ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 155 เซอร์ไพรส์พี่เชียน

ตอนเช้า

“ฮัดชิ้ว!”

เผยเชียนจามระหว่างกำลังนั่งตากแอร์อยู่ในห้องทำงาน

“แปลกจัง แอร์ตกใส่เยอะเกินไปเหรอ”

เผยเชียนห่อตัวด้วยผ้าห่มผืนเล็ก ชายหนุ่มกดปิดซีรีส์ที่กำลังดูอยู่ ตั้งใจว่าจะงีบบนเก้าอี้ทำงานสักหน่อย

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ลู่หมิงเหลียงยืนอยู่ด้านนอก

“บอสเผยครับ ผมมีเรื่องมารายงาน”

เผยเชียนพยักหน้า “ว่ามาครับ”

ลู่หมิงเหลียงเห็นเผยเชียนที่กำลังห่อตัวด้วยผ้าห่มดูง่วงเหงาหาวนอนก็รู้สึกตื่นตันใจ

บอสเผยดูจะไม่สบายแต่ก็ไม่ยอมกลับบ้านไปพักผ่อน บอสอยู่ทำงานต่อเคียงข้างพวกเรา!

ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหน ยังไงก็ต้องมีใจสู้อยู่เสมอ!

ลู่หมิงเหลียงกลัวว่าจะรบกวนการพักผ่อนของบอสเผยจึงรีบรายงาน

“อย่างแรกคือเรื่องอัปเดตใหม่ครับ

“ทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่ไม่รู้ทำไมพอออกประกาศเรื่องการขายอาวุธในตำนานชิ้นใหม่ ผู้เล่นก็ออกมาต่อต้านกันยกใหญ่เลยครับ

“บอสเผย เราควรเพิ่มจำนวนขายต่อเดือนอีกสักหน่อยไหมครับ สัก… ห้าพันชิ้น”

เผยเชียนส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ไม่”

ห้าพันชิ้นต่อเดือนเหรอ

ล้อกันเล่นหรือเปล่า!

ห้าพันคูณแปดร้อยแปดสิบแปดได้เท่าไหร่ คำนวณเป็นไหม

เผยเชียนพูดหน้านิ่ง “ที่กำหนดไว้แบบนี้ก็เพราะให้มันเป็นจำนวนจำกัดไง ถ้าให้เข้าถึงกันได้ทั่วถึงจะเรียกว่าขายจำนวนจำกัดได้ยังไง

“ไม่ต้องสนใจที่ผู้เล่นออกมาต่อต้าน ห้าร้อยก็คือห้าร้อย ไม่ขายเพิ่มอีก”

เมื่อเห็นสีหน้ามุ่งมั่นของบอสเผย ลู่หมิงเหลียงก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากพยักหน้า “โอเคครับบอสเผย

“เรื่องที่สองคือเรื่องขอบเขตงานของหม่าอี้ฉวิน

“เขาแจ้งผมมาหลายครั้งว่าอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาอัปเดตใหม่ในครั้งนี้

“ผมคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง เกมแม่ทัพผีกับเกมนักออกแบบเกมต้องใช้คนที่เก่งเรื่องการวางโครงเรื่องแบบหม่าอี้ฉวินมาช่วยพัฒนาตัวอัปเดต

“ให้เขาลองทำดูจะได้ฝึกฝีมือดีไหมครับ”

เผยเชียนไม่ได้ตอบออกไปทันที

เขาคิดหาเหตุผลดีๆ มาปฏิเสธไม่ได้

แต่ถ้าไม่ปฏิเสธ เผยเชียนก็ไม่ค่อยมั่นใจให้หม่าอี้ฉวินรับผิดชอบเรื่องโครงเรื่องเกมเท่าไหร่

หม่าอี้ฉวินเก่งเรื่องนี้มาก โครงเรื่องที่วางให้ฉางหยางเกมส์นั้นดีมากๆ ถ้าดันทำผลงานดีๆ ให้เกมแม่ทัพผีกับเกมนักออกแบบเกมขึ้นมา คงจะซวยแย่!

แต่เขาจะปฏิเสธยังไงดีล่ะ

หม่าอี้ฉวินเข้ามาทำงานตั้งแต่เดือนมีนาคม ผ่านมาสองเดือนแล้ว จะให้เรียนรู้งานต่ออีกก็คงยาก

ถ้าไม่อยากให้หม่าอี้ฉวินมาวุ่นวายกับเนื้อเรื่องเกมก็ต้องหางานอื่นให้ทำ

ส่งไปทำคลิปกับหวงซื่อปั๋วเหรอ ก็ไม่ค่อยเข้าท่า ทักษะการเขียนของเขาน่าจะเป็นประโยชน์กับการทำคลิปสั้นน่าดู

ส่งไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเหรอ ก็ไม่เลวเท่าไหร่ แต่เผยเชียนก็หาเหตุผลเหมาะๆ มาใช้ส่งตัวหม่าอี้ฉวินไปที่นั่นไม่ได้

คิดอยู่พักใหญ่เผยเชียนก็ยังหาเหตุผลดีๆ ไม่ได้ จึงได้แต่พยักหน้า “ได้ เขาเรียนรู้งานมานานพอแล้ว ลองให้ทำงานง่ายๆ ดู”

เผยเชียนตอบออกไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

ลู่หมิงเหลียงรีบพยักหน้า “โอเคครับบอสเผย บอสพักผ่อนต่อเถอะครับ เดี๋ยวผมไปจัดการงานต่อ”

เผยเชียนเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วห่อตัวด้วยผ้าห่มอีกรอบ แต่เขากลับรู้สึกกระสับกระส่าย นอนไม่ได้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“แปลกจัง ทำไมถึงรู้สึกว่าอันตรายกำลังรุมเร้าเข้ามาจากทั่วทุกทิศ

“คงไม่ใช่ฉางหยางเกมส์หรอกนะ”

เผยเชียนไล่ทบทวนโปรเจ็กต์ต่างๆ ในหัว

ฝั่งเถิงต๋า อัปเดตใหม่น่าจะทำเงินได้ แต่ก็ยังอยู่ในการควบคุม ไม่ได้ถือเป็นประเด็นใหญ่โตอะไร

ฝั่งเฟยหวงสตูดิโอบอกมาว่าอยากทำสารคดี แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรใหม่

 ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูยังเป็นโปรเจ็กต์ละลายเงินเหมือนเดิม ร้านสองสาขาเพิ่งจะปรับปรุงเสร็จ กำลังเตรียมเปิดให้บริการ ส่วนสาขาหลักเพิ่งแวะไปดูมาเมื่อสัปดาห์ก่อนก็ไม่เห็นมีอะไรสุ่มเสี่ยง

พอมาคิดดูดีๆ ก็เหมือนว่าฉางหยางเกมส์น่าจะมีความเสี่ยงสูงสุด!

เผยเชียนบอกให้พวกเขาตัดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นของทั้งสองเกมออกให้หมด เหลือไว้แค่อย่างเดียว ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยง

การถอดช่องทางการเก็บเงินออกจะเป็นผลดีกับชื่อเสียงของเกม

แต่ชื่อเสียงกับรายได้เป็นสองเรื่องที่แยกกัน

เกมเพลงรบโลหิตเป็นเกมภาพห่วยที่ระบบการเล่นพอถูไถ จุดขายอย่างเดียวคือพวกสายวาฬสามารถเปย์เงินมาไล่บ้าฆ่าคนได้ พูดอีกอย่าง จุดขายหลักของเกมคือ ‘การเปย์เพื่อแก้แค้น’

พอฆ่าคนได้ คนที่โดนฆ่าก็จะเปย์เงินเพื่อกลับไปฆ่าอีกฝ่าย ถือเป็นจุดขายหลักของเกมแนวนี้

เพราะเกมมี ‘การเปย์เพื่อแก้แค้น’ เป็นเครื่องมือจุดชนวนอารมณ์ด้านลบของผู้เล่น ต่อให้ภาพและระบบการเล่นจะกากแค่ไหน คนก็ยังเล่นอยู่ดี

ถ้าเผยเชียนไม่แก้ตรงนี้ เกมอาจจะฟื้นคืนชีพกลับมาได้ ถึงโอกาสจะน้อยก็เถอะ

แค่เยว่จือโจวทำการตลาดนิดหน่อยเพื่อเรียกผู้เล่นเก่ากลับมา เกมก็อาจจะกลับไปทำกำไรได้เหมือนเดิม ทีนี้เผยเชียนก็จะหาเรื่องขาดทุนกับตรงนี้ไม่ได้อีก

ดังนั้นเผยเชียนจึงตัดสินใจถอดช่องทางการเก็บเงินทุกอย่างออกจากเกม

เกมเพลงรบโลหิตไม่มีจุดขายอื่นอีก จะให้เอางานภาพกับระบบการเล่นเข้าสู้ก็ไม่น่าจะดึงดูดผู้เล่นใหม่ได้ถ้าเทียบกับเกมอื่น

ต่อให้ทำให้เกมยุติธรรมกับผู้เล่นแล้วเรียกชื่อเสียงกลับมาได้ก็ไม่เห็นเป็นไร ขอแค่ทำเงินไม่ได้ เผยเชียนก็พอใจแล้ว

แต่ถ้าเกมดึงดูดผู้เล่นใหม่ได้จากชื่อเสียงที่ดีขึ้น แล้วฐานผู้เล่นขยายจนสร้างกำไรได้เยอะขึ้นล่ะ

ก็เป็นไปได้ยาก มีโอกาสน้อยสุดๆ

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าฉางหยางเกมส์น่าจะเป็นโปรเจ็กต์ที่สุ่มเสี่ยงที่สุด เขาจึงตัดสินใจจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ

เขาเข้าไปดูเว็บไซต์หลักของเกมเพลงรบโลหิต

ดูเหมือนว่าความนิยมจะเพิ่มขึ้นมาหน่อยจริงๆ หลังจากชื่อเสียงดีขึ้น ผู้เล่นเก่าส่วนหนึ่งก็กลับมาเล่น

แต่เผยเชียนก็ไม่ได้ลนลานอะไร เขารีบส่งข้อความไปหาเยว่จือโจว “ช่วยส่งยอดเติมเงินจากหลังบ้านเกมเพลงรบโลหิตให้ผมด้วย”

ไม่กี่นาทีต่อมา เยว่จือโจวก็ส่งภาพถ่ายหน้าจอกลับไปให้ดู

เป็นภาพยอดเติมเงินของเกมเพลงรบโลหิต เผยเชียนดูคร่าวๆ แล้วพบว่าโดยเฉลี่ย ยอดเติมเงินรายคนเพิ่มขึ้นมาก แต่ยอดรวมตกลงไปเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์!

จากสถานการณ์ในตอนนี้ ยอดรายได้ต่อเดือนของเกมเพลงรบโลหิตน่าจะไม่ถึงหนึ่งแสนหยวน

อืม ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ!

เกมจะรอดไม่รอดขึ้นอยู่กับรายได้ ดังนั้นบริษัทเกมทุกบริษัทจึงผลักดันกิจกรรมเติมเงิน โดยไม่สนว่าจะโดนผู้เล่นด่าแค่ไหน ขอแค่ทำกำไรได้ก็พอ

เกมมีชื่อเสียงดีแล้วจะทำอะไรได้ถ้าขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

ถึงเกมเพลงรบโลหิตที่ปรับมาใหม่จะเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ผู้เล่น แต่ประเด็นอยู่ที่เอาเกมนี้ไปเทียบกับเกมไหนล่ะ!

เทียบกับเกมอื่นๆ ที่มีการวางเพดานค่าใช้จ่ายสูงๆ ตอนนี้ผู้เล่นสายวาฬก็หมดสนุกกับเกมไปแล้ว รายได้จากผู้เล่นสายวาฬหายไปก้อนโต

เทียบกับเกมที่เป็นมิตรกับผู้เล่นอย่างเกม Fantasy World งานภาพของเกมเพลงรบโลหิตนั้นห่วยกว่า ไม่น่าจะเทียบชั้นได้

หมายความว่าเกมเพลงรบโลหิตสู้เกมทั้งสองแบบไม่ได้เลย ไม่สามารถแย่งฐานผู้เล่นมาได้

“ไม่เลว รักษาสภาพนี้ต่อไปเรื่อยๆ”

หลังจากตอบข้อความของเยว่จือโจว เผยเชียนก็รู้สึกสบายใจขึ้นจึงห่อตัวด้วยผ้าห่มแล้วผล็อยหลับไปอย่างมีความสุข

อีกสองวัน ร้านใหม่ทั้งสองสาขาจะเปิดให้บริการ เขาต้องไปตรวจสอบดูอีกทีเพื่อความสบายใจ

ฉางหยางเกมส์

เยว่จือโจวเห็นข้อความของบอสเผยก็รู้สึกอุ่นใจ

ถึงบอสเผยจะมีเรื่องให้ต้องจัดการมากมาย แต่บอสก็ยังเป็นห่วงฉางหยางเกมส์!

แม้รายได้ของเกมจะตกฮวบฮาบ แต่ก็ชัดเจนว่านี่คือส่วนหนึ่งในแผนของบอสเผย ดังนั้นเขาต้องรักษาสภาพนี้ต่อไปเรื่อยๆ

หมายความว่าพวกเขาเดินมาถูกทาง!

เยว่จือโจวรู้สึกมีพลังขึ้นมา

นี่คือผลลัพธ์จากการมีบอสดีๆ เข้ามาคุมบริษัทใช่ไหมนะ

วันที่ 20 พฤษภาคม

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทั้งสองสาขาเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ!

เผยเชียน หม่าหยาง และจางหยวน บอร์ดบริหารของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเดินทางมาเปิดร้าน

แต่สถานการณ์ดูน่ากระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย

เพราะไม่มีลูกค้าเลย!

สถานการณ์แย่กว่าตอนเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักอีก

ทำเลของสองสาขานี้แย่กว่าสาขาหลัก เผยเชียนย้ำตลอดว่าห้ามจัดกิจกรรมอะไรตอนเปิดทำการ ห้ามจุดพลุ ห้ามแจกใบปลิว ทำตัวให้เงียบได้เท่าไหร่ยิ่งดี

การเปิดร้านในทำเลรกร้างโดยไม่มีโปรโมชันหรือการโฆษณาอะไรย่อมทำให้ไม่มีลูกค้าเป็นธรรมดา

เผยเชียนรู้สึกพอใจมาก เขานั่งอยู่ในโซนคาเฟ่อันเปล่าเปลี่ยว หันมองออกไปชมแสงพระอาทิตย์อันอบอุ่นด้านนอก

ผู้จัดการสาขาทั้งสองคนดูไม่ค่อยสบายใจ แต่พวกเขาทำงานที่สาขาหลักมาก่อน จึงชินกับบรรยากาศแบบนี้ ทั้งคู่รู้ว่าบอสเผยไม่มีทางตำหนิพวกเขา จึงไม่ได้เครียดอะไรขนาดนั้น

แต่เหล่าพนักงานใหม่ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน จึงไม่รู้ว่าจะต้องยืนตรงไหน วางมือยังไง พวกเขารู้สึกว่าบรรยากาศร้านน่าอึดอัดมากๆ

ตรงโซนอินเทอร์เน็ต หม่าหยางกับจางหยวนกำลังกระซิบกระซาบคุยกัน

“ห้ามผมทำไม” หม่าหยางถามด้วยความงุนงง

เมื่อกี้หม่าหยางเห็นว่าร้านเงียบเหงา ทุกคนดูหดหู่ เลยตั้งใจจะไปบอกข่าวดีเรื่องร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกับเผยเชียน

พอได้นักร้องดาวรุ่งอย่างเฉินเหล่ยมาร้องเพลงให้ที่ร้าน ยอดขายเครื่องดื่มโซนคาเฟ่ก็พุ่งขึ้นพรวดพราด แถมยังมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!

หม่าหยางคิดว่าควรจะนำวิธีการนี้มาใช้กับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทั้งสองสาขา

แต่ก่อนที่จะได้พูดออกไป จางหยวนก็เข้ามาห้ามเอาไว้ก่อน

จางหยวนรู้ว่าหม่าหยางอยากจะพูดอะไร จึงกระซิบบอก “น้องหม่า ไม่ใช่ว่าพี่ห้ามไม่ให้บอก แต่ตอนนี้ยังไม่เหมาะ อย่าเพิ่งรีบร้อน”

หม่าหยางงง “เอ๋ ทำไมล่ะ”

“น้องหม่า ยอดขายเครื่องดื่มเราเพิ่งจะเพิ่มขึ้นหมาดๆ ทำเงินได้แค่สองถึงสามหมื่นต่อเดือน เทียบกับยอดขาดทุนสามแสนต่อเดือนแล้วถือว่าน้อยมาก!

“ถ้าบอกไปตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

“สมมติน้องหม่าไปบอกบอสเผย แล้วบอสถามกลับว่า ‘ไม่เลวเลยนี่ ทำเงินได้เท่าไหร่ล่ะ’ แล้วน้องตอบกลับไปว่า ‘แฮ่ๆ ยังขาดทุนอยู่เลยพี่’ แบบนี้บอกบอสเผยไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา!

“ถ้าเราเก็บเงียบไว้ก็จะไม่มีใครรู้ ไปบอกตอนนี้แล้วบอสเผยตั้งความหวังกับเราขึ้นมา บอสจะไม่ผิดหวังเอาทีหลังเหรอ

“พี่ว่าเรารอให้ร้านพลิกจากขาดทุนมาทำกำไรได้ก่อนแล้วค่อยบอกบอสเผย อุบไว้เป็นเซอร์ไพรส์ไง ทำแบบนี้ ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูของเราก็จะไต่เต้าขึ้นไปอีกระดับ ตำแหน่งของเราในใจบอสก็จะเพิ่มสูงขึ้น สร้างความประทับใจได้ดีกว่ากันเยอะ!”

“ทำตามที่พี่บอกนะน้องหม่า”

หม่าหยางคิดอยู่หนึ่ง ที่ว่ามาก็ฟังดูมีเหตุผลดี

พวกเขายังห่างไกลจากการทำกำไรได้ ถ้าบอกข่าวดีเผยเชียนไปตอนนี้ก็ไม่ค่อยได้อะไร รังแต่จะทำให้เขาดูเป็นคนอวดอ้างความดีความชอบของตัวเอง กลายเป็นคนคุยโม้กับความสำเร็จขี้ปะติ๋ว

ให้เป็นแบบนั้นไม่ได้

หม่าหยางพยักหน้า “โอเค พี่พูดถูก ไว้ค่อยยกเรื่องนี้มาพูดที่หลัง เมื่อไหร่ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูพลิกกลับมาทำกำไรได้ เราจะไปเซอร์ไพรส์พี่เชียนกัน!”

……………

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี
Status: Ongoing
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset