เฉินเสียนหลุบตาลง ผูกสายรัดอย่างสงบไม่รีบร้อน
ใจของฉินหรูเหลียงสั่นไหว ยกมือขึ้นกอบกุมมือของเธอ
เฉินเสียนขมวดคิ้ว ระหว่างหัวคิ้วนั้นมีความรังเกียจ เธอกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า“’ทำตามประเพณีเท่านั้นเอง”
ครั้งแรกที่ฉินหรูเหลียงมีความกล้าหาญ กล่าวกับเฉินเสียนอย่างจริงจังว่า“เฉินเสียน ถ้าหากว่าท่านยังรอข้ากลับมา ถ้าหากว่าท่านยินยอมให้โอกาสข้า ต่อไป ข้ายินยอมที่จะปฏิบัติทำดีต่อท่าน ข้าก็สามารถที่จะปกป้องดูแลท่านได้ ไม่มีทางที่จะเป็นเพราะผู้อื่นและการเสียใจภายหลังอีก ข้าเคยปกป้องท่าน”
การเคลื่อนไหวของเฉินเสียนชะงัก เปิดเปลือกตาเงยขึ้นมองเขา
เขาอยู่ฝั่งที่แสงสะท้อนกลับ รู้สึกว่าปลอมไม่จริงเล็กน้อย
เฉินเสียนหัวเราะ น่าเสียดายที่ในแววตาไม่มีความรักความห่วงใยกับความอบอุ่นสักครึ่งหนึ่ง แล้วกล่าวขึ้นว่า“ฉินหรูเหลียง ท่านหลงรักข้าแล้วหรือ?”
จะจากกันอยู่รอมร่อ ครั้งนี้ฉินหรูเหลียงไม่ได้หลบหลีก กล่าวขึ้นว่า“อาจจะใช่ ข้าหลงรักท่านแล้ว”
“เช่นนั้นท่านฟังนะ ข้าเฉินเสียนชาตินี้ไม่มีทางหลงรักท่าน ต่อให้สุดท้ายโดดเดี่ยวลำบากเพียงลำพังชั่วชีวิตไม่ตายอย่างสงบ ก็ไม่มีทางตลอดไป ท่านลืมสิ่งที่ท่านพูดแล้ว แต่ข้ายังไม่ลืม ต่อให้วันไหนท่านคุกเข่าลงมา ข้าก็จะทำได้เพียงเหยียบย่ำท่านให้ต่ำที่สุด”
มือของฉินหรูเหลียงกำที่มือของเธอแน่นชั่วขณะไม่ปล่อยออก
เฉินเสียนยิ้มราวกับไม่มีอะไรแล้วกล่าวขึ้นว่า“วันนี้หากเหมยอู่อยู่ที่นี่ บางทีคำพูดเหล่านี้ท่านกับนางก็จะได้แสดงออกความในใจกันได้ แต่น่าเสียดาย ข้าไม่ได้ให้นางมา”
ฉินหรูเหลียงกล่าวว่า“ข้าไม่อยากมองดูแล้วเหมือนเป็นศัตรูกับท่านอีก ถ้าหากท่านปล่อยนางได้ ท่านลงมือเกลียดชังข้าได้เต็มที่ เรื่องอื่นอะไรก็ตามข้าสามารถไม่สนใจได้ ข้ามีเพียงข้อเรียกร้องเดียว ขอให้ช่วงนี้ท่านปล่อยนางเถิดนะ”
เฉินเสียนยักคิ้ว แล้วถามว่า“เช่นนั้นหลังจากที่ท่านไปแล้ว ข้าไม่ให้นางออกไปด้านนอกเป็นอย่างไร? ให้นางเคลื่อนไหวทำกิจกรรมอยู่บริเวณขอบเขตของสวนดอกพุดตาน ครึ่งก้าวก็ไม่สามารถก้าวออกมาได้”
ฉินหรูเหลียงกล่าวว่า“ได้”
“ท่านวางใจเถิด ท่านจะกลับมาได้หรือกลับมาไม่ได้ นางเป็นของท่านหนีไปไหนไม่ได้หรอก ข้านึกถึงมิตรภาพเก่าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าอย่างไรก็ตามไม่มีทางขายนางไปเป็นโสเภณีที่หอหมิงเยว์หรอก”
