เธอกล่าวขึ้น“ใช้รกของข้าอันหนึ่ง แลกเปลี่ยนกับมือของท่านฉินหรูเหลียงหนึ่งข้าง คุ้มค่า ทำเรื่องไม่ดีเรื่องหนึ่งแล้วก็จำเป็นต้องได้รับการแก้แค้นหนึ่งครั้ง วันนี้ตัดมือของท่านหนึ่งข้าง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าไม่รู้สึกว่าท่านฉินหรูเหลียงติดค้างข้าอีกแล้ว”
ฉินหรูเหลียงคิดว่าเฉินเสียนเพียงต้องการแทงเขา คาดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้ได้ตัดเส้นเอ็นของเขาขาดไปแล้วหนึ่งท่อน!
เขาพยายามยกแขนดู พบว่านอกจากเจ็บปวดแล้ว ปฏิกิริยาอื่นใดนั้นไม่มีเลย!
ฉินหรูเหลียงจับข้อมือ ทั้งแขนสั่นกระตุกควบคุมอย่างไรก็ไม่ได้
เขากัดฟันกล่าวว่า“เฉินเสียน ท่านโหดเหี้ยมจริงๆ”
เฉินเสียนหันกลับมามองเขา แล้วกล่าวว่า“โหดเหี้ยมหรือ แต่เมื่อเทียบกับท่านนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน”
หลิ่วเหมยอู่บ้าจนผลักเซียงหลิงออกอย่างไม่ไยดี มุทะลุกระโจนเข้าไปหาเฉียนเสียน แล้วกล่าวว่า“ท่านเคยพูดว่าให้ท่านแม่ทัพแค่แทงตัวเอง เหตุใดถึงต้องตัดมือท่านแม่ทัพให้พิการ! เหตุใดท่านถึงทำเช่นนั้นกับท่านแม่ทัพ หม่อมฉันต้องการสู้กับท่าน!”
แต่ยังไม่ได้โผกระโจนเข้าไปใกล้ ก็ถูกฉินหรูเหลียงรั้งเอวไว้แล้ว
ฉินหรูเหลียงกล่าวว่า“อย่าเข้าไป ข้าเสียมือข้างหนึ่งไปแล้วยังไม่พออีกหรือ?”
หลิ่วเหมยอู่สะเทือนใจ ทันทีหลังจากนั้นก็ร้องไห้ในอ้อมกอดของเขา
เฉินเสียนมองหลิ่วเหมยอู่ร้องไห้อย่างเจ็บปวด กล่าวเสียงเบาๆว่า“ฉินหรูเหลียงรักเจ้ามากจริงๆ เพื่อที่จะช่วยเจ้า ได้เอาชีวิตในท้องของข้ามาเดินหมากเล่นแบบเด็กๆ เจ้าน่าจะรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจมาก”
หลิ่วเหมยอู่เงยหน้าที่ดวงตามีน้ำตา มองเธอด้วยความจงเกลียดจงชังเป็นอย่างมาก
“รู้สึกว่าเมื่อเทียบกันแล้วเจ็บปวดกว่าที่ข้าแทงเข้าไปในตัวเจ้าใช่หรือไม่?”เฉินเสียนกล่าว“เจ็บก็ถูกแล้ว นี่เป็นเพียงแค่เริ่มต้น”
.“ข้าก็อยากจะดู ท่านแม่ทัพมือพิการไปข้างหนึ่งแล้ว อนาคตจะเป็นท่านแม่ทัพอันดับหนึ่งของต้าฉู่ได้อย่างไร และเจ้า หลิ่วเหมยอู่ ขาดการคุ้มครองปกป้องของฉินหรูเหลียง ชีวิตก็เป็นเพียงแค่ความต่ำตม ”
เธอหมุนตัวและเดินไป“เจ้าอยากสู้ ข้าจะสู้เป็นเพื่อนเจ้าให้ถึงที่สุด เหมยอู่ ข้ารอเจ้าอยู่นะ”
แขนเสื้อของเฉินเสียนมีเลือดสีแดงสดเหือดแห้งติดอยู่ เธอกุมกริชไว้ ดึงอวี้เยี่ยนที่มองอย่างมึนงงขึ้น ก้าวทีละก้าวออกจากสวนดอกพุดตาน ไม่มีใครกล้าขวางเลย
ตอนที่กลับมาถึงสวนสระวสันตฤดู แม่นมซุยเห็นชุดของอวี้เยี่ยนนั้นมีเลือดติดอยู่ สีหน้าเปลี่ยนแล้วกล่าวขึ้นว่า“องค์หญิงได้รับบาดเจ็บหรือเพคะ?”
เฉินเสียนก้มหัวลงปัดปลายเสื้อของตัวเองคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น กล่าวว่า“ไม่ใช่เลือดของข้า เอ้อร์เหนียงเบาใจได้”
หลังจากนั้นอวี้เยี่ยนมีท่าทางจนตรอกนั่งคุกเข่าลงไม่ยอมลุกขึ้น นางชอกช้ำระกำใจเช่นนั้นแล้ว ยังยื่นมือออกมาตบตีฝ่ามือของตัวเอง
เฉินเสียนหันกลับมาแล้วกล่าวขึ้นว่า“อวี้เยี่ยน เจ้ากำลังทำสิ่งใดกัน?”
ท้ายที่สุดอวี้เยี่ยนฝืนกลั้นไม่ไหว ร้องไห้ออกมา“องค์หญิง บ่าวไร้ประโยชน์ ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าว …….ถ้าหากวันนั้นไม่ใช่ว่าบ่าวล่าช้าไม่กลับมาเสียที องค์หญิงก็จะไม่มีอันตราย ……บ่าวอยากไปแก้แค้นแทนองค์หญิง แต่ก็ทำให้องค์หญิงลำบากไปช่วยบ่าว ……องค์หญิงอยู่ในช่วงอยู่เดือน ถ้าหากว่าหลงเหลือโรคเรื้อรังไม่หายขาดไว้ภายหลัง บ่าวไร้หนทางปฏิเสธความผิดนี้เพคะ!”
เฉินเสียนปาดน้ำตาที่ใบหน้าเขียวช้ำของอวี้เยี่ยนที่ยังร้องไห้อยู่ แล้วกล่าวขึ้นว่า“อวี้ยี่ยน เจ้ากล้าหาญไม่น้อยนะ ตอนนี้ลับหลังข้า เจ้ากล้าที่จะเอามีดไปแทงผู้อื่นแล้ว”
อวี้เยี่ยนกล่าวว่า“บ่าวเห็นเซียงหลิงยกตุ๋นรกขององค์หญิงไปให้นายหญิงหลิ่วกินทุกวัน ยังเจ็บกว่าการกินเนื้อของบ่าวเองเพคะ บ่าวอดกลั้นไม่ไหวเพคะ……..”
“ผลสรุปเจ้าก็ตีไม่ชนะ กลับถูกพวกนางตีจนกลายเป็นเช่นนี้”
“บ่าวใช้กริชตวัดใส่นายหญิงหลิ่วกับเซียงหลิงหลายครั้งเพคะ”อวี้เยี่ยนเงยหน้าขึ้น กล่าวยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจ กล่าวจบก็มีความท้อใจอีก“แต่บ่าวลืมเอาผ้ายัดเข้าไปในปากของเซียงหลิง เสียงของนางแหลมโวยวายเป็นอย่างมาก ทำให้คนอื่นๆมาดู ถึงทำให้บ่าวพ่ายแพ้เช่นนี้”
เฉินเสียนกล่าวว่า“ลุกขึ้นเถิด”
“บ่าวมีความผิด ไม่กล้าลุกขึ้นเพคะ”อวี้เยี่ยนน้ำตาไหลพรากมองเฉินเสียน
“ข้าพูดว่าเจ้าผิดแล้วหรือ”เฉินเสียนกล่าวขึ้น“เรื่องวันนั้นข้าไม่โทษเจ้าหรอก ข้าเป็นคนส่งเจ้าไปหาเหลียนชิงโจวทางด้านนั้นเอง ฝนตกหนักทำให้เจ้าเสียเวลาในการเดิน มันเป็นเจตจำนงของสวรรค์”
“แต่บ่าวยังตีองค์หญิงด้วยฝ่ามือนั้น…….”
“อ้อ ข้านึกขึ้นได้แล้ว ถ้าหากไม่ใช่ฝ่ามือนั้นทำให้ข้าได้สติขึ้นมาทันเวลา ข้าก็จะไม่รู้ว่าคืนนี้หรือคืนไหนเลย ข้าไม่โทษเจ้า ลุกขึ้นมาเปลี่ยนชุดให้กับข้าได้แล้ว”
อวี้เยี่ยนปาดน้ำตา ถึงได้ยินยอมลุกขึ้นไปหยิบชุดที่สะอาดมาเปลี่ยนให้กับเฉินเสียน
ฝนตกหนักในวันนั้นที่อวี้เยี่ยนกลับมาไม่ทันสาเหตุเพราะวิสัยทัศน์การมองเห็น แต่ว่าแม่บ้านจ้าวไม่ใช่เช่นนี้
แม่บ้านจ้าวทำเพื่อที่จะให้ฉินหรูเหลียงกับเฉินเสียนอยู่ด้วยกันตามลำพัง และนางได้ออกไปจากสวนสระวสันตฤดู เป็นเวลานานไม่กลับมา เวลานั้นไม่ว่าเฉินเสียนจะเรียกนางอย่างไร ก็ไม่มีคนขานรับ
ชัดเจนว่ามีความล้มเหลวของคนรุ่นเก่าที่จะเป็นข้อเตือนใจของคนรุ่นหลังอยู่ที่นั่น แม่บ้านจ้าวแผลหายดีแล้วลืมความเจ็บปวด อีกนิดหนึ่งก็ทำความผิดอย่างใหญ่หลวง
เฉินเสียนไม่ได้จัดการนาง ถ้าหากนางอยากอยู่ที่สวนสระวสันตฤดูก็อยู่ ถ้าหากไม่อยากอยู่ เฉินเสียนก็ไม่ได้บีบบังคับ
แต่ว่าเรื่องใกล้ตัวของเฉินเสียน ได้มอบให้อวี้เยี่ยนกับแม่นมซุยเป็นผู้ไปทำ ไม่มีทางให้แม่บ้านจ้าวจัดการอีกแล้ว
ฉินหรูเหลียงถูกตัดเส้นเอ็นของมือขาดหนึ่งข้าง เรื่องนี้จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ
ไม่เช่นนั้นต้าฉู่ไม่มีทางต้องการท่านแม่ทัพที่มีแขนข้างเดียวหรอก และก่อนหน้านี้ไม่นานรบแพ้เย่เหลียงก็กระสับกระส่ายอยู่แล้ว ถ้าหากรู้ว่าหัวหน้าแม่ทัพที่รบพ่ายพวกเขามาเสียมือไปอีกข้าง กลัวว่าจะยิ่งกระสับกระส่าย
ในขณะนั้นคนรับใช้ของจวนแม่ทัพทั้งหมดถอยหลังมาตั้งรับอยู่ด้านนอกสวนดอกพุดตาน ใครก็ไม่รู้ว่าด้านในแท้ที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น และก็ไม่รู้ว่าเขาถูกตัดเส้นเอ็นขาดไปข้างหนึ่ง เหล่าคนรับใช้รู้เพียงว่าตอนสุดท้ายฉินหรูเหลียงใช้มีดแทงตัวเองหนึ่งที
หลังจากเกิดเรื่องภายในเรือนเปลี่ยนหมอมากมาย เพื่อที่จะรักษาบาดแผลบนแขนของฉินหรูเหลียง
แต่เส้นเอ็นของมือขาดแล้ว ไม่ง่ายที่จะประสานขึ้นมาได้ ต่อให้บาดแผลรักษาหายแล้ว แรงของมือก็ไม่ได้มีแรงเท่ากับเมื่อก่อน ยกออกแรงไม่ขึ้น สำหรับผู้ที่คุ้นชินกับการใช้อาวุธก็เหมือนกับว่าเป็นโมฆะ
โชคดีกับที่ปกติฉินหรูเหลียงใช้มือขวาจับดาบ และข้างที่ขาดคือมือซ้าย ง่ายต่อการอำพรางไว้
แต่ถ้าหากตั้งค่ายสู้กันกับบุคคลที่เก่งกาจ เขาใช้ได้มือได้เพียงแค่ข้างเดียว กำลังการสู้รบจะลดลงอย่างมาก
หมอหมดหนทางรักษากับเส้นเอ็นของฉินหรูเหลียง
หลิ่วเหมยอู่โศกเศร้าอีกทั้งยังเคียดแค้น
นางอยากไปแจ้งความเอาผิดเฉินเสียนเป็นอย่างมาก หญิงโหดเหี้ยมอำมหิตผู้นั้นคาดไม่ถึงว่าจะตัดเส้นเอ็นของท่านแม่ทัพ!
แต่ตั้งแต่นั้นมา กลัวว่าจะพัวพันมากขึ้น ประกอบกับฉินหรูเหลียงบังคับให้เฉินเสียนคลอดก่อนกำหนด ยังมียาถอนพิษสั่วเชียนโหวนั่น……ถึงขั้น ฉินหรูเหลียงพูดเปรยๆ เรื่องศัตรูเหล่านั้นที่จ้องดูเขา จะถือโอกาสกำจัดเขา
หลิ่วเหมยอู่รู้ว่าในนั้นมีคุณและโทษ ถ้าต้องการประคองสถานการณ์ปัจจุบัน เรื่องนี้จะบอกใครให้รู้ไม่ได้เลย
ถ้าไม่อย่างนั้นพอฉินหรูเหลียงล้ม ก็ยิ่งจะไม่มีผู้ใดคุ้มครองปกป้องนางได้แล้ว
หลิ่วเหมยอู่คิดไม่ถึงว่า จนถึงตอนท้ายเฉินเสียนจะยังอยู่อย่างปลอดภัยไม่ได้รับความสูญเสีย และสิ่งแลกเปลี่ยนทั้งหมดนี้คิดไม่ถึงว่าจะใช้มือของฉินหรูเหลียงมาแลก!
ถ้ารู้ก่อนว่าจะเป็นเช่นนี้ ตอนแรกนางควรจะพยายามแสดงละครนี้หรือไม่?
แต่ตอนนี้เสียใจภายหลังก็สายไปเสียแล้ว
หลิ่วเหมยอู่เกลียดชังเฉินเสียน แทบอยากจะให้เฉินเสียนตายจนไม่มีที่ฝังร่าง ทั้งหมดนี้เป็นเฉินเสียนที่ทำให้มันเกิดขึ้น!
ส่งหมอกลับแล้ว ภายในเรือนก็เงียบสงัดเป็นอย่างมาก
หลิ่วเหมยอู่ร้องไห้เป็นกังวลดูแลฉินหรูเหลียงอยู่ข้างกาย เขามีสีหน้าเหงาหงอยเซื่องซึม มองมือข้างซ้ายของตัวเองที่ห่อไว้อย่างเงียบๆ พยายามออกแรงยกขึ้น
หลิ่วเหมยอู่เงียบกล่าวขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ ต้องดีขึ้นมาอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ หมอบบอกว่าตอนนี้ยังไม่ให้ใช้แรง ต้องรอให้ค่อยๆคืนสู่สภาพเดิมเจ้าค่ะ”
ฉินหรูเหลียงยิ้มเจื่อนๆ ส่ายหัว กล่าวขึ้นว่า“เจ้ารู้ว่ารสชาตินี้คือสิ่งใดหรือไม่? รสชาติที่ต่อไปข้าต้องกลายเป็นคนพิการ”