ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 139 ทำเลสาขาใหม่!

เผยเชียนค่อนข้างพอใจกับแผนอัปเดต

ลู่หมิงเหลียงมีคุณสมบัติสำคัญที่หวงซื่อปั๋วไม่มี นั่นคือเขาทำตามที่สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเอง

เผยเชียนบอกอะไรไป เขาก็ทำตามนั้นทุกอย่าง ไม่ได้พยายามสร้างความดีความชอบ แค่พยายามไม่ทำอะไรผิดพลาด

แต่ก็ถือเป็นปัญหาเหมือนกัน เพราะเขาไม่ค่อยทำอะไรเกินตัว

อย่างแผนนี้ก็ใช้เงินน้อยไป

ในเมื่อตอนนี้กำหนดราคาขายไปแล้ว เพราะงั้นยิ่งใช้เงินเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายเพิ่มแผนที่ใหม่แค่สามแบบเอง น้อยเกินไป ทำเพิ่มอีกสิบฉาก

“เกมแม่ทัพผีเพิ่มการ์ดแม่ทัพใหม่แค่สิบใบเองเหรอ ไม่พอ ใส่ไปเลยห้าสิบใบ

“เกมนักออกแบบเกมเพิ่มฉากใหม่หนึ่งแบบ จะทำให้คุณภาพเท่าของเดิมได้ยังไง

“ถ้าให้หร่วนกวางเจี่ยนทำภาพให้เกมแม่ทัพผีก็ไม่น่ามีเวลามาทำฉากเกมใหม่อีก ไปหานักวาดเรตราคาเท่าหร่วนกวางเจี่ยนมาแล้วให้ทำงานเพิ่มสองเท่า งานต้องออกมาสมบูรณ์แบบ ฉากแบบใหม่ต้องดีกว่าแบบเก่า!

“ส่วนเกมฐานทัพกลางทะเล… อืม…

“นอกจากอาวุธระดับตำนานแล้ว ใส่เนื้อเรื่องความยาวสองชั่วโมงเข้าไปเพิ่ม เพิ่มฉากใหม่ เพิ่มบทตัวละครใหม่ไปอีกสาม อาวุธใหม่อีกสิบ

“เอาตามนี้ รีบไปเริ่มงานกัน เราต้องอัปเดตทุกเกมให้เสร็จก่อนวันที่ 18 มิถุนา”

ลู่หมิงเหลียงอึ้งไป

เขาวางแผนใส่เนื้อหาไปไม่เยอะมากเพราะกลัวว่า DLC จะขายได้ไม่ค่อยดีและทำเงินคืนทุนไม่ได้!

ตามแผนของลู่หมิงเหลียง เขาวางขอบเขตไว้ว่าควรจะใส่ DLC เข้าไปเท่าไหร่

อย่างเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทราย ราคาเทมเพลตฉากอยู่ที่สองหมื่นหยวน ตอนแรกวางแผนไว้ว่าจะเพิ่มฉากใหม่แค่สามฉาก ถ้าตั้งราคาขาย DLC ที่หนึ่งหยวนก็ต้องขายให้ได้หนึ่งแสนสองหมื่นก๊อปปี้ถึงจะคืนทุน

สุดท้ายเผยเชียนสั่งให้เพิ่มเป็นสิบฉาก ก็ต้องขายให้ได้สี่แสนก๊อปปี้ถึงจะได้ทุนคืน…

จะบ้าเกินไปหรือเปล่า…

งานภาพเกมแม่ทัพผี หร่วนกวางเจี่ยนเป็นคนทำให้ ถึงหร่วนกวางเจี่ยนจะมีเพื่อนช่วยงานเยอะ แต่ราคาที่ต้องจ่ายก็ไม่ใช่ถูกๆ

รอบก่อนการ์ดแม่ทัพหนึ่งใบมีงานภาพสี่แบบ ราคาอยู่ที่สามพันหยวน ตอนนี้หร่วนกวางเจี่ยนดังแล้ว ราคาย่อมสูงขึ้นเป็นธรรมดา แถมบอสเผยยังยืนยันไม่รับส่วนลดจากหร่วนกวางเจี่ยน ให้จ่ายราคาตามจริง เท่ากับว่าต้องจ่ายห้าพันหยวนต่องานภาพหนึ่งชุด

มีการ์ดแม่ทัพใหม่ห้าสิบใบ ก็เป็นสองแสนห้าหมื่นหยวน

ราคาขายอยู่ที่ห้าหยวน ต้องขายให้ได้หนึ่งแสนก๊อปปี้ถึงจะคืนทุน

ส่วนเกมฐานทัพกลางทะเลทราย ต้องเพิ่มเนื้อเรื่องใหม่ ฉากใหม่ ตัวละครใหม่ อาวุธใหม่ ทั้งหมดนี้คือเพิ่มให้ผู้เล่นไปฟรีๆ อย่างเดียวที่เก็บเงินได้คืออาวุธระดับตำนาน แต่จำกัดจำนวนขายต่อเดือน!

