บทที่ 143 การยั่วยุเป็นงานด้านเทคนิค!
เอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ ออกสํารวจเกาะมนุษย์เงือกหลังจากกินปูจนอิ่ม
ปรากฏว่าจุดอื่น ๆ บนเกาะเต็มไปด้วยมนุษย์เงือก นอกจากอาณาเขตของปูนักฆ่า
แต่สิ่งที่ทําให้พวกเขาตกใจก็คือ นอกจากมนุษย์เงือกทั่วไปที่พวกเขาเคยฆ่าไปเป็นฝูงแล้วยังมีมนุษย์เงือกสายพันธุ์พิเศษอีกมากมาย รวมถึงระดับอีลิทที่หายาก
แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้สํารวจว่าแซฟไฟร์ทะเลทั้ง 7 อยู่ที่ไหน แต่ทั้งเกาะก็แบ่งออกเป็น 7 ส่วน
ส่วนแรกคือพื้นที่ชายหาด ที่เต็มไปด้วยแนวปะการังและหาดทราย
นอกจากนี้ยังเป็นเขตหวงห้ามสําหรับมนุษย์เงือก เนื่องจากมันเต็มไปด้วยปูนักฆ่า แม้ ว่าพวกมันจะอร่อยแต่เมื่อมนุษย์เงือกถูกล้อมด้วยปูที่มีระดับเดียวกัน 2 ตัวขึ้นไป ก็ไม่สําคัญว่ามนุษย์เงือกตนนั้นจะถูกกินจากด้านไหน
ในขณะเดียวกัน เมื่อเกาะถูกแบ่งตามภูมิประเทศ มันก็มีพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยหินที่มีสีน้ําตาลอมเหลือง และหน้าผาสูง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ป่าเขียวชอุ่มที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ที่เหมือนสาหร่ายทะเลเขตทะเลทรายที่ร้อนเป็นพิเศษแม้จะอยู่ใกล้ทะเลพื้นที่ปาอีกแห่งหนึ่งก็เป็นปาที่ไม่มีดินมันเต็มไปด้วยกับดักทางธรรมชาติแอ่งน้ําและบังโคลนและพื้นที่ที่กว้างที่สุดคือทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงถึงเอมากมาย แต่เสียงกรอบแกรบจากพุ่มไม้รอบๆก็เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่สถานที่ที่สงบแน่นอน
และที่ใจกลางของเกาะ ก็มีภูเขาสูงตระหง่านซึ่งยอดของมันเหมือนถูกตัดออกจนเรียบ ที่เหมือนเป็นที่ราบสูงขนาดใหญ่ ที่นั่นมีการติดตั้งพอลทัล ตาสมุทร” และเป็นบริเวณศูนย์กลางที่มนุษย์เงือกอาศัยอยู่อย่างคึกคัก
หากสถานที่อื่นเต็มไปด้วยภัยคุกคามที่ซุ่มซ่อนอยู่ พื้นที่ส่วนกลางก็เป็นพื้นที่ ๆ อันตรายที่สุด
และเนื่องจากมันชัดเจนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า แซฟไฟร์ทะเลทั้ง 7 จะถูกแจกจ่ายไปทั่วเกาะทั้ง 7 ส่วน
เอ็ดเวิร์ดคิดถึงเรื่องนี้ ก่อนจะตัดสินใจเลือกเป้าหมายเป็น โซนกลาง!
ปาร์ตี้ของพวกเขาซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินขนาดใหญ่ ห่างจากฝูงมนุษย์เงือกเพียง เล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้มนุษย์เงือกค้นพบ
โจเริ่มพูดขึ้นก่อน “ข้าใช้วิญญาณคู่หูสอดแนมมันมาแล้ว มนุษย์เงือกนักบวชชั้นสูงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตาสมุทร มีแซฟไฟร์ขนาดใหญ่อยอยู่ที่คอของมัน”
โจทํามือเป็นวงกลมขนาดเท่าชาม “มันคือแซฟไฟร์ทะเลแน่นอน!”
“แล้ววิญญาณคู่หูของเจ้าอยู่ไหน” เอ็ดเวิร์ดถามหลังจากรอมาสักพักแล้ว แต่ไม่เห็นว่าวิญญาณคู่หูของโจจะกลับมาเลย
“มันถูกเวทย์มนต์ของมนุษย์เงือกทําลาย” สีหน้าของโจดูเจ็บปวด “มีคูลดาวน์ 10 นาทีก่อน จะอัญเชิญขึ้นมาใหม่ได้”
เอ็ดเวิร์ดตบไหล่โจปลอบใจ ก่อนจะหันไปหาคนอื่น ๆ “ใครมีความคิดดี ๆ บ้าง”
“ข้า! ข้า! ข้า!” เป็นโจอีกครั้ง
เอ็ดเวิร์ดประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ทําท่าทางประมาณว่า “เอาล่ะ พูดเลย”
“ก่อนอื่นเอ็ดเวิร์ดและโกวต้านจะซุ่มโจมตีศัตรูจากทางซ้าย!” โจพูดอย่างจริงจัง
“โตวก้าน!” โกวต้านขัดจังหวะแบบไม่มีความสุข แต่โจไม่สนใจเขา
ขณะเดียวกันเอ็ดเวิร์ดพยักหน้า นี่เป็นการสร้างความวุ่นวายให้ศัตรูสับสนรึเปล่า ความคิดดี!
“จากนั้นเอลีน่าและเจสสิก้า จะซุ่มโจมตีพวกเขาจากทางขวา!” โจพูดต่อ
เอ็ดเวิร์ดพยักหน้าอีกครั้ง ใช้เอลื่น่าสมาชิกปาร์ตี้ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวก เป็นตัวหลักในการโจมตีระลอกที่สอง เพื่อทําให้ศัตรูเห็นภาพลวงตาว่าพวกมันถูกโจมตีจากปลายทั้งสองด้านและทําให้ศัตรูเกิดความโกลาหล ความคิดดี!
“จากนั้นข้าก็จะโจมตีพวกมันจากด้านหน้า!” โจพูดอย่างเคร่งขรึม
“?” เอ็ดเวิร์ด
“จากนั้นเราก็จะทํางานร่วมกันในทั้ง 3 ด้าน และได้รับแซฟไฟร์ทะเล!” โจกล่าวทิ้งท้าย
“???? เอ็ดเวิร์ด
“หมดแล้วเหรอ? แผนสํารองล่ะ? แล้วกลยุทธ์ที่ข้าขอล่ะ ไปไหน?
นั่นไม่ใช่แค่การพุ่งเข้าใส่ตรง ๆ เหรอ!”
บนหัวของเอ็ดเวิร์ดมีเส้นสีดําสามเส้นตกลงมา เขารู้สึกโง่มากที่ฝากความหวังไว้กับโจ
มีมนุษย์เงือกจํานวนมากในโซนกลาง หากผู้เล่นทุกคนมารวมตัวกันเพื่อเอาชนะศัตรูแบบซึ่ง ๆ หน้ามีโอกาสเพียง 50-50 ที่จะประสบความสําเร็จ นับประสาอะไรกับคนเพียง 5 คนเท่านั้น
“เจ้าไม่คิดว่านั่นเป็นกลยุทธ์ที่ดีเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเจ้าโจมตี 4 ครั้งจากด้านหน้า ข้าจะไถลไปด้านหลังและซุ่มโจมตีพวกมัน ข้าสัญญาว่าข้าจะกําจัดมนุษย์เงือกตัวหนึ่งด้วยการเฉือนเพียงครั้งเดียว!” โจเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นสีหน้าของเอ็ดเวิร์ด แต่เขาก็ทําหน้าภูมิใจแบบว่า”นี่ข้าพึ่งพูดอะไรไป? ข้าคิดกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ได้จริง ๆ เหรอ? สุดยอด!”
เอ็ดเวิร์ดตากระตุกอย่างต่อเนื่อง และตัดสินใจลืมโจ
“ลืมมันไป โตวก้าน เจ้าจะเป็นคนล่อกลุ่มมนุษย์เงือกออกไป โจยั่วยุพวกมันเมื่อพวกมันมาถึงเจ้าไม่ต้องสู้ แต่พยายามดึงพวกมันออกไปให้ไกลที่สุด ในขณะที่เจสสิก้าจะคอยตรวจสอบ HP ของโจกับโตวก้าน” เอ็ดเวิร์ดเลิกคุยเกี่ยวกับกลยุทธ์ และเริ่มแจกจ่ายงานให้แต่ละคน “ทั้งเอลีน่าและข้าเป็นสายโจมตีระยะไกล เมื่อมีมนุษย์เงือกน้อยลง เราจะลองดูว่าเราสามารถโคนมนุษย์เงือกที่เป็นนักบวชชั้นสูงได้หรือไม่…”
นอกจากความไม่พอใจของโจที่กําลังพึมพําว่า “กลยุทธ์ของข้าน่าสนใจกว่าเห็น ๆ” คนอื่น ๆก็ยอมรับแผนของเอ็ดเวิร์ด
แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่ม
โกวต้านไม่สามารถล่อมนุษย์เงือกออกไปได้ ลูกธนูของเขาไม่สามารถดึงดูดมนุษย์เงือกได้ แม้มันจะได้ผลในดันเจี้ยน ยิ่งไปกว่านั้น มนุษย์เงือกที่เป็นนักบวชชั้นสูงก็จะมาถึงที่เกิดเหตุทันทีหลังจากที่เขาสังหารมนุษย์เงือกไปหนึ่งหรือสองตัว และโกวต้านก็จะถูกโจมตีด้วยคาถาที่นักบวชชั้นสูงส่งมา
หลังจากนั้นเอ็ดเวิร์ด เอลีน่า และเจสสิก้า ก็พยายามผลัดกันใช้ทักษะการโจมตีระยะไกลของตัวเอง เพื่อดึงมนุษย์เงือกออกมา แต่พวกเขาก็ล้มเหลวเหมือนกัน นอกจากนั้นเอลีน่ายังถูกพบเห็นทันทีโดยนักบวชชั้นสูง เพราะทักษะเธอทําให้นักบวชชั้นสูงตกใจ
เด็กหญิงจึงถูกไล่ล่าไปครึ่งเกาะมนุษย์เงือก โดยที่พวกมนุษย์เงือกหลั่งไหลออกมาจากรัง(และเผลอฆ่ามาร์นี่ที่พึ่งขึ้นมาบนเกาะ) ความจริงแล้วเอลีน่าคงจะตายทันที หากเธอไม่ได้วิ่งไปที่ชายหาดและวิ่งเข้าหาปูนักฆ่าที่ทําให้พวกมนุษย์เงือกหวาดกลัว
หลังจากความล้มเหลวหลายครั้ง เอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ ก็ตัดสินใจล้มเลิกแผนการนั้นอย่างรวดเร็ว และพร้อมที่จะคิดหาวิธีอื่น หรือไม่ก็แค่เปลี่ยนเป้าหมาย แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังส่งโจออกไปเป็นความพยายามครั้งสุดท้าย
ผลก็คือโจก็สามารถล่อมนุษย์เงือกออกมาได้สําเร็จ แม้จะมีพวกมันตามมาไม่มาก แต่ในที่สุดมันก็ได้ผล
หลังจากทดสอบหลายครั้ง พวกเขาก็ตระหนักว่า มนุษย์เงือกจะไล่ตามเฉพาะโจเท่านั้นและไม่สนใจคนอื่น ๆ เลย
ทําไมถึงเป็นแบบนั้น? นักดาบวิญญาณมีอะไรพิเศษที่ทําให้มนุษย์เงือกวิ่งไล่เขาโดยไม่รู้ตัวเหรอ?
เอ็ดเวิร์ดอดไม่ได้ที่จะรู้สิ่งแปลก ๆ กับเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็มองไปที่กล้ามอกขนาดใหญ่ของโจอย่างครุ่นคิด