ตอนที่ 34 คาร่า
“อื้ออออออ~”
“…” หลังจากจูบกันร่วม 10 วินาที
หล่อนก็ถอนใบหน้าออกมาพร้อมกล่าวถามชายหนุ่มสวมแว่นด้วยรอยยิ้มพริ้มใจหอมหวาน
ทั้งแววตายังเปี่ยมไปด้วยความรักขั้นสุด
“เป็นไง?”
“ใจอ่อนบ้างรึยัง?”
“…” ทราเวียร์ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
เพียงเพื่อช่วงเวลาไม่กี่วินาทีจำต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอตัวเขาในตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเอ่ยสิ่งใดออกไปดี
สุดท้ายปลายทางก็ได้แค่บ่นไปตามอารมณ์เท่านั้น
“ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง…”
“เหมือนจะยังแข็งขืนอยู่นิดหน่อยนะ”
“…” ไอรีนยิ้มหัวเราะเริ่มขยับหน้าเข้ามาใกล้
เตรียมมอบจูบของตนให้ชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้งขณะร่นระยะจนเกือบแนบชิดติดกัน
เสียงบ่นแง่งอนของทราเวียร์ก็ดังขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นมาอย่ามาโทษฉันละกัน”
“…ไม่โทษแน่นอน”
ขณะริมฝีปากบางทั้งสองกำลังสอดผสานอีกครั้ง
หนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝันก็บังเกิดขึ้นทั้งยังเกิดขึ้นรวดเร็วเกินกว่าจะตอบสนองได้ทันท่วงที
เป็นหนึ่งเสียงกระทบกระแทกบางสิ่งอย่าง
ตุบ!
“…” ทั้งยังรุนแรงจนได้ยินไปทั่วบริเวณ
แน่นอนว่าหากเป็นเสียงปรกติธรรมดาพวกหล่อนคงหาได้สนใจปล่อยผ่านเมินเฉยไปตามอารมณ์
แต่ไม่ใช่สำหรับครั้งนี้นอกจากเสียงกระทบกระแทกยังมีเสียงอื่นตามมาอีกด้วย
ไม่ใช่เสียงของตกไม่ใช่เสียงรถยนต์ไม่ใช่เสียงเพื่อนบ้านน่ารำคาญแต่เป็นเสียงของหญิงสาวเย็นชาจับจิต
เสียงที่พวกเขาจะไม่มีวันลืมเลือน
โดยเฉพาะกับไอรีน
“…สวัสดียามเช้าค่ะ”
พฤติกรรมการกระทำทั้งหมดหยุดชะงักหัวสมองคล้ายถูกหวดกระแทกเต็มเรี่ยวแรงไม่มีกักเก็บ
“…” และเมื่อหันหน้าไปมองก็พบเจอเข้า
พบเจอเข้ากับใบหน้าหญิงสาวงดงามใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความงามสูงศักดิ์ยากจะต่อต้านขัดขืน
เรือนร่างทรงเสน่ห์ของหล่อนสามารถเทียบเคียงไอรีนได้อย่างง่ายดายหากจะบอกหญิงสาวข้างกายเขาคือฤดูใบไม้ผลิชวนอบอุ่นหัวจิตหัวใจ
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นขั้วตรงข้ามทิศทางตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงเป็นขั้วตรงข้ามที่ยากจะคล้ายเหมือน
ทันทีที่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครสองหนุ่มสาวต่างสะดุ้งกันสุดตัว
…‘บรรลัยละ!’
“…” ต่างฝ่ายต่างทำอะไรไม่ถูก
ยิ่งพบเห็นใบหน้าราบเรียบไม่บ่งบอกอารณ์แววตาคมกร้าวเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกดดัน
ยิ่งทำให้ทุกสิ่งอย่างมันย่ำแย่เป็นเท่าทวีคูณ
ทราเวียร์กล่าวถามอย่างตะกุกตะกัก
“คะ คาร่า”
“…อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ตั้งแต่แรกค่ะ”
“ตั้งแต่ที่พวกคุณสองคนก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน”
“อยู่มันตัังแต่แรกเริ่มต้นเลย” คาร่ายกแก้วขึ้นมาดื่มน้ำ
ถ้าเป็นไปตามที่บอกกล่าวนั้นเท่ากับว่าหล่อนพบเห็นทุกสิ่งอย่างได้ยินทุกถ้อยคำพูดเห็นทุกการกระทำของพวกเขา
เพียงแค่คิดแค่จินตนาการถึงสิ่งที่ตามมาหลังจากนีัก็หนาวเหน็บไปทั่วทั้งร่างกายหนาวเหน็บไปถึงขั้นวิญญาณ
ไอรีนยิ้มแห้งเบี่ยงสายตาหลบออก
“…” ไม่อยากจ้องมองสบสายตาอีกฝ่าย
แต่เรื่องราวบางสิ่งอย่างมันก็ยากจะหลีกเลี่ยงหล่อนเตรียมเนื้อเตรียมตัวหยิบยกประเด็นอื่นขึ้นมาพูดคุย
หวังบ่ายเบี่ยงไม่ให้โดนเล่นงานแต่ความจริงที่ประสบพบเจอมันช่างโหดเหี้ยมโหดร้ายเหลือเกิน
…‘ต้องได้ผลสิ’
“…”
“…เธอ—”
“อีกประมาณ 60 นาที”
ยังไม่ทันกล่าวจบประโยค
หญิงสาวติดเย็นชาก็กล่าวแทรกขึ้นมากะทันหันทั้งยังไม่เปิดโอกาสให้โต้เถียงทำเอาไอรีนนิ่งแข็งค้างไปในทันที
ยังไม่รวมออกคำสั่งเด็ดขาดต่อเนื่องอีก
“เรามีนัดเข้าทดสอบริเบเลีย”
“ถ้ามีเวลามาเสวนากับฉันมากนัก”
“เอาเวลาไปเตรียมตัวดีกว่าค่ะ”
“…” ไอรีนยังพยายามแก้ตัวต่อ
“คือมันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ—”
“…ไปอาบน้ำ” คาร่าหรี่ตามอง
แต่ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดพร้อมทั้งสีหน้าเย็นชายิ่งกว่าก้อนน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือทำให้หล่อนต้องยินยอมโอนอ่อน
ยินยอมโอนอ่อนไปตามระเบียบ
“ดะ ได้ค่ะ”
แน่นอนว่าทุกสถานการณ์ล้วนอยู่ในสายตาชายหนุ่มสวมแว่นตลอดเห็นตั้งแต่แรกเริ่มต้นจวบจนสุดท้ายปลายทาง
สายตาเขายังคงจดจ้องมองไอรีนมองหล่อนเดินก้มหน้าเข้าห้องน้ำอย่างเศร้าสร้อยเหงาหงอย
…‘ไหนตอนแรกบอกว่าไม่กลัว’
“…” ทราเวียร์เผยยิ้มเย้ยหยันออกมา
นึกถึงช่วงเวลาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนช่วงเวลาที่หล่อนเปิดปากจองหองขั้นสุดบอกไม่มีเกรงกลัวคาร่า
ทั้งที่บอกอย่างดิบดีแสดงความมั่นใจเต็มสิบส่วนแต่พอมาเจอของจริงเข้ากับเหลวแหลกไม่เป็นท่า
ยินยอมโอนอ่อนตามอีกฝ่ายง่ายดาย
…‘ต่อไปตาฉัน’
“…” ไอรีนโดนเล่นงานไปแล้วหลงเหลือแต่เขาสินะ
ทราเวียร์สูดลมหายใจเข้าลึกเตรียมพร้อมรับสถานการณ์แต่ก่อนจะได้ออกปากพูดคุยชักนำประเด็น
เขาก็โดนสกัดดาวรุ่งเอาไว้เสียก่อน
โดนเหมือนกับไอรีนไม่มีผิด
“คือฉัน—”
“เชิญนั่งค่ะ”
“…” รอยยิ้มแห้งปรากฎบนใบหน้า
ก่อนพยายามร้องต่อปากต่อคำ
“ไม่นั่งได้ไหม?”
“…” น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผล
ไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อยนอกจากใช้งานใช้การไม่ได้ผลยังโดนจดจ้องมองด้วยแววตาแหลมคมเป็นของแถม
สุดท้ายปลายทางเขาจำต้องนั่งไปตามระเบียบ
พร้อมกล่าวถามกลับไป
“แล้วมีเรื่องอะไรอยากจะคุยกับฉันละ?”
“…”
“ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่อยู่พอสมควร”
“แต่สำหรับคุณมันอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ได้”
มาจนถึงตอนนี้เขาพอคาดเดาได้บางส่วนแม้จะยังไม่ได้ยินยังไม่ได้รับรู้
เอาเข้าจริงมันมีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละในตอนนี้
เพื่อยืนยันข้อสันนิษฐานเขาจำต้องกล่าวถามกลับไป
“…เธออยากรู้เรื่องอะไร?”
“…” คาร่ามองนิ่งคล้ายกำลังครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง
ก่อนเปิดปากบอกกล่าวให้รับรู้
“ถึงแม้คุณจะอธิบายกับไอรีนไปแล้วก็ตาม”
“แต่ช่วยอธิบายใหม่ให้ฉันฟังด้วยค่ะ”
“…” ทราเวียร์เลิกคิ้วขึ้น
“อธิบายเรื่อง?”
“เรื่องเมื่อวาน”
“…เมื่อวานทำไมคุณถึงไม่ยอมกลับบ้านค่ะ”
หลังจากกล่าวเสร็จสิ้นแววตาของหล่อนก็หรี่มอง
ภายในดวงตาคู่งามอัดแน่นไปด้วยแรงกดดันมากมายมหาศาลมากมายพอทำให้คนผู้หนึ่งเป็นบ้าได้เลย
เหงื่อใสไหลอาบตามโครงหน้า
…‘ฉันจะโดนกระทืบเหมือนตอนไอรีนรึเปล่า?’
“…” ทราเวียร์ยิ้มแห้งเริ่มกล่าวถาม
“เอาตั้งแต่แรกเลยเหรอ?”
“ต้องให้ฉันตอบจริง ๆ เหรอคะ?”
“…” เจ้าตัวรีบส่ายหน้าทันที
นี่ขนาดยังไม่ได้เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดเลยนะดวงตาเขากะพริบหลายต่อหลายรอบหวังเรียกสติ
ก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงแห้งจนเกล้า
“…ไม่ตัองก็ได้”
…‘น่ากลัวเป็นบ้าเลย’
“…”