ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 203 เขาตั้งใจจะทำอะไรกับหมิงหยุนวิลล่ากันนะ

วันที่ 13 กรกฎาคม ช่วงเช้า

ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก

หลี่สือนั่งจิบกาแฟเงียบๆ อยู่ที่มุมหนึ่ง

“ร้านนี้คึกคักขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย แต่…ฉันก็ยังชอบแบบก่อนมากว่า”

หลี่สือถอนหายใจเบาๆ เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกับบอสเผยคิดเหมือนกันในจุดนี้

รอบก่อนเขาเจรจาธุรกิจกับบอสเผยไม่สำเร็จ หลี่สือรู้สึกหงุดหงิดใจมากจึงไม่ได้มาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูกว่าสัปดาห์ แต่เขาก็ยังไม่ท้อ ยังคงมีหวังว่าในอนาคตจะเจรจาได้สำเร็จ

อีกอย่างตอนที่ไม่มีอะไรทำ เขาก็มานั่งจิบกาแฟที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว

ดังนั้นวันนี้หลี่สือจึงมาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาอยากมาดูว่าตอนนี้ร้านเป็นยังไงบ้าง

สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นคือลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

เขารู้ว่าช่วงดึกน่าจะมีลูกค้าเยอะกว่านี้ เลยเลือกมาช่วงเช้าวันอังคารแทน

หลี่สือไม่คิดว่าช่วงเช้าวันทำงานจะมีลูกค้าเยอะขนาดนี้

บางคนมานั่งจิบกาแฟอ่านหนังสืออยู่โซนคาเฟ่ บ้างก็มาถ่ายรูป บ้างก็มาเล่นอินเทอร์เน็ต

ดูเหมือนว่ากิจการร้านกำลังไปได้สวย

ช่วงเช้าก็พอทำเงินได้ ส่วนช่วงกลางคืนก็ได้กำไรจากส่วนแบ่งทิปนักร้อง

หลี่สือคิดว่าตอนนี้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักน่าจะพลิกมาทำกำไรได้แล้ว ส่วนจะได้มากเท่าไหร่นั้นบอกได้ยาก แต่ก็มั่นใจว่าต้องทำกำไรได้แน่

ส่วนตัวแล้วยังไงเขาก็ยังชอบร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแบบเมื่อก่อนมากกว่า

เพราะแสนจะเงียบ ไม่มีใครมารบกวน

แน่นอนว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูตอนนี้ก็ไม่ได้มีลูกค้าเยอะขนาดทำให้รู้สึกอึดอัดเมื่อเข้ามาในร้าน แต่ก็ไม่ได้สงบสุขเหมือนเมื่อก่อน

หลี่สือยกกาแฟขึ้นจิบ ในใจรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป

บอสเผยไม่ได้มาที่ร้าน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ

แต่เจ้าคนหน้ายาวใหญ่กับผู้จัดการเขตที่คอยตามหลังต้อยๆ หายไปไหนกัน

หลี่สือมักจะมาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลักบ่อยๆ ทุกครั้งจะเจอสองคนนี้ เหมือนว่าทั้งคู่กินนอนอยู่ที่ร้าน

แต่วันนี้กลับไม่เห็นสักคน

“แปลกจัง

“ร้านก็กำลังไปได้สวย พวกเขาควรต้องอยู่ดูแลร้านไม่ใช่เหรอ”

สองสามวันที่ผ่านมา หลี่สือคอยจับตาดูการเปลี่ยนแปลงร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมาตลอด

ร้านสาขาหลักดังขึ้นมาได้เพราะเฉินเหล่ย ตอนนี้เป็นกระแสไปทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต หลายคนมาเพื่อเช็กอินแล้วลองใช้บริการ ลูกค้าจึงไหลเวียนเข้าร้านมากขึ้น

แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาอื่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก ถึงจะมีลูกค้าและมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่สภาพกิจการก็ยังแตกต่างจากร้านสาขาหลักราวฟ้ากับเหว

ถือว่าสมเหตุสมผลถ้าจะเดาว่าร้านสาขาน่าจะลดยอดขาดทุนไปได้บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้

สองคนนั้นควรอยู่เฝ้าสาขาหลักแล้วเอาบทเรียนที่ได้ไปใช้กับสาขาอื่นๆ สิ

แต่ทำไมไม่อยู่กันทั้งสองคนเลย

หลี่สือชูมือขึ้นเล็กน้อย พนักงานที่อยู่ข้างๆ สังเกตเห็นก็รีบเดินมาหาที่โต๊ะ

“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” พนักงานถามพร้อมรอยยิ้ม

หลี่สือเป็นลูกค้าประจำของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาเสียเงินให้ร้านนี้ไปมากทีเดียว พนักงานจึงจำลูกค้ารายใหญ่คนนี้ได้และพยายามให้บริการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

หลี่สือทำทีเหมือนว่าไม่ได้สนใจอะไรมากนักขณะที่ถามออกไป “บอสหม่าไม่มาเหรอครับวันนี้”

พนักงานตอบพร้อมรอยยิ้ม “ใช่ครับ บอสหม่าไม่ได้มาที่ร้านสักพักแล้ว น่าจะหนึ่งสัปดาห์ได้แล้วมั้งครับ”

หลี่สือชะงักไป

หนึ่งสัปดาห์เหรอ

ก็เท่ากับว่าตั้งแต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูดังขึ้นมาแล้วมีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จนกระทั่งการไหลเวียนเข้าออกของลูกค้าเริ่มคงที่ เจ้าหน้ายาวก็ไม่ได้มาที่ร้านเลย

ตามหลักการแล้ว ในเมื่อร้านสาขาหลักมีผู้จัดการสาขาอยู่ เจ้าหน้ายาวก็น่าจะนั่งกอดอกสบายใจเฉิบได้

แต่เจ้านั่นอยู่ในทีมบริหาร มีตำแหน่งสูงกว่าผู้จัดการสาขา ถ้าไม่ได้อยู่ที่สาขานี้ ก็น่าจะอยู่ที่สาขาอื่น

พวกนั้นไปทำอะไรกันนะ

ดูมีอะไรไม่ชอบมาพากล

หลี่สือยิ้มให้พนักงาน “ไม่มีอะไรครับ ผมแค่ถามดูเฉยๆ”

สองชั่วโมงต่อมา

หลี่สือเหลือบมองข้อความที่ลูกน้องส่งมาทางมือถือ

“บอสหลี่ ผมเจอเขาอยู่ที่หมิงหยุนวิลล่าครับ”

เขาตกใจเมื่อได้อ่านข้อความ

แต่หลังจากครุ่นคิดสักพักก็เข้าใจ

ชัดเจนว่าเจ้าหน้ายาวกับเพื่อนหันไปสนใจสาขาอื่นแทน หลังจากที่สาขาหลักไปได้สวย!

ถึงหลี่สือจะดูถูกว่าเจ้าหม่าหยางหน้ายาวเป็นคนไม่ฉลาด แต่เขาก็ไม่กล้าประมาทอีกฝ่าย

เพราะทุกการเคลื่อนไหวของหม่าหยางนั้นมีบอสเผยอยู่เบื้องหลัง!

จากสิ่งที่เกิดขึ้นรอบก่อน หลี่สือก็ไม่กล้าดูถูกบอสเผยที่ทั้งเด็กและอ่อนประสบการณ์กว่าอีก

เขารู้ว่าถึงบอสเผยจะดูเป็นเด็กและทำอะไรไม่สมเหตุสมผล แต่ก็เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและชัดเจน แถมยังมีแผนสำรองเตรียมไว้เสมอ!

รอบก่อนหลี่สือเสียหายครั้งใหญ่เพราะประเมินบอสเผยต่ำเกินไป

เขาลูบคางเบาๆ ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อน

“รอบก่อนบอสเผยน่าจะรู้แผนการของฉันตั้งแต่แรก

“เขาน่าจะเป็นคนให้เจ้าหน้ายาวบอกข้อมูลผิดๆ กับฉัน

“ถึงเจ้าหน้ายาวจะโง่แต่ก็ซื่อสัตย์ต่อบอสเผยสุดๆ “ฉันผิดเองที่เริ่มแผนการจากจุดนี้

ก็ไม่แปลก ถ้าเจ้าหน้ายาวไม่ซื่อสัตย์กับบอสเผย คงไม่มีทางได้ตำแหน่งสูงขนาดนี้หรอก

“จะให้เกิดข้อผิดพลาดแบบนี้ขึ้นอีกไม่ได้

“เจ้าหน้ายาวน่าจะไม่เข้าร้านสาขาหลักอีก น่าจะไปสิงอยู่ที่สาขาหมิงหยุนแทน มีโอกาสสูงที่บอสเผยจะวางแผนการใหม่ในเขตนี้!”

หลี่สือไม่ได้คิดเอาแต่จะได้อย่างเดียวแล้ว เขาไม่คิดจะซื้อต่อกิจการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแล้วด้วยซ้ำ

เขารู้ว่ากิจการร้านกำลังไปได้สวย ชื่อเสียงกับคุณภาพก็สูงขึ้น การที่เขาจะเข้าไปลงทุนด้วยตอนนี้นั้นยากมาก

หลี่สือสนใจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูน้อยลง แต่ยังคงสนใจในตัวบอสเผยอยู่เหมือนเดิม

หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นรอบก่อน หลี่สือก็ยกย่องบอสเผยมากขึ้น ถึงขั้นยกให้เป็นนักลงทุนชั้นแนวหน้าในเมืองจิงโจว

มีคนเจ๋งๆ อยู่ใกล้ตัวแบบนี้ ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะต้องคอยจับตาดูทุกย่างก้าว

ถ้าโอกาสการลงทุนวิ่งเข้ามาเองล่ะ

เข้าอีหรอบเดิมอีกครั้ง ตอนนี้ที่หลี่สือกำลังค้นหาข้อมูลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่า ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะร่วมลงทุนหรือซื้อต่อกิจการ แต่เป็นเพราะเขาอยากรู้ว่าแผนต่อไปของบอสเผยคืออะไร

เขาเปิดแผนที่ในมือถือดูคร่าวๆ

จากนั้นคิ้วก็ขมวดกันเป็นปม

หลี่สือไม่เข้าใจว่าทำเลตรงนี้มีดียังไง

‘หมิงหยุนวิลล่า’ เป็นย่านที่พักอาศัยระดับสูงบริเวณรอบนอกเมืองจิงโจว บ้านในละแวกนี้จะแยกเดี่ยวเป็นหลังๆ

แต่ปัญหาอยู่ที่ผังของย่านนี้

หมิงหยุนวิลล่าตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองจิงโจว ติดกับภูเขาและแม่น้ำ บรรยากาศถือว่าดีเลยทีเดียว

แต่พื้นที่แบบนี้ก็ติดปัญหาใหญ่อยู่สองอย่าง

อย่างแรกคือสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เหมาะใช้เป็นบ้านพักตากอากาศมาอาศัยอยู่สักสองสามวันมากกว่าที่จะเป็นที่พักถาวร เพราะจะใช้ชีวิตได้ลำบากมาก

อย่างที่สองคือกลยุทธ์ของผู้พัฒนานั้นมีปัญหา พวกเขาสร้างแต่วิลล่าระดับสูง ราคาเฉลี่ยของวิลล่าในละแวกนี้สูงกว่าวิลล่าละแวกอื่นในเมืองจิงโจว แถมยังทำการตลาดได้ไม่ดีทำให้ที่นี่ไม่ค่อยมีชื่อเท่าไหร่

ด้วยเหตุนี้แม้จะสร้างเสร็จไปเกือบครบปีแล้ว แต่ก็ยังมีผู้อยู่อาศัยไม่ค่อยเยอะ

หลี่สือยิ่งงงหนักกับทำเลที่ตั้งร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู

แทนที่จะไปตั้งใกล้ๆ หมิงหยุนวิลล่า พวกเขาดันเลือกตั้งห่างจากหมิงหยุนวิลล่าและมหาวิทยาลัยฮั่นตงเจียวต้าวิทยาเขตตะวันออก

จากสถานที่ทั้งสองแห่งไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูถือว่าไกลมากทีเดียว

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี
Status: Ongoing
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน ด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset