ข้าคือหงส์พันปี – ตอนที่ 5 อีตัวไร้ยางอาย

สีหน้าของฉินหรูเหลียงเปลี่ยนไป เขาจ้องอย่างขมึงถึงด้วยสายตาที่เย็นชา

เฉินเสียน? เขาไม่แน่ใจนักว่าเฉินเสียนจะกลายเป็นแบบนี้ไปแล้วจริงๆ!

ฉินหรูเหลียงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ท่านมาทำอะไรที่นี่”

“มาทำอะไร?” เฉินเสียนเอียงคอมองฉินหรูเหลียงก่อนจะเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ “แม่ทัพฉินโปรดปรานอนุภรรยาและทำลายภรรยาเอกของเขา เนรคุณ ทอดทิ้งภรรยาเอกเหมือนหมูเหมือนหมา ข้าถูกพวกเจ้าขับไล่ออกไป ใบหน้าก็ถูกทำลายจนเสียโฉม ในที่สุดวันนี้คู่รักก็จะได้กลายมาเป็นครอบตัวเดียวกัน เจ้ารู้ไหมว่าที่ข้ามาถึงที่นี่ ข้าอยากจะทำอะไร”

แขกเหรื่อแอบกระซิบกระซาบ

ฉินหรูเหลียงโกรธจนหน้าดำหน้าแดง “ท่านกำลังพูดจาเหลวไหลอะไร!”

หลายคนเห็นแล้วรู้สึกเสียดาย แม้ว่าเมื่อก่อนองค์หญิงจะโง่เขลาแต่หน้าตาก็ยังดูดี ตอนนี้ไม่ไหว ใบหน้าเสียโฉมไปหมด ไม่เหลืออะไรดีๆ อีกแล้ว

แต่ก็มีบางคนที่สงสัยว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ในที่สุดหลิ่วเหมยอู่ก็ข่มอารมณ์ไว้ไม่ได้ นางเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวโดยพลการ เมื่อสบตากับเฉินเสียนใบหน้าของนางก็ขาวซีด แม้แต่สีชาดบนใบหน้าก็ขับให้นางดูมีเลือดฝาดไม่ได้

มือสีขาวเนียนของเฉินเสียนชี้ไปที่หลิ่วเหมยอู่ “ข้าพูดเหลวไหลหรือ มีอะไรก็ลองถามนางดูสิ!”

เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัยของแขกที่มาร่วมงานหลิ่วเหมยอู่ก็ตัวสั่น นางขบริมฝีปากสีแดงสดของตัวเองแล้วเอ่ยออกมาว่า “องค์หญิงหรือเพคะ องค์หญิงกลับมาแล้ว? ดีจริงๆ…”

ทันใดนั้นหลิ่วเหมยอู่ก็วิ่งโซซัดโซเซไปยืนอยู่ตรงหน้าเฉินเสียนและจับมือของเธอเอาไว้ มองเธอด้วยแววตาที่ตื่นเต้นจนน้ำตาคลอเบ้า

เฉินเสียนเลิกคิ้ว

อีตัวนี่โคตรจะตอแหล

หลิ่วเหมยอู่เอ่ยทั้งน้ำตาว่า “ดีจริงๆ ที่องค์หญิงกลับมา ดีจริงๆ ที่กลับมา… ที่องค์หญิงหายออกไปเป็นความผิดของเหมยอู่เอง เหมยอู่ตามหาอยู่หลายวัน ตามหาจนทั่วเมืองหลวง…”

ท่าทางเศร้าอกเศร้าใจที่มาพร้อมกับความปีติยินดีของนางเป็นเหมือนโรคติดต่อร้ายแรง

เฉินเสียนถึงกับต้องยกนิ้วให้นาง

เป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด!

ฉินหรูเหลียงเอ่ยขึ้นมาอย่างถูกเวลาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ท่านบอกว่าเหมยอู่ไล่เจ้าออกไป แต่ตั้งแต่ท่านหายไปเหมยอู่มีแต่น้ำตาอาบหน้า เอาแต่โทษตัวเอง ตอนนี้ท่านกลับมาถึงก็มาพูดถึงความหึงหวงโหดร้าย แม้แต่กับผู้หญิงอ่อนแอก็ยอมไม่ได้หรือ”

“ท่านแม่ทัพ อย่าตำหนิองค์หญิง… เป็นความผิดของข้าเอง ที่องค์หญิงเคียดแค้นคงเป็นเพราะ…” หลิ่วเหมยอู่มองเฉินเสียนอย่างแช่มช้อย “ใบหน้าขององค์หญิง… ใครกันนะที่โหดร้ายทำกับองค์หญิงได้ลงคอ ไม่ต้องกลัวนะเพคะ ท่านแม่ทัพจะต้องจัดการให้อย่างแน่นอน”

ดูท่าทางที่น่าสงสารของนางสิ ช่างน่าทะนุถนอมเสียนี่กระไร! ไม่มีร่องรอยของคำโกหกเลยแม้แต่นิดเดียว

เฉินเสียนเอ่ยเรื่อยๆ ว่า “ที่ข้าเลือกกลับมาวันนี้ เจ้าไม่ได้ไม่พอใจอะไรใช่ไหม ถ้าวันนี้ฉินหรูเหลียงจัดการเรื่องนี้ให้ข้าไม่ได้ ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจ”

หลิ่วเหมยอู่หยุดร้องและจิกเล็บแน่นอยู่ใต้แขนเสื้อ “แต่เหมยอู่ไม่เคยมีความสุขเลยสักนิด”

เฉินเสียนตอบว่า “ในเมื่อเจ้าไม่ยอมรับ เราก็เลิกพูดถึงมันเถอะ พอกลับมาแล้วเห็นพวกเจ้าสองคนยืนคำนับเพื่อทำความเคารพข้าอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ที่ประตู ข้าเองก็มีความสุขมาก”

การคำนับเมื่อครู่เห็นได้ชัดว่ามันคือการที่ฉินหรูเหลียงและหลิ่วเหมยอู่คำนับฟ้าดิน

เฉินเสียนแค่บังเอิญเข้ามายืนอยู่ตรงกลางพอดี

ความอึดอัดฉายวาบขึ้นมาบนใบหน้าของหลิ่วเหมยอู่ ยังไม่ทันที่ฉินหรูเหลียงจะระบายความโกรธ เฉินเสียนก็คว้ามือของหลิ่วเหมยอู่และเดินเข้าไปในห้องจัดงานอย่างสนิทสนม ราวกับว่าการปะทะคารมเมื่อครู่นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พลางพูดว่า “กำลังคำนับฟ้าดินอยู่ไม่ใช่หรือ กลับเข้าไปแล้วคำนับฟ้าดินต่อเถอะ วันนี้ความคับข้องใจจะหายไป ต่อจากนี้ทุกคนจะเป็นครอบครัวเดียวกัน”

การที่เธอจับมือหลิ่วเหมยอู่ไว้แบบนี้ทำให้หลิ่วเหมยอู่ไม่สบายใจเอามากๆ

ฉินหรูเหลียงไม่รู้ว่าเฉินเสียนไปกินยาอะไรผิดมา เขาเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ม่านก่อเรื่องมากพอแล้ว กลับไปที่เรือนด้านหลังของท่านซะ”

เฉินเสียนไม่สนใจ “จะเป็นไปได้อย่างไร ท่านแต่งงานสองครั้งในระยะเวลาเพียงสามเดือน ข้าจะไม่อยู่ร่วมฉลองได้อย่างไร แค่เหล้าจอกเดียวท่านก็ให้ข้าดื่มไม่ได้หรือ”

เฉินเสียนพูดพลางคว้าเก้าอี้ในห้องนั้นก่อนจะปัดชุดและนั่งลง

เธอเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยสีหน้าที่สุขุมราวกับจะสร้างความวุ่นวายให้ถึงที่สุด

แม้ว่าเสื้อผ้าที่สวมอยู่จะดูเรียบง่าย แต่ผู้คนก็ยังมองเห็นความสูงส่งที่ฉาบฉายอยู่อย่างเลือนราง

ฉินหรูเหลียงแอบยิ้มเยาะ ก็แค่คนโง่คนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้สูงส่งอะไรเลย! เขาคงจะตื่นตระหนกไปเอง

ผู้หญิงคนนี้เอาแต่พูดจาเสียดสี! ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้คนเยอะ เขาคงไม่ปล่อยให้นางมานั่งชูคออยู่แบบนี้!

แน่นอนว่าเฉินเสียนดูออก ฉินหรูเหลียงอยากมีเกียรติ

เธอเอนหลังอย่างเกียจคร้านและกล่าวว่า “ชักช้าทำไมกันอยู่ คำนับฟ้าดินต่อสิ ถึงอย่างไรข้าก็เป็นภรรยาที่แท้จริงของท่านแม่ทัพ จะแต่งอนุภรรยาเข้ามาทั้งที ข้าจะอยู่ร่วมพิธีไม่ได้หรือไง”

ข้าคือหงส์พันปี

ข้าคือหงส์พันปี

องค์หญิงเฉินเสียนผู้โง่เขลา ถูกไล่ออกจากจวน ถูกทำให้เสียโฉม และยังมีทารกอยู่ในท้องของเธอ! ในวันที่สามีของเธอแต่งงานกับอนุภรรยา เธอมาแสดงความยินดี จัดการกับอนุคนใหม่อย่างรุนแรง และทำให้แขกในงานต่างตกใจ อนุคนใหม่ที่คิดว่าเธอเป็นเช่นไก่ที่อ่อนแอ? แต่ไม่คิดว่าจะสามารถต่อกรกับเธอได้?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset