เฮ่อโยวเดิมทีที่อยากรู้อยากเห็น อยากรู้ให้แน่ชัดว่าเฉินเสียนนั้นใช่คนเดียวกับคนที่อยู่ในบ่อนพนันวันนั้นหรือไม่
ไม่คิดเลยว่าการแอบตามมานั้น จะทำให้เขาเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น
เฮ่อโยวใจสั่น เฉินเสียนมองเห็นรูปร่างเธอได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าเธอรู้จักเขา
สายตาที่เคร่งเครียดของเธอนั้นค่อยๆหายไป แทนที่ด้วยสายตาที่ดูอบอุ่น ยืนอยู่ในที่มืดไม่ได้ขยับไปไหน แล้วพูดว่า“คุณชายตระกูลเฮ่อ คงจะหลงทางใช่หรือไม่?”
“ เอิ่ม เอิ่ม อ่อ ข้าอยากเข้าห้องน้ำ ไม่ทันได้ระวังเลยเดินออกมาไกล”เฮ่อโยวพูด“ทำไมท่านถึงรู้จักข้า?”
“ ถ้าอยากเข้าห้องน้ำล่ะก็ เข้าไปในสวนดอกไม้ให้คนพาเจ้าไปสิ”
เฮ่อโยวดูกระวนกระวาย เห็นเฉินเสียนกำลังจะเดินไป แล้วจึงพูดว่า“ เฮ้ จริงๆแล้วคือท่านใช่หรือไม่!บนถนนวันนั้น ข้ายืมเงินท่าน จากนั้นในบ่อนพนันพวกเราสองคนก็ถูกท่านแม่ทัพจับได้ สุดท้ายข้าถูกส่งตัวกลับเรือนส่วนท่านก็ถูกส่งตัวกลับเรือนเช่นกัน ที่แท้ท่านก็คือองค์หญิง!”
เฉินเสียนไม่ได้สนใจอะไรเขา เดินมุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว
เมื่อพูดถึงเรื่องเงินยิ่งพูดยิ่งฮึกเหิม ไล่ตามเฉินเสียนแล้วพูดว่า “ไม่อย่างนั้นแม่ทัพฉินจะพูดชื่อท่านออกมาคนเดียวได้อย่างไร ถ้าท่านคือองค์หญิงจริง แต่ทำไมการกระทำของท่านนั้นไม่เหมือนเลย ทำไมท่านถึงไปตลาดเสเพลแบบนั้น……”
เฉินเสียนถอยหายใจยาว แล้วหยุดเดิน ทำให้หนุ่มน้อยที่เดินตามมานั้น คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องไม่ดี
เฮ่อโยวเห็นเธอจะเริ่มพูด จึงพูดขึ้นว่า “ท่านไม่ต้องมาเล่นสำนวน แน่นอนว่าเป็นท่าน!”
เฉินเสียน “ข้าไม่ได้เล่นสำนวน”
“แผ่นหยกของข้าล่ะ ครั้งที่แล้วนั้นรีบมาก ข้าไม่ทันที่จะไปหาท่านเพื่อนำเอาหยกแผ่นนั้นกลับมา นั่นคือของล้ำค่าที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูลข้า ท่านย่าได้ให้ไว้กับข้าเพื่อไว้ขอผู้หญิงแต่งงาน!”
เฉินเสียนพูด “วันนี้ข้าไม่ได้นำมาด้วย เดี๋ยวมีเวลาข้าจะเอาให้เจ้าเอง?ตอนนี้ขอให้เจ้ารีบหลีกทางให้ข้าเดี๋ยวนี้?”
แค่พริบตาเฮ่อโยวก็กลายเป็นคนคุ้นเคยกับเฉินเสียน เขาพูดต่อว่า “ตอนนี้ท่านยุ่งมากรึ?”
เฉินเสียนยกหลิ่วเหมยอู่ขึ้นมา แล้วพูดว่า “เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า?”
“นางเป็นอะไร?”เฮ่อโยวถาม
“เจ้าตาบอดหรือไง นางดื่มเยอะจนหมดสติไปแล้ว” เฉินเสียนพูด“ ตอนนี้ข้าจะพานางไปนอน”
เฮ่อโยวอยู่เงียบๆ “แต่ข้าเห็นชัดว่าท่านเป็นคนตีนางจนสลบไป”
เฉินเสียนหยุดเดิน หันข้างชำเลืองมองไปที่เฮ่อโยว หรี่ตามองด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดเบาๆว่า “เฮ่อโยว คำพูดไร้สาระเมื่อพูดออกแล้วไปต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยน”
เธอเม้มริมฝีปาก แล้วทำท่าทางโดยการเอามือขึ้นมาปาดคอตัวเองให้เฮ่อโยวดู
เฮ่อโยวเดินถอยหลังออกมาสองเก้า แล้วพูดว่า “เมื่อครู่ข้าไม่ได้พูดอะไรเลย”
เฉินเสียนพาหลิ่วเหมยอู่ไปที่สวนเซียงเสวี่ย
ที่สวนเซียงเสวี่ยนั้นว่างพอดี ของทุกอย่างภายในห้องนั้นถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย
เฮ่อโยวแปลกใจจึงเดินตามนางไปที่สวนเซียงเสวี่ย เหลือบมองเฉินเสียนที่ตีคนจนสลบ แต่กลับไม่ได้ทำเรื่องอะไรไม่ดี
เฉินเสียนพาหลิ่วเหมยอู่วางไว้บนที่นอนแล้วจึงออกไป
หลิ่วเหมยอู่นอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าแดงกล่ำ หายใจหอบสั่นขึ้นลง ท่ามกลางสติที่เลือนรางของผู้หญิงที่สวยงามร้องครางออกมาอย่างอู้อี้
ยังถามต่อ“ นางเป็นอะไรรึ?”
“ไม่ได้บอกแล้วหรือว่า นางดื่มเยอะไป”
“แต่ทำไมข้าถึงรู้สึกว่านางโดนวางยาล่ะ?ท่านขู่ข้าน้อยๆหน่อย ไม่ว่าจะอย่างไรข้าก็ออกไปอยู่ข้างนอกมานาน เรื่องแค่นี้ทำไมข้าจะไม่รู้ ”
เฉินเสียนพูด “ในเมื่อเจ้ารู้ทุกอย่าง ยังจะถามให้มากความทำไม ?”เธอหัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า “เจ้าเข้าไปเป็นยาถอนพิษให้นางสิ”
เฉินเสียนพูดพร้อมกับดันเขาเข้าไปให้ห้องนั้น
เฮ่อโยวรีบออกมา พูดอย่างจริงจังว่า “ท่านอย่ามาซี้ซั้ว ข้าไม่เคยทำอะไรผู้หญิงที่มีสามีแล้ว!”
เฉินเสียนคว้าเขาออกมาจากสวนเซียงเสวี่ย แล้วพูดว่า “ไม่ได้จะเอาแผ่นหยกล้ำค่าของตระกูลเจ้าแล้วรึ ไป ข้าจะไปเอาแผ่นหยกให้เจ้า”
เฮ่อโยวหันกลับไปมอง ภายใต้แสงไฟสลัว รูปร่างของหลิ่วเหมยอู่นั้นสวยงามยั่วยวน โยกขึ้นลงอย่างมีเสน่ห์น่าสนใจ
บานประตูถูกปิดไว้เพียงครึ่งหนึ่ง ทำให้มองเห็นสภาพการณ์ข้างในได้แบบไม่ชัดเจน
ในสวนดอกไม้นั้นสนุกสนานกันอย่างมาก จะมีใครมาทันสังเกตเรื่องผิดปกติเหล่านี้
นี่เป็นเรื่องของในจวนแม่ทัพ อีกทั้งเฮ่อโยวก็ไม่เคยพบผู้หญิงที่อยู่ข้างในมาก่อน ไม่คุ้มค่าเสียเวลาที่จะไปยุ่งเรื่องของคนอื่น เขาเพียงแค่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น
เซียงหลิงเมื่อถึงเวลานัด ก็ไปที่ประตูด้านหลังอย่างเงียบๆ พายามสองคนเข้ามาในห้องครัวเพื่อดื่มเหล้า หลังจากนั้นค่อยพาคนที่อยู่ด้านนอกเข้ามา
ผู้ชายที่เข้ามานั้นถูมือไปมา มองเซียงหลิงจากบนลงล่างอย่างละเอียด ด้วยสายตาที่หยาบคาย
แค่มองดูก็ออกว่าเป็นคนเสเพลอีกทั้งยังดูเป็นคนบ้ากามต่ำช้าไร้วัฒธรรมอีกด้วย
หลิ่วเหมยอู่อยากได้คนแบบนี้ตั้งแต่ต้น ขอเพียงแค่คนบ้ากามแบบนี้ถึงจะเพียงพอ เพียงแค่ได้สัมผัสกับหญิงงามก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
ได้ยินมาว่าเป็นถึงนายหญิงของคนรวยที่สวยงดงาม ถ้าหากเขาได้ลิ้มลองของสวยงามนั้น ตายไปก็ไม่รู้สึกเสียดาย
เซียงหลิงรู้สึกรังเกียจ จึงพูดว่า “เจ้าหน้าด้านไร้ยางอาย เจ้ามองข้าทำไม คนสวยนั้นรออยู่ด้านหลัง!เจ้าตามข้ามา!”
คนนั้นแลบลิ้นเลียไปที่ปากแล้วพูดว่า “แม่หญิงนำทางไปที”
เซียงหลิงพยายามหลีกเลี่ยงจากการจัดงานที่สวนดอกไม้ พาเขาไปด้านหลังจวน
คนนั้นพูดว่า “จวนนี้รื่นเริงดีนะ หรือถ้าไม่ใช่วันนี้มีงานมงคลคงจะทำไม่สำเร็จ?”
“วันนี้เป็นงานฉลองวันเกิดของท่านชายน้อย เจ้าระวังตัวหน่อย”
คนป่าเถื่อนคนนั้นรู้สึกดีใจมาก ผู้คนนั้นจะรวมตัวกันอยู่ที่ด้านหน้ากันหมด ถ้าเขาไปด้านหลังจวนทำเรื่องไม่ดีก็คงไม่มีใครมาพบเห็น
โคมไฟด้านหน้าที่ส่องแสงสลัวๆสวยงามนั้นอยู่ไม่ไกล
เซียงหลิงเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าเรือน แล้วพูดกับเขาว่า “คนอยู่ในนั้น เจ้าเข้าไปเถอะ”
เมื่อเห็นคนเข้าไป เซียงหลิงจึงเปิดปากแล้วพูดว่า “เจ้ารีบจัดการให้เร็วเป็นดีที่สุด ถ้ามีคนมาพบก็รีบหนีไป”
เซียงหลิงมองเห็นกับตาตัวเองว่าชายต่ำช้าคนนั้นเข้าไปในห้องแล้ว
ที่นี่ไม่ใช่ที่อื่นใด และก็ไม่ใช่สวนสระวสันตฤดูที่นัดกันไว้ก่อนหน้านี้ แต่เป็นสวนเซียงเสวี่ยที่เพิ่งว่างไม่นานมา
เรื่องที่เกิดวันนี้นั้นเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
เซียงหลิงสอดแนบอยู่ในนั้นรู้สึกอึดอัดลำบากใจ
เธอไม่สามารถช่วยหลิ่วเหมยอู่ให้มาทำร้ายองค์หญิงได้ ได้เพียงแต่มองไปที่หลิ่วเหมยอู่อย่างรู้ว่าตัวเองทำผิดและตัวเองจะโดนลงโทษ
ขอเพียงแต่ว่าคืนนี้คนขี้กลัวคนนี้ พอได้ลิ้มลองของสดใหม่แล้วรีบหนีไป
เพียงแค่ไม่ถูกจับชู้ได้คาหนังคาเขา ทั้งหมดก็คงจะกอบกู้ขึ้นมาได้
เซียงหลิงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว แล้วหันหลังจากไป
หลิ่วเหมยอู่ที่อยู่ในห้องนั้นเหงื่อออกหอมไปทั่วตัว เธอคิดว่าตัวเองกลับมาอยู่ที่สวนพุดตานแล้ว ดังนั้นจึงนอนลงเหมือนเตียงของตัวเอง
มีคนผลักประตูเข้ามา
หลิ่วเหมยอู่คิดว่าเป็นฉินหรูเหลียง จึงควบคุมเสียงครวญครางไว้ไม่อยู่ มองเห็นแค่เงาของคนที่ยืนอยู่หน้าเตียง ยื่นมือมาลูบไล้บนเรือนร่างของเธอ
ร่างกายของเธอถูกจุดประกาย รู้สึกจั๊กจี้อ่อนแรงยากที่จะทนทานได้ รับรู้ถึงความว่างเปล่าที่ไม่เคยผ่านมา
หลิ่วเหมยอู่ต้อนรับโดยการส่ายเอวไปมา
ชายป่าเถื่อนผู้ที่ยืนอยู่ข้างเตียงนั้นเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็อดใจรอไม่ไหว สัมผัสไปบนเรือนร่างของหลิ่วเหมยอู่ทุกหนทุกแห่ง ยกเว้นชุดกระโปรง ทำเสียงจุ๊ปากพูดชมเชยว่า “สวยงามแพรวพราวอย่างน่ามหัศจรรย์”
เมื่อชายป่าเถื่อนผู้นั้นเข้ามาใกล้ ตอนที่หลิ่วเหมยอู่ส่งสายตายั่วยวนไปที่เขา เพิ่งจะได้เห็นหน้าของเขาอย่างชัดเจน
ไม่ใช่ฉินหรูเหลียง
ตอนนั้นหลิ่วเหมยอู่พอได้สติแล้ว ร่างกายก็เย็นไปทั้งตัว พูดด้วยความกลัวว่า “เจ้าคือใคร!เจ้าต้องการจะทำอะไร?”
เธอพยายามหนีแต่ไม่มีแรง อยากจะปฏิเสธแต่ก็ยังต้อนรับเขา
“มาถึงขนาดนี้แล้วยังจะเสแสร้งทำเป็นบริสุทธิ์อีกรึ? เหอะเหอะ ที่นี่ไม่มีใครมาเห็น!”
ผู้ชายคนนั้นพูดขณะจับไปที่ข้อเท้าของหลิ่วเหมยอู่ แล้วกดลงไป
ร่างกายของหญิงสาวงามนั้น ทำให้คนเป็นสุขได้อย่างแท้จริง
หลิ่วเหมยอู่เริ่มต่อสู้ดิ้นรน ทำอย่างไรดีในเมื่อชายที่จ้างมากลับมาทำร้ายเธอ เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นยากที่จะรับมือกับมันได้