ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 111 บทอันเป็นเอกลักษณ์

วันถัดมา…

เผยเชียนส่งเอกสารไปให้ลู่หมิงเหลียง

“ทำตามนี้”

เผยเชียนเชื่อมั่นในความสามารถของลู่หมิงเหลียงเรื่องการทำตามคำสั่ง

ตั้งแต่เริ่มวิเคราะห์และพัฒนาเกมนักออกแบบเกม ลู่หมิงเหลียงทำตามที่เผยเชียนบอกมาโดยตลอด ขนาดบอกให้พากย์เสียงยังทำตามเลย

เผยเชียนพอใจนิสัยนี้ของลู่หมิงเหลียงมาก

พนักงานที่ไม่สร้างปัญหาให้คือพนักงานที่ดี!

ลู่หมิงเหลียงเปิดเอกสารที่เผยเชียนส่งมาให้ เนื้อหาในเอกสารแบ่งออกเป็นสามส่วน

มีรายชื่อนักสร้างคอนเทนต์ที่ควรจ้างมาทำโฆษณา บทโฆษณา และอัตราค่าจ้าง

แต่ละส่วนอธิบายไว้ค่อนข้างละเอียด

ลู่หมิงเหลียงไล่ดูเอกสารทั้งหมด

“อ่านจบแล้วไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าบอสเผยตั้งใจจะทำอะไร!”

ลู่หมิงเหลียงเริ่มลนลาน ก่อนหน้านี้เขายังพอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าบอสเผยคิดจะทำอะไร แต่ตอนนี้กลับเดาอะไรไม่ออกเลยสักนิด!

แต่ละประโยคบนเอกสารเขียนไว้ชัดเจนมาก ทำไมพอเอามารวมๆ กันแล้วถึงได้เข้าใจยากขนาดนี้

เรื่องแรกคือนักสร้างคอนเทนต์ที่ควรจะจ้างมาทำโฆษณา

ลู่หมิงเหลียงอ่านรายละเอียดทั้งหมด มีรายชื่อนักสร้างคอนเทนต์จากหลายๆ วงการรวมอยู่ครบ มีกระทั่งนักสร้างคอนเทนต์วงการความสวยความงาม!

แต่ในรายชื่อก็มีแต่คนธรรมดาทั่วไป ไม่มีนักสร้างคอนเทนต์ชื่อดังสักคน!

คนที่ดังที่สุดและเกี่ยวข้องกับวงการเกมน่าจะเป็นอาจารย์เฉียว หรือเฉียวเหลียง นักสร้างคอนเทนต์ที่เคยทำคลิปฉอดเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย

แต่บอสเผยก็เตือนลู่หมิงเหลียงไว้อย่างเจาะจงว่าห้ามโฆษณาเกมในคลิป ‘สับเละเกมขยะ’’ แต่ให้ไปโฆษณาในคลิป ‘แนะนำเกมใหม่ประจำเดือน’ แทน

ดูเผินๆ ก็ดูจะเป็นคำเตือนที่สมเหตุสมผล

เพราะคลิปซีรีส์ ‘สับเละเกมขยะ’ พูดถึงแต่เกมกากๆ ถ้าส่งเกมไปโฆษณาในคลิปที่ว่ามีหวังได้กระแสตีกลับจากการโฆษณาแน่

เฉียวเหลียงตั้งใจสร้างคลิปซีรีส์แนะนำเกมใหม่ประจำเดือนเพื่อเอาไว้เปิดรับสปอนเซอร์

แต่ถ้ามานั่งดูกันว่าคลิปซีรีส์ไหนเป็นที่นิยมกว่ากันก็จะพบปัญหา

คลิปซีรีส์แนะนำเกมใหม่ประจำเดือนสร้างมาเพื่อเปิดรับสปอนเซอร์โดยเฉพาะ ยอดวิวของคลิปซีรีส์นี้มีไม่ถึงหนึ่งส่วนสิบของคลิปซีรีส์ ‘สับเละเกมขยะ’ ด้วยซ้ำ!

ในเมื่อคลิปซีรีส์ที่ว่าเป็นที่นิยมน้อยกว่า การส่งเกมไปโฆษณาในคลิปนี้จะได้กระแสอะไร

นักสร้างคอนเทนต์คนอื่นๆ ในรายชื่อยิ่งดูไปกันใหญ่ มีทั้งจากวงการไลฟ์สไตล์ วงการความสวยความงาม และวงการวิทยาศาสตร์ ถึงนักสร้างคอนเทนต์ที่มาจากหลากหลายวงการกลุ่มนี้จะช่วยกันโฆษณาเกมอย่างเต็มที่ จะดึงดูดผู้เล่นให้มาเล่นเกมนักออกแบบเกมได้จริงๆ กี่คนกันเชียว

เวลาทำโฆษณาต้องคำนึงถึงสัดส่วนของผู้ที่ตอบสนองต่อโฆษณาด้วย

คนที่ดูคลิปในหมวดเกมส่วนใหญ่เป็นพวกเกมเมอร์ พอเห็นมีแนะนำเกมอะไรดีๆ พวกเขาก็น่าจะไปลองดาวน์โหลดเกมมาเล่นดู ทุกๆ ยอดคนดูหนึ่งร้อยวิว ถ้ามีคนลองเล่นเกมดูสักคนก็ถือเป็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแล้ว

แต่ในวงการอื่นๆ อย่างวงการความสวยความงาม คนดูส่วนมากเป็นผู้หญิงที่ชอบแต่งตัว ถึงพวกเธอจะรู้สึกว่าเกมดูสนุกดีก็คงไม่คิดดาวน์โหลดมาลองเล่นหรอก ต่อให้ได้ยอดคนดูหนึ่งล้านวิวแล้วยังไงต่อ ถ้ามีแค่หนึ่งคนจากทุกๆ หนึ่งหมื่นคนลองเล่นเกมดูก็ไม่ต่างอะไรจากหายนะ!

ดังนั้นลู่หมิงเหลียงจึงรู้สึกสับสนและเหนื่อยอ่อนระหว่างไล่ดูรายชื่อนักสร้างคอนเทนต์

แต่เรื่องน่าสับสนและเหนื่อยใจยังมีอีก!

เรื่องที่สองคือวิธีการโฆษณา…

ปกติแล้วนักสร้างคอนเทนต์ที่ทำคลิปลงเว็บไซต์มักจะเป็นคนบุคลิกโดดเด่น เช่น อาจจะชอบพ่นคำหยาบ หรืออาจชอบใช้สุภาษิต ไม่ก็เก่งเรื่องการคิดโครงเรื่องหรือการใช้เอฟเฟ็กต์พิเศษ

ดังนั้นเวลาสปอนเซอร์ติดต่อให้ทำคลิปอะไร  ส่วนใหญ่ก็จะเคารพวิถีการทำงานของนักสร้างคอนเทนต์แต่ละคน โดยจะเตรียมให้แค่อุปกรณ์ประกอบฉากที่จำเป็น แล้วปล่อยให้นักสร้างคอนเทนต์จัดการเนื้อหาคลิปกันเอง

แน่นอนว่าในฐานะที่เป็นฝ่ายรับผลประโยชน์ ถ้าอยากจะสร้างชื่อให้ตัวเอง นักสร้างคอนเทนต์ก็ต้องทำให้สปอนเซอร์ทุกรายพึงพอใจ

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทางสปอนเซอร์ก็ควรให้นักสร้างคอนเทนต์มีอิสระในการทำคลิปของตัวเอง ถ้าทำแบบนี้ก็จะได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

เอกสารที่บอสเผยส่งให้มีบทพูดที่จะต้องเอาไปใส่ในคลิปด้วย

ไม่ว่าจะเป็นนักสร้างคอนเทนต์ในวงการเกม วงการความสวยความงาม วงการวิทยาศาสตร์ หรือวงการอิเล็กทรอนิกส์… ทุกคนจะต้องอัดคลิปตามบทนี้!

ถ้าแค่นี้ก็คงจะไม่มีอะไรมาก

แต่พอได้อ่านบท ลู่หมิงเหลียงก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา เขาไม่เคยเห็นบทพูดที่มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนปนกันไปมาแบบนี้มาก่อน แถมยังไร้รสนิยมสิ้นดี

ตัวอย่างเช่น

“โอ้ นี่คือ moment ของฉัน right?”

“เจ๋งเป้งสุดๆ ไปเลย!”

“แผลบ อึก แผลบ อึก แผลบ อึก… (เสียงสูดปากและกลืนน้ำลาย)”

“Awesome!”

“เปิดเกมมาภาพก็สวยสุดๆ! แค่งานภาพอย่างเดียว เกมก็น่าจะขายได้…สามพันหยวนเลยมั้ง”

“OK ฉันจะรีวิวในฐานะผู้เล่นธรรมดานะ จะไม่ glorify… จะไม่รีวิวเกินจริง”

“โอ้โห x14 (รัวๆ)”

ที่เหลือก็ไปในทางเดียวกันหมด

พออ่านบทจนจบทั้งหมด ลู่หมิงเหลียงยิ่งงงหนัก เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง

นี่ไอคิวของฉัน…ลดลงไปขนาดนี้เลยเหรอ

ทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าบทนี่ดูถูกนักสร้างคอนเทนต์สุดๆ

พูดภาษาอังกฤษปนภาษาจีนก็ว่าน่าหงุดหงิดแล้ว นี่ระบุขนาดว่าให้ทำเสียงประกอบแบบไหนด้วย ต้องพูดว่าโอ้โหสิบสี่ครั้ง ห้ามขาดห้ามเกินอีก

คิดว่านักสร้างคอนเทนต์ยังเสียยอดผู้ติดตามไปไม่เร็วพออย่างนั้นเหรอ

เรื่องสุดท้ายคือเรื่องอัตราค่าจ้าง

นักสร้างคอนเทนต์จะได้รับเงินค่าจ้างตามยอดผู้ติดตามที่มี แต่ในภาพรวม ค่าจ้างที่บอสเผยเสนอให้ถือว่าเป็นราคาที่ดีมากๆ!

มีงบเพิ่มเติมไว้สำหรับเพิ่มราคาเสนออีก!

เห็นได้ชัดว่าเผยเชียนคิดไว้แล้วว่านักสร้างคอนเทนต์จะปฏิเสธสปอนเซอร์ที่เรียกร้องเยอะ (หลักๆ มาจากเรื่องศักดิ์ศรี)

ตอนแรกจะปฏิเสธก็ไม่เป็นไร เพราะมีเงินให้เพิ่ม!

แน่นอนว่าไม่ได้ตั้งงบตรงนี้ไว้อย่างไม่จำกัด เรตสูงสุดที่เพิ่มได้คือสองเท่าจากข้อเสนอแรกที่ยื่นไป

คงเป็นเรื่องยากที่นักสร้างคอนเทนต์เหล่านี้จะปฏิเสธเงินจำนวนนี้ เพราะเผยเชียนเลือกมาแต่คนที่ไม่ได้ดังมาก แค่หาเงินให้พอยาไส้ก็ยากแล้ว คงไม่มีเหตุผลอะไรให้ยังยึดมั่นในศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่อีก

แต่สำหรับบริษัทเถิงต๋าแล้ว ดูเหมือนเรื่องนี้จะเสียประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

นักสร้างคอนเทนต์ที่รับงานนี้คงจะโดนผู้ติดตามรุมด่า จากนั้นก็เลิกติดตามและเลิกแนะนำช่องให้คนอื่น ส่วนบริษัทเถิงต๋าเสียเงินก้อนโตไปแต่ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ควรจะเป็น เท่ากับว่าทางบริษัทขาดทุน…

แค่คิดดู ผลลัพธ์ก็ช่างน่าหดหู่เหลือเกิน

“ใจเย็นๆ

“บอสเผยน่าจะมีเหตุผลอะไรสักอย่าง

“ถ้าไม่เข้าใจก็อย่าทำอะไรเอง ทำตามที่บอกไว้ในเอกสารก็พอ”

ลู่หมิงเหลียงทำได้แค่เข้าเว็บไซต์ลงคลิปเพื่อติดต่อนักสร้างคอนเทนต์ตามรายชื่อของเผยเชียน

บ้านเช่าหลังหนึ่งในปักกิ่ง…

เฉียวเหลียงดูห่อเหี่ยวใจ เขากำลังสวาปามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากถ้วยในมือ

จากถ้วย ไม่ใช่กระป๋อง

เพราะเขาไม่มีปัญญาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบกระป๋องแล้ว ซื้อได้แค่แบบซอง

ช่วงนี้ธุรกิจแย่มาก!

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากทำงาน แต่ประเด็นคือไม่มีเกมดีๆ ให้พูดถึง ไม่มีทั้งเกมที่สนุกๆ หรือเกมที่กากเป็นพิเศษเลย!

พูดง่ายๆ ก็คือ เขาไม่มีเกมดังๆ ให้เกาะกระแสและไม่สามารถปั่นกระแสขึ้นเองได้

อีกทั้งช่วงนี้ยังไม่มีสปอนเซอร์เข้าเลย ทุกอย่างทำให้เฉียวเหลียงรู้สึกเหมือนติดอยู่ในหุบเหวลึก

เขาถึงกับคิดว่าจะหางานอื่นทำ

ดูอย่างซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยสิ!

เฉียวเหลียงทำหน้าบูดเบี้ยวด้วยความอิจฉา คลิปของซีรีส์นี้มียอดวิวสูง คนสร้างน่าจะตอบรับสปอนเซอร์ไม่หยุดมือแน่

เขาเล่นอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยระหว่างที่กำลังกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ตอนนั้นเองก็มีคนส่งข้อความส่วนตัวมาหาในเว็บฟานฉู

“สวัสดีครับ อาจารย์เฉียว ผมลู่หมิงเหลียง เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนของบริษัทเถิงต๋า อยากจะติดต่อมาคุยเรื่องร่วมงานกัน ตอนนี้สะดวกคุยไหมครับ”

เฉียวเหลียงไม่ได้อ่านข้อความอย่างละเอียด ตาของเขาจับจ้องอยู่ที่คำว่า ‘ร่วมงานกัน’

สะดวกไหมเหรอ

แน่นอนสิ! โคตรจะสะดวกเลย!

เขากำลังจะอดตายแล้ว ตอนนี้หวังพึ่งเงินจากลู่หมิงเหลียงเพื่อต่อชีวิต!

ตอนนี้ในหัวเฉียวเหลียงคิดแค่ว่า ‘ขอทานไม่มีสิทธิ์เลือก’ คิดถึงแค่ว่าจะหาเงินต่อชีวิตให้ตัวเอง

ทั้งสองคนคุยกันบนเว็บอยู่พักหนึ่งก็สนิทกันอย่างรวดเร็ว

“เขาจะเสนอให้เท่าไหร่นะ ฉันควรขอไปเท่าไหร่ดี พันห้าร้อยหยวนจะเยอะไปไหม”

เฉียวเหลียงลังเลใจ

แต่ชายที่ชื่อลู่หมิงเหลียงก็พิมพ์มาก่อน

“อาจารย์เฉียวครับ เป็นคลิปละสามพันหยวนจะโอเคไหมครับ”

 …………………..

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี
Status: Ongoing
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset