“องค์หญิงเข้าไปแช่เท้าในห้องเถอะเพคะ บ่าวจะยกเข้าไปให้”
“ข้างนอกอากาศดี ข้าจะแช่เท้าตรงนี้แหละ”
ชิงซิ่งห้ามไม่ทันแล้ว เฉินเสียนได้นำสองเท้าลงไปแช่ในน้ำสะอาดเรียบร้อยแล้ว ส่งเสียงถอนหายใจเบาๆอย่างสบายใจ
เวลาที่ชิงซิ่งรีบร้อน เฉินเสียนมักจะคิดว่าเธอมีความน่ารักในแบบฉบับบของนางกำนัลน้อยที่ควรจะมี
สองวันมานี้เธอถูกเฮ่อโยวสั่งให้ทำโน้นทำนี่เต็มไปหมด ค่อยๆเปิดเผยนิสัยธรรมชาติของตัวเองออกมา
เธอกลัวว่าเวลานี้จะมีคนมาที่เรือนแล้วมาพบเฉินเสียนกำลังแช่เท้าอยู่
เฉินเสียนคือองค์หญิง จะมาเผยให้คนอื่นเห็นเท้าขาวดั่งหยกได้อย่างไร อีกอย่างที่นี้นอกจากเธอและเฉินเสียน ที่เหลือก็เป็นผู้ชายกันหมด
เพียงแต่ชิงซิ่งนั้นรีบร้อนอย่างอยู่ไม่สุก เฉินเสียนยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับ
น้ำใสสะอาด หินรูปไข่ห่านนั้นกลมลื่น เมื่อเอาเท้าเหยียบลงไปแล้วรู้สึกทั้งเมื่อยๆและคันๆ มันสบายมากจริงๆ
ครั้งนี้ซูเจ๋อกำลังพักผ่อนอยู่บนห้องชั้นสอง องครักษ์ก็ผลัดกันมาหาใต้เท้าอยู่บริเวณรอบนอก เพื่อมาดูอาการของเขา แล้วต้มยามาหม้อสองชุด
เวลานี้ ซูเจ๋อได้ยินเสียงของเฉินเสียงกำลังพูดคุย จึงเอียงตัวพิงกับหน้าต่าง ดันหน้าต่างออกไปนิดหน่อย แล้วชำเลืองตามองไปดูสภาพการณ์ที่บริเวณลานของเรือน
เขามองเห็นเท้าสองข้างของเฉินเสียนแกว่งไปมาในน้ำ ตรงกันข้ามกับหินรูปไข่ห่าน แวววาวดั่งหยก นิ้วเท้าติดหยดน้ำอย่างแวววาว ปล่อยตัวเอ่อระเหย
เขาชำเลืองมองแล้วชำเลืองมองอีก ด้วยสีหน้าดูสุขุม
ซูเจ๋อสั่งหัวหน้าองครักษ์ให้มารับคำสั่งไปทันที องครักษทั้งหมดจะไปร่วมตัวกันอยู่ที่ด้านหน้าห้องโถง ก็จะไม่มีใครก้าวเข้ามาในเรือน
แต่ทว่าเขาประมาทกับเฮ่อโยวคนที่ไม่รู้ความคนนี้
เฮ่อโยวทำเหมือนกับไม่ได้อยู่ในกฎระเบียบคำสั่งของเขาเลย เขาอยากจะไปไหน หัวหน้าองครักษ์ก็ห้ามเขาไม่อยู่แล้ว
ดังนั้นเฮ่อโยวจึงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในปากยังคาบลูกสาลี่แล้วเดินวนไปมาหน้าจวนอีกประเดี๋ยวก็เดินวนไปหลังจวน
เมื่อเห็นเฉินเสียนก็ไม่หลีกเลี่ยงที่จะทักทายเหมือนกับทักทายเพื่อนเก่าว่า “องค์หญิงกำลังล้างเท้ารึ”
ชิงซิ่งเมื่อเห็นเหตุการณ์จึงพูดว่า “รองท่านฑูตปกติชอบทำตัวเอาใจยากก็พอแล้ว แต่เวลานี้อย่าเรียนรู้ที่ทำตัวเป็นผู้มักมากในกาม องค์หญิงกำลังล้างเท้า รองท่านฑูตควรที่จะหลบไปถึงจะถูก!”
ขณะที่พูดนั้น เฮ่อโยวก็ได้นั่งอยู่ที่ริมม้านั่งยาวอีกข้างแล้ว พูดว่า “ข้าไม่ไปเจ้าจะทำอะไรข้ารึ” ด้วยท่าทางที่กวนๆ
เฉินเสียนนั่งอยู่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะชอบดูการหยอกล้อของเฮ่อโยวกับนางกำนัลน้อย
ซูเจ๋ออยู่ข้างบนมองเห็นว่าเฮ่อโยวออกไปจากข้างในเรือน จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วจึงปิดหน้าต่างลง
หลังจากนั้น เขาก็เดินเข้าไปในเรือน
ครั้งนี้ชิงซิ่งยิ่งหวาดกลัว เฮ่อโยวไม่มีกฎระเบียบเธออาจจะตำหนิได้ แต่ถ้าเป็นซูเจ๋อเธอไม่อาจจะตำหนิได้
ชิงซิ่งเพียงแค่หน้าแดงแล้วพูดว่า “ใต้เท้า องค์หญิงกำลังล้างเท้าอยู่”
ความหมายคือพยายามเชิญให้เขากลับไป
ซูเจ๋อพูดอย่างนุ่มนวลว่า “เมื่อวานมาถึงอย่างรีบร้อน อีกอย่างร่างกายก็ไม่แข็งแรง เพื่อที่จะมาเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เย่เหลียง ข้ามาที่นี่เพื่อคุยกับองค์หญิง”
ซูเจ๋อมาอย่างมีเรื่องเป็นทางการ เฉินเสียนก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเขาได้
เฉินเสียนทำหน้านิ่งแล้วพูดว่า “ชิงซิ่ง เชิญใต้เท้าซูเข้ามา”
ชิงซิ่งถาม “องค์หญิงต้องการเช็ดเท้าแล้วใส่รองเท้าก่อนหรือไม่?”
เฉินเสียนยังแช่เท้าไม่พอ จึงพูดว่า “ออกมาข้างนอก ไม่ต้องมีกฎระเบียบและมารยาทอะไรมาก ข้าคิดว่าใต้เท้าซูนั่นเป็นสุภาพบุรุษที่มีคุณธรรมน่านับถือ ไม่เห็นเหตุผลที่ว่าไม่ดี”
“เพคะ” ดังนั้นชิงซิ่งจึงเชิญซูเจ๋อเข้ามา
เวลานั้นเฉินเสียนที่นั่งอยู่บนม้านั่งยาว ชำเลืองมองไปที่ซูเจ๋อที่อยู่ด้านหน้าเธอ
ซูเจ๋อปฏิบัติตามพีธีของราชวัง ก้มโค้งคำนับเคารพ ได้อย่างไม่มีที่ติ
เฉินเสียนยากที่จะเห็นอีกด้านของขุนนางบัณฑิตที่ปฏิบิติตัวอย่างเป็นทางการ ครั้งที่แล้วได้เห็นเมื่อตอนที่อยู่ในจวนของเฮ่อเซียง เพียงแต่เธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะชื่นชม
ตอนนี้เธอพยายามเพลิดเพลินกับตัวเอง
ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ ซูเจ๋อไม่เคยพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในราชสำนักเลย
เขาก้มลงมองโดยตลอด ไม่เงยหน้าขึ้นมามองเธอ
เฉินเสียนเม้มปากแล้วยิ้ม เอาเท้าตบละอองน้ำที่เท้า สายตาที่ก้มลงมองต่ำตามเท้าของเธอที่กำลังเล่นน้ำอยู่อย่างเงียบๆ
เฉินเสียนพูด “ใต้เท้าซูมีเรื่องอันใดเชิญพูด”
ซูเจ๋อเริ่มเปิดปากพูด “องค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้ข้าน้อยไปเจรจาสันติภาพที่เมืองเย่เหลียง เมืองเย่เหลียงต้องการให้เอาคูเมืองต้าฉู่มาแลกกับชีวิตของท่านแม่ทัพฉิน เพราะความเป็นจริงแล้ว ท่านแม่ทัพฉินยังไม่ได้ตายในสงคราม”
เฉินเสียนชะงัก ทำให้ลืมเล่นเท้าที่จุ่มอยู่ในน้ำ แล้วพูดว่า “ท่านว่าเขายังไม่ตายรึ?”
“ใช่ เพียงแค่ทางเมืองเย่เหลียงต้องการที่จะจับเขาไปเป็นเชลยศึก องค์หญิงไม่ต้องกังวล ก่อนที่พวกเราจะไปถึงชายแดน ท่านแม่ทัพฉินคงจะไม่เป็นอะไร ”
เฉินเสียนเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร พูดว่า “องค์จักรพรรดิยินยอมให้เอาเมืองต้าฉู่เพื่อไปแลกกับชีวิตแม่ทัพฉินอย่างงั้นรึ?”
ซูเจ๋อพูดเสียงอบอุ่นว่า “ท่านแม่ทัพฉินเป็นแม่ทัพฝีมือดี ขุนนางที่สร้างคุณประโยชน์ขององค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดิคงทนไม่ได้ที่จะสูญเสียบุคคลสำคัญของอาณาจักรไป ดังนั้นจึงมีรับสั่งให้ข้าน้อยไปเจรจาสันติภาพ”
ดังนั้นตอนนี้ที่เธอเดินทางมาไกลขนาดนี้ก็สูญเปล่าแล้วสิ?
เดินทางกันมาถึงครึ่งทางแล้ว ไม่สามารถที่จะหันหลังกลับได้ ดูแล้วเธอทำได้เพียงเดินหน้าไปพร้อมกับซูเจ๋อต่อไป
เพียงแต่ไม่ใช่การไปดูเถ้ากระดูกของฉินหรูเหลียง แต่เป็นการไปพาเขากลับมา
การคาดเดาในตอนแรกของเขาก็เป็นจริง
เดิมทีเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จริงจังอย่างมาก แต่ระหว่างนั้นก็มีเสียงกัดสาลี่ดังเล็ดลอดออกมา บรรยากาศจึงรู้สึกแปลกๆ
สามคนต่างพากันเงียบ ฟังเฮ่อโยวค่อยๆเคี้ยวสาลี่
เขายังพูดว่า “ทำไมพวกท่านถึงไม่พูดอะไรกันเลยล่ะ พูดต่อสิ บัณฑิต ท่านยังพูดไม่จบไม่ใช่รึ?”
ซูเจ๋อพูดเบาๆว่า “เมื่อครู่นี้ตอนที่ข้ามาข้าเห็นหัวหน้าองครักษ์หารองท่านฑูตอยู่”
เฮ่อโยวสงสัย “หาข้าทำไมกัน?”
“พวกเขาอยู่ในเรือนรับรองสถานีจุดพักม้าแล้วเจอกล่องลูกเต๋า แต่ไม่รู้วิธีเล่น คิดว่ารองท่านฑูตน่าจะรู้ เลยอยากจะให้ไปช่วยชี้แนะ”
เฮ่อโยวแค่ฟังก็รู้สึกมีชีวิตชีวาแล้วพูดว่า “อั้ยหย๋า ไม่รีบพูดล่ะ ข้านี่แหละเก่งที่สุด!”
เขาจึงรีบวิ่งออกไปจากในเรือน
เฉินเสียนเอามือกุมหน้าผาก
เฮ่อโยวยังเด็กอยู่มาก จึงโดนซูเจ๋อหลอกได้อย่างง่ายโดยที่เขาไม่ได้แสดงสีหน้าเปลี่ยนแปลงอะไร
เพียงแค่เจอลูกเต๋า ขุนนางที่อยู่ในระหว่างทำงานราชการ ไม่สามารถที่จะเล่นการพนันอย่างเปิดเผยได้ พวกเขาต้องปิดประตูแอบเล่นกัน ยิ่งกว่านั้นไม่กลัวตายแถมยังเรียกให้เจ้านายมาช่วยสอนอีก
เฉินเสียนมองไปที่ซูเจ๋อ ที่ยังก้มหัวยืนอยู่ด้วยท่าทางที่นิ่ง จึงพูดว่า “เมื่อครู่นี้เขาบอกว่าใต้เท้าซูยังพูดไม่จบ ใต้เท้าซูยังมีเรื่องอะไรจะพูดหรือไม่?”
ซูเจ๋ฮพูด “เรื่องที่ข้าน้อยจะพูดนั้นพูดจบแล้ว ข้าน้อยทูลลา”
เฉินเสียนใช้เท้าถูกับหินรูปไข่ห่านไปมา ทำให้เกิดเสียงน้ำใสๆ。
ซูเจ๋อหันตัวกลับ ลังเลเล็กน้อยแล้วหันกลับมาพูดว่า “ข้าน้อยบังอาจ ขอองค์หญิงย้ายไปล้างเท้าที่ห้อง ถึงอย่างไรข้างนอกก็มีสายตาคนอื่นมากมาย”
ชิงซิ่งรีบพูดขึ้นอย่างไวว่า “ใต้เท้าซูพูดได้ถูกต้อง”
เฉินเสียนเลิกคิ้ว ได้ยินซูเจ๋อพูดกับชิงซิ่งว่า “เช็ดเท้าให้องค์หญิงแล้วใส่รองเท้าเถอะ”
เขาเหมือนเป็นสุภาพบุรุษมีมารยาท แต่ที่จริงในคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคอย่างไม่รีบร้อนนั้นก็ได้ทำให้เธอตัดสินได้?
ชิงซิ่งทำตามที่ซูเจ๋อชี้แนะ เช็ดเท้าให้กับองค์หญิงก่อน
เฮ่อโยวรีบวิ่งไปหาหัวหน้าองครักษ์แล้วถามถึงเรื่องลูกเต๋าอย่างดีใจ หัวหน้าองครักษ์ตอบว่า “ข้าน้อยไม่กล้าที่จะมาเล่นการพนันอย่างเปิดเผย ขอรองท่านฑูตโปรดมองอย่างชัดเจน”
เฮ่อโยวเพิ่งรู้ว่าตัวเองนั้นโดนหลอก เมื่อเขารีบกลับมาในเรือนอย่างรีบร้อน แต่กลับไม่มีแม้แต่เงาของใคร