เมื่อพูดธุระเสร็จสิ้น และส่งเฮ่อโยวออกไป กงกงคนสนิทขององค์จักรพรรดิกล่าวว่า “หม่อมฉันคิดว่าเฮ่อโยวอ่อนวัยเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”
องค์จักรพรรดิยิ้มออกมาอย่างคาดไม่ถึง และตรัสว่า “ครั้งก่อนไม่ได้พูดหรอกหรือ เขาเป็นคนเอาจริงเอาจัง แค่ทดลองก็สามารถรู้ได้”
ครั้งนี้ฉินหรูเหลียงได้เข้าไปอยู่ที่ศาลยุติธรรมต้าหลี่ และบุคคลผู้ที่รับผิดชอบในการพิจารณาคดีของของเขาก็คือเฮ่อฟังที่อยู่ในตำแหน่งรองเสนาบดีแห่งศาลยุติธรรมต้าหลี่
เฮ่อฟัง จัดการกับรายงานลับที่ถูกส่งมาจากเขตชายแดนสงคราม และมาซักถามกับฉินหรูเหลียงทีละเรื่อง ไม่เพียงแค่สูญเสียในการศึกสงคราม ยังรวมไปถึงจ้าวเทียนฉีและรองแม่ทัพทั้งหลายของเขาที่ตายไป
ไม่ว่าเฮ่อฟังจะข่มขู่หรือล่อลวงยังไง ฉินหรูเหลียงก็ยืนยันว่าเป็นเพราะจ้าวเทียนฉีกระทำการศึกล่าช้า ทำให้เขาและทหารทั้งหลายถูกกำลังพลของทหารฝ่ายตรงข้ามเข้าปิดล้อม ต่อมาจ้าวเทียนฉีไม่ยอมรับกับความพ่ายแพ้นี้ เลยนำกำลังพลเข้าโจมตีเย่เหลียง เลยทำให้เขาและกำลังพลทั้งหมดถูกกำจัดลง
แต่เพราะความตายของจ้าวเทียนฉี ทำให้คำพูดของฉินหรูเหลียงฟังดูไม่มีหลักฐาน
เฮ่อฟังสั่งให้คนมาถอดชุดเสนาบดีของฉินหรูเหลียงออก และนำตัวเขาไปที่ห้องสอบสวนโดยใช้เครื่องทรมานของศาลยุติธรรมต้าหลี่
ภายในห้องสอบสวนโดยใช้เครื่องทรมานมีแสงที่มืดสลัว เฮ่อฟังกล่าว “ท่านแม่ทัพใหญ่น่าจะรู้เหตุผลที่องค์จักรพรรดิส่งท่านมาที่ศาลยุติธรรมต้าหลี่”
ฉินหรูเหลียงตอบ “ก็แค่อยากรู้รายละเอียดของการทำศึกสงครามตามแนวชายแดนไม่ใช่หรือ ข้าก็เล่าให้ฟังไปหมดแล้วอย่างละเอียด”
เฮ่อฟังหัวเราะเยาะ และกล่าว “แค่เพียงเท่านี้หรือ? ท่านแม่ทัพฉินก็ไม่ใช่คนโง่ ทำไมจะไม่เข้าใจ? ท่านแม่ทัพพ่ายแพ้การศึกสงคราม หนำซ้ำยังสูญเสียมือทั้งสองข้าง องค์จักรพรรดิมีหรือจะปล่อยให้คนไร้ประโยชน์อยู่ในตำแหน่งแม่ทัพใหญ่แห่งต้าฉู่ นี่ไม่ใช่ทำให้ประชาชนทั่วหล้าต่างพากันหัวเราะเยาะหรอกหรือ”
“ข้าไม่ได้อยากที่จะอยู่ในตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ไม่ปล่อยวาง ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่นี้ ควรมอบให้แก่ผู้มีความสามารถเข้ามารับตำแหน่ง”
“แต่สิ่งนี้แสดงถึงความเมตตากรุณาและความยุติธรรมของท่านแม่ทัพ ก็แสดงว่าองค์จักรพรรดิไม่มีความเมตตากรุณาและความยุติธรรมแล้วหรือ” เฮ่อฟังพูดอย่างไม่รีบร้อน “องค์จักรพรรดิไม่ผิด และไม่มีทางที่จะขอโทษท่านก่อน นี่ก็แสดงว่าคนที่ผิดก็มีเพียงท่านเท่านั้น”
ขณะที่เขาพูด เฮ่อฟังหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งมาไว้ข้างหน้าฉินหรูเหลียง มันถูกเขียนด้วยหมึกดำอย่างชัดเจน
ฉินหรูเหลียงมองดู ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปและเม้มปากพร้อมกับกล่าว “ไม่มีเรื่องราวทั้งหมด ข้าจะยอมรับได้อย่างไร?”
“ท่านแม่ทัพใหญ่ เรื่องการศึกสงครามก็จบลงไปแล้ว ท่านแค่ยอมรับผิดก็ไม่มีอะไรแล้ว ก็แค่บกพร่องด้านการศึกสงคราม ทำให้มีคนตายเป็นจำนวนมากก็เท่านั้น องค์จักรพรรดิทรงยังนึกถึงความสัมพันธ์ที่ดีในวันเก่า ไม่ทำให้ท่านลำบากใจไปหรอก”
ฉินหรูเหลียงมองไปที่เฮ่อฟังด้วยความโกรธจัด และกล่าวว่า “หากข้ายอมรับ นั่นไม่เพียงแค่การทำศึกสงครามบกพร่อง แต่นั่นหมายถึงคนบาปที่ถูกสาปแช่งไปชั่วโคตรแห่งต้าฉู่! ใต้เท้าเฮ่อ ท่านต้องการสอบสวนข้าก็พร้อมทุกเมื่อ แต่ท่านจะนำข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นจริงมาโยนใส่ข้า อย่าได้คิด!”
“ในเมื่อพูดด้วยดี ๆ ไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ” เฮ่อฟังเปลี่ยนสีหน้า และทำสายตาเป็นสัญญาณให้คนทางซ้ายและขวา และสั่งให้คนนำโซ่มาคล้องมือของเขาไว้ และกล่าวว่า “ท่านให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของท่านมากกว่าองค์จักรพรรดิงั้นหรือ? ตามรายงานสถานการณ์การศึกสงครามของจ้าวเทียนฉีก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เป็นท่านเองที่ใช้หินก้อนกรวดทุบทหารจนเสียชีวิต และจบลงด้วยความพ่ายแพ้สงคราม”
ฉินหรูเหลียงพยายามที่จะหักโซ่ที่ข้อมือ เฮ่อฟังเอาไม้พลองที่อยู่ข้าง ๆ มาทุบลงที่เข่าทั้งสองข้างของเขา จนทำให้เขาคุกเข่าล้มลงกับพื้น
ฉินหรูเหลียงเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เฮ่อฟังอย่างเยือกเย็นและเกรี้ยวกราด “ท่านจะให้ยอมสารภาพผิด ด้วยเพราะทนถูกทรมานไม่ไหว?”
เฮ่อฟังมองไปที่ข้อความบนกระดาษและกล่าวว่า “เมื่อท่านเห็นว่าเหล่าทหารพ่ายแพ้ ก็เกิดความคิดจะล่าถอย ทิ้งชุดเกราะเพื่อต้องการจะหลบหนี แต่คาดไม่ถึงว่าสุดท้ายไม่เพียงแค่หนีไม่พ้น ยังถูกเย่เหลียงจับตัวไป หลังจากที่ตกไปเป็นเชลยของเย่เหลียงแล้ว ท่านก็เกิดอาการกลัวตาย โลภมาก เลยขอร้องให้เย่เหลียงปล่อยข่าวการเป็นเชลยศึกมาที่ต้าฉู่ เพราะหวังว่าต้าฉู่สามารถช่วยชีวิตท่านได้ เป็นแบบนี้ใช่ไหม?”
“ไม่ ใช่” กล่าวอย่างเด็ดขาดและกัดฟันกรอด
เฮ่อฟังถือไม้เท้าด้วยตัวเขาเอง ปัดไปที่หน้าอกของฉินหรูเหลียงสองสามครั้ง ฉินหรูเหลียงถอนหายใจสองครั้ง แต่เฮ่อฟังหอบเล็กน้อยและกล่าวว่า “หากท่านยอมรับ ยังสามารถลดความเจ็บปวดทางผิวหนังลงได้ แต่ต่อให้ท่านไม่ยอมรับ ฉินหรูเหลียง ท่านยังคิดว่าท่านสามารถเป็นแม่ทัพใหญ่ได้อีกงั้นหรือ? ท่านเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ท่านคิดว่าท่านจะทำอะไรได้?”
“ต่อให้ข้าไม่สามารถทำอะไรได้เลย ก็ไม่ใช่ตาของท่านที่เป็นเพียงคนทรยศประจบสอพลอมากำเริบเสิบสาน”
เฮ่อฟังมองดูสองมือของฉินหรูเหลียง หัวเราะอีกครั้งและกล่าวว่า “ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นท่านแม่ทัพใหญ่อย่างท่านจะมานั่งคุกเข่าต่อหน้าข้าที่เป็นแค่คนทรยศประจบสอพลอ เมื่อก่อนตอนอยู่ในราชสำนัก ยังเห็นท่านองอาจผึ่งผายอยู่เลย”
เขาเดินไปที่ผนังเพื่อหยิบเชิงเทียน และเดินไปที่หน้าของฉินหรูเหลียง มองดูแผลเป็นที่โดดเด่นบนข้อมือของเขา ที่เพิ่งจะรักษาหายไม่นาน เผยให้เห็นเป็นสีแดงจาง ๆ
เฮ่อฟังเทน้ำมันขี้ผึ้งร้อน ๆ ในเชิงเทียนลงบนแผลเป็นของฉินหรูเหลียงทันที
ฉินหรูเหลียงไม่สามารถออกแรง ไม่สามารถให้เฮ่อฟังเห็นได้ว่ากล้ามเนื้อที่มือของเขายังเคลื่อนไหวได้ แต่น้ำมันขี้ผึ้งที่กำลังลวกแผลเป็นของเขานั้น ความรู้สึกแสบร้อนกลางอกเจ็บปวดยิ่งกว่าการตัดข้อมือและทำให้เส้นเอ็นหักเสียอีก
เฮ่อฟังกล่าว “ต่อให้ท่านไม่รับสารภาพผิดใด ๆ ในมือของข้าก็มีข้อกล่าวหาของจ้าวเทียนฉี ไม่ว่ายังไงท่านก็ไม่สามารถปฏิเสธความผิดนี้ได้ ส่วนข้าก็แค่ตีท่านไปเปล่า ๆ ก็เท่านั้น”
หลังจากนั้นหากไม่ได้ผู้พิพากษาศาลยุติธรรมต้าหลี่เข้ามาหยุดการใช้เครื่องทรมานของเฮ่อฟัง เกรงว่าเขายังจะลงมือตีต่อไป
สุดท้ายเฮ่อฟังก็วางไม้ทรมารลงและกล่าวว่า “ก็ดีเหมือนกัน หากตีท่านเกือบตี พวกขุนนางเป็นร้อยคงคิดว่าข้าทำให้ท่านยอมสารภาพผิด ด้วยเพราะทนถูกทรมานไม่ไหว มานี่ มาปลดโว่ให้ท่านแม่ทัพแล้วสวมชุด และไปส่งออกจากศาลยุติธรรม”
ฉินหรูเหลียงไปเข้าวัง จนมืดค่ำก็ยังไม่กลับมา
เฉินเสียนส่งคนไปสืบข่าว ข่าวที่ได้รับคือหลังจากที่ฉินหรูเหลียงออกจากวัง ก็ถูกส่งไปที่ศาลยุติธรรมต้าหลี่
“ไปศาลยุติธรรมต้าหลี่ทำไมกัน?” เฉินเสียนขมวดคิ้วถาม
อันนี้ก็ไม่มีใครทราบได้
เฉินเสียนคิดว่าเพราะเรื่องหลีหลู เธอเป็นคนนำเรื่องทั้งหมดโยนเข้าใส่ตัวเธอเอง จะทำให้องค์จักรพรรดิไม่สามารถหาเรื่องตำหนิฉินหรูเหลียงได้
แต่เธอมาคิดในตอนหลัง รู้สึกว่าเธอช่างไร้เดียงสาจริง ๆ
หากองค์จักรพรรดิคิดจะหาข้อผิดพลาดของฉินหรูเหลียง มีหรือจะหาไม่ได้? ในเมื่อเรื่องนี้ใช้ไม่ได้ผล ก็ยังมีเรื่องอื่น และยังมีเรื่องในอดีตที่สามารถสรรหามาได้
หากองค์จักรพรรดิคิดว่าไม่สามารถใช้ประโยชน์จากฉินหรูเหลียงได้อีกต่อไป คงไม่ให้โอกาสเขากลับมาใช้ชีวิตอย่างราบรื่นและสงบสุข
รอจนถึงใกล้จะเที่ยงคืน ผู้เฝ้าประตูรีบร้อนวิ่งเข้ามาและตะโกนว่า “ท่านแม่ทัพกลับมาแล้ว!”
เฉินเสียนยังไม่หลับ เธออยู่ที่ในโถงด้านหน้าของเรือน อวี้เยี่ยนก่อกองไฟสีแสงเพลิงเพื่อให้เธอรู้สึกอบอุ่น
ทันทีที่เธอได้ยินเสียง เธอจึงรีบวิ่งทะลุผ่านด้านหน้าเรือนไปที่ประตูเพื่อดู
เมื่อได้เห็นฉินหรูเหลียงเดินมาท่ามกลางความหนาวเหน็บในตรอกที่มืดมิดคนเดียว โคมไฟที่หน้าประตูส่องสะท้านเงาที่มืดสลัวของเขา
เขาก้าวเข้ามาในบ้านทีละก้าว ๆ
เฉินเสียนรออยู่ที่หน้าประตู เขาค่อย ๆ ก้าวขึ้นบันไดไปหยุดยืนตรงหน้าของเฉินเสียน ในที่สุดก็ลืมตาขึ้นและมองดูเธออย่างลึกซึ้ง
เฉินเสียนถาม “เป็นอะไรหรือ? วันนี้ท่านไปที่ศาลยุติธรรมต้าหลี่ทำไมกัน?”
ฉินหรูเหลียงยังไม่ทันได้พูดอะไร ทันทีที่เขาจะอ้าปาก เขาก็สำลักเลือดที่อยู่ในลำคอเป็นเวลานานออกมา
“ท่านแม่ทัพ!”
ในเวลาต่อมา ฉินหรูเหลียงก็เดินโซซัดโซเซและล้มลงที่เฉินเสียน แม้ว่าเขาจะล้มลงหมดสติ ก็จะกอดเธอแน่นในอ้อมแขนของเขา
ก่อนที่จะปิดตาลง เขากอดเธอไว้อย่างแนบแน่น แนบไปที่ข้างหูของเธอ และพึมพำอย่างนุ่มนวลอ่อนหวาน “เฉินเสียน”