เฉินเสียนยื่นมือออกไป รวบรวมเสื้อคลุมตัวหนาบนตัวเขาเข้าด้วยกัน กล่าวอย่างจิตใจสงบว่า“ถ้าหากท่านไม่กลับมา ข้าก็จะส่งนางไปอยู่เป็นสหายท่าน ดีที่จะทำให้ท่านทั้งสองอยู่ด้วยกันรักกัน”
เสียงกลองดัง
เวลาการกล่าวลาจบแล้ว
สุดท้ายฉินหรูเหลียงมองเธอลึกๆ ไม่หยุดอยู่ชั่วคราวอีก หมุนตัวขึ้นแท่นสูง สาบานด้วยความจริงใจ คัดทหารออกศึก
เฉินเสียนมองกองทัพใหญ่มโหฬารค่อยๆเคลื่อนขบวนไกลออกไป สุดท้ายภาพสีดำยาวก็หายไปลับขอบฟ้า
อวี้เยี่ยนกล่าวขึ้นว่า“องค์หญิง พวกเรากลับเถิดเพคะ”
สรุปหลังจากกลับมาก็เจอหลิ่วเหมยอู่ร้องไห้โวยวายอยู่ในจวน
เฉินเสียนนึกขำขันแล้วกล่าวขึ้นว่า “ไม่รู้ว่าควรใช้วิธีอะไรทำให้เจ้าเป็นฝ่ายมาเอง”
ด้วยเหตุนี้เฉินเสียนเลยสั่งอย่างถึงที่สุดให้คนนำหลิ่วเหมยอู่ไปไว้ในสวนดอกพุดตานไม่ให้ออกมาด้านนอก ไม่มีคำสั่งของเธอห้ามออกจากสวนดอกพุดตานแม้เพียงครึ่งก้าว
ของกินของใช้ทุกอย่าง ล้วนแล้วแต่มีคนนำเอาไปส่งทั้งสิ้น
ผ่านไปวันหนึ่งแล้วก็มาวันหนึ่งคนรับใช้จวนแม่ทัพยังคงทำตามขั้นตอนเหมือนเดิม แต่ทันใดนั้นเฉินเสียนรู้สึกว่าจวนแม่ทัพนี้ว่างเปล่าเงียบไม่น้อยจริงๆ
ไม่มีฉินหรูเหลียงอยู่ตรงหน้าขวางหูขวางตา และก็ไม่มีหลิ่วเหมยอู่วางแผนการร้ายลับหลัง เฉินเสียนรู้สึกว่าการดำเนินชีวิตว่างมาก ว่างจนปวดไข่
ยังไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะฉลองตรุษจีนแล้ว จวนแม่ทัพนี้กำหนดว่าปีนี้จะฉลองแบบเรียบง่ายเงียบสงบ
ในระหว่างนั้น เฮ่อโยวพูดคำไหนคำนั้น ได้เชิญเฉินเสียนไปเดินเล่น พาหลิวอีกว้ากับอวี้เยี่ยนไปหอสุราดื่มกันสักมื้อ
หลังจากเทเหล้าใส่จอกไปสามครั้ง เฮ่อโยวดื่มจนเมาหัวปักหัวปำ เอามือวางบนไหล่เฉินเสียนต้องการจะพาเธอออกไปเดินเล่น
ผลสรุประหว่างเดินทางบังเอิญพบเข้ากับสาวงาม เดินมาตามทางชุดลอยตามลม ราวกับเทพเซียนบนสวรรค์
เฮ่อโยวเหลือบตามองไม่กระพริบ รู้สึกเพียงแค่สบายตาล้ำเลิศ ไม่ได้แบ่งจำแนกชายหญิง ลิ้นใหญ่ก็พรวดพราดผิวเป่าปากหยอกล้อฝั่งตรงข้าม
ฝั่งตรงข้ามชะงัก หมุนตัวกลับมา
เฉินเสียนมองเห็นหน้าตาเขาชัดเจน ตื่นตระหนกไปชั่วขณะ
เวลานี้อยากหลบหลีกก็ไม่ทันแล้ว ชัดเจนว่าซูเจ๋อเห็นเธอ หรี่ตาปริบๆ
เฮ่อโยวยิ่งผิวยิ่งฮึกเหิม ร้องเรียกขึ้นว่า“สาวสวย รีบมาสิ มาดื่มสุรากับคุณชายน้อย~”
เฉินเสียนออกแรงบิดเขา ดึงที่มุมปากแล้วกล่าวว่า“เลิกเป่าได้แล้ว ชวนเขาดื่มสุราท่านไม่สามารถสู้ได้……..”
แต่เฮ่อโยวไม่ฟัง เขายังฮึกเหิมกวักมือเรียกซูเจ๋อ “มาสิ รีบมาเร็วเข้าสิ~”
ขาทั้งสองของอวี้เยี่ยนอ่อนแรงลงแล้ว มองเห็นซูเจ๋อก้าวเข้ามาใกล้ทีละก้าว แล้วกล่าวขึ้นว่า“คุณ คุณชาย ทำอย่างไร ไม่เช่นนั้นพวกเราเผ่นก่อนไหม?”
เฉินเสียนรู้สึกว่าซูเจ๋อผู้ที่มานี้คิดไม่ดีอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ได้ผลักเฮ่อโยวไปบนตัวของหลิวอีกว้า แล้วกล่าวว่า“สหายหลิว ข้ามีธุระต้องไปก่อนแล้ว ท่านจำให้ได้นะว่าต้องนำคนผู้นี้ส่งกลับจวนอัครเสนาบดีด้วย!”
พูดจบไม่ได้รอให้หลิวอีกว้าตบปากรับคำ เฉินเสียนลากอวี้เยี่ยนหันตัวแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
รอจนซูเจ๋อเดินเข้ามาใกล้ เฮ่อโยวที่เมาหนักก็โผเข้าหาเอง ใช้สายตามองอย่างละเอียด ขมวดคิ้วขึ้นทำหน้าไม่พอใจแล้วกล่าวว่า“เมื่อครู่นี้เจ้าอยู่ตรงถนนด้านนั้นมองดูแล้วสวยงามมาก คิดไม่ถึงว่าพอมองใกล้ๆแล้วจะเป็นชายหนุ่ม!”
หลิวอีกว้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเย็นชาที่แพร่กระจายออกมาจากตัวซูเจ๋อ สร่างเมามากกว่าครึ่งหนึ่งในทันที เช็ดเหงื่อเย็นนั้นกล่าวขึ้นว่า“ขออภัยคุณชาย เขา ดื่มสุราเมาหนัก คุณชายอย่าได้ถือสาเห็นว่าการคิดอ่านเขาปกติเลยนะ”
“ผู้ใดบอกว่าคุณชายน้อยดื่มเมาแล้ว คุณชายน้อยไม่ได้เมา!”
ซูเจ๋อกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า“ไม่เป็นไร ข้าจำเขาได้ คุณชายรองของตระกูลเฮ่อเซียง”
“ฮ่าๆๆๆ……..ที่แท้เป็นสหายกัน…….”หลิวอีกว้าหัวเราะแห้งๆ เช่นนั้นเมื่อครู่เหตุใดทั้งสองคนนั้นเห็นเขาแล้วเผ่นหนีราวกับเห็นผีนะ
ต่อมาก็เป็นซูเจ๋อที่นำเฮ่อโยวกลับมาส่งที่จวนอัครเสนาบดีด้วยตนเอง
กล่าวกันว่าเวลานั้นเฮ่อเซียงเชิญเขาเข้ามาห้องโถง อีกด้านเขาชิมรสน้ำชา อีกด้านก็มองดูเฮ่อเซียงยกมือตีเฮ่อโยว
เฮ่อเซียงทั้งตีทั้งด่า “ลูกไม่รักดี!ลูกอกตัญญู!เจ้าก่อความวุ่นวายแล้ว!คาดไม่ถึงว่าขนาดบัณฑิตเจ้ายังกล้าลวนลาม ดูว่าวันนี้ข้าจะตีเจ้าตายไหม!”
เฮ่อโยวสร่างเมาแล้ว เหลือบมองท่าทางสบายอกสบายใจไม่ใส่ใจของซูเจ๋อ ยังกล้ารู้สึกว่าเขาสวยที่ไหนกันเล่า น่ารักเกียจเป็นอย่างมากเลย!
ต่อมาเฉินเสียนทราบเรื่องนี้ ยึดมั่นรู้สึกว่าช่วงนี้ไม่เจอหน้ากันกับซูเจ๋อจะดีกว่า หลีกเลี่ยงตัวเองจะโชคร้าย
อวี้เยี่ยนกล่าวขึ้นว่า“บ่าวกลัวใต้เท้าซูเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว องค์หญิงเหมือนว่าก็กลัวใต้เท้าเช่นกันนะเพคะ?”
“ข้ากลัวเขา?”เฉินเสียนหนังตากระตุกกล่าวว่า“เขาไม่ใช่เสือ ข้าจะกลัวเขาทำไมเล่า?”
“แต่ใต้เท้าซูทำให้คุณชายรองเฮ่อโยวถูกท่านพ่อของเขาตีหนึ่งยกเลยนะเพคะ ได้ยินมาว่าตอนที่คุณชายรองถูกตี ใต้เท้าซูยังดื่มชาอยู่ด้านข้างอย่างสบายอารมณ์”
เฉินเสียนกล่าวอย่างจนปัญญาว่า“เป็นคุณชายรองเฮ่อนั่นไม่ซื่อตรงก่อน ผิวเป่าปากไปมั่วหมด คนอย่างซูเจ๋อนะ เขาก็ยังกล้าลวนลาม?ถึงอย่างไรข้าองค์หญิงก็ไม่ได้ลวนลามเขา เขาอยากจะโมโหก็ไม่สามารถโมโหมาถึงข้าได้หรอกนะ”
เฉินเสียนหันมาเล่นกับเจ้าน่องน้อย
แต่มีบางเรื่อง เธอไม่รู้ว่าพบเจอซูเจ๋อแล้วเธอควรจะเอ่ยปากว่าอย่างไร
วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า เฉินเสียนได้รับข่าว บอกว่าช่วงเวลาพลบค่ำเหลียนชิงโจวจะเดินทางถึงเมืองหลวง ถึงเวลานั้นจะเชิญเฉินเสียนไปสังสรรค์ที่ริมแม่น้ำหยางชุน
เฉินเสียนมีความสุขเป็นอย่างมาก เหลียนชิงโจวยังนับว่ารักษาคำพูด สามารถรีบเร่งกลับมาทันวันสุดท้ายของปีนี้ได้
ไม่กี่คืนมานี้ ภายในเมืองหลวงเฉลิมฉลองเคลิบเคลิ้มกับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ถนนหนทางยามค่ำคืนเทียบกับตอนปกติครึกครื้นอยู่บ้าง
ตอนบ่าย อวี้เยี่ยนรับใช้เปลี่ยนชุดหวีผมให้กับเฉินเสียน
อวี้เยี่ยนไปหยิบชุดตามปกติที่เมื่อก่อนเวลาเฉินเสียนออกไปข้างนอกจะสวมใส่เป็นชายหนุ่ม แต่ทว่าครั้งนี้เฉินเสียนกล่าวว่า“เอาชุดผู้หญิงที่ใส่อยู่เป็นประจำนะ”