เผยเชียนทำเหมือนว่าตัวเองไม่ชอบเกม Interactive Fiction เพราะว่ามันล้าสมัย แต่จริงๆ ในใจนั้นคิดว่าความล้าสมัยนี่แหละคือความมั่นคง!
Interactive Fiction เป็นแนวเกมที่ล้าสมัยแต่ก็มั่นคงเพราะอยู่รอดมาได้นาน
เผยเชียนมีความทรงจำจากชาติก่อน เขารู้ว่าเกม Chinese Parents เป็นเกมสแตนด์อโลนที่ทำออกมาในแนวเกมแบบ Interactive Fiction ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จเลยทีเดียว!
เผยเชียนไม่มีทางยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นกับเกมของเขาแน่
ดังนั้นเขาจึงตั้งใจจะไม่ทำเกมไปในแนว Interactive Fiction
เผยเชียนกระแอมกระไอแล้วพูดต่อ
“ไอเดียของผมคือเราควรทำผังงาน[TP1] แบบสามมิติ[TP2] ”
“ใช่แล้ว เอาให้ซับซ้อนเหมือนใยแมงมุม”
“ช่องในผังงานเอาเป็นห้องแยก เส้นเชื่อมเอาเป็นระเบียง”
“ผู้เล่นจะเดินไปตามระเบียง ซึ่งเป็นขั้นตอนการเลือกทางที่จะไปในผังงาน จากนั้นก็นำไปสู่ผลลัพธ์!”
“แต่ละห้องจะมีประตูเชื่อมกับระเบียง หมายความผู้เล่นจะมีตัวเลือกให้เลือกหลากหลาย”
“เข้าใจที่ผมจะสื่อมั้ย”
ทุกคนพยักหน้า จากนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมกัน
พวกเขาเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ!
คำอธิบายของเผยเชียนทำให้หลายๆ คนพอจะนึกภาพรูปแบบการเล่นของเกมออก
การวาดผังงานด้วยโปรแกรมแบบ Visio ถือเป็นเรื่องปกติในการสร้างเกมและในวงการอื่นๆ
ผังงานเป็นตัวใช้แสดงการจัดลำดับความคิดหรือลำดับขั้นตอนการทำงาน
ตัวอย่างเช่น การทำงานบางอย่างจะเริ่มจากเงื่อนไขบางประการ พอผ่านกระบวนการตัดสินใจต่างๆ ก็จะได้ผลลัพธ์ออกมา
ผังงานประกอบด้วยกล่องรูปทรงต่างๆ ที่อัดแน่นไปด้วยตัวอักษรมากมาย กล่องแต่ละกล่องจะเชื่อมต่อกันด้วยลูกศร
เมื่อกล่องทั้งหมดที่ว่าเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบสามมิติ มันจะกลายเป็นห้องขนาดเล็กใหญ่ ลูกศรเปลี่ยนเป็นระเบียง ผังงานทั้งหมดจะกลายเป็นเหมือนเขาวงกตขนาดใหญ่
ตัวละครหลักจะต้องเดินผ่านเขาวงกตนี้ โดยประตูแต่ละบานคือตัวเลือก พอเดินไปถึงห้องสุดท้ายก็จะได้เห็นหนึ่งในบทสรุปของเกม
แต่ที่ทุกคนไม่เข้าใจคือ เกมนี้จะถือเป็นเกมแนวไหนกัน
พวกเขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน!
อย่าว่าแค่ในประเทศเลย ต่างประเทศก็ไม่มีใครทำเกมแบบนี้ออกมา!
จะไปรอดไหมนะ
ต่อให้พวกเขาใช้โมเดลสามมิติคุณภาพสูงกับฉากหลังอลังการหลากหลายแบบ แต่ถ้าเกมที่สร้างออกมาผู้เล่นทำได้แค่เดินต่อไปเรื่อยๆ ล่ะ
พวกเขารู้สึกว่า…มีบางอย่างแปลกๆ!
แต่ก็ไม่มีใครตั้งคำถามเผยเชียน
ไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือ
ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว!
คนธรรมดาทั่วไปจะไปเข้าใจกระบวนการคิดของบอสเผยได้อย่างไร
มีแต่หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ที่สามารถเดาแผนงานและการออกแบบของเผยเชียนได้คร่าวๆ สำหรับคนอื่นๆ ยังไปไม่ถึงระดับนั้น!
ลู่หมิงเหลียงรู้เรื่องนี้ดี เขาหยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กออกมาจดบันทึกอย่างตั้งใจ
โชคดีที่บอสเผยลงรายละเอียดให้ชัดเจน เขาจึงไม่ต้องมานั่งเดาเอาเองมาก
เขาแค่ต้องทำตามที่บอสเผยบอกทุกอย่าง แค่นี้ก็ไม่มีอะไรผิดพลาดแล้ว!
หลินหวานยกมือขึ้นถาม “บอสเผยคะ หนูว่ารูปแบบมันจะออกมาเหมือนนิยายมากกว่า! แต่ถ้าผู้เล่นต้องเดินวนไปมาไม่จบสิ้นแบบนี้จะไม่น่าเบื่อแย่เหรอคะ”
น่าเบื่อเหรอ
ยิ่งดีสิ!
นั่นแหละที่ฉันต้องการ!
แต่คำถามของหลินหวานก็ทำให้เผยเชียนสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่
หรือ…แค่นี้จะยังไม่พอ
ถ้าเกมน่าเบื่ออย่างเดียวอาจจะทำให้คนเลิกเล่นไม่ได้
ถ้าเกิดมีคนชอบเลือกตัวเลือกไปเรื่อยๆ ทนความน่าเบื่อได้ แล้วดันติดใจเกมขึ้นมาล่ะ
เผยเชียนคิดหนัก
“รู้แล้ว”
เผยเชียนนึกไอเดียดีๆ ขึ้นได้ “ใส่เสียงพากย์เข้าไปในเกมด้วยแล้วกัน!”
“เสียงพากย์เหรอคะ” หลินหวานกะพริบตา เธอไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
การใส่เสียงพากย์เข้าไปในเกมไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ส่วนใหญ่มักจะใส่แค่ในแอนิเมชันตอนเริ่มเกม
ถ้าใส่เสียงพากย์เข้าไประหว่างเล่นเกมด้วย จะทำให้ผู้เล่นไม่รู้สึกเข้าถึงตัวเกม
เผยเชียนหัวเราะ
ทำไมเขาถึงอยากเพิ่มเสียงพากย์เข้าไปน่ะเหรอ
ชายหนุ่มต้องการจะกันไม่ให้ผู้เล่นรู้สึกอินกับตัวเกมจะได้เล่นต่อไม่ได้!
ไม่ใช่แค่นั้น เขาตั้งใจจะใส่ประโยคด่าทอเข้าไปในบทสนทนา ให้เสียงพากย์คอยเยาะเย้ยผู้เล่น เอาให้โกรธจนหัวร้อน!
พอโกรธที่โดนเย้ยหยันมาจะได้เข้าไปถล่มรีวิวแย่ๆ ไม่แนะนำให้คนอื่นมาเล่น สร้างชื่อเสียงแง่ลบให้ตัวเกม เมื่อเป็นอย่างนั้น เกมก็น่าจะค่อยๆ หายไปเอง
ลองคิดดูสิ ทุกครั้งที่ผู้เล่นเลือกตัวเลือกก็จะมีเสียงด่าจากระบบ
เป็นเกมที่คอยด่าผู้เล่น!
โคตรฮาเลย!
ผู้เล่นที่หัวร้อนง่ายหน่อยน่าจะทุบเมาส์กันเลยทีเดียว
เผยเชียนกระแอมกระไอเบาๆ จากนั้นจึงเริ่มอธิบาย “เสียงพากย์เป็นวิธีสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่น
“ถ้าผู้เล่นต้องวิ่งไปนั่นทีไปนี่ทีก็น่าจะเบื่ออย่างที่ว่า ผู้เล่นจะรู้สึกเหมือนเป็นคนนอก เป็นแค่ผู้ชม อาจจะหมดความสนใจเอาได้ง่ายๆ”
“เราจะใช้เสียงพากย์เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่น ตัวอย่างเช่น ถ้าเลือกตัวเลือกผิด เสียงพากย์ A ก็จะดังขึ้น ถ้าเลือกถูก ก็จะไปเปิดเสียงพากย์ B
“ทำแบบนี้ ผู้เล่นจะได้การตอบรับจากตัวเลือกทุกข้อที่เลือกไป จะได้ไม่รู้สึกเหงาหรือเบื่อ!”
หลินหวานถึงบางอ้อ เธอพยักหน้ารัว
สมกับเป็นบอสเผยจริงๆ ถึงคิดอะไรเทพๆ แบบนี้ได้!
นักออกแบบมือเทพต้องเป็นแบบไหนน่ะเหรอ
ก็ต้องแบบนี้แหละ!
