ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ – เล่มที่ 1 บทที่ 24 ล้วนเป็นหลุมพรางของXX

ยังไม่ทันที่หลินเมิ้งหยาจะได้รับคำตอบ อากาศในปอดของนางเริ่มจะหมดไปแล้ว

นางเก็บเรื่องนี้เอาไว้ หากภายภาคหน้ายังมีโอกาส นางจะกลับมาที่นี่อีกอย่างแน่นอน

“เฮือก” หลินเมิ้งหยางดงามดั่งนางเงือก นางว่ายน้ำช้าๆ ขึ้นมาบนฝั่ง

แม้ตอนนี้จะอยู่ในช่วงกลางฤดูร้อน แต่เมื่อสายลมช่วงเวลากลางคืนพัดเข้ามากระทบร่าง นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาว

“ฮัดชิ้ว…” หลินเมิ้งหยาอดไม่ได้ที่จะจามออกมา นางรีบวิ่งกลับไปทางเรือนหยาเตีย

หลงเทียนอวี้นั่งตัวตรงอยู่บนเตียง เขาอยากใช้กำลังภายในเข้ามาถอนยาพิษออกจากร่างกาย

แต่คิดไม่ถึงเลยว่ายาพิษตัวนี้จะยังคงไม่สลายไป

หากเทียบกับยาพิษทั่วไป ยาพิษชนิดนี้ช่างถอนออกไปได้ยากเหลือเกิน

ซ่างกวนฉิง! หลินเมิ้งหวู่! พวกเจ้าสมควรตาย!

จู่ๆ ประตูเรือนก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง

หลงเทียนอวี้ลืมตาขึ้นโดยสัญชาตญาณ หรือว่าหลินเมิ้งหวู่จะยังไม่ยอมแพ้แล้วหวนกลับมาอีกครั้งกัน?

นัยน์ตาฉายชัดให้เห็นถึงร่องรอยแห่งความเย็นชา แต่หลังจากที่เขาได้เห็นร่างของคนตรงหน้าแล้ว ความเย็นชาเหล่านั้นกลับสูญสลายหายไปในบัดดล

ร่างบางเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำ นางมิใช่หลินเมิ้งหวู่ผู้น่ารังเกียจ แต่เป็นหลินเมิ้งหยา!

เกิดอะไรขึ้น? ทำไมนางถึงตกน้ำกันเล่า?

“ท่านอ๋องหลับตาก่อน หม่อมฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า นี่…นี่เป็นอุบัติเหตุ!”

แม้หลินเมิ้งหยาจะมีร่างกายบอบบาง แต่อันที่จริงเรือนร่างของนางก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว

เรือนร่าง…มีส่วนเว้าส่วนโค้งดั่งหญิงสาวโตเต็มวัยเรียบร้อยแล้ว

ท่าทางกระสับกระส่ายระคนเขินอายภายใต้แสงไฟสลัว ล้วนเป็นดั่งเปลวไฟที่เข้ามาจุดชนวนอารมณ์ของหลงเทียนอวี้ให้โหมกระหน่ำ

“ได้ยินหรือไม่ หลับตาเดี๋ยวนี้!”

หลินเมิ้งหยารู้สึกว่าเสื้อผ้าเปียกๆ เหล่านี้ทำให้นางรู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก

แม้จะมีม่านกั้น แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังรู้สึกไม่สะดวกใจอยู่ดี

แต่ใครจะรู้เล่าว่าเสียงนี้กลับทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของหลงเทียนอวี้ขาดสะบั้น

เขาหลับตาลงอย่างเชื่อฟัง แต่ในขณะเดียวกันประสาทการได้ยินกลับว่องไวมากยิ่งขึ้น

หลินเมิ้งหยาที่ไม่ได้คิดอะไรมากรีบร้อนเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชื้นออกหลังม่านกั้น

หลงเทียนอวี้ได้ยินเพียงเสียงเนื้อผ้าเสียดสีกัน

สมองพลันหวนนึกถึงค่ำคืนวันส่งมอบตัวเจ้าสาวและใบหน้างดงามของหลินเมิ้งหยา

เสียงเสียดสีที่ดังขึ้นส่งความรู้สึกประหนึ่งแมลงตัวเล็กที่ค่อยๆ แทะเล็มสติสัมปชัญญะของเขาช้าๆ จนกระทั่งพาเขาไปถึงจุดระเบิด

ในที่สุดความทรมานอันแสนหวานก็จบลง เมื่อหลินเมิ้งหยาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว สติอารมณ์พลางหยุดลงชั่วคราว

หลินเมิ้งหยาเดินออกมาจากม่านกั้น นางอยากเข้าไปเล่าประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ ให้เขาได้ฟัง

ยังไม่ทันที่เสียงจะถูกส่งออกไป ด้านนอกหน้าต่างกลับมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

คุณพระ ที่บ้านสกุลหลินแห่งนี้มีห้องแอบฟัง1ด้วยหรือ

ยังไม่ทันจะได้คิดอะไร หลินเมิ้งหยารีบเข้าไปจับมือหลงเทียนอวี้

นอนลงบนเตียง จากนั้นส่งสายตาให้หลงเทียนอวี้แสดงฉากบนเตียงกับนางอีกครั้ง

ด้านนอกหน้าต่าง แม่นมหลี่ที่เพิ่งจะกำจัดหลินเมิ้งหยาได้ยืนแอบฟังเสียงภายในอยู่ที่มุมกำแพง

นี่เป็นคำสั่งของฮูหยิน หากคุณหนูรองสร้างความสัมพันธ์กับท่านอ๋องอวี้ในค่ำคืนนี้ได้สำเร็จ เช่นนั้นวันพรุ่งนี้ฮูหยินก็จะมีวิธีทำให้ท่านอ๋องต้องแต่งงานกับคุณหนูรองแล้ว

“รีบเขย่าเตียงซิเพคะ!”

หลินเมิ้งหยากระซิบกระซาบที่ข้างใบหูของหลงเทียนอวี้เพื่อทำให้เขาได้สติ

ด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของหญิงสาวแรกรุ่น อีกทั้งยังร่างกายเย็นเล็กน้อยเพราะเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเวทมนตร์ที่ทำให้เกิดความคลั่งไคล้

“อืม…”

หลินเมิ้งหยามิได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย กลับกันนางยกมือขึ้นหยิกคอพร้อมทั้งส่งเสียงกระเส่า

หลงเทียนอวี้รู้สึกได้ถึงเลือดในกายที่กำลังพลุ่งพล่าน สมองของเขาถูกความร้อนที่หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดแผดเผา เขาใกล้จะควบคุมสติไม่ไหวอีกต่อไป!

“ท่านอ๋อง อย่าอยู่เฉยสิเพคะ…เร่งหน่อยเพคะ มิเช่นนั้นคนอื่นจะจับสังเกตได้”

หลินเมิ้งหยายังคงไม่รับรู้ถึงความผิดปกติ นางรีบเขย่าข้อมือของหลงเทียนอวี้ สัมผัสจากร่างกายนุ่มนิ่มเปรียบเสมือนยาถอนพิษให้กับร่างกายที่รุ่มร้อนดั่งถูกไฟแผดเผาของเขา

ไม่พอ ยังต้องการอีก ยังต้องการมากกว่านี้!

ราวกับว่าไม่อาจหักห้ามได้อีกต่อไป ราวกับว่าต้องการระบายอะไรบางอย่าง หลงเทียนอวี้เองก็เริ่มขยับมือตามหลินเมิ้งหยาและออกแรงเขย่าเสาเตียง

แม้เสียงจะไม่ดังเท่าวันส่งตัวเข้าหอ แต่ถึงอย่างนั้นก็มากพอที่จะทำให้ความคิดของคนแอบฟังเตลิดไปไกล

หลินเมิ้งหยามิได้สังเกตเห็นเลยว่า ดวงตาซึ่งเคยเย็นชาของหลงเทียนอวี้กำลังร้อนรุ่มมากขนาดไหน

ตอนนี้สิ่งที่นางสนใจมีเพียงเรื่องการรับมือกับคนที