ฐานที่มั่นลับใต้ดินของแลงคาสเตอร์ แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงจากตอนที่ลัทธิกระดูกเน่ายึดครองที่นี่
นอกเหนือจากไลฟ์สโตนที่ผู้เล่นสร้างขึ้นในช่วงกิจกรรมแล้ว ห้องใต้ดินส่วนใหญ่ ก็ถูกเปลี่ยนเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษที่สร้างขึ้นโดยซีเว่ย ตัวอย่างเช่น พื้นที่เพาะปลูกพืชที่ไม่ต้องการแสงแดด และใช้เพียงน้ำในการเจริญเติบโตที่ชื่อว่า ‘ข้าวราตรี’ โรงแรมขนาดเล็กที่สามารถฟื้นฟู HP ของผู้เล่นได้อย่างรวดเร็ว และร้านอาหารเหมือนในเมืองไร้ชื่อ
สาเหตุที่สิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวปรากฏในฐานที่มั่นลับใต้ดินของแลงคาสเตอร์ ก็เป็นเพราะหลังจากที่มันถูกยึดคืน เจ้าหญิงลีอาก็ได้รับระบบ Overlord ซึ่งคล้ายกับของแองโกร่า เธอกลายเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่มีระบบคู่ และสามารถสลับไปมาได้ตลอดเวลา
น่าเสียดายที่เจ้าหญิงลีอาชอบเกม RPG มากกว่าเกมแนวบริหาร ดังนั้นเธอจึงมักจะหนีไปยังเมืองไร้ชื่อพร้อมกับองครักษ์ของเธอเป็นประจำ
เมื่อเจ้าหญิงลีอารู้เรื่องเควสใหม่จากองครักษ์คนหนึ่งของเธอที่เธอส่งไปสอดแนมที่เมืองไร้ชื่อ เธอก็เริ่มเตรียมอาหารและไอเทมต่าง ๆ ในทันที เพื่อที่เธอจะได้ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านมนุษย์กบในเควส
คราวที่แล้วเธอได้แสดงตัวในช่วงท้ายของกิจกรรมเท่านั้น เธอไม่ใช่ผู้เข้าร่วมในกิจกรรม แต่เป็น NPC ของกิจกรรม ดังนั้นเมื่อโอกาสมาถึงอีกครั้ง เธอจึงอดใจไม่ได้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้!
ก่อนที่เธอจะได้ไปถึงไลฟ์สโตนเพื่อเทเลพอร์ตไปยังเมืองไร้ชื่อ เธอก็ถูกนายทะเบียนที่รออยู่ก่อนแล้วกันไว้
“ฝ่าบาท ท่านเป็นลอร์ดของฐานลับแล้ว! ท่านต้องปักหลักและพัฒนาที่นี่!” นายทะเบียนแวนเค่อพยายามโน้มน้าวเธออีกครั้ง “ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูเทียร์ร่า และดินแดนแห่งสุดท้ายของเรา เราจะต้องไม่ยอมแพ้!”
“ยังมีเมืองไร้ชื่ออีกไม่ใช่หรือ”
เจ้าหญิงที่ยังคงมองหาโอกาสหลบหนีพูดขึ้นมาแบบลวก ๆ
“นั่นไม่จริงเลยฝ่าบาท” ชายชราพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่มีความหมาย “ลอร์ดของเมืองนั้นเป็นขุนนางของจักรวรรดิวัลลา ท่านก็เห็น”
ความหมายของเขานั้นชัดเจน แม้ว่าเมืองไร้ชื่อจะถูกสร้างขึ้นจากผู้ศรัทธาของเทพเจ้าแห่งเกม แต่แท้จริงแล้วแองโกร่าก็ยังคงเป็นขุนนางจากจักรวรรดิวัลลา ซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่โจมตีเทียร์ร่า
“งั้นเหรอ…? แต่ไม่เป็นไร ข้าเชื่อว่าจักรวรรดิวัลลาจะไม่ปล่อยให้ขุนนางของพวกเขาศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมหรอก” เจ้าหญิงน้อยคิดสักพัก ก่อนจะหักล้างคำกล่าวของนายทะเบียน
เธอกำลังหมายถึง ศรัทธาของแองโกร่านั้นเป็นจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาเช่นกัน และเธอก็สามารถปฏิบัติต่ออีกฝ่ายในฐานะพันธมิตรได้อย่างสมบูรณ์เพราะมัน
“นั่นก็อาจจะใช่ แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็ต้องขอร้องท่านว่าอย่าทำอะไรผลีผลามจนเกินไป เพื่อไม่ให้ฐานที่มั่นลับใต้ดินของแลงคาสเตอร์พ่ายแพ้ต่อเมืองไร้ชื่อ ท่านโปรดจัดลำดับความสำคัญการเติบโตของฐานที่มั่นลับนี้ไว้เป็นอันดับแรกด้วย”
นายทะเบียนไม่ได้โกรธ เขาค่อนข้างพอใจกับการโต้เถียงของเจ้าหญิง เพราะนั่นหมายความว่าเธอกำลังพิจารณาทุกอย่างอย่างรอบคอบ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้วางแผนที่จะให้เจ้าหญิงลีอาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
ถ้ามันเป็นการลงดันเจี้ยนหรือการสำรวจหุบเขาแห่งความตายซึ่งใช้เวลาไม่มากนัก เขาก็จะยอมยกเว้นให้ได้ แต่กิจกรรมนั้นไม่เหมือนกัน
จากข้อมูลของผู้เล่นที่มาที่นี่เพื่อทำเควสประจำวัน กิจกรรมเหล่านี้มักจะใช้เวลาหลายวัน และกิจกรรมในครั้งนี้ก็อยู่ไกลจากเมืองไร้ชื่อ ดังนั้นเจ้าหญิงจะต้องเสียเวลามากมายไปกับมัน
นั่นหมายความว่าในระหว่างนี้ การเติบโตของฐานที่มั่นลับใต้ดินของแลงคาสเตอร์จะหยุดนิ่งไป 2-3 วัน เห็นได้ชัดว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเมือง
เจ้าหญิงลีอานิ่งไป
แวนเค่อที่คิดว่าเจ้าหญิงยอมฟังเขาแล้ว จู่ ๆ เธอก็พูดขึ้นมาว่า
“แต่คุณปู่นายทะเบียน ข้าอยากเข้าร่วมกิจกรรม!”
“แต่…”
“ได้โปรดให้ข้าทำ” ก่อนที่ชายชราจะได้พูดต่อ เจ้าหญิงก็เอ่ยขัดเขาอย่างไม่สุภาพและกล่าวอย่างนักแน่นว่า “แม้ว่าฐานที่มั่นลับใต้ดินของแลงคาสเตอร์จะสำคัญ และเป็นดินแดนเพียงแห่งเดียวของเราในตอนนี้ แต่เราก็ไม่สามารถใช้เวลากับมันมากเกินไปได้!”
“เป้าหมายของข้าไม่ใช่การเป็นลอร์ดที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอย่างการหาสเบียง ทำงานในทุ่งนา หรือสร้างฐานที่แข็งแกร่ง…” เจ้าหญิงจับจ้องไปยังนายทะเบียนด้วยสายตาที่จริงจังอย่างที่เธอไม่เคยทำมาก่อน “ข้าต้องการเป็นราชาที่สามารถสร้างเทียร์ร่าขึ้นมาใหม่ และทำให้ธงของเราโบกสะบัดบนผืนดินได้อีกครั้ง!”
แม้ว่าท่อระบายน้ำใต้ดินจะไม่มีแหล่งกำเนิดแสงมากมายนัก ทำให้ทุกอย่างในนี้ดูทึมๆ แต่ในขณะนี้ ร่างกายของหญิงสาวก็ดูเหมือนจะเปล่งประกายด้วยแสงอันงดงาม ผมสีทองสุกปลั่งของเธอปลิวไสวไปตามสายลมที่พัดมา เธอดูเหมือนกับแสงตะวันในถ้ำใต้ดินที่มืดมิด สายตาของเธอทำให้ชายชราพูดไม่ออก
เขานึกถึงราชาที่เคยกำราบเขาให้เชื่องในสมัยวัยเยาว์
แม้ว่าคนผู้นั้นจะถูกเรียกว่าเป็นราชาที่โง่เขลาที่สุดในโลก แต่มีเพียงผู้ที่ได้เห็นเขาด้วยตาของตัวเองเท่านั้น ที่จะรู้ว่ายาการันที่ 11 เป็นราชาที่ยิ่งใหญ่ เขาเป็นวีรบุรุษและมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่ผู้ที่มองผ่านการโกหกทั้งหมดของโลก และผู้ปกครองที่ต้องการสร้างสวรรค์บนดินนั้น ถูกรังเกียจและถือว่าเป็นต้นตอของหายนะ…
แวนเค่อเคยคิดว่า เขาจะไม่สามารถมองเห็นออร่าที่ไม่มีใครเทียบได้นี้อีกต่อไป แต่ในขณะนี้ เขาเห็นร่องรอยของมันในตัวเจ้าหญิงลีอา
“ในโลกนี้ ผู้ที่อ่อนแอจะถูกทำลายและถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ในขณะที่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถปกครองและฟื้นฟูอาณาจักรของเราได้! นี่คือเหตุผลที่ข้าจะต้องต่อสู้เพื่อที่จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!”
จากนั้นเจ้าหญิงก็พนมมือพร้อมกับกล่าวคำอธิษฐาน “เทพเจ้าของข้า หากท่านดูเราอยู่ในขณะนี้ โปรดฟังคำอ้อนวอนที่จริงใจที่สุดของข้า ลีอา•ยาการัน ผู้ศรัทธาที่ภักดีของท่าน หากท่านรู้ถึงพรสวรรค์ของแวนเค่อ•นอร์เรจี้ เทพเจ้าของข้า โปรดโอนระบบ Overlord ของข้าให้กับเขาด้วย!”
“ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้…” ชายชรายังพูดไม่ทันจบประโยค เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ
[ติ้ง!]
[ท่านจะยอมรับระบบ Overlord จากลีอา•ยาการันหรือไม่]
สายตาของชายชราขยับออกจากหน้าจอ เขาจ้องมองเจ้าหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างตกตะลึง
เด็กสาวที่เคยเดินตามหลังเขา และเรียกเขาว่าคุณปู่มาโดยตลอด ในที่สุดก็เติบโตขึ้นมาอย่างดี…
“ข้าเข้าใจแล้วฝ่าบาท ดูเหมือนว่าจิตใจของข้าที่แก่ชราแล้วจะยังคงหลงอยู่กับอดีต…” นายทะเบียนยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนเป็นจริงจัง “ถ้านี่คือสิ่งที่ท่านต้องการ ข้าจะเดิมพันร่างกายที่แก่ชราของข้า เพื่อปกป้องฐานที่มั่นลับใต้ดินของแลงคาสเตอร์ และมอบพลังทั้งหมดของข้าเพื่อฟื้นฟูเทียร์ร่า”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ยอมรับระบบ Overlord อย่างเคร่งขรึม และกลายเป็นลอร์ดของฐานที่มั่นลับใต้ดินของแลงคาสเตอร์อย่างเป็นทางการ
ทันทีที่เขายอมรับระบบ สีหน้าของเด็กสาวก็เปลี่ยนจากความเคร่งขรึมเป็นความดีอกดีใจ “เย้! ข้าไม่ต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว! บอริส บอกให้ทุกคนเตรียมพร้อม ข้าจะไปรอพวกเจ้าที่นั่น!”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็วิ่งเข้าหาไลฟ์สโตนอย่างมีความสุขและหายวับไป
นายทะเบียน “…”
ทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนโดนหลอก?