พวกบ่าวรับใช้ต่างพากันเขินอาย
หากว่าท่านแม่ทัพตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองถูกมองถูกคลำแล้ว คงฆ่าพวกนางอย่างไม่ลังเล?
แต่ว่าไม่มีทางแล้ว การช่วยชีวิตคนตอนนี้สำคัญที่สุด
พวกสาวใช้ทั้งยุ่งทำงาน และก็แอบชอบอยู่ในใจ แล้วได้สบสายตาซึ่งกันและกัน
ท่านแม่ทัพรูปร่างดีมาก……..
ท่านแม่ทัพแข็งแรงมากจริงๆ……..
เมื่อพ่อบ้านพาคนมาส่งยาที่เพิ่งปรุงเสร็จแล้ว เดินเข้าไปก็เห็นว่าฉินหรูเหลียงได้เปลือยกายนอนอยู่บนเตียง แล้วมีสาวใช้กำลังดูแลปรนนิบัติเขา ก็ตกใจแทบจะลมล้มลงไป
ภาพนั้นช่างเป็นภาพที่สวยงามแต่เขาไม่น่าไปมอง…….
พ่อบ้านยกมือปิดหน้าและหลับตา
แม้จะสงสัยว่าองค์หญิงอาจจะอาศัยอำนาจส่วนรวมแก้แค้นส่วนตัว แต่คิดในแง่ของการช่วยชีวิต ท่านแม่ทัพก็ต้องเสียสละสักหน่อย
เมื่อถึงตอนจะป้อนยาก็ยังเป็นเช่นเดิม ฉินหรูเหลียงปิดปากแน่น ทำอย่างไรก็ป้อนเข้าไปไม่ได้
เฉินเสียนค่อยๆ เดินเข้ามา ก้มหน้าเหลือบมองไปที่ฉินหรูเหลียง จากนั้นยื่นมือออกไปตรงหน้าเขาแล้วตบหน้าสองที เสียงตบดังสนั่น
ผู้คนในห้องตกตะลึงกันหมด
เมื่อเฉินเสียนบีบคางของเขาอีกที ก็พบว่าฟันของเขาได้คลายออกแล้ว บีบปากให้เป็นช่องว่างเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เห็นไหม ตบเขาไปสองทีก็ไม่ใช่เป็นอย่างเดิมแล้วหรือ เอายามา”
คนรับใช้รีบเอายาไปให้
เฉินเสียนยื่นรับด้วยมือข้างเดียว คาดไม่ถึงว่าจะเทเข้าปากฉินหรูเหลียงอย่างเร็ว
คนใช้ที่มาส่งยาอยากจะพูดแต่ก็หยุดไป แท้จริงนางอยากจะเตือนองค์หญิงว่ายานี้เพิ่งจะต้มเสร็จได้ไม่นาน…….
ยุ่งมาทั้งคืนแล้ว อาการไข้ของฉินหรูเหลียงก็ได้ทุเลาลงแล้ว
ทั้งเฉินเสียนก็เหนื่อยมากแล้ว สีหน้าก็ซีดขาวเพราะไม่ได้นอน อวี้เยี่ยนรีบมาพยุงนางกลับไปสวนสระวสันตฤดูเพื่อพักผ่อน
วันรุ่งขึ้นเฉินเสียนได้นอนขี้เกียจ ทั้งจวนก็ไม่มีใครกล้าที่จะไปรบกวนนาง
แม้ว่าฉินหรูเหลียงยังไม่ตื่น แต่เมื่อคืนได้ใช้ยาของเฉินเสียนไป อาการก็ได้ขึ้นไปมาก
บ่าวรับใช้ทุกคนต่างแสดงความเคารพต่อเฉินเสียนมากขึ้น
ต่อไปให้ยึดใช้ยาตามที่เฉินเสียนได้สั่งไว้ อาการของฉินหรูเหลียงก็จะค่อยๆ ดีขึ้น
พอถึงเวลาจะต้องป้อนยา บ่าวรับใช้ยังป้อนไม่เข้า ทั้งก็ไม่บังอาจจะไร้มารยาทกับฉินหรูเหลียง ได้เพียงแต่มาขอร้องเฉินเสียนอีกครั้ง
เที่ยงของวันนี้ บ่าวรับใช้มาอีกครั้ง
เฉินเสียนเพิ่งลุกออกจากเตียง นั่งอยู่ใต้ชายคาหน้าประตูรอทานอาหารกลางวัน แล้วพูดอย่างหมดความอดทน “เมื่อวานข้าสอนพวกเจ้าแล้วไม่ใช่รึว่าทำเยี่ยงไร ตบหน้าเขาสองสามที รอให้ปากเขาคลายออกต่อไปก็กรอกยาลงก็เสร็จแล้ว”
“บ่าวมิกล้าเพคะ………..”
“ไม่อย่างนั้นก็ใช้คีมเหล็กดึงฟันหน้าของเขาออก”
“ไม่ได้……ยังไงองค์หญิงทำเถอะเพคะ……..”
เฉินเสียนขมวดคิ้ว อยู่ๆ ก็คิดว่าฉินหรูเหลียงอยู่ในอาการสลบไม่ได้สติดึงเอาฟันหน้าออกให้หมด เหมือนว่านี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่เลว
ที่สำคัญคือต้องรอให้ฉินหรูเหลียงตื่นมาพบว่าเขาฟันหน้าหายไปสองซี่ ไม่รู้ว่าจะอับอายขายหน้าและเคียดแค้นหรือไม่?
เพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้ เฉินเสียนก็อารมณ์ดีขึ้น
ไม่ว่าอย่างก็ตามก็ไม่มีอะไรทำแล้ว ดังนั้นเฉินเสียนจึงเกิดฉุกคิดมาได้อย่างฉับพลัน และได้รับปากที่จะไปที่เรือนหลักเพื่อป้อนยาให้กับฉินหรูเหลียง
บ่าวรับใช้ในจวนต่างดีอกดีใจที่เห็นพวกเขาทำสำเร็จ หากใช้ประโยชน์จากระยะเวลาการรักษาแม่ทัพ สามารถอยู่ตามลำพังกับองค์หญิงแล้วเกิดมีความรู้สึกดีต่อกันได้ทุกคนก็มีความสุข
ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าความคิดของเฉินเสียนคืออะไร
หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ เฉินเสียนให้อวี้เยี่ยงนำคีมเหล็กไปด้วย จากนั้นก็ไปที่เรือนหลักอย่างมีความสุข
อวี้เยี่ยนกังวล “องค์หญิง ข้าว่าอย่าทำเลยเพคะ……จะถอนฟันท่านแม่ทัพ แล้วท่านแม่ทัพเกิดรู้เข้าจะทำเยี่ยงไร?”
เฉินเสียนหรี่ตาลง “เจ้าคิดว่าแม่ทัพฟันหายไปสองซี่ ยังจะมีศักดิ์ศรีอะไร?”
อวี้เยี่ยนนึกถึงภาพนั้น ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
เฉินเสียนได้หยิกแก้มกลมๆ ของอวี้เยี่ยนและพูดว่า “นี้ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไปทำเรื่องไม่ดี นี้คือไปช่วยท่านแม่ทัพนะ ใครบอกให้เขากัดฟันตลอด บ่าวรับใช้ก็ป้อนยาไม่ได้ ก็ให้องค์หญิงอย่างข้าถอนฟันหน้าของเขาก็ไม่สะดวกขึ้นรึ และนี้ก็คือคิดเพื่อสุขภาพของเขา”
อวี้เยี่ยนอยู่ๆ ก็คิดว่ามีเหตุผลเหมือนกัน
เมื่อถึงเรือนหลัก ยาก็ได้วางไว้ให้เย็นที่โต๊ะข้างฉินหรูเหลียง ฉินหรูเหลียงยังนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเหมือนเดิน
สีหน้าของเขาซีดเผือด ตอนนี้หลับตาทั้งสองข้างเส้นผมสยายอยู่ที่หมอน ลักษณะใบหน้าดูหล่อเหลาคมคายราวกับมีด
แสงจากด้านนอกส่องเข้ามา เพิ่มความอบอุ่นลงไปอีก
เฉินเสียนรู้สึกว่าตอนนี้ไม่ได้เกลียดเขาเหมือนเมื่อครู่แล้ว
เฉินเสียนเดินเข้ามานั่งอยู่ที่ข้างเตียงเขา และได้มองดูเขาแต่ยังคงหยิบข้อมือขึ้นมาตรวจชีพจรอย่างรังเกียจ
ฉินหรูเหลียงค่อยๆ ดีขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้ไม่ตายแล้ว
ดังนั้นเฉินเสียนจึงได้กวักมือเรียกอวี้เยี่ยน และให้อวี้เยี่ยนส่งที่คีบเหล็กมาที่มืออย่างกล้าหาญ เธอได้กางแขนเสื้อออกและเปิดปากของฉินหรูเหลียงพร้อมที่จะทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่
อาจจะเป็นว่าเฉินเสียนแสดงหน้าตาอาฆาต หรือที่คีบเหล็กสามารถทำให้ถึงตายได้ ฉินหรูเหลียงคงมีความระมัดระวังตามสัญชาตญาณอยู่แล้ว
เมื่อที่คีบเหล็กไปถึงฟันของเขา เขารู้สึกว่าฟันได้กระทบกับความเย็น แต่มันกลับกระตุ้นประสาทของเขาแทน
เฉินเสียนกำลังจะใช้แรงดึง จะรู้ได้อย่างไรว่าอยู่ๆ ฉินหรูเหลียงจะลืมตาขึ้นมา
เวลานี้เขากำลังอ่อนแอพอลืมตาขึ้น จะค่อนข้างมึนงงและไร้เดียงสา แตกต่างไปจากความเย็นชาปกติอย่างสิ้นเชิง
หลังจากนั้นก็มีภาพในดวงตาของเขา เขาเห็นคนตรงหน้าชัดเจน สีหน้าของเขาตกใจเล็กน้อย
ที่นั่งอยู่ข้างเตียงไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเฉินเสียน
เฉินเสียนกะพริบตา จ้องมองเขาอย่างไร้เดียงสามากกว่าเขา และในใจได้ด่าจนฟ้าถล่มทลายแล้ว จะบ้าตาย เช้าไม่ตื่นเย็นไม่ตื่น แต่กลับมาตื่นในเวลานี้ อะไรวะ! นางยังไม่เริ่มถอนฟันด้วยซ้ำ!
ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง ฉินหรูเหลียงรู้สึกได้อย่างรวดเร็วว่าทำไมฟันตัวเองถึงได้รู้สึกเย็น
สาเหตุคือมีที่คีบเหล็กอยู่ในปากของเขา และที่คีมเหล็กนี้อยู่ในมือของเฉินเสียน!
แววตาของเขาค่อยๆ เย็นชาลง จ้องมองไปที่เฉินเสียน
เฉินเสียนยิ้มเบาๆ ไม่มีความเขินอายที่ถูกจับได้และได้กล่าวทักทาย “แม่ทัพฉินตื่นแล้วหรือ?”
ฉินหรูเหลียงกระชับเสียงของเขาและพูดอย่างแหบแห้ง “ท่านกำลังจะทำอะไร?”
“ข้ากำลังงัดปากแม่ทัพไง ใครบอกให้แม่ทัพไม่ยอมกินยาเล่า”
สายตาของฉินหรูเหลียง เหมือนถูกตัดด้วยมีดบางๆ “งัดปากข้า ใช่คีม?”
เฉินเสียนพูดขึ้น “ไม่ใช้คีมจะเอาถอนฟันหน้าท่านได้อย่างไร?”
“ท่านจะถอนฟันของข้า?”หน้าอกของฉินหรูเหลียงได้กระเพื่อมสองครั้ง
ยังโชคดีที่เขาตื่นขึ้นมาทัน หากช้ากว่านี้สักหน่อย ฟันหน้าคงหมดแล้ว
เฉินเสียนใช้คีมเหล็กเคาะไปที่ฟันหน้าของเขา พูดว่า”ก็แม่ทัพไม่ยอมที่จะกินยา และช่องว่างระหว่างฟันเล็กเกินไป ข้าไม่ควรจะทำให้ช่องว่างระหว่างฟันของท่านใหญ่ขึ้นหรือ ทุกอย่างนี้เพื่อสุขภาพของท่านนะ”
ฉินหรูเหลียง “ข้าว่าท่านอยากจะแก้แค้นส่วนตัว และใครกันบังอาจอนุญาตให้ท่านมาที่นี่?”
เฉินเสียนขมวดคิ้ว กล่าวเหยียดหยาม “หากไม่ใช่บ่าวรับใช้ในจวนขอร้องให้ข้ามา ท่านคิดว่าข้าจะมารึ? แม่ทัพฉิน เรื่องขาดฟันหน้าไปสองซีก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ท่านก็ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกอย่างนี้ เรื่องทุกเรื่องก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย”
ฉินหรูเหลียงโมโหแล้วกลับมายิ้ม “ท่านพูดถึงเรื่องนี้ แล้วสิ่งนี้ประโยชน์อยู่ที่ใดกัน?”