หลินหวานนึกถึงตอนที่ทำงานในเทียนหัวสตูดิโอ
ที่เทียนหัวสตูดิโอก็มีการประชุมแบบนี้อยู่บ่อยๆ เหมือนกัน มีการระดมความคิดเพื่อตัดสินใจรายละเอียดบางอย่างของเกมรวมถึงวิธีพัฒนาเกม
แต่บรรยากาศของที่นี่กลับต่างกันลิบลับ!
เพราะโจวมู่หยันมักจะถามแต่คำถามเดิมๆ ว่า “มีเกมไหนทำระบบการเล่นแบบนี้ไปหรือยัง”
ถ้าตอบว่ามีแล้ว โจวมู่หยันก็จะวิเคราะห์ดูว่ารูปแบบการเล่นนี้ประสบความสำเร็จหรือเปล่า ถ้าใช่ก็จะเอามาใช้
แต่ถ้าตอบว่ายังไม่มี หรือถ้ามีเกมอื่นเอาไปทำแล้วแต่ล้มเหลว ไอเดียนี้ก็จะโดนปัดตกไปทันที
ไม่ใช่เฉพาะแค่ที่นี่ บริษัทเกมส่วนใหญ่ในประเทศก็เป็นแบบเดียวกัน!
เพื่อเสถียรภาพของการทำงาน นักออกแบบเกมส่วนใหญ่ไม่กล้าลองผิดลองถูกสักเท่าไหร่ แต่มักจะเรียนรู้จากกรณีก่อนๆ
ดังนั้นหลายๆ เกมจึงออกมาจากเบ้าเดียวกัน เหมือนกันไปเสียหมด
แต่วิธีทำงานของบอสเผยทำให้หลินหวานนึกชื่นชมเขาเอามากๆ
เขาไม่ได้สนใจว่าวิธีนี้เคยมีใครเอาไปทำแล้วประสบความสำเร็จหรือเปล่า แต่กล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ!
สิ่งนี้ทำให้มาตรฐานของที่นี่สูงกว่าเทียนหัวสตูดิโอและโจวมู่หยัน!
หลินหวานมั่นใจแล้วว่าเผยเชียนเป็นนักออกแบบเกมขั้นเทพจริงๆ ไม่มีข้อกังขาอีก!
ส่วนลู่หมิงเหลียงจดบันทึกลงสมุดไม่หยุดมือ
เขารู้สึกว่ามันวิเศษมาก แต่ก็สับสนเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเผยเชียนถึงตัดสินใจแบบนี้
แต่เขาก็รู้ตำแหน่งตัวเองในบริษัทดี จึงไม่กล้าเสนอความคิดเห็นอะไรออกไป ตั้งใจจะทำตามทุกอย่างที่บอสเผยบอก
เผยเชียนพึงพอใจมากที่โน้มน้าวใจทุกคนได้สำเร็จ
ช่างรู้สึกดีจริงๆ!
โปรเจ็กต์นี้อยู่ในการควบคุมของเขาทุกอย่างแล้ว!
“ผมขอแบบร่างภายในสามวันกับแผนการทำงานทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ งานภาพทั้งหมดต้องพร้อมภายในสองสัปดาห์ ติดขัดอะไรไหม” เผยเชียนมองไปทางลู่หมิงเหลียง
ลู่หมิงเหลียงรีบพยักหน้า “ไม่ต้องห่วงครับ บอสเผย ผมจัดการทั้งหมดให้เอง!”
พูดจบ ลู่หมิงเหลียงที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ก็ถามต่อ “บอสเผยครับ ถ้าทำงานไม่ทัน พวกผมอยู่ทำงานล่วงเวลาได้ไหมครับ”
การทำงานล่วงเวลาเป็นสิทธิพิเศษสำหรับพนักงานเก่งๆ เท่านั้น เขาไม่แน่ใจว่าบอสเผยจะนับเขาเป็นพนักงานเก่งๆ หรือเปล่า
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าแล้วตอบ “ได้ แต่พวกคุณห้ามอยู่เกินสามทุ่ม ถึงจะอายุยังน้อย แต่ก็ควรดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีๆ”
“ได้ครับ!” ลู่หมิงเหลียงแสนซาบซึ้งใจ
นอกจากบริษัทเถิงต๋าแล้ว จะมีบริษัทไหนใส่ใจพนักงานขนาดนี้อีก
ถ้าไม่ตั้งใจทำงานให้บอสเผยอย่างเต็มที่ เขายังจะเรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ได้อีกหรือ
……………………………..
[TP1]or โฟลวชาร์ท?
[TP2]น่าจะแบบเปรียบเทียบโฟลวชาร์ทเป็นห้องๆ เส้นเชื่อมเป็นระเบียง ให้แบบมีมิติมากขึ้นอะไรงี้
Related