ตอนที่ 33 หน้าบ้าน
บรรยากาศรอบตัวจากเดิมที่เคยเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ตอนนี้กับราบเรียบไร้ซึ่งการเจรจาพูดคุย
สองสายตาต่างจับจ้องมองไปที่โทรศัพท์จ้องมองโทรศัพท์ด้วยแววตาราบเรียบไม่บ่งบอกห้วงความรู้สึก
แมัจะเป็นระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาทีแต่ภายในรถหรูหราราคาแพงไม่มีใครกล้าส่งเสียงเรียกร้องตอบกลับมา
ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบ
“…” ไม่มีปากไม่มีเสียง
เป็นฝ่ายทราเวียร์ที่รู้สึกตัวก่อนทั้งยังพยายามบอกกล่าวให้หล่อนกดรับสาย
“มัวรออะไรอยู่รับสายสิ”
“ฉันยังไม่อยากรับ…”
“ไม่อยากก็ต้องรับ”
“เธอกล้าเมินสายของคาร่าเหรอ?”
“…” จังหวะเวลานี้มันไม่ได้อยู่ที่กล้าหรือไม่กล้า
มันอยู่ที่ตัวเธอต่างหากว่าต้องการเลือกแบบไหนเลือกอะไรมากกว่ากัน
ระหว่างผู้ชายคนที่ตนหลงรักกับเพื่อนสาวคนสนิททั้งสองตัวเลือกล้วนเป็นอะไรที่น่าหนักอกหนักใจทั้งนั้น
“…” ไอรีนขบฟันตัวเองแน่น
“ทำไมต้องตอนนี้ด้วย”
ยิ่งผ่านพ้นวันเวลามากมายยิ่งตื่นตระหนกตกใจมากขึ้นไปตามลำดับสภาพสติปัญญาของหล่อนตอนนี้
กำลังเข้าขั้นเตลิดเปิดเปิงมือไม้สั่นสะท้านไปหมดกระทั่งแววตายังหวาดหวั่นหวั่นไหวเป็นที่สุด
และที่มาพร้อมกันนั่นคือความโกรธ
อารมณ์หงุดหงิดสุดขีด
…‘จะเกะกะไปถึงไหนกันหะ?!’
“…”
“ขัดจังหวะจริง”
“โทรมาเวลาอื่นไม่ได้เหรอ?!” ไอรีนสบถหัวเสีย
ในขณะหัวสมองกำลังวางแผนลำดับขั้นตอนวางแผนการรับมือเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ตรงหน้า
ทราเวียร์ลอบยิ้มออกมาเล็กน้อย
“…” ก่อนเอ่ยแทรกขัดเข้ากึ่งกลาง
“…เธอไม่ต้องคิดมากหรอก”
“รับสายเลยอย่าให้คนอื่นเขารอ”
“…”
“ดูนายมีความสุขนะ”
“…คิดไปเอง”
“เธอคิดไปเองมากกว่า” ทราเวียร์เพียงยิ้มนิ่งเงียบ
แม้ว่าชายหนุ่มสวมแว่นจะพยายามบอกกล่าวขอให้ไอรีนรับสายปลายทางหล่อนก็หาได้สนใจทั้งยังเงียบเมินเฉยขั้นสุด
สายตาหล่อนยังคงจับจ้องมองอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ก่อนแค่นเสียงไม่พอใจออกอาการเหม็นขี้หน้าไม่มีกักเก็บ
เท้าข้างหนึ่งกระทืบพื้นระบายอารมณ์
…‘เหลืออีกแค่นิดเดียวเองฉันไม่ยอมให้เธอมาขวางหรอก’
“…” ไอรีนลอบกำหมัดแน่น
ประกายแสงหนึ่งไหลวูบผ่านเข้ามาในหัวสมองทั้งยังมอบแนวความคิดสุดโต่งให้เป็นของขวัญก่อนจากลา
ทราเวียร์ที่เห็นท่วงท่าของหล่อนจึงพอประเมินออกว่าหล่อนน่าจะได้รับบทสรุปของตนเรียบร้อยแล้ว
เขาเริ่มเปิดประเด็นกล่าวถามกลับไปทันที
…‘สรุปรับหรือไม่รับ?’
“…”
“ดูเหมือนเธอจะตัดสินใจได้แล้วนะ”
“ใช่ฉันตัดสินใจได้แล้ว”
“งั้นสรุปรับหรือไม่รับฒ”
“…” ไอรีนฉีกยิ้มหัวเราะ
ทั้งยังหัวเราะด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์เป็นที่สุดอีกด้วย
“…หึ!”
“ทำไมฉันต้องรับด้วย”
“เธอจะไม่รับ?”
“…” ทราเวียร์ขมวดคิ้วแน่น
“แต่นั้นเป็นสายของคาร่านะ?”
“คาร่าแล้วไง?”
“เธอยังไม่กลับบ้านสักหน่อยกลัวอะไร?”
“หรือต่อให้เธอกลับบ้านมาฉันก็ไม่กลัวหรอก”
บทสรุปสุดท้ายออกมาเรียบร้อยแล้วคำสั่งต่อไปย่อมเป็นการลงมือปฏิบัติโหดเหี้ยมขั้นสุด
แววตาที่เปล่งประกายคมกร้าวมากกว่าปรกติหลายเท่าตัวทำเอาชายหนุ่มสวมแว่นหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ
เขารู้สึกถึงลางร้ายมันกำลังจะเกิดขึ้น
…‘คิดจะทำอะไรอีก?’
“…” เพียงแค่คิดไปได้นิดหน่อย
ก่อนแววตาเจ้าตัวจะเบิกกว้างเนื่องจากเขาเห็นรับรู้และเข้าใจว่าหล่อนกำลังครุ่นคิดกระทำสิ่งใดต่อ
และด้วยเพราะรู้เขาจึงพยายามหยุดยั้งเต็มที่
…‘อย่าบอกนะว่า—’
“…”
“เดี๋ยวนั้นเธอจะทำอะไร?!” ทราเวียร์ร้องตื่นตระหนก
แน่นอนว่าต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ทราเวียร์ร้อนรนอยากให้หล่อนรีบรับสายโทรศัพท์นั้นมันมีที่มาที่ไป
ไม่สิต้องบอกว่ามันเป็นทางรอดเพียงหนึ่งเดียวของเขาต่างหากถึงจะถูกต้องครบถ้วนกระบวนความ
หากเขาสามารถถ่ายทอดเหตุการณ์พร้อมทั้งกล่าวขอความช่วยเหลือจากคาร่าได้นั้นก็รอดตัวไปแต่ถ้าไม่ได้
ถ้าหล่อนเลือกปิดโทรศัพท์เลือกเมินเฉยต่อสายและหันทิศทางไปมาหาเขาโดยเฉพาะก็เป็นอันจบเกม
โดนเล่นงานกลืนกินจนหมดเนื้อหมดตัว
ไม่หลงเหลือแม้แต่กระดูก
ไม่เหลือแม้แต่ซาก
“รีบรับสายเร็วเข้า!”
“เผื่อเป็นเรื่องสำคัญ—”
สายเกินไปสายเกินกว่าจะแก้ไข
“…” และแล้วสิ่งที่น่าหวาดหวั่นหวาดกลัวมากที่สุดสำหรับทราเวียร์ก็เกิดขึ้นทั้งยังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา
เนื่องจากหล่อนเลือกตัดสายทิ้งไม่คิดเปิดปากพูดคุย
“ตัดค่ะ” นิ้วมือเลื่อนตัดสายทิ้งทันที
ไม่เปิดโอกาสให้ปลายสายติดต่อสื่อสารไม่เปิดโอกาสให้เข้ามายุ่งวุ่นวายระหว่างหล่อนกับชายหนุ่มสวมแว่น
เรียกได้ว่าตัดขาดโอกาสสมบูรณ์แบบ
“ตัดให้หมด”
“ยัยบ้าเธอกล้าตัดสาย—”
“ไม่ใช่แค่ตัดสายฉันยังปิดเครื่องอีกด้วย” ไอรีนแค่นเสียง
หล่อนไม่ได้ว่ากล่าวไปตามอารมณ์ไม่ใช่เพียงแค่หยอกล้อพูดเล่นแต่ยังพูดจริงทำจริงอีกต่างหากเรียกได้ว่าชั่วโมงนี้
ไม่มีเกรงกลัวใครหน้าทั้งสิ้น
…‘คิดเหรอว่าจะหยุดฉันได้’
“…”
“ไม่มีทางหรอก”
“…” ทราเวียร์นิ่งแข็งค้าง
ก่อนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงขาดตอน
“ธะ เธอปิดเครื่อง”
“ใช่ฉันปิดเครื่อง” ไอรีนตอบกลับเสียงเรียบ
หลังจากปิดเครื่องเสร็จหล่อนก็ฉีกยิ้มหัวเราะเบาบางเพียงเท่านี้ตัวก่อกวนก็หายไปอีกหนึ่ง
เพื่อความสะดวกของตัวเธอเองเธอจับโทรศัพท์ยัดเข้าไปในกางเกงก่อนเตรียมเนื้อเตรียมตัวเข้าขั้นตอนต่อไป
ส่วนคาร่าน่ะเหรอปล่อยผ่านอย่างเดียวค่ะ
…‘บ้าไปแล้ว!’
“…”
“เธอไม่กลัวคาร่าโกรธเหรอ?!”
“ไม่กลัวไม่มีเหตุผลต้องกลัวด้วย”
“…” ไอรีนเริ่มขยับเข้าใกล้ตัวทราเวียร์
ขยับเข้ามาใกล้ทุกขณะและทุกครั้งที่หล่อนขยับตัวเข้าใกล้ชายหนุ่มสวมแว่นก็จะขยับเท้าก้าวเท้าถอยหลังเหมือนกัน
ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร
…‘นายหนีไปไหนไม่รอดหรอก~’
“…” รอยยิ้มพริ้มใจปรากฎขึ้นบนใบหน้า
ก่อนกล่าวต่อ
“เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน”
“…อีกเดี๋ยวเธอก็จะถึงบ้านแล้ว”
“มีอะไรเอาไว้คุยตอนนั้นก็ได้”
“…” ปลายนิ้วลูบปลายคางทราเวียร์
พร้อมเผยรอยยิ้มหอมหวานยิ่งกว่าตอนอยู่บนรถหลายต่อหลายเท่าตัวก่อนขยับตัวครั้งสุดท้ายปิดฉากทุกสิ่งอย่าง
ขยับเข้าไปใกล้ทราเวียร์ขั้นสุด
ตึง!
“…ตอนนี้ฉันอยากใช้เวลาร่วมกับนายมากกว่า”
ไอรีนดันตัวเองกดชายหนุ่มสวมแว่นเข้ากับกำแพงปิดกั้นทุกเส้นทางไม่ปล่อยให้หนีไปไหน
สัมผัสแนบแน่นแนบเนื้อระหว่างเสื้อผ้ากับเสื้อผ้าทั้งยังสัมผัสแทบทุกสัดส่วนบนร่างกาย
ทำเอาเขาร้อนวูบไปทั่วทั้งตัว
มันมากจนเขาต้องร้องตะโกนบอกกล่าวกลับไปร้องตะโกนบอกให้หล่อนหยุดนั่งครุ่นคิดสักหน่อย
น่าเสียดายที่มันเปล่าประโยชน์เหลือเกิน
…‘ไม่นะ!’
“…”
“คาร่าบอกเธออย่าลืม—”
“ฉันแค่ชิมนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
“ไม่คิดเก็บนายเอาไว้คนเดียวหรอก”
“…เพราะฉะนั้นถือว่าไม่ผิดคำพูด”
“…” สิ้นเสียงหอมหวานกล่าวจบลง
ริมฝีปากก็แนบสนิทสอดผสานอีกทั้งครั้งนีันับว่าดุเดือดมากกว่าครัังก่อนหลายเท่าตัวทั้งเร่าร้อนและรุนแรงหอบกระหายไปดัวยอารมณ์ห้วงตัณหา
แม้ตอนแรกชายหนุ่มสวมแว่นจะตอบสนองตอบโต้ด้วยท่วงท่าแข็งขืนแต่สุดท้ายปลายทางก็ต้องโอนอ่อนไปตามระเบียบโอนอ่อนด้วยรสรักของหญิงสาว
ไอรีนหรี่ตามองด้วยแววตาหวานช่ำ
…‘รักนะ’
“…”