ข้าคือหงส์พันปี – ตอนที่ 391 ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้

เมื่อเฉินเสียนเห็นถึงกับงง “ซูเจ๋อให้เจ้ารึ?”

เฮ่อโยวยิ้มอย่างแปลกๆ แล้วพูดขึ้นว่า “รับไปเถิด นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะเป็นคนคอยส่งของให้แก่พวกท่าน”

“ครั้งสุดท้าย เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?”

“ก็หมายความอย่างที่ท่านได้ยินนั้นแหละ” เฮ่อโยวหยุดพักแล้วพูดขึ้นต่อว่า “ท่านถามว่าวันนี้ข้าเรียกท่านมาเพราะมีเรื่องอันใด นั่นก็คือข้าอยากจะอำลาท่าน”

เฉินเสียนเลิกคิ้ว “อำลา?”

อาหารขึ้นชื่อที่หลากหลายในหอสุรานั้นค่อยๆทยอยเข้ามา วางบนโต๊ะทีละอย่าง ด้วยสีสันและรสชาติที่น่ารับประทาน

เหล้าก็เหล้าชนิดเดิม อาหารก็อาหารเหมือนเดิม เธอคิดถึงเมื่อตอนที่เธอได้กินได้ดื่มกับเฮ่อโยวที่นี่ ไม่มีครั้งไหนที่กลับไปอย่างไม่สนุกสนาน

เพียงแต่วันนี้ เฉินเสียนนั้นกลับไม่รู้สึกอยากอาหาร

เฮ่อโยวที่กำลังคีบอาหารไปใส่ในจานเธอ พูดขึ้นว่า “ท่านพูดถูก เมื่อก่อนข้าคิดเรื่องอะไรง่ายๆไปหมด คนเราจะไปสามารถทำตามใจตัวเองตลอดได้อย่างไร และอีกอย่างตัวเองก็ยังอยู่ในเมืองหลวงที่มีความปรวนแปรเช่นนี้”

เฮ่อโยวพูด “ ข้ามีแค้นที่ต้องชำระ เมื่อข้ากำจัดเฮ่อฟั่งได้แล้ว ก็จะเหลือข้าเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูลเฮ่อ ข้ามีคนในตระกูลเฮ่อที่ต้องดูแล ข้าไม่อยากให้ตระกูลเฮ่อตกต่ำไปเหมือนกับตระกูลฉินอย่างน่าเวทนา”

เฉินเสียนเงียบไปสักครู่ แล้วถามว่า “เจ้าคิดดีแล้วใช่ไหม?”

“อืม ข้าคิดดีแล้ว ข้าไม่สามารถที่จะมาปรึกษาหารือกับท่านในเรื่องต่างๆได้อย่างเสรี ข้าแค่คิดว่าตอนนี้ข้าดำรงตำแหน่งขุนนาง ต่อไปในอนาคตก็มีโอกาสที่จะเลื่อนขั้น ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงปลอดภัยนั่นก็ดีมากแล้ว”

เฉินเสียนคิดว่าตัวเองนั้นเข้าใจเฮ่อโยว เพราะเขาดูเป็นคนที่บริสุทธิ์จิตใจดีมีเมตตามาโดยตลอด เป็นคนที่มองแวบเดียวก็สามารถมองได้อย่างทะลุปรุโปรง

แต่ตอนนี้ เธอกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่สามารถมองให้ทะลุปรุโปรงในตัวเขาได้

เฉินเสียนได้แต่เพียงหัวเราะ แล้วพูดว่า “แต่ทำไมมาถึงตอนนี้ข้ายังคิดว่าเจ้ายังเสแสร้งทำอยู่นะ?เฮ่อโยวที่ข้ารู้จัก ไม่ใช่คนที่เจ้าพูดบรรยายออกมา”

“ข้าขอโทษ ข้าหลอกท่าน” เฮ่อโยวกล่าว “ตั้งแต่เมืองหลวงไปยังพรมแดนทางใต้ ตลอดทางที่กลับมา ข้าหลอกลวงท่านทั้งหมด ข้าคือคนที่องค์จักรพรรดิส่งไปให้คอยจับจ้องท่านกับบัณฑิต และข้าก็ทำอย่างนั้นจริงๆ การไม่เคยฝ่าฝืนความปรารถนาเดิมของข้า นั้นแหละคือด้านที่ข้าเสแสร้งแกล้งทำ ”

ใบหน้าของเฉินเสียนที่ยิ้มอยู่นั้น ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเย็นชา เธอจ้องมองไปที่เฮ่อโยวโดยไม่พูดอะไร มองเขาเป็นเวลานานแล้วพูดขึ้นว่า “ข้าไม่เชื่อ”

เฮ่อโยวที่กำลังกินอาหารอยู่อย่างสบายๆ พูดขึ้นว่า “เรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อข้าก็ไม่สำคัญ มาถึงตอนนี้คนที่ไม่เข้าใจกระจ่างแจ่มชัดก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่กลับเป็นท่านเอง”

เฉินเสียนเงียบขรึม

“อย่าลืมหล่ะ “อย่าลืมหล่ะ ตอนแรกเป็นท่านเองที่วิ่งกลับมาอย่างชะล่าใจ เป็นท่านที่เตือนสติข้าให้ข้าหันกลับมองสถานการณ์ต่างๆของตระกูลของข้าให้ชัดเจน ตอนนี้ข้าทำตามอย่างที่ท่านต้องการทั้งหมด ท่านควรจะดีใจสิ”

เฮ่อโยวพูดเตือนสติ “อย่าตะลึงไปเลย กินข้าวเถิด ข้าจำได้ว่าอาหารเหล่านี้แต่ก่อนท่านชอบกินมาก หลังจากอาหารมื้อนี้จบลงแล้วต่างคนต่างแยกย้าย ข้าก็จะเดินไปบนเส้นทางที่สดใสของข้า ท่านก็เดินไปบนเส้นทางที่อันตรายของท่าน เราสองคนไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน”

ที่เขาเชิญเธอมาดื่มเหล้า นั่นเป็นเพราะต้องการบอกลานั่นเอง

เฉินเสียนรู้สึกหมดกำลังใจแต่ก็แฝงไปด้วยความโกรธนิดหน่อย สักพักเธอก็กลับมายิ้มอย่างเบาๆ แล้วเอ่ยว่า “แบบนี้ก็ดี เจ้าได้กำหนดขอบเขตเพื่อหลีกเลี่ยงการยุ่งเกี่ยวกับข้า เจ้าเป็นเช่นนี้ก็ดีกว่าที่จะเป็นฉินหรูเหลียงสอง ”

“ท่านเข้าใจได้ ข้าก้ดีใจ” เฮ่อโยวยกแก้วเหล้าขึ้นเพื่อต้องการคาราวะกับเธอ “ไม่ว่าจะอย่างไรครั้งนี้ข้ากับท่านก็ได้มากินข้าวและมาดื่มเหล้ากันแบบนี้ แล้วเหล้าแก้วนี้ท่านจะดื่มหรือไม่?”

เฉินเสียนพูด “ต้องดื่มแน่นอน”

ดังนั้นเฮ่อโยวจึงส่งแก้วที่เทเหล้าเต็มแก้วไว้แล้วให้กับเธอ เธอกับเฮ่อโยวชนแก้วเพื่อคาราวะกัน แล้วดื่มไปอย่างไม่ได้มีข้อสงสัยอะไร

เฉินเสียนพูด “ในเมื่อเป็นการอำลา เจ้ากับข้าก็ควรทำตัวให้สนุกเหมือนแต่ก่อนอย่างเต็มที่ เราจะได้มีความสุขกับการดื่มเหล้าและกินอาหารมื้อนี้ แล้วจะได้ไม่ต้องมารู้สึกเสียดายทีหลัง”

เธอไม่ค่อยได้รับรู้ถึงรสชาติของอาหารเท่าไหร เพราะไม่ได้ใส่ใจในรสชาติ เหมือนกับกินอะไรที่จืดชืด แต่ว่าเธอก็เคี้ยวไม่หยุดแล้วกลืนมันลงไป

เฮ่อโยวพูด “เฉินเสียน ข้าขอโทษ”

เฉินเสียนพูดออกมา “ จะพูดขอโทษทำไม เมื่อครู่เจ้าก็พูดแล้วไม่ใช่รึ ข้าฟังครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ต่อไปภายหน้าข้าขอให้เจ้าทำงานราบลื่นไม่มีอะไรติดขัด แก้แค้นแทนท่านย่าและชิงซิ่ง ดูแลปกป้องตระกลูเฮ่อโดยปราศจากอันตราย ในฐานะที่เจ้าเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฮ่อ ก็ควรที่จะสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศให้กับวงศ์ตระกูล”

เฮ่อโยวอ้าปากค้าง อยากจะพูดก็พูดไม่ออก

เฉินเสียนยังพูดขึ้นว่า “ ไม่อยากทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อน วันนี้มิตรภาพระหว่างข้ากับเจ้าที่มีมานั้นมันจะจบลง ต่อไปนี้เรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับข้า ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า”

เฉินเสียนดื่มเหล้าเข้าไปอีกแก้ว สายตาเริ่มมัว เบ้าตาก็เริ่มแดงอย่างห้ามไม่อยู่

ดวงตาของเฮ่อโยวก็ชุ่มชื้น เขาสูดหายใจเข้า แล้วดันเก้าอี้ออก ลุกขึ้นหันตัวไปที่หน้าต่าง

เฉินเสียนพูดขึ้นด้วยเสียงที่เบาว่า “ข้าอยากจะถามเจ้าเป็นประโยคสุดท้าย เรื่องทั้งหมดวันนี้ เจ้าจริงจังใช่หรือไม่?”

เฮ่อโยวกัดริมฝีปากแน่น แล้วตอบกลับเธอทีละคำว่า “ ไม่เพียงแต่วันนี้ที่ข้าจริงจัง ทุกเรื่องในภายภาคหน้าข้าก็จริงจังเช่นกัน เฉินเสียน ท่านไม่ต้องมานับข้าเป็นเพื่อนแล้ว เพราะจากวันนี้ต่อไปข้าจะคิดถึงแต่ตัวข้าเอง ถ้าเกิดว่าท่านยังคิดทำอะไรผิดๆแล้วข้ายังช่วยท่าน นั่นมันจะเป็นการทำร้ายท่าน ”

เขาหันกลับมามองเธอทันที ดวงตามีน้ำตาคลอแต่ไม่ไหลออกมา

เฮ่อโยวพูดขึ้นอย่างเงียบๆว่า “แน่นอน ถ้าครั้งนี้ท่านยังสามารถมีชีวิตต่อไปได้ ก็ไม่ต้องมานับข้าเป็นเพื่อนของท่าน แต่ถ้าท่านไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้ ก็ไม่ต้องรอให้ถึงวันหน้าแล้ว”

เขาพูดออกมาเบาๆว่า “คำขอโทษครั้งที่สองของข้า มันอยู่ในแก้วเหล้าแก้วแรกที่ท่านดื่มหมดแล้ว ”

ในใจของเฉินเสียนเริ่มรู้สึกร้อน และระคายเคืองที่ลำคอ จึงถามขึ้นว่า “เหล้าแก้วแรกทำไมรึ?”

“องค์จักรพรรดิให้ข้าวางยาท่าน”

“อืม แล้วยังไงหล่ะ?”

“ดังนั้น” เฮ่อโยวกัดฟัน เบ้าตาเริ่มแดง “ข้าจึงใส่ยาลงไปในเหล้านั้น”

ทันทีที่เสียงหายไป หน้าอกของเฉินเสียนก็ร้อนลุกดั่งไฟ เลือดไหลออกจากลำคอของเธอโดยไม่รู้ตัว

มือของเธอวางบนโต๊ะ บนผ้านั้นเต็มไปด้วยเลือด เหมือนกับเกสรของของดอกเหมยที่ร่วงลงมาเป็นหย่อมๆ

เฉินเสียนหันไปด้านข้าง แล้วลืมตาขึ้นเล็กน้อย ดวงตาที่เปร่งประกายมองไปยังเฮ่อโยว เธอยื่นมือไปสัมผัสรอยเลือดที่ริมฝีปากทีละน้อย สายตาที่เย็นชาไม่มีความอบอุ่นซ่อนอยู่ ถึงตอนนี้เฮ่อโยวก็เหมือนกับคนแปลกหน้าที่เธอไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

“ที่บอกว่าอยากจะมาบอกลาข้านั้นยังน่าฟังกว่าเสียอีก พอพูดออกมาตรงๆว่าเจ้าต้องการจะวางยาข้า ถึงตอนนี้ข้าก็ยินยอมที่จะเชื่อแล้วว่า เจ้าไม่ได้เสแสร้ง เจ้าต้องการจะเหยียบย่ำข้า”

เฮ่อโยวยักไหล่ ข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา แล้วพูดขึ้นว่า “ข้าบอกกับท่านตั้งนานแล้ว ใครใช้ให้ท่านทำเรื่องที่ผิดๆกัน ท่านไม่ได้สงสัยในตัวข้าแม้แต่น้อย แล้วอย่างนี้จะโทษใครได้ ก็ต้องโทษตัวท่านเอง”

เฉินเสียนยิ้มออกมาแล้วพูดเสียงแหบขึ้นมาว่า “เฮ่อโยว ข้าเฉินเสียนคิดว่า ข้าไม่เคยเสียใจกับเจ้า”

เฮ่อโยวเม้มปาก พูดด้วยน้ำเสียงเครียดว่า “เมื่อท่านไม่ทำร้ายคนอื่น คนอื่นก็จะมาทำร้ายท่าน!ท่านยังมีทางเลือกหรือไม่ ?”

เขามองไปยังเฉินเสียน กัดฟันพูดขึ้นว่า “ข้ากลับมาครั้งนี้ !ข้าจะไม่ยอมให้เฮ่อฟั่งมากดขี่ข่มแหงข้าต่อไป!ข้าต้องการที่จะแก้แค้น ข้าต้องการที่จะฉีกเขา ข้าก็ต้องพยายามให้มากเขา!ตอนนี้เขายังเป็นขุนนางคนโปรดขององค์จักรพรรดิใช่รึไม่ หึ อีกไม่นานข้าก็จะกลายเป็นขุนนางคนโปรดขององค์จักรพรรดิแทนเขา”

ข้าคือหงส์พันปี

ข้าคือหงส์พันปี

องค์หญิงเฉินเสียนผู้โง่เขลา ถูกไล่ออกจากจวน ถูกทำให้เสียโฉม และยังมีทารกอยู่ในท้องของเธอ! ในวันที่สามีของเธอแต่งงานกับอนุภรรยา เธอมาแสดงความยินดี จัดการกับอนุคนใหม่อย่างรุนแรง และทำให้แขกในงานต่างตกใจ อนุคนใหม่ที่คิดว่าเธอเป็นเช่นไก่ที่อ่อนแอ? แต่ไม่คิดว่าจะสามารถต่อกรกับเธอได้?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset