ข้าคือหงส์พันปี – ตอนที่ 386 ทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงเล่น ๆ

เขาเหลือบมองเฉินเสียนและกล่าวว่า “ในเมื่อแสร้งป่วยเหมือนจักจั่นเพื่อหลบหนีไม่ใช่วิธีการที่ดี งั้นข้าก็จะเข้าวังไปเพื่อสารภาพผิด ท่านไม่ต้องเป็นกังวลแทนข้า ร้ายแรงที่สุดก็เข้าคุก หากองค์จักรพรรดิต้องการชีวิตของข้า ก็ควรจะมีเหตุผลมาโน้มน้าว”

แต่ก่อนที่ฉินหรูเหลียงชนะศึกสงคราม เขากลับมาเมืองหลวงก็ไม่ได้ประพฤติผิดใด ๆ จักรพรรดิต้องการให้เขาลอบสังหารเฉินเสียนอย่างลับ ๆ ตอนนี้จักรพรรดิยังไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมจะตัดศีรษะเขาทิ้ง

เฉินเสียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า “ภายในจวนไม่ใช่ว่ามีผู้สอดแนมหรอกเหรอ รอวันพรุ่งนี้ กระจายข่าวคราวออกไป บอกว่าท่านป้อนซุปไก่ให้ข้า และข้าได้พบสิ่งแปลกปลอมในซุป ข้าเลยโมโหท่าน ในเมื่อซุปนี้มีพิษ ข้าก็ไม่ต้องดื่ม และท่านก็ไม่ต้องรับผิดในครั้งนี้”

ด้วยวิธีนี้ เฉินเสียนก็สามารถนำเรื่องทั้งหมดเข้าสู่ตัวเธอเอง ฉินหรูเหลียงไปพบองค์จักรพรรดิต่อหน้า อย่างมากก็แค่ถูกองค์จักรพรรดิตำหนิไม่กี่คำ เพราะวางยาพิษไม่สำเร็จแต่ถูกจับได้เสียก่อน

“ไม่ได้!” เฉินหรูเหลียงปฏิเสธในทันที “ต่อให้ครั้งนี้จักรพรรดิจัดการเจ้าไม่สำเร็จ ครั้งหน้าเขายังคงสามารถใช้วิธีการอื่น! ถึงตอนนั้นแล้วจะป้องกันยาก”

เฉินเสียนสงบลงพร้อมกล่าวว่า “ป้องกันยาก งั้นข้าจะป้องกันให้ดีที่สุด ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ท่านตกระกำลำบากเพราะข้า”

ฉินหรูเหลียงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เฉินเสียน เจ้าอย่าทำอะไรโดยพลการ”

เฉินเสียนหัวเราะและกล่าวว่า “ฉินหรูเหลียง ท่านเป็นหัวหน้าครอบครัว ท่านคิดให้ละเอียดรอบคอบ หรือจะให้พวกเขาทั้งครอบครัวต้องจากไป ไม่มีแม้ที่อยู่อาศัยงั้นหรือ?”

ฉินหรูเหลียงขมวดคิ้ว ไม่รอเขาตอบ จู่ ๆ เฉินเสียนก็เปลี่ยนสีหน้า นำถ้วยซุปไก่โยนลงไปและตะโกนว่า “อวี้เยี่ยน เอ้อร์เหนียง ไล่เขาออกไป!”

จู่ ๆ ก็เปลี่ยนแปลงอารมณ์เป็นแบบนี้ ทำให้ฉินหรูเหลียงไม่ทันได้ตั้งตัว ป้องกันยาก

ขณะที่ฉินหรูเหลียงถูกไล่ออกจากสวนสระวสันตฤดูนั้น เขามองไปที่เฉินเสียนด้วยแววตาหึงหวง กัดฟันและพูดอย่างเบา ๆ “เจ้าไม่ได้บอกเองว่าพรุ่งนี้จะปล่อยข่าวหรอกหรือ แล้วตอนนี้เจ้าจะอาละวาดโวยวายทำไม!”

เฉินเสียนถีบไปที่ฉินหรูเหลียงก่อนที่เขาจะออกจากประตูไป ยักคิ้วขึ้นและยิ้ม “ก็ต้องให้เหมือนตอนนี้ที่ท่านยังไม่ทันตั้งตัว ดูแล้วสมจริงสมจังยิ่งนัก”

หลังจากนั้นเฉินเสียนก็ร้องไห้อย่างหนักอยู่ที่สวนสระวสันตฤดู และตะโกนด่าฉินหรูเหลียง คนเนรคุณ จิตใจเหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่า อกตัญญู และอีกมากมาย จะด่าออกมายังไงก็รู้สึกคล่องปาก

ฉินหรูเหลียงที่อยู่ข้างนอกได้ยินจนเส้นเลือดแทบกระโดด

ผู้หญิงคนนี้จะด่าจนสะใจสินะ ด่าจนเขาแทบกระอักเลือด ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า เธอกำลังแก้แค้นเขาเป็นการส่วนตัวแน่ ๆ

ทำให้คนในจวนแม่ทัพทั้งหลายต่างพากันสับสน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น

ก่อนหน้านี้ยังดี ๆ กันอยู่เลย ความสัมพันธ์ของท่านแม่ทัพและองค์หญิงช่างแนบแน่น องค์หญิงยังรอท่านแม่ทัพกลับมาทานอาหารเย็น และท่านแม่ทัพก็ยังเป็นคนไปส่งซุปไก่ให้องค์หญิงด้วยตัวเอง ทุกคนต่างพากันดีใจ

ตอนนี้ไม่มีแล้วนางหญิงรอง บรรดาคนใช้ต่างก็เอาอกเอาใจช่วยอยากจะให้ท่านแม่ทัพและองค์หญิงคืนดีกันไว ๆ จนถึงขั้นอยากจะให้ทั้งสองย้ายไปอยู่ในเรือนเดียวกันเร็ว ๆ

แต่นี่เพิ่งจะผ่านมาได้สองวัน ไม่คาดคิดเลยว่าจะทะเลาะกันรุนแรงเช่นนี้

ในช่วงเช้า ข่าวได้ถูกแพร่กระจายไปทั่วทั้งจวนแม่ทัพ จนแทบทำให้เกิดความโกลาหล

ใครจะไปคาดคิด นายหญิงรองถึงแม้จะถูกขับไล่ออกจากจวนแม่ทัพไปแล้วนั้น แต่ในใจของท่านแม่ทัพยังคงคิดถึงเธออยู่! ว่ากันว่าท่านแม่ทัพโกรธแค้นที่องค์หญิงขับไล่นายหญิงรองออกไปจากบ้าน เลยวางยาพิษในซุปไก่ไปส่งให้องค์หญิง! เพราะอยากให้องค์หญิงกินยาพิษตายไป!

ถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงไม่ระวังตัว ทำให้มีแมวป่าจากที่ไหนไม่รู้มาแอบขโมยกินซุปไก่เข้าไป องค์หญิงก็คงไม่รู้ว่าในซุปมียาพิษ

สรุปว่าแมวตัวนั้นยังไม่ทันออกจากสวนสระวสันตฤดู ก็ถูกยาพิษตายไป

ใครก็ไม่เคยเห็นแมวตัวนั้น ว่ากันว่าถูกนำไปโยนทิ้งแล้ว

ทุกคนต่างถอนหายใจ

ที่แท้แล้ว ท่านแม่ทัพยังคงคิดถึงนายหญิงรองอยู่ โทษองค์หญิงที่ขับไล่นายหญิงรองออกไป?

วันนั้นฉินหรูเหลียงออกมาจากสวนสระวสันตฤดูด้วยสีหน้าที่แข็งกระด้าง ปากก็เอาแต่พูด “บ้าไร้เหตุผล” “อิจฉาตาร้อน” คำพวกนี้

เห็นได้ว่าเขาและองค์หญิงทะเลาะกันอย่างรุนแรง

เฉินเสียนยังโวยวายว่าจะไปแจ้งขุนนาง จะนำเศษกระดูกไก่ที่หลงเหลือจากที่โยนถ้วยทิ้ง เพื่อส่งไปตรวจสอบยาพิษที่จวนขุนนาง

หากว่าเรื่องนี้ถูกแพร่กระจายออกไปสู่คนภายนอกคงดูไม่ดี

บรรดาหญิงชราในจวนต่างพากันมาพูดเกลี้ยกล่อม ประหนึ่งว่าท่านแม่ทัพไม่ทันยั้งคิด เลยทำเรื่องแบบนี้ขึ้น องค์หญิงได้โปรดเมตตาไม่เอาความใด ๆ

เฉินเสียนแสดงอารมณ์โกรธเกรี้ยวอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ หยุดลง และเริ่มปาดน้ำตาเล่าเรื่องราวความลำบากคับข้องใจในอดีตที่ผ่านมา

ผู้ฟังต่างพากันสะอึกสะอื้น

ฉินหรูเหลียงโกรธมากที่จู่ ๆ เขาต้องกลายมาเป็นคนผิด ฟ้าดินรับรู้เพียงแค่เฉินเสียนพูดแค่คำเดียว เขาก็แทบทนไม่ไหวที่จะปฏิบัติปรนเปรอต่อเธอผู้เดียวไปจนถึงชาติหน้า

ผู้หญิงคนนี้ แม้ตอนนาทีที่เธอทำลายชื่อเสียงของเขา เธอไม่แม้แต่จะกะพริบตาเลยสักนิดเดียว

แต่หลังจากนั้น เฉินเสียนก็ไม่กล้าที่จะรับซุปบำรุงใด ๆ ทั้งสิ้น ขนาดอาหารสามมื้อ ยังต้องถูกตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีกเพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าไม่มียาพิษ ถึงจะกล้ารับประทาน

หากเป็นเช่นนี้ โสมและหลีหลูก็คงไม่มีโอกาสเข้าไปอยู่ในท้องของเฉินเสียน

พ่อบ้านมาหาฉินหรูเหลียง และกล่าวอย่างระมัดระวัง “คราวก่อนที่ท่านแม่ทัพให้บ่าวตรวจสอบผู้สอดแนมในจวน บ่าวได้ตรวจสอบแล้ว ในห้องครัวมีอยู่หนึ่งคน ลานห้องโถงมีสองคน และยังมีที่หน้าเรือนอีกสองคน ทั้งหมดไม่ใช่คนเก่าคนแก่ของจวน เข้ามาที่จวนเมื่อครึ่งปีก่อนที่ท่านแม่ทัพและองค์หญิงไม่อยู่”

ใบหน้าของฉินหรูเหลียงเย็นชา

“ท่านแม่ทัพ ตอนนี้ควรทำเช่นไร? หรือต้องการให้บ่าวไล่พวกเขาออกไป?” พ่อบ้านถาม

“ไม่ต้องไล่ออกไป” ฉินหรูเหลียงตอบ “รู้ว่าเป็นใครบ้างก็ได้แล้ว ยังไม่ต้องแหวกหญ้าให้งูตื่น”

ครั้งนี้ฉินหรูเหลียงไม่สามารถปฏิบัติตามความปรารถนาขององค์จักรพรรดิได้ ครั้งหน้าก็ไม่อาจรู้ได้ว่าองค์จักรพรรดิจะหาใคร และใช้วิธีการอย่างไร

ฉินหรูเหลียงหัวเสียเอามาก เขาไม่ต้องการให้เฉินเสียนรับเรื่องทั้งหมดไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่ตอนนี้เรื่องดันมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็เหมือนเป็ดที่ถูกไล่ลงจากหิ้ง

เขาที่เป็นผู้ชายไม่เอาไหน ถูกเฉินเสียนด่าว่าเป็นผู้ชายที่ทรยศต่อคนรัก ฟังจนหูแทบจะได้ยินเสียงรังไหม

ก่อนที่พ่อบ้านจะออกไปก็ได้พูดเกลี้ยกล่อมเขา “ท่านแม่ทัพ องค์หญิงเป็นคนเจ้าอารมณ์ บ่าวขอร้องท่าแม่ทัพอย่าได้ทำให้องค์หญิงลำบากใจเลย หากไม่ใช่เพราะองค์หญิงเดินทางไปทางตอนใต้…”

ฉินหรูเหลียงจ้องมองไปที่พ่อบ้านอย่างเย็นชาและถามว่า “สรุปแล้วเจ้าเป็นพ่อบ้านของเธอหรือของข้า?”

พ่อบ้านตอบ “บ่าวแค่คิดว่า บ้านหลังนี้ไม่ว่าท่านแม่ทัพหรือองค์หญิง ก็ขาดใครไปไม่ได้…”

ฉินหรูเหลียงรู้สึกหม่นหมองอย่างมิอาจอธิบายได้

ตอนนี้จิตใจของเฉินเสียนก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ ยากที่จะพูดถึงอนาคตข้างหน้า

นับจากนี้ไม่ช้าก็เร็วจวนแม่ทัพก็ไม่สามารถรักษาเฉินเสียนไว้ได้

พ่อบ้านตอบกลับ “ส่วนเรื่องที่องค์หญิงด่าว่าไปนั้น ท่านแม่ทัพโปรดอย่าเก็บมาคิด ลดการฟังลงก็จะดี”

ฉินหรูเหลียงเอามือไพล่หลัง ตอบอย่างเบา ๆ “เธอชอบด่า ก็ปล่อยให้เธอมีความสุขไป”

ว่ากันว่าฉินหรูเหลียงไม่เพียงทรยศต่อคนรัก เขายังเจ้าชู้อีกด้วย

เขามีนิสัยอย่างนี้ทำไมตัวเขาเองจะไม่รู้ ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินจากปากคนอื่น

ข้าคือหงส์พันปี

ข้าคือหงส์พันปี

องค์หญิงเฉินเสียนผู้โง่เขลา ถูกไล่ออกจากจวน ถูกทำให้เสียโฉม และยังมีทารกอยู่ในท้องของเธอ! ในวันที่สามีของเธอแต่งงานกับอนุภรรยา เธอมาแสดงความยินดี จัดการกับอนุคนใหม่อย่างรุนแรง และทำให้แขกในงานต่างตกใจ อนุคนใหม่ที่คิดว่าเธอเป็นเช่นไก่ที่อ่อนแอ? แต่ไม่คิดว่าจะสามารถต่อกรกับเธอได้?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset