ตอนที่ 8 โดนเล่นงานขณะหมดสติ
สายตาหล่อนเปิดเผยร่องรอยเย้ยหยันออกมาไม่ขาดสายคิดเอาแผนการคุณป้าคุณนายไร้ราคามาหยุดยั้ง
ช่างเป็นการกระทำที่หยาบกร้านเหลือเกิน
…‘แผนการกระจอก~’
“…” ไอรีนเพียงแค่นเสียงหัวเราะเบาบางก่อนก้มหน้าจดจ้องมองใบหน้าชายหนุ่มหมดสติ
พร้อมกล่าวตอกหน้ากลับไป
“เกือบไปแล้วค่ะ”
“เกือบไปแล้วถ้าฉันอยู่ต่ออีกหน่อยแผนการสกปรกของคุณอาจจะสำเร็จก็ได้”
“…ขาดอีกเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง”
“…” น่าเสียดายที่แผนการทั้งหมดต้องมาพังทลายด้วยน้ำมือของหล่อนอย่างว่าละนะ
ใครใช้ให้หล่อนฉลาดเกินไปละ
…‘คิดใช้แผนการกับฉันมันยังเร็วไปค่ะ’
“…” ไอรีนปิดปากหัวเราะอารมณ์ดีเป็นที่สุด
ืทั้งยังกล่าวถากถางเขาไม่เลิกรา
“แผนการดีนะเนี่ย~”
“…น่าเสียดายที่มันต้องมาล้มเหลวไม่เป็นท่า”
“น่าเสียดายมากค่ะ”
“มากถึงมากที่สุด”
หลังจากนั้นแทบจะจินตนาการได้เลยว่าอะไรเกิดขึ้นระหว่างทางไอรีนยังคงยกยอตัวเองไม่คิดพักริมฝีปาก
พูดยิ่งกว่าผีเจาะปากมาพูด
พูดจนใครบางคนเริ่มรู้สึกรำคาญ
“…อะ” ปลายสายตามองจดจ้องไปยังรถหรูที่จอดอยู่ข้างถนนซึ่งนั่นก็คือรถของหล่อนนั่นเอง
รถที่จะนำพาทราเวียร์กลับคืนสู่บ้านของตนกลับไปโดนเล่นงานเค้นเอาคำตอบทั้งหมดที่อยากรู้
…‘ขอแค่นิดเดียวเท่านั้น~’
“…”
“พูดคุยกันมาตั้งนานได้เวลากลับบ้านแล้วค่ะ~”
ฝ่ามือเรียวเปิดประตูข้างคนขับก่อนโยนร่างหมดสติขึ้นรถ
ไม่มีโอนอ่อนไม่มีอ่อนนุ่ม
กระทำหยาบกระด้างเหลือเกิน
ตุบ!
“…”
แน่นอนว่ายังไม่เพียงพอยังลงมือไม่ถึงที่สุดหล่อนยังต้องการอะไรที่มันมากมายกว่านี้
มือคว้าหยิบเอาของบางอย่างขึ้นมา
มันคือถุงดำสำหรับใส่ขยะโดยเฉพาะ
“…” สายตาหล่อนมองไปที่หัวของเขา
บ่งบอกให้รู้ว่าต้องการทำอะไรเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์หล่อนรีบลงมือทันที
ลงมือสวมถุงดำปิดบังสายตาอีกฝ่าย
“ขออนุญาต”
“อาจจะอึดอัดไปสักหน่อยนะคะ”
“…” หล่อนพยายามปรับให้ชายหนุ่มหายใจสะดวกมากเท่าที่จะทำได้ระหว่างกำลังขยับเคลื่อนไหว
ก็มีเปิดปากถามตลอดเวลา
“แน่นไปรึเปล่าคะ?”
“ถ้าแน่นไปหรือหายใจไม่ออกก็บอกได้นะคะ”
“ตรงนี้น่าจะอีกหน่อยนะ”
“…รู้สึกอึดอัดรึเปล่าคะ?”
นิ้วเรียวลูบแก้มผ่านถุงดำสัมผัสแปลกประหลาดทำเอาหล่อนอดยื้มไม่ได้ก่อนการกระทำทัังหมดจะหยุดนิ่ง
ใบหน้างดงามขยับยื่นเข้าไปใกล้กลิ่นหอมกระจัดการกระจายเริ่มแรงมากขึ้นทุกขณะตามอารมณ์ของหล่อน
ไอรีนกล่าวเสียงหวานจับใจ
“…” ผิดกับความหมายที่ต้องการสื่อความ
“แต่คุณคงบอกฉันไม่ได้หรอก…”
“ในเมื่อคุณยังหมดสติอยู่นี่น่า”
“จริงไหม?” รอยยิ้มแสยะมุมปากคิดหลอกล้อใครคนไหนแต่อย่าได้มาหลอกล้อหล่อนเป็นอันขาด
เพราะมันเป็นอะไรที่เปล่าประโยชน์สิ้นดี
…‘ชิบละไง’
“…”
ทราเวียร์ที่แกล้งหมดสติหนาวสั่นไปทั่วทั้งร่างกายแน่นอนว่าอาการดังกล่าวล้วนอยู่ในสายตาหญิงสาวทั้งหมด
มือที่ลูบแก้มตอนแรกเริ่มก่อกบฎซุกซนเข้าปาดตามสัดส่วนร่างกายไม่มีเกรงอกเกรงใจ
ตั้งแต่แก้มไปจนถึงช่วงหน้าอก
…‘พวกขี้แกล้งต้องเล่นงานให้หนัก~’
“…”
ระหว่างกำลังสนุกสนานไปกับเรือนร่างชายหนุ่ม
น้ำเสียงหงุดหงิดสายหนึ่งก็ดังขึ้นดังท่ามกลางบรรยากาศเงียบเหงาบนรถหรู
“เอามือออกไปเลย”
“…”
“นิ…บอกให้เอามือออกไป” มือเริ่มปัดป้องตัวเอง
ทราเวียร์ขมวดคิ้วแน่นแม้จะมองไม่เห็นเพราะถุงดำปกปิดหมดทุกสิ่งอย่างแต่หล่อนสัมผัสได้
ไอรีนก็ยังเดินหน้าต่อไม่คิดรับฟังคำพูดอีกฝ่าย
“…”
“ไอรีน?!”
“ไม่ใช่คุณกำลังหมดสติอยู่เหรอ?”
“ต่อให้ฉันหมดสติเธอก็ห้ามทำ”
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันก็เห็นอยู่ว่าเขาแกล้งหมดสติแทนที่จะปล่อยผ่านหรือละสายตาไปทำอย่างอื่น
กลับลวนลามเขาได้หน้าตาเฉย
“…” ไอรีนยิ้มหัวเราะไม่สะทกสะท้าน
ยังเดินหน้าลวนลามต่อมือที่เคยวางตรงหน้าอกเริ่มขยับเข้าไปยังหน้าท้องไปยังจุดอื่นทั่วร่างกาย
เรียกได้ว่าไม่รู้จักยับยั้งช่างใจ
…‘ยัง ยังไม่หยุดอีก!’
“…”
“เป็นผู้หญิงประสาอะไรมาลวนลามผู้ชาย”
“เอามือออกไปเลย”
“ค่า~เป็นผู้หญิงนิสัยไม่ดีแล้วค่ะ”
“…” ไอรีนหยุดนิ่งแต่ไม่ดึงมือตัวเองออกคล้ายต้องการซึมซับบางสิ่งอย่างจากตัวชายหนุ่มสวมแว่น
ขณะริมฝีปากยังกล่าวถากถางต่อไม่ปล่อยผ่าน
“…ก็ยังดีกว่าผู้ชายบางคนที่แอบไปเล่นสนุกกับผู้หญิงอื่น”
“เห็นคนสวยเป็นไม่ได้”
“พูดอะไรฉันไม่ได้ยิน” เห็นอีกฝ่ายแกล้งเมินเฉยมันอดไม่ได้ที่จะหยิกจิกเอาเนื้อหนังออกมา
ทราเวียร์ร้องลั่นทันทีที่โดน
“เจ็บ!”
“อย่างที่คิดพวกเจ้าชู้สมควรโดนเล่นงานให้หนัก”
“หูตาบอดไปหมด”
“…ฉันไม่ได้ทำสักหน่อย”
“ทำหรือไม่ได้ทำฉันไม่อยากได้ยินจากปากคุณค่ะ”
“ฉันต้องการหลักฐาน”
“หลักฐานที่มันจับต้องได้ไม่ใช่คำพูดเลื่อนลอย”
คิดจะให้หล่อนหลงเชื่อคำพูดของผู้ชายที่พึ่งก้าวเท้าออกจากบ้านผู้หญิงคนอื่นเหรอ
หยาบกร้านเกินไปหยาบกร้านเหลือเกิน
“…ก็คำพูดของฉันไงที่เป็นหลักฐาน—”
“ตรงไหนละคะที่เป็นหลักฐาน?”
“…”
“อีกอย่างตามหลักการแล้วคำพูดจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงไม่ถือว่าเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ค่ะ”
“เว้นแต่ว่าคุณจะมีอะไรมาหักล้างหรือยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์ไม่ใช่หยิบโน้นนี่มาอ้างหลักลอย”
ถ้าหาหลักฐานมาหักล้างไม่ได้สุดท้ายปลายทางมันก็แค่คำแก้ตัวไร้น้ำหนัก
ไม่อาจเชื่อถือได้เลยแม้แต่น้อย
“…” ทราเวียร์นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
“คำพูดของฉันมันไม่น่าเชื่อถือเหรอ?”
“ถ้าเกิดคุณอยู่ในสถานการณ์เดียวกับฉันต้องมานั่งฟังคำพูดแก้ตัวของคนเจ้าชู้” ไอรีนยิ้มถามกลับ
“คุณเชื่อหรือไม่เชื่อคะ?”
“ฉันว่าฉันอาจให้โอกาส—” ยังไม่ทันกล่าวจบ
คำพูดเอาตัวรอดเป็นอันต้องตกหล่นเนื่องจากสายตาหล่อนมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน
ทราเวียร์ยิ้มแห้งยอมโอนอ่อนไปในที่สุด
“…”
“…ไม่เชื่อก็ได้”
“นั่นละคะคือคำตอบของฉัน”
…‘บีบบังคับกันเกิน’
“…”