“บอสเผยครับ คือ… เราอาจจะหาเงินคืนทุนไม่ได้…” ลู่หมิงเหลียงรีบคำนวณในสมุดจดแล้วรู้สึกกังวลขึ้นมา

เผยเชียนยิ้มอย่างใจเย็น “ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก

“อย่าลืมสิว่าเราต้องจริงใจกับผู้เล่น ถ้าเราจริงใจกับผู้เล่น ผู้เล่นจะตอบแทนความจริงใจของเราเอง

“อีกอย่างถ้าทำเงินคืนทุนไม่ได้จะเป็นไรไป ผู้เล่นให้เงินเรามาตั้งเยอะแล้ว เราควรตอบแทนให้สมน้ำสมเนื้อ”

ลู่หมิงเหลียงกะพริบตาด้วยความตะลึงงัน เขารู้สึกว่าคำพูดของบอสเผยนั้นถูกต้องและสร้างแรงบันดาลใจมากๆ

แต่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ชอบกล

“โอเค เวลาเป็นเรื่องสำคัญ รีบแจกจ่ายงาน เราต้องเสร็จงานทุกอย่างก่อนวันที่ 18 มิถุนา”

เผยเชียนวางเส้นตายไว้เป็นวันที่ 18 มิถุนายน เพราะเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนวันปิดบัญชี

วันที่ 19 และ 20 เป็นวันหยุด ส่วนวันที่ 21 ถึง 23 อยากเว้นไว้เผื่อมีอะไรผิดพลาด

งานทุกอย่างต้องเสร็จก่อนวันที่ 24 และต้องอัปเดต DLC ให้ครบ ไม่อย่างนั้นจะกระทบกับวันปิดบัญชี

เผยเชียนเดินออกจากห้องประชุมไปอย่างสบายใจหายห่วง ส่วนลู่หมิงเหลียงก็รีบกระจายงานให้ทุกคน

ถึงงานรอบนี้จะไม่ได้เยอะเท่ารอบก่อน เพราะงานส่วนใหญ่เป็นงานภาพ ขอแค่เร่งมือเพิ่มนิดหน่อยก็ทำทุกอย่างเสร็จตามกำหนดแน่นอน

ปัญหาอยู่ที่ต้องใช้เงินเยอะมาก

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม

หม่าหยางกับจางหยวนมาหาเผยเชียนที่ออฟฟิศเพื่อแนะนำทำเลที่ไปหามา

หม่าหยางต่อโน้ตบุ๊กเข้ากับโปรเจ็กเตอร์ของออฟฟิศก่อนจะเปิดภาพทำเลต่างๆ

ทำเลดีๆ ส่วนใหญ่จางหยวนเป็นคนหามา ส่วนหม่าหยางแค่หาเพิ่มให้ครบจำนวน

เผยเชียนบอกให้หาทำเลมาทั้งหมดสิบแห่งสำหรับเปิดสาขาใหม่สี่สาขา ซึ่งทั้งคู่ก็หามาได้ครบ

ครั้งนี้จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดมาก

ทำไมโปรเจ็กต์อื่นของบอสเผยถึงประสบความสำเร็จหมด มีแค่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่ขาดทุนไม่หยุด

น่าขายหน้าจริงๆ!

แถมบอสเผยยังตั้งความหวังกับพวกเราไว้มาก รอบนี้เราต้องทุ่มเทเต็มที่เพื่อเปลี่ยนจากที่ขาดทุนอยู่ให้ทำกำไรให้ได้!

การเปิดสาขาใหม่ถือเป็นโอกาสที่เหมาะเหม็งมากๆ

จางหยวนมองว่าที่ร้านขาดทุนอย่างต่อเนื่องมีเหตุผลหลักๆ มาจากทำเล

ไม่มีย่านการค้าขนาดใหญ่ใกล้เคียง ไม่มีตึกออฟฟิศสูงๆ ไม่ได้ใกล้ย่านที่พักอาศัยระดับสูง

ในเมื่อไม่มีลูกค้าระดับสูงในรัศมีห้ากิโลเมตร แล้วร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงจะไปอยู่รอดได้ยังไง

จะหวังให้พวกคนรวยขับรถมาถึงที่เพื่อหาเครื่องดื่มดื่มก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ

เอาเข้าจริงถ้าเป็นบาร์ดีๆ ก็คงทำได้ แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไม่ใช่บาร์ มันเป็นร้านอินเทอร์เน็ต คาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านหนังสือผสมรวมกัน

พอไม่มีจุดขายที่เด่นพอก็ไม่สามารถดึงดูดลูกค้านอกเขตพื้นที่ได้ ทำให้ทำเงินไม่ได้

หลังจากคิดอยู่นาน จางหยวนก็ตัดสินใจว่าต้องตั้งใจหาทำเลเหมาะๆ โดยจะต้องเป็นทำเลแถวย่านการค้าที่พลุกพล่าน!

“บอสเผยครับ ผมแนะนำสามที่นี้เป็นพิเศษ

“ตรงนี้ใกล้ประตูทิศใต้ของมหาวิทยาลัยฮั่นตง แถมยังใกล้หอพักชายกับย่านพักอาศัยระดับสูงด้วย

“ถึงจะมีร้านอินเทอร์เน็ตอยู่แล้วหลายร้าน แต่แถวนี้คนพลุกพล่าน ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูบรรยากาศดี คอมพ์ก็สเป็กสูง ต้องเรียกพวกนักศึกษาบ้านรวยที่ชอบที่บรรยากาศดีๆ และมีกำลังจ่ายได้แน่นอนครับ

“ตรงนี้เป็นร้านกาแฟมาก่อน เหมาะเอามาปรับเป็นโซนคาเฟ่ของเราพอดี แถมพื้นที่ก็ไม่ได้คับแคบ ผมแนะนำที่ตรงนี้สุดๆ เลยครับ!”

เผยเชียนไม่ได้พูดอะไร เขารู้จักทำเลตรงนี้ดี เพราะเรียนที่มหาวิทยาลัยฮั่นตง แถมอพาร์ตเมนต์ที่เลขาซินหาให้ก็อยู่ตรงข้าม

ร้านอินเทอร์เน็ตแถวนี้คนเต็มตลอดเหมือนที่จางหยวนบอก

แต่… เผยเชียนไม่เลือกที่ตรงนี้แน่นอน

ถ้าเลือกทำเลตรงนี้แล้วทำเงินได้จะไปโทษใครดี

พอเห็นเผยเชียนไม่ได้พูดอะไร จางหยวนก็แนะนำทำเลต่อไป

“ทำเลตรงนี้อยู่ชั้นล่างของห้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจิงโจว ข้อเสียคือค่าเช่าค่อนข้างแพง แต่ผมไปตรวจดูแล้ว ที่ห้างไม่ค่อยมีพื้นที่ให้พักผ่อนหย่อนใจ ลูกค้าผู้ชายที่พาภรรยาหรือแฟนมาช้อปปิ้งไม่มีที่ให้พักเวลาเหนื่อย น่าสงสารมากๆ ครับ

“ถ้าเปิดร้านอินเทอร์เน็ตตรงนี้ พวกลูกค้าผู้ชายที่พาภรรยามาช้อปปิ้งน่าจะเข้าร้านมาเล่นอินเทอร์เน็ตและจิบกาแฟตอนเหนื่อย ลูกค้ากลุ่มนี้กำลังซื้อน่าจะสูงพอตัวเลยครับ

“ดูจากจำนวนลูกค้าของห้างแล้ว ถึงค่าเช่าจะแพง แต่เราก็น่าจะทำเงินได้แน่นอน!”

เผยเชียนก็ยังไม่ตอบสนองอะไร

จางหยวนเริ่มท้อ แต่ก็ทำได้แค่แนะนำทำเลอื่นไปเรื่อยๆ

ทำเลหลังๆ เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ

เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะเผยเชียนกำหนดไว้ว่าต้องเปิดสาขาใหม่ในเมืองจิงโจวเท่านั้น แถมยังมีข้อจำกัดเยอะแยะอีก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จางหยวนจะหาร้านที่พร้อมให้เซ้งได้

หลังจากแนะนำทำเลครบทุกที่ จางหยวนก็หันมองเผยเชียนอย่างกังวลใจ

บอสเผยไม่ได้พูดอะไรเลย หมายความว่ายังไงกันนะ

บอสไม่พอใจเหรอ

เผยเชียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ทำได้ดี พวกคุณตั้งใจทำงานกันมาก”

จางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

บอสเผยไม่ได้ไม่ชอบ ค่อยโล่งอกหน่อย!

เผยเชียนมองหน้าจอก่อนจะเอ่ยชม “ผมว่าสี่ที่สุดท้ายที่คุณแนะนำมาไม่เลวเลย”

สี่ที่สุดท้ายเหรอ

จางหยวนหันมองจอ ก่อนจะหันกลับมามองเผยเชียนอีกครั้ง เขาอึ้งไปพักใหญ่

ที่พวกนี้… แค่ใส่มาให้ครบตามจำนวนที่บอกมาเฉยๆ เถอะ!

……………………..

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี
Status: Ongoing
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset