บทที่ 149 ราชาปูป้อมปราการ
เมื่อเอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ มาถึงจุดรวมพลที่ระบุไว้ในฟอรัม พวกเขาก็ตระหนักว่านักสํารวจ 7 ทะเลคนอื่น ๆ (ผู้เล่นที่ได้รับแซฟไฟร์ทะเล) ก็มาถึงแล้วเช่นกัน
ความจริงมีคนคุ้นหน้าอีกหลายคนมารวมตัวกันที่นี่ แม้แต่เจ้าของโรงเหล้ากาต้มน้ําเหล็กที่ไม่ค่อยปรากฏตัวก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาค่อย ๆ เช็ดขวานศึกขนาดใหญ่ เหมือนกับว่าเขากําลังรอการต่อสู้อันดุเดือด
“มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ” เอ็ดเวิร์ดถามเจ้าหญิงลีอา เมื่อพบว่าผู้เล่นกําลังถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิง “ไม่มีใครสังเกตเห็นราชาปูป้อมปราการมาก่อนได้ยังไง”
แม้ว่าเอ็ดเวิร์ดจะถามคนอื่น ๆ ได้ แต่ปัจจุบันนอกจากตัวเขาเองแล้ว ก็มีมาร์นี่ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ํารวยที่สุดในบรรดาผู้เล่น (ไม่รวมแองโกร่าและมรดกของดยุคที่เขายังไม่ได้รับ) และแองโกร่าลอร์ดแห่งเมืองไร้ชื่อเองก็ไม่อยู่ ดังนั้นที่นี่จึงมีเพียงอดีตเจ้าหญิงแห่งเกียร์ร่าเท่านั้น
มาร์นี่ยังคงรอการฟื้นคืนชีพ แองโกร่าก็ไม่ได้อยู่ที่นี่เนื่องจากเขาไม่มีความสามารถในการต่อสู้ และวีลาผู้ช่วยของเขาก็มีชื่อเสียงไม่พอ ดังนั้นผู้เล่นระดับสูงจึงมีเพียงเอ็ดเวิร์ดและเจ้าหญิงลีอาท่านั้นที่สามารถพูดเรื่องต่าง ๆ ด้วยกันได้
เนื่องจากเอ็ดเวิร์ดเพิ่งมาถึง เจ้าหญิงลีอาจึงเป็นผู้ที่มีข้อมูลสมบูรณ์ที่สุดในสถานการณ์นี้อย่างไม่ต้องสงสัย
และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เธออธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้เอ็ดเวิร์ดฟัง “มันกําลังหลับอยู่ใต้ชายหาด ผู้เล่นคนอื่นปลุกมันขึ้นมาหลังจากที่ฆ่าปูนักฆ่า แล้วตอนที่มันโผล่ขึ้นมาบนชายหาด มันก็จับลุงมาร์ นี่และฆ่าเขาในไม่กี่วินาที”
เอ็ดเวิร์ดเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่จริงจัง ปกติแล้วเขาจะไม่ล้อมาร์นี่ว่า ‘มาร์นี่ตายอีกแล้วเหรอ!’ หรืออื่น ๆ และเริ่มศึกษาสถานการณ์อย่างจริงจังแทน “ศัตรูจะต้องโจมตีแรงมากแน่ หากมันสามารถฆ่ามาร์นี้ได้ในไม่กี่วิ…”
แม้ว่ามาร์นี้จะตายเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่มาร์นี่ก็ยังคงประสบความสําเร็จในการยกระดับไอเทมของเขาเป็น +6 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดในหมู่ผู้เล่น
แม้ว่าซีเว่ยจะกําหนดราคาเหรียญเกมที่แตกต่างสําหรับการเสริมแกร่งไอเทมในระดับที่แตกต่างกัน แต่จํานวนเหรียญเกมที่ต้องการในการตีบวกแต่ละขั้นนั้นจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เมื่อตีบวกจาก +5 เป็น +6 มันก็มีราคาสูงกว่า 10,000 เหรียญเกมไปแล้ว
เนื่องจากผู้เล่นไม่เคยเก็บสะสมเหรียญในเกมเลย ทําให้มีเพียงมาร์นี้เท่านั้นที่สามารถจ่ายเหรียญเกมเพื่อตีบวกไอเทมจํานวนมากได้
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงถูกฆ่าโดยราชาปูป้อมปราการ เห็นได้ชัดว่ามันมีความแข็งแกร่งที่เหมาะสมจะเป็นบอสตัวสุดท้ายของเกาะมนุษย์เงือก
“ทําไมทุกคนถึงมารวมตัวกันที่นี่ เราจะใช้กลยุทย์คลื่นมนุษย์ใช่ไหม” เอ็ดเวิร์ดถาม
แม้ว่าผู้เล่นมักจะมารวมตัวกันเมื่อพวกเขาต้องต่อสู้กับบอส แต่ปกติพวกเขาจะผ่อนคลายกว่านี้ แต่นี่พวกเขาถกเถียงกันอย่างดุเดือดมาก ถือเป็นภาพที่หาได้ยาก
“ทุกคนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนการณ์ที่แตกต่างกัน” เจ้าหญิงลีอากล่าวอย่างจริงจัง
“แผน?”
เอ็ดเวิร์ดถึงกับผงะ ในความคิดของเขา จํานวนผู้เล่นที่อยู่ที่นี่สามารถฆ่าอัครมุขนายกกระดูกเน่า 8 ตัวได้ด้วยซ้ํา ราชาปูป้อมปราการทรงพลังถึงขนาดที่ต้องใช้แผนหลายแผนเพื่อเอาชนะ แม้ว่าผู้เล่นทั้งหมดจะอยู่ที่นี่เลยเหรอ?
ไม่ว่ายังไง เขาก็ตัดสินใจที่จะฟังว่าผู้เล่นคนอื่นกําลังวางแผนอะไรอยู่ แม้ว่าเขาจะมั่นใจในความสามารถในการสั่งการของตัวเอง แต่ก็มีหลายครั้งที่กลยุทธ์ที่พิถีพิถัน อาจมีประโยชน์น้อยกว่าความคิดสร้างสรรค์ของคนอื่น และเขาควรตรวจสอบแผนการที่มีอยู่ในตอนนี้
“มีแผนอะไรบ้าง”
“อืม พูดง่าย ๆ คือทุกคนถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย” เจ้าหญิงลีอากล่าวเนิบ ๆ
“สามฝ่าย…” เอ็ดเวิร์ดค่อนข้างแปลกใจที่มีแผนถึง 3 แผนเกิดขึ้นได้ในเวลาอันสั้น ดูเหมือนว่าจะมีผู้เล่นที่ฉลาดอยู่จริง ๆ
“ถูกต้อง ฝ่ายนึ่ง ถือครองเสียงส่วนใหญ่ในขณะนี้ โดยที่อบเกลือและย่างมีผู้สนับสนุนน้อยกว่า”
เอ็ดเวิร์ด: ???
“โทษนะ เราไม่ได้กําลังพูดถึงแผนใช่ไหม ท่านช่วยพูดอีกทีได้ไหม” เอ็ดเวิร์ดถามตัวแข็งที่อ
“ฝ่ายนึ่ง ถือครองเสียงส่วนใหญ่ในขณะนี้ โดยที่อบเกลือและทอดเนย มีผู้สนับสนุนน้อยกว่า” เจ้าหญิงลีอาพูดซ้ํา
“เอ่อ ท่านไม่ได้พูดว่าย่างมาก่อนเหรอ”
“เจ้าได้ยินผิดแล้ว”
“…..”
‘เดี๋ยวก่อน ทุกคนกําลังมีความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับคําว่าแผนใช่ไหม?’
‘ไอ้พวกปีศาจ! เจ้ากําลังพูดถึงวิธีกินศัตรูก่อนที่จะเริ่มสู้งั้นเหรอ!’
“ข้าเข้าใจในสิ่งที่เจ้ากําลังคิด แต่เจ้ากลัวจริง ๆ หรือว่าผู้เล่น 200 คนจะไม่สามารถเอาชนะราชาปูป้อมปราการตัวเดียวได้ อะไรคือกพลังโจมตีที่รุนแรงของมัน?” เจ้าหญิงลีอายักไหล่ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดูเหมือนเธอจะพอใจกับการเล่นตลกของเธอ
เอ็ดเวิร์ดคิดแล้วก็เห็นด้วย
สุดท้ายราชาปูป้อมปราการก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าปูตัวใหญ่กว่า และจริง ๆ แล้วมันอา จมีพลังป้องกันน้อยกว่ายักษ์แห้งแล้งด้วยซ้ํา ดังนั้นผู้เล่นจะแพ้ได้ยังไง?
ยังไงปูก็น่ารักมาก ถ้าพูดถึงเรื่องกินล่ะก็นะ…
“ข้าขอแบบเผ็ดได้ไหม” เอ็ดเวิร์ดเสนอความเห็น “เพิ่มผงฮาบาเนโร! (เครื่องเทศที่เป็นส่วนผสมของกระเทียมและยี่หร่า)”
“เนื้อปูทอดเนย เสิร์ฟพร้อมซุป!” ทันใดนั้นเอลีน่าก็ตะโกนขึ้นหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง
“ปูย่างนั้นดีที่สุด” โจเข้าร่วมฝ่ายย่าง “เนื้อที่ร้อนและชุ่มไปด้วยน้ํา ลองนึกภาพเมื่อได้กัดมันคําโต ๆ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว!”
“ไม่ไม่ไม่ จะต้องนึ่งและปรุงรสด้วยผงฮาบาเนโร รสสัมผัสเผ็ดร้อนนั้นดีที่สุด!” โกวต้านแสดงความคิดเห็นของตัวเองเข้ากับฝ่ายนึ่ง
“เอ่อ…เราทําทุกอย่างไม่ได้เหรอ ก็ราชาปูป้อมปราการตัวใหญ่ซะขนาดนั้น?” เจสสิก้าพูดเสียงเบา
เธอสะดุ้งทันทีที่ผู้เล่นคนอื่น ๆ หันมามองเธอ
“อืม…ข้าพูดอะไรผิดเหรอ” เธอถามเบา ๆ
ในช่วงเวลาถัดไป ผู้เล่นทุกคนที่โต้เถียงกันอย่างบ้าคลั่งเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน ก็ตะโกนขึ้นพร้อมกัน
“นั่นแหละ!”
“เอ๊ะ? เอ๋ ?”
[ติ้ง!]
[กิจกรรมว่ายน้ําฤดูหนาว: การโจมตีของเกาะมนุษย์เงือกได้สิ้นสุดลงแล้ว]
[ต้องขอบคุณการทํางานอย่างหนักของทุกคน ภัยคุกคามของเกาะมนุษย์เงือกได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่เทพสมุทรที่ชั่วร้ายยังคงมีพลังมาก แม้ว่าเทพเจ้าแห่งเกมที่กล้าหาญและทรงพลังจะผนึกตาสมุทรเอาไว้แล้วก็ตาม แต่ด้วยอํานาจที่มากล้นของเธอ เทพสมุทรจึงสามารถส่งมนุษย์เงือกจํานวนมากขึ้นมาบนเกาะได้อยู่ ดังนั้นโปรดไปที่เกาะมนุษย์เงือกบ่อย ๆ และกําจัดสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายเหล่านั้น เพื่อรักษาความสงบสุขของท้องทะเล!]
[ไอเทมที่แลกเปลี่ยนได้จะยังคงอยู่ พร้อมกับคะแนนการฆ่ามนุษย์เงือก โปรดทราบว่ารายการที่แลกเปลี่ยนได้จะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล]
[ผู้เล่นทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับฉายา ‘นักฆ่ามนุษย์เงือก’]
[หมายเหตุ 1: ‘การล่ามนุษย์เงือกเป็นสิ่งที่น่าเบื่อที่สุด เพราะหัวของพวกมันเหม็นคาวและไม่สามารถใช้ตกแต่งผนังได้’ by มิสตอริน นักยุทธศาสตร์ต่อต้านมนุษย์เงือก A]
[หมายเหตุ 2: ‘เจ้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเกียวทาคุ *ใช่ไหม” by มิสตอริน นักยุทธศาสตร์ต่อต้านมนุษย์เงือก B]
(TL:เกียวทาคุ แปลเป็นไทยว่า “ภาพพิมพ์ปลา” มันคือการนําปลาที่จับได้มาทาหมึกดําและ พิมพ์ตัวปลาลงบนกระดาษ ก่อนจะปล่อยพวกมันกลับลงน้ํา สิ่งนี้คือศิลปะโบราณของญี่ปุ่น)