ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 144 วันหยุดของบอสเผย

เผยเชียนยุ่งมากช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

ตอนแรกเขาตั้งใจจะนอนให้เต็มอิ่มที่อพาร์ตเม้นต์แต่ก็นอนไม่หลับ พอหลับตาลงก็เห็นภาพร้านอินเทอร์เน็ตดังขึ้นมาและหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ทำเอาไม่ได้หลับไม่ได้นอน

เขาได้แต่โทรเรียกให้เลขาซินขับรถมารับ ต้องไปยืนยันให้เห็นด้วยตาของตัวเอง

แน่นอนว่าเขาก็ได้ข้ออ้างในการจ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้เลขาซิน

เขาไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักเป็นที่แรก หลังจากจิบกาแฟหนึ่งแก้วแล้วนั่งดูลาดเลาในร้านสักพัก เผยเชียนก็มั่นใจว่าที่นี่ไม่มีทางพลิกขึ้นมาทำกำไรได้ในเวลาสั้นๆ แน่

หลังจากนั้น เขาก็ไปเยี่ยมร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอีกสองสาขาเพื่อดูว่าการปรับปรุงร้านไปถึงไหนแล้ว

ทำเลของทั้งสองสาขาเลวร้ายกว่าสาขาหลัก มีข้อดีข้อเดียวคือพื้นที่อันกว้างขวาง การตกแต่งภายในร้านสาขาทั้งสองแห่งไม่เหมือนสาขาหลัก โดยจะอิงตามสไตล์ที่เผยเชียนวางเอาไว้เป็นหลัก

การตกแต่งในภาพรวมใช้สไตล์มินิมอลลิสต์ ไม่ได้หรูหราอะไรมากนัก แต่โต๊ะ เก้าอี้ เคาน์เตอร์บาร์ ชั้นหนังสือ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ดูดีมีระดับมาก

ไม่ใช่ว่าเผยเชียนชอบของดูดีมีระดับแบบนี้ ที่เลือกของพวกนี้ก็เพราะมีราคาแพง

ผู้จัดการทั้งสองคนของสองสาขาใหม่ดูขยันขันแข็งสุดๆ พวกเขากำลังยืนจ้องพนักงานปรับปรุงร้านกันอยู่ เผยเชียนเดินเข้าไปทักทายอย่างอบอุ่น เขาพูดกล่อมให้ผู้จัดการสาขาคนหนึ่งกลับบ้านไปก่อนได้ แต่อีกคนยืนกรานจะอยู่ต่อ เผยเชียนจึงทำได้แค่จ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้

พอได้เห็นการปรับปรุงร้าน เผยเชียนก็ยังไม่วางใจ เขาเดินดูรอบๆ ร้านอยู่สักพักก่อนจะสรุปได้ว่าทำเลตรงนี้เปล่าเปลี่ยวผู้คนยิ่งกว่าสาขาหลักอีก ไม่น่าจะมีลูกค้าเข้าร้านเยอะ

ระหว่างทางกลับบ้าน เผยเชียนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีจึงแวะไปที่บริษัท เขาเห็นลู่หมิงเหลียงและคนในทีมออกแบบบางส่วนกำลังทำงานล่วงเวลากันอยู่

บอสเผยโกรธจัด

ที่เขายอมให้หวงซื่อปั๋วและคนอื่นๆ ทำงานล่วงเวลาในตอนแรกก็เพราะคิดว่าหวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่จะเอาเวลานี้มาเล่นเกมกัน

แต่ก็มารู้ทีหลังว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ล่วงเวลาเพื่อเล่นเกม แต่กลับนั่งทำงานกันอย่างขะมักเขม้น!

ดังนั้นเผยเชียนจึงคิดว่าควรจะเข้มงวดเรื่องนี้ และสั่งห้ามไม่ให้ใครอยู่ในออฟฟิศต่อหลังเวลางาน

รอบนี้เผยเชียนให้ทุกคนรวมถึงเปาซวี่กลับบ้าน โดยบอกเหตุผลไปว่าให้กลับไปพักผ่อนเยอะๆ ห่วงเส้นผมบนหัวบ้าง

พอคิดถึงผลตรวจสุขภาพรอบก่อน เปาซวี่ก็ไม่มีข้ออ้างอะไรให้โต้แย้ง ได้แต่เก็บของกลับบ้านไป

ตอนนี้เปาซวี่มีเงินมากกว่าเดิม จึงไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตอีกต่อไป เขาเช่าอพาร์ตเม้นต์และซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ ตอนนี้สามารถเล่นเกมที่บ้านได้อย่างหนำใจ

พอเห็นเปาซวี่ยอมเก็บของกลับบ้านตามที่บอสเผยบอก คนอื่นๆ ก็ได้แต่เก็บของกลับไปเงียบๆ ด้วย

ภาพที่เห็นชวนหดหู่ใจมาก เหล่าพนักงานเดินกลับออกไปอย่างห่อเหี่ยวใจ ใครมาเห็นแล้วไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรคงคิดว่าคนพวกนี้เพิ่งโดนไล่ออกมา

หลังจากไล่คนอื่นกลับบ้านไปหมด เผยเชียนก็นั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ ตัวหนึ่ง เขารู้สึกเหนื่อยใจสุดๆ

พนักงานพวกนี้เอาแต่สร้างเรื่องให้ปวดหัวจริงๆ!

“หรือว่าต้องล็อกออฟฟิศให้ดี ไม่ก็ไปซื้อเครื่องล็อกดิจิทัลดีๆ ที่กำหนดเวลาเข้าออกช่วงวันหยุดได้”

เผยเชียนหันมองเลขาซิน

ซินไห่ลู่ลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “ทำแบบนี้จะเป็นการลดทอนกำลังใจในการทำงานของทุกคนหรือเปล่าคะ”

ลดทอนกำลังใจในการทำงานเหรอ

ถ้าเป็นแบบนี้ก็ดีเลยสิ

แค่ลดไม่พอ ถ้าทำลายให้มันย่อยยับไปได้ยิ่งดี

“เอาตามนี้ อย่าลืมไปดูที่ฝ่ายจัดการทั่วไปว่ามีเครื่องล็อกที่ว่ารึเปล่า ถ้าไม่มีก็ไปซื้อมาใหม่

“อนุญาตให้เข้าออฟฟิศช่วงวันหยุดได้แค่บางคน ตอนนี้เอาแค่… ผม คุณ แล้วก็สาวๆ บางคนจากฝ่ายจัดการทั่วไป”

งานฝ่ายจัดการทั่วไปไม่มีอะไรมาก เข้างานเก้าโมงเช้า เลิกงานห้าโมงเย็น อาจจะมีเข้างานสายบ้างไม่กี่นาที แต่ไม่มีใครยอมเลิกงานสายแม้แต่นาทีเดียว

แน่นอนว่าวันหยุดไม่เคยเห็นหน้าสักคน

เผยเชียนมั่นใจมากว่าให้สิทธิ์ไปก็ไม่น่าจะเป็นอะไร

เลขาซินจดบันทึกลงสมุด

พอจดเสร็จ เผยเชียนก็คิดปัญหาอีกข้อออก

ถ้าเป็นแบบนี้จะจ่ายเงินค่าล่วงเวลายังไงล่ะ

ล็อกประตูไปก็จะไม่มีใครมาทำงานล่วงเวลา ซึ่งก็หมายความว่าเขาจะจ่ายเงินค่าล่วงเวลาไม่ได้

ถึงค่าใช้จ่ายตรงนี้จะไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการเอาจำนวนเข้าสู้ ถือเป็นช่องทางสำคัญในการผลาญเงิน

ค่าล่วงเวลาต่อหัวไม่ได้มากอะไร แต่ถ้ามีพนักงานเยอะ ค่าใช้ตรงนี้ก็จะเยอะตามไปด้วย

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอาแบบนี้ไหมครับ ต่อไปให้ทุกคนแจ้งเวลาที่ทำงานล่วงเวลามา เราจะจ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้แม้จะทำงานที่บ้าน”

ซินไห่ลู่อึ้งไป “แล้วเราจะตรวจสอบยังไงล่ะคะว่าทุกคนทำงานจริงๆ”

ตรวจสอบเหรอ จะตรวจไปทำไม โกหกเวลาทำงานล่วงเวลากันมาฉันก็ไม่ได้สนใจ

แน่นอนว่าเผยเชียนพูดอย่างนั้นออกไปไม่ได้

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไป “ผมเชื่อว่าทุกคนมีวินัยกันหมด แต่ถ้าตรวจพบว่าใครโกหกเรื่องเวลาทำงานล่วงเวลาจะโดนหักเงินเดือน”

เขาตั้งบทลงโทษกันระบบเตือน

แต่เผยเชียนไม่มีทางไปตรวจดูว่าใครโกหกเรื่องเวลาทำงานงานล่วงเวลา

เห็นออฟฟิศปลอดคน เผยเชียนก็รู้สึกดีขึ้น เขาลุกยืน เตรียมกลับไปหลับให้สบายใจที่บ้าน

ตอนนั้นเองโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หวงซื่อปั๋วเป็นคนโทรมา

เผยเชียนระแวงขึ้นมาทันใด

หลังถ่ายทำซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยเสร็จ หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อก็หยุดงานไปครึ่งเดือน

คำนวณดูแล้วน่าจะกลับมาทำงานกันเร็วๆ นี้ ตอนนี้คงจะคิดโปรเจ็กต์ใหม่กันได้แล้วว่าจะถ่ายอะไร

ถึงเผยเชียนจะพูดปลุกใจหวงซื่อปั๋ว พร้อมกล่อมให้เขาเลิกทำซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยและเลิกตั้งความหวังกับความสำเร็จของผลงานนี้ได้ แต่เผยเชียนก็ยังไม่รู้ว่าหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อวางแผนจะถ่ายอะไร

ที่โทรมาก็น่าจะมาปรึกษาไม่ก็รายงานความคืบหน้า

เผยเชียนหวังว่าจะเป็นอย่างแรก

เขารับโทรศัพท์

“บอสเผยครับ ขอโทษนะครับที่โทรมารบกวนเวลานี้

“ผมอยากโทรมาแจ้งแผนงานของเฟยหวงสตูดิโอครับ

“คำพูดของบอสเผยตอนนั้นทำให้ผมตาสว่าง ตอนแรกผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อกับผมวางแผนไว้ว่าจะทำคลิปสั้นต่อ จะถ่ายซีรีส์เรื่องใหม่โดยใช้ซีรีส์ชีวิตประจำวันของบอสเผยเป็นแรงบันดาลใจ เราอยากนำเสนอเนื้อหาที่แปลกใหม่คล้ายๆ กัน เราค้นเรื่องฮิตติดกระแสในตอนนี้แล้วไปเจอคนดังหลายคนในชีวิตประจำวันของเรา”

ยิ่งฟังเผยเชียนก็ยิ่งเป็นกังวล

อย่าบอกนะว่าจะออกมาเป็น Unexpectedness ไม่ก็ ข่าวร้อนกับเป่าโจว

จะอย่างไหนก็ฟังดูแย่สุดๆ

หวงซื่อปั๋วพูดต่อ “แต่คำพูดของบอสเผยวันนั้นทำให้ผมตาสว่าง ผมคิดว่าเราควรจะออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเองแล้ววิ่งตามความฝัน!

“ถึงซีรีส์ตอนสั้นจะทำเงินได้ไวและทำให้คนดูยิ้มได้ แต่ผมคิดว่าแค่นั้นยังไม่พอ

“ผู้กำกับจูก็คิดเหมือนกัน หลังจากคุยกันเสร็จ พวกเราก็ตั้งใจจะทำสารคดี จะทำเป็นสารคดีที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน

“แน่นอนว่าจากงบที่จำกัดของเราทำให้ถ่ายเป็นสารคดีฟอร์มยักษ์ไม่ได้ เราจะพิจารณาเรื่องนี้กันอย่างละเอียด สิ่งเดียวที่เราต้องการคือถ่ายสิ่งที่มีความหมายด้วยกล้องของเรา…”

เผยเชียนถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ยังไม่ได้วางใจซะทีเดียว

ที่รู้สึกโล่งใจก็เพราะหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อตัดสินใจไม่ทำคลิปสั้นต่อ ถือว่าเป็นข่าวดี

ถ้าเป็นตามแผนเดิม พวกเขาน่าจะทำซีรีส์ตอนสั้นที่ฮิตไปทั่วอินเทอร์เน็ตขึ้นมาได้อีก เกิดดังเท่าเรื่อง Unexpectedness ไม่ก็ มารายงานครับบอส! ขึ้นมาคงซวยหนัก

ตอนนี้หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อเปลี่ยนมาอยากทำสารคดี ซึ่งเป็นแนวที่มีโอกาสทำกำไรได้น้อยมาก ถือเป็นข่าวดีสุดๆ

……………..

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี
Status: Ongoing
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset