มือของตน
สุดท้ายปลายทางความจริงก็ปรากฏให้เห็นเต็มสองดวงตากลมโตสิ่งที่อยู่ในมือของมันคือท่อนไม้ฐานกว้างขนาดเล็ก
ไม่ใช่ลำคอของทราเวียร์
“เป็นไปไม่ได้เมื่อกี้ฉันยังจับมันอยู่เลย!”
“มันหายไปไหน?!”
“หายไปได้ไงวะ?!”
“พวกโง่รีบออกตามหาเร็วเข้า!”
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมันใช้กระบวนการท่วงท่ายังไงออกมาแต่หากขาดตัวประกันสถานการณ์ย่อมเลวร้ายจนถึงขีดสุด
เหล่าอันธพาลก็ตระหนักรับรู้ได้เฉกเช่นเดียวกัน
รับรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้กำลังเข้าขั้นวิกฤตความเป็นตายกำลังไล่หลังมาทุกขณะจิต
“คะ ครับ”
“คนหายให้ฉันช่วยหาไหมคะ?”
“…”
“เหมือนเมื่อกี้ฉันจะได้ยินคำพูดน่าสนใจเยอะแยะเต็มไปหมดถ้าไม่รังเกียจช่วยพูดมันอีกครั้งได้ไหมคะ”
“ฉันอยากได้ยินมันตอนนี้เลย” แววตาคมกร้าวขั้นสุด
จบสิ้นเรียบร้อยหล่อนเข้าถึงตัวพวกมันระยะห่างเพียงแค่ไม่กี่ก้าวหากต้องการลงมือหนักหน่วงย่อมง่ายดายยิ่งนัก
แต่หล่อนก็ยังไม่ลงมือ
“…” เพียงแค่ยืนสงบนิ่ง
สายตายังจับจ้องมองไปที่หัวหน้าผมแดงไม่คิดละไปไหนนี่บ่งบอกให้รู้เลยว่าเป้าหมายครั้งนี้ของหล่อนคือใคร
…‘นังนี่มันเล็งฉัน!’
“…”
“ยะ ยังหาไม่เจออีกเหรอ?!”
“ยังครับ”
“หาเร็ว ๆ สิวะ”
“…” ไอรีนละสายตาจากเศษเดนเศษสวะตรงหน้าก่อนเงยหน้ามองชั้นสองมองชั้นบนหัวของเหล่าอันธพาล
พร้อมกล่าวบอกให้ใครคนหนึ่งออกมา
“ออกมาเถอะค่ะ”
“พวกเรามีธุระอื่นต้องไปจัดการอีก”
“อย่าเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย”
“…”
พวกมันหันหน้ามองระเบียบชั้นสองมองตามสายตาของไอรีนมองจนพบเห็นคนผู้หนึ่งกำลังนั่งห้อยขาตรงระเบียบ
ท่วงท่านั่งหวาดหวั่นหวาดเสียวไม่ได้ทำให้รอยยิ้มคนผู้หนึ่งจางหายกับยิ่งฉีกยิ้มสนุกสนานมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
ทราเวียร์ที่ถูกจับได้เลือกถอนหายใจ
“ให้ตายสิ~”
“อุตส่าห์อยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรแล้วนะ”
“ยังจะมาหาเรื่องผมอีก”
“คนสมัยนี่นิใจร้ายกันจังนะ”
เป้าหมายที่ควรหลบหนีซุกซ่อนตัวกับเปิดเผยตำแหน่งให้คนอื่นรับรู้ช่างเป็นอะไรที่ผิดวิสัยเสียจริง
และเมื่อพบเจอสิ่งที่ตามหามาตลอดย่อมเป็นโอกาสของผู้ล่าเนื้อสังหารลงมือทำตามเป้าหมายตามหน้าที่
เหล่าอันธพาลรีบวิ่งหน้าตั้งไม่มีหยุดหย่อน
“มันอยู่ด้านบน!”
“รีบขึ้นไปจับเร็วเข้า”
“ขึ้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?”
แม้จะเห็นชายฉกรรจ์ร่วม 10 คนวิ่งหน้าตั้งหวังจับตนเอาไปเป็นตัวประกันอีกครั้งแต่ทราเวียร์ก็ยังเฉยชา
ยังคงยิ้มหัวเราะไปตามอารมณ์เหมือนเดิม
“ขึ้นมาระวังพวกเศษเหล็กด้วยนะครับ”
“ผมเป็นห่วง”
“บัดซบ!”
“รีบขึ้นไปเร็ว!”
ระหว่างกำลังรอคอยให้สถานการณ์ก้าวข้ามไปยังอีกขั้นตอนหนึ่งเจ้าหัวหน้าผมแดงที่ขยับไปไหนไม่ได้เพราะการจ้องมองของไอรีน
มันร้องตะโกนถามหวังเอาคำตอบ
“…แกหลุดไปได้ยังไง?!”
“ครับ?”
“ฉันถามว่าแกหลุดรอดไปได้ยังไง?!”
เหตุการณ์ตรงหน้ามันเหนือล้ำเกินจินตนาการไปแล้วเรียบร้อยทั้งที่มันจับคอทราเวียร์เอาไว้แนบแน่น
แต่อีกฝ่ายก็ยังหนีรอดไปได้ทั้งยังหนีไปโดยที่มันไม่รู้สึกตัวอีกต่างหากมันเลยต้องการคำตอบจากปากอีกฝ่าย
ทราเวียร์ยิ้มหัวเราะ
“…” ก่อนยกมือขึ้นคล้ายต้องการบอกยอมแพ้
“ตอบแล้วครับตอบแล้ว”
“ว่าแต่ใจเย็นก่อนได้ไหมครับ?”
“เผื่ออะไรมันจะดีขึ้น”
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดหากไม่ติดว่าทราเวียร์อยู่ชั้นสองมันคงบุกเข้าประชิดถึงตัวเค้นเอาทุกสิ่งอย่างออกมา
น่าเสียดายที่มันทำอะไรไม่ได้เลยในตอนนี้
“…” ต้องรอให้ลูกน้องจับทราเวียร์กลับมาก่อน
เพราะฉะนั้นตอนนี้นอกจากนี้เค้นเอาคำตอบมันยังต้องการถ่วงเวลาให้นานเท่าที่จะนานได้
ก่อนเหล่าลูกน้องอันธพาลจะเข้าถึงตัวอีกฝ่าย
…‘ดีอยู่ตรงนั้นแหละอย่าได้ไปไหนนะ’
“…” มันกลับมาปั้นสีหน้าตามเดิม
กันไม่ให้ใครล่วงรู้แผนการพร้อมตัดเข้าประเด็นเดิมทั้งยังใส่น้ำเสียงแข็งกร้าวขั้นสุดเป็นสารประกอบให้ดูสมจริง
แน่นอนว่ารวมถึงใบหน้าเคร่งเครียดดำมืดด้วย
“…ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้าย”
“แกหลุดได้ยังไง?”
“ทั้งที่ฉันจับแกอยู่ตลอดเวลา”