เซียงซั่นน้ำตาคลอ “นายหญิงต้องลำบากเกินไปแล้ว เห็นนายหญิงต้องทำตัวเองจนเป็นแบบนี้แล้วบ่าวเจ็บปวดใจเหลือเกิน…”
หลิ่วเหมยอู่บอกว่า “ไม่เป็นไร อีกสองวันก็หายแล้ว”
“ทั้งหมดเป็นเพราะองค์หญิงอัปลักษณ์นั่นแท้ๆ!” เซียงซั่นเอ่ยอย่างโหดเหี้ยม “ถ้าไม่ใช่เพราะนาง นายหญิงคงไม่เป็นแบบนี้! โชคดีที่ท่านแม่ทัพเอาใจใส่และจัดการนางปากบอนนั่นแทนนายหญิง”
หลิ่วเหมยอู่ตอบว่า “ใช่ ถ้าไม่ใช่เพราะได้รับความโปรดปรานจากท่านแม่ทัพ ข้าคงไม่คิดจะทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวเช่นนี้ แล้วตอนนี้สถานการณ์ที่สวนสระวสันตฤดูเป็นอย่างไรบ้าง”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลิ่วเหมยอู่ถาม สีหน้าของเซียงซั่นก็เต็มไปด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ นางกล่าวว่า “นายหญิง ท่านแม่ทัพยังคงรักนายหญิงมากที่สุดเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่านางแพศยานั่นไปท้องกับใครมา บางทีเด็กเวรนั่นอาจจะไม่ใช่ลูกของท่านแม่ทัพก็ได้ นายหญิงอย่าใส่ใจไปเลยเจ้าค่ะ แม้ว่าเด็กนั่นจะเกิดมา ท่านแม่ทัพก็ไม่มีวันชายตามอง และมันจะกลายเป็นหมาหัวเน่า!”
เซียงซั่นรู้ว่าเด็กที่อยู่ในท้องของเฉินเสียนเป็นปมในใจของหลิ่วเหมยอู่มาโดยตลอด
ถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของฉินหรูเหลียงจริงๆ แสดงว่าฉินหรูเหลียงแอบทำตัวใกล้ชิดกับเฉินเสียนลับหลังหลิ่วเหมยอู่ ปากจะบอกว่ารังเกียจนางโง่ผู้นั้นมาก แต่ความจริงเขากลับต้องการร่างกายของนาง!
แต่หลังจากที่ฉินหรูเหลียงรู้ว่าเขากำลังจะมีลูก เขากลับไม่เคยแสดงท่าทีว่าเขามีความสุขเลย
หลิ่วเหมยอู่พยายามปลอบใจตัวเองว่ามันอาจจะเป็นเพราะความอดใจไม่ไหวชั่วประเดี๋ยวตามประสาผู้ชาย ดังนั้นจึงทำเรื่องผิดพลาดลงไป
เซียงซั่นหยุดไปนิดหนึ่งก่อนจะพูดอีกครั้งอย่างโหดร้ายเช่นเดิม “ท้องแล้วยังไงล่ะ ถึงอย่างไรท่านแม่ทัพก็ไม่มีทางเมตตาต่อเด็กในท้องของนาง บ่าวได้ยินมาว่าท่านแม่ทัพบุกเข้าไปที่สวนสระวสันตฤดู ไม่เพียงแต่ตบหน้านางหญิงชั้นต่ำนั่นไปสองสามทีจนหน้าบวม แต่ยังใช้ขอบโต๊ะกระแทกไปที่ท้องของนางด้วย ตอนนั้นเห็นว่าตกเลือดด้วยนะเจ้าคะ”
คิ้วของหลิ่วเหมยอู่คลายออก
ทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่เฉินเสียนร้องขอ!
เซียงซั่นยังพูดอีกว่า “สวนสระวสันตฤดูเชิญหมอมารักษา จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้หยุดพัก นางแพศยานั่นยังนอนอยู่บนเตียงไม่ยอมฟื้น ไม่แน่เด็กนั่นอาจจะไม่รอดแล้วก็ได้ นายหญิง ท่านแม่ทัพจัดการกับนางคนต่ำช้านั่นอย่างไร้ความปราณี ทั้งยังตั้งใจจะฆ่าเด็กนั่นด้วยมือของท่านเองโดยไม่มีความอาลัยอาวรณ์เลยแม้แต่น้อย นายหญิงเป็นผู้ที่อยู่ในใจของท่านแม่ทัพมาโดยตลอดนะเจ้าคะ บ่าวได้ยินมาว่าหลังจากกลับไปที่เรือนหลักแล้ว ท่านแม่ทัพยังคงโกรธจัดและเป็นเดือดเป็นแค้นอยู่ในห้องตำรา”
เฉินเสียนหลับไปหลายวันและตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันอันยาวนาน
ภาพฝันส่วนใหญ่ที่ปรากฏขึ้นเป็นภาพตอนที่เธออยู่ในวงการบันเทิงในชาติก่อนและมันแลดูเหมือนการเดินชมโคมไฟอยู่บนหลังม้า เธอก้าวเข้าไปสู่แสงไฟทีละขั้นๆ อย่างแข็งขันด้วยความสามารถของตัวเองและกลายเป็นจุดสนใจของมวลมหาชน
เฉินเสียนอดคิดไม่ได้ว่าเหตุผลที่เธอฝันถึงสิ่งเหล่านี้อาจเป็นเพราะทุกสิ่งในชาติก่อนเป็นเพียงกลุ่มควันที่พัดผ่านซึ่งเธอหวนกลับไปหามันไม่ได้อีกแล้ว
วิญญาณของเธอจมดิ่ง ดิ่งลงไปในหุบเหวที่ทั้งลึกและหนักหนาสาหัส จากนั้นเธอก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ในชาตินี้เธอคือเฉินเสียน คืออดีตองค์หญิงจิ้งเสียนผู้ตกอับแห่งดินแดนต้าฉู่ ทั้งยังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่ในจวนแม่ทัพและต้องดิ้นรนอย่างยากเข็ญในฐานะภรรยาของเขา
ทว่าในชาตินี้เธอยังมีโอกาสก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดด้วยความแข็งขัน เธอยังสร้างความวุ่นวายให้จวนแม่ทัพแห่งนี้ได้!
ในที่สุดเฉินเสียนก็ยินดีที่จะลืมตาตื่น อวี้เยี่ยนที่เฝ้ารออยู่ข้างเตียงของเธอทุกวันโดยไม่มีเวลาแม้แต่จะพักผ่อนเห็นดังนั้นก็อดร้องไห้ไม่ได้ นางเกาะขอบเตียงของเฉินเสียนและร้องไห้โฮยกใหญ่ด้วยความดีใจ คำพูดต่างๆ พรั่งพรูออกมา “ในที่สุดองค์หญิงก็ฟื้นแล้ว ถ้าองค์หญิงยังไม่ฟื้นขึ้นมา อวี้เยี่ยนผู้นี้จะขอชดใช้ด้วยความตาย… ทั้งหมดเป็นความผิดของบ่าว…”
ใบหน้าของสาวน้อยผู้นี้เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า นางตกอยู่ภายใต้ความรู้สึกที่กดดันจนถึงขีดสุด และในที่สุดทุกอย่างก็พังทลายลงมา น้ำตาของนางไหลรินเป็นสายราวกับแม่น้ำหวงที่เชี่ยวกราก
เกิดความรู้สึกอบอุ่นขึ้นในใจของเฉินเสียนอย่างฉับพลัน
เธอยกมือขึ้นและลูบหลังของอวี้เยี่ยน ขอบตาของเธอแดงขึ้นเล็กน้อยและเอ่ยอย่างงัวเงียปนเกียจคร้านว่า “จะร้องไห้อะไรหนักหนา องค์หญิงอย่างข้าแค่งีบหลับไปเท่านั้น ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะร้องไห้ อวี้เยี่ยน ต่อไปนี้เจ้าจะต้องหัวเราะ และอย่าหยุดหัวเราะจนกว่าเรื่องนี้จะจบ เข้าใจไหม”
อวี้เยี่ยนรีบพยักหน้ารับ “เพคะ… หม่อมฉันเข้าใจเพคะ…”
แม่บ้านจ้าวเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางไม่รอช้าและรีบออกไปตามหมอมาตรวจร่างกายอีกครั้ง
หมอกล่าวว่า “อาการขององค์หญิงยังไม่น่าวางใจ ต้องนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงอย่างระมัดระวังก่อน” จากนั้นเขาก็เขียนใบใบสั่งยาให้และให้แม่บ้านจ้าวไปซื้อยาสมุนไพรมาต้ม
อวี้เยี่ยนคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายอย่างระมัดระวัง
เฉินเสียนควรจะพักผ่อนให้เต็มที่ พอมีเวลาว่างเธอจะสั่งให้อวี้เยี่ยนไปหยิบหนังสือมาให้เธออ่านที่เตียง
เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่หมอหลวงจากพระราชวังมาที่จวนแม่ทัพเพื่อตรวจร่างกายของเฉินเสียน
ฉินหรูเหลียงกลับมาในวันนี้และพาหมอหลวงคนหนึ่งกลับมาด้วย
นี่คือพระประสงค์ขององค์จักรพรรดิ