ข้าคือหงส์พันปี – ตอนที่ 126 ต่อให้อวี้เยี่ยนไม่ไป ข้าก็จะเป็นคนไป

อวี้เยี่ยนจ้องเขม็งใส่หลิ่วเหมยอู่”ใจของท่านเมื่อเทียบกับคนใจดำอำมหิตแล้วยังอำมหิตกว่าเลย!

หลิ่วเหมยอู่ยิ้ม เอ่ยอย่างลำพองใจ“ข้าจะมีวิธีไหนเล่า ชีวิตข้าร่อแร่ใกล้ตาย ท่านแม่ทัพหาส่วนผสมของยามาให้ข้าโดยไม่เสียดายไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม รกขององค์หญิงครั้งหนึ่งข้าก็กินไม่หมดเลย หมอบอกว่านำมาตุ๋นดื่มทุกวันก็ดีขึ้นมาไม่ได้อีกแล้ว”

“ท่านไม่กลัวบาปกรรมตามสนองหรือเจ้าคะ?”

หลิ่วเหมยอู่เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา.“กรรมตามสนองหรือ?ข้ายังจะมีกรรมตามสนองอันใดเล่า?ตั้งแต่ต้นจนจบ ข้ายังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลย

อวี้เยี่ยน หากเจ้ายังไม่ไปอีกนะ ข้าจะเรียกคนมาลากเจ้าออกไป ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเช่นนี้ ปกติองค์หญิงปล่อยให้เจ้าทำผิดโดยที่ไม่ปราม แต่กับข้าไม่ได้!”

ทำอย่างไรอวี้เยี่ยนก็ไม่ไป นางกลับเหยียบเข้ามาภายในห้องของหลิ่วเหมยอู่

นางเดินมา อีกด้านก็หยิบกริชออกมาจากแขนเสื้อ แล้วกางฝักกริชออก ปรากฏให้เห็นความคมของกริชนั้น

กริชเล่มนั้นเป็นกริชที่ปกติเฉินเสียนตระเตรียมไว้ใต้หมอน

อาวุธคมกริบอยู่ที่มือของนาง อวี้เยี่ยนนางไม่รู้สึกกลัวสิ่งใดเลย

พอหลิ่วเหมยอู่กับเซียงหลิงเห็น ทั้งสองชะงักงันและหน้าซีดเผือด

เซียงหลิงเอ่ยอย่างตระหนก“อวี้เยี่ยนเจ้าคิดจะทำสิ่งใดกัน?ถ้าหากเจ้ากล้าทำร้ายนายหญิง ท่านแม่ทัพไม่ไว้ชีวิตเจ้าแน่!”

อวี้เยี่ยนเอ่ยอย่างเหี้ยมโหด“ข้าไม่ได้ต้องการทำร้ายนาง ข้าต้องการฆ่านาง!”

พูดจบ อวี้เยี่ยนก็พุ่งไปทางทั้งสองคนทันที

เวลานั้น สวนดอกพุดตานที่สงบก็มีเสียงวี้ดร้องเสียงแหลมดังขึ้น

“เจ้าบ้าไปแล้ว!เจ้ามันบ้า!”

“ช่วยด้วย!ช่วยด้วย!รีบมาเร็ว มีคนจะฆ่าคนแล้ว!”

ยามรุ่งเช้าเหล่าคนใช้ก็เก็บกวาดอยู่ที่สวนดอกไม้ ได้ยินเสียงจากสวนดอกพุดตานก็ทยอยพากันวิ่งไปดู

เวลานี้ฉินหรูเหลียงก็กำลังเดินทางไปที่สวนดอกพุดตาน

สวนดอกพุดตานวุ่นวายจนหมาไก่กระเจิงหมด ไม่มีข่าวคราวการเคลื่อนไหวออกมาได้อย่างไร

มีสาวใช้ส่วนตัวเห็นเหตุการณ์ไม่ดี จึงรีบวิ่งร้อนรนมารายงานที่สวนสระวสันตฤดู

เดิมทีเฉินเสียนคิดว่าอวี้เยี่ยนยุ่งอยู่ ทั้งเช้าไม่เห็นแม้แต่เงาของนางเลย แต่ได้ยินสาวใช้คนนี้พูดคิดไม่ถึงว่านางจะไปก่อเรื่องที่สวนดอกพุดตานแล้ว

อวี้เยี่ยนยกกริชต้องการที่จะฆ่าหลิ่วเหมยอู่

ต่อมาฉินหรูเหลียงมาได้ทันเวลา จึงสามารถขัดขวางนางไว้ได้

ถ้าหากสวนสระวสันตฤดูไม่มีคนไปรับผิดชอบ ยังไม่รู้ว่าอวี้เยี่ยนจะได้รับบทลงโทษเยี่ยงไร

แม้บ้านจ้าวกับแม่นมซุยไม่อยากให้เฉินเสียนตระหนก เฉินเสียนอยู่ในช่วงอยู่เดือน ไม่สามารถออกไปได้ตามอำเภอใจ ถ้าหากโดนลมได้รับความเย็นแล้ว นั่นก็คือเอาคืนมาไม่ได้

แม่บ้านจ้าวบอกให้แม่นมซุยดูเฉินเสียนไว้ นางเตรียมตัวที่จะไปขอร้องฉินหรูเหลียงเอง

นึกไม่ถึงว่าเฉินเสียนจะได้ยินสิ่งที่สาวใช้คนนั้นมารายงานแล้ว

เธอใส่ชุดเรียบง่าย สีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์เปิดประตูห้องออกมา ถาม“ตอนนี้อวี้เยี่ยนอยู่ที่ใด?”

สาวใช้เอ่ยพูดติดอ่าง “อยู่ที่ ยังอยู่ที่สวนดอกพุดตานฟังท่าน ท่านแม่ทัพจะจัดการเพคะ……….”

เห็นเฉินเสียนต้องการยกเท้าย่างกรายออกจากประตู แม่บ้านจ้าวรีบไปขวางหน้าไว้ เอ่ย“ไม่ได้เพคะองค์หญิง องค์หญิงควรที่จะนอนพักอยู่บนเตียงนะเพคะ ออกไปข้างนอกเคลื่อนไหวไม่ได้ ด้านนอกลมแรง ต่อไปจะทิ้งอาการเจ็บป่วยไว้ได้เพคะ!”

แม่นมซุยเอ่ยเห็นด้วย“ใช่แล้วเพคะองค์หญิง องค์หญิงกลับไปที่ห้องก่อนเถิดเพคะ ให้แม่บ้านจ้าวเป็นคนไปดูก็ได้ แม่บ้านจ้าวเป็นคนเก่าแก่ในจวน นางจะขอร้องให้อวี้เยี่ยนนะเพคะ เชื่อว่าท่านแม่ทัพต้องเมตตาเพคะ ”

เฉินเสียนออกมาจากห้องเหมือนเดิม หรี่ตามองบรรยากาศโปร่งใสดีๆด้านนอก

ในแววตาของเธอมีแสงสว่าง แต่ทว่าไม่มีอุณหภูมิ เหมือนเคลือบความเยือกเย็น

เมื่อก่อนตอนที่ตั้งครรภ์อยู่เธออ้วนตุ๊ต๊ะเดินไม่สะดวก ตอนนี้เธอออกมานอกประตู สูดหายใจลึกๆรับความสดชื่น ถึงแม้ว่าร่างกายจะยังฟื้นสภาพได้ไม่ปกติทั้งหมด แต่ก็สัมผัสได้ถึงความผ่อนคลาย

แต่เธอก็ผ่อนคลายลงไม่ได้เลย

เฉินเสียนเดินลงบันไดทีละก้าว เอ่ย“ต่อให้อวี้เยี่ยนไม่ไป ข้าก็จะเป็นคนไป”

“องค์หญิง!”

“เอ้อร์เหนียง เจ้าอยู่ดูแลลูกของข้าที่นี่”เฉินเสียนยืนอยู่ตรงหน้าแม่บ้านจ้าว สายตาเย็นชามีความกดดันอยู่ในนั้น มองนางแล้วเอ่ย“แม่บ้านจ้าว หลีกไป”

แม่บ้านจ้าวกลัว ช่วงที่มึนงงอยู่เฉินเสียนก็ได้เดินผ่านนางไปแล้ว

แม่บ้านจ้าวหันมองแผ่นหลังของเธอ เอ่ย“องค์หญิงเพิ่งจะคลอดบุตร ยังออกไปไม่ได้นะเพคะ!”

แต่น่าเสียดาย เฉินเสียนทำราวกับไม่ได้ยิน

เธอเดินผ่านสวนดอกไม้ เดินผ่านริมทะเลสาบ ผมของเธอแผ่กระจาย ปลายกระโปรงกระพือพัดในสายลม

ลมและแสงอาทิตย์ในช่วงสารทฤดูนี้ไม่ได้มีความหนาวเหน็บเลย กลับมีรสชาติกลิ่นอายของความชื้นและอบอุ่น

เฉินเสียนเร่งฝีเท้า ตอนที่มาถึงสวนดอกพุดตาน เหล่าคนรับใช้พูดเรื่องราวทุกอย่างกัน เห็นเธอมาก็ตกใจและเงียบ ต่างทยอยหลีกทางให้กับเธอ และออกไปจากสวนดอกพุดตาน

ภายในจวนเกิดความวุ่นวาย บนพื้นมีผ้าที่ขาดกระจุยกับผมของหญิงสาวร่วงหล่นกระจายอยู่

ก่อนที่จะมาเห็นเหตุการณ์ ที่นี่เกิดการตบตีกันรุนแรงแค่ไหนแล้ว

หลิ่วเหมยอู่กับเซียงหลิงได้รับบาดเจ็บ ภายในห้องมีหมอที่กำลังจัดการทำบาดแผลให้กับหลิ่วเหมยอู่ ฉินหรูเหลียงยืนมือไขว้หลังอยู่ในเรือน มีสีหน้าอึมครึม

และเวลานี้อวี้เยี่ยนคุกเข่าอยู่ในเรือน บนใบหน้าเขียวช้ำ ริมฝีปากบวมเป่ง บนตัวมีรอยบาดแผล เลือดไหลออกมาจากข้างในเสื้อ

นางก้มหัว เงียบไม่เอ่ยพูด

ภายในห้องมีเสียงร้องไห้คร่ำครวญของหลิ่วเหมยอู่ดังมา

มือของเซียงหลิงถูกกริชบาด หลังจากที่ได้รับการทำแผลง่ายๆแล้วนั้น ก็มาอยู่ที่หน้าประตู

กริชเล่มนั้นร่วงหล่นอยู่บนพื้น คมกริชมีเลือดอยู่บางเบา

เซียงหลิงรับตำรับยาที่หมอเบิกมา มอบให้กับคนรับใช้นำไปต้ม

ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาก็พอดิบพอดีกับเห็นเฉินเสียนก้าวเข้ามาเหยียบที่สวนดอกพุดตานแล้ว เซียงหลิงหน้าซีดเผือด ราวกับเห็นผี ชั่วพริบตาเดียวก็ก้มหัวบุ่มบ่ามเข้าไปรายงานหลิ่วเหมยอู่

ฉินหรูเหลียงเห็นปฏิกิริยาของเซียงหลิง ตอนที่หมุนตัวไปก็เห็นเฉินเสียนแล้วชะงักอยู่กับที่ด้วยเช่นกัน

ผมดำขลับของเฉินเสียนม้วนไว้ด้วยปิ่นปักผม รอยแผลเป็นน่ากลัวที่อยู่บนหน้านั้น แต่ทว่าวันนี้กลับขาวสะอาด รอยแผลเป็นบนใบหน้านั้นไม่มีแม้แต่น้อย

เธอกลับคืนฟื้นเป็นเฉินเสียนผู้โง่เขลาถึงจะมีโฉมหน้าเยี่ยงนั้น

งดงามละเอียดอ่อนเหมือนเดิม แต่ไม่มีความไร้เดียงสาเลยสักครึ่งหนึ่ง แววตาข้างในอึมครึมเย็นชา

เธอไม่จำเป็นต้องแปะรอยแผลเป็นบนหน้าทำให้ตัวเองลำบากใจอีกแล้ว เวลานั้นเธอเพียงต้องการให้ตัวเองดำเนินการได้สะดวก

แต่ตอนนี้เธอคลอดลูกออกมาแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอเพียงต้องการตามใจตัวเอง

รอตอนที่เซียงหลิงประคองหลิ่วเหมยอู่ออกมา ไม่อยากจะเชื่อว่าเห็นสายตาของฉินหรูเหลียงมองที่เฉินเสียนอยู่เป็นเวลานานไม่ละสายตา

เฉินเสียนมองอวี้เยี่ยนที่อยู่บนพื้น และเงยหน้ามองหลิ่วเหมยอู่ที่อยู่หน้าประตู

หลิ่วเหมยอู่สะดุดสองก้าว สีหน้าดูไม่ได้ดีไปกว่าเซียงหลิง

เพราะเหตุใด เพราะเหตุใดนางพยายามตั้งมากมาย เฉินเสียนก็ยังมีชีวิตดีอยู่ โฉมหน้าของนางยังดีกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก

เมื่อก่อนเฉินเสียนอาจจะแสดงออกว่าโง่ไร้เดียงสา ทำให้ง่ายต่อการไม่สนใจโฉมหน้าเธอ แต่ตอนนี้เฉินเสียนไม่เหมือนเดิม ทั้งตัวของเธอเปิดเผยความลับที่น้อยคนจะรู้ว่าเป็นคนมีสติปัญญาก สดใสมีสติเป็นเลิศ

เฉินเสียนหรี่ตามอง เห็นหลิ่วเหมยอู่บาดเจ็บ แต่บาดแผลไม่กี่ที่บนตัวของนางเทียบไม่ได้กับบาดแผลกับความบวมช้ำที่อยู่บนตัวของอวี้เยี่ยน

เฉินเสียนเดินไปอยู่ที่ข้างกายอวี้เยี่ยน อวี้เยี่ยนเห็นสองขาปรากฏข้างกายของนางอย่างกะทันหัน นางมองจากเท้าขึ้นไป รอหลังจากมองเห็นเฉินเสียนชัดเจนแล้ว อ้าปากขึ้น เอ่ยพูดออกมาไม่ได้แม้แต่คำเดียว

เฉินเสียนโน้มโค้งตัวลงไปเล็กน้อย นิ้วมือหนีบคางนางเบาๆ มองรอยบาดแผลบนใบหน้าของนางอย่างละเอียด แววตาเยือกเย็น แต่ทว่าปากเอ่ยเสียงเบาหวิว“ผู้ใดทำ?”

ข้าคือหงส์พันปี

ข้าคือหงส์พันปี

องค์หญิงเฉินเสียนผู้โง่เขลา ถูกไล่ออกจากจวน ถูกทำให้เสียโฉม และยังมีทารกอยู่ในท้องของเธอ! ในวันที่สามีของเธอแต่งงานกับอนุภรรยา เธอมาแสดงความยินดี จัดการกับอนุคนใหม่อย่างรุนแรง และทำให้แขกในงานต่างตกใจ อนุคนใหม่ที่คิดว่าเธอเป็นเช่นไก่ที่อ่อนแอ? แต่ไม่คิดว่าจะสามารถต่อกรกับเธอได้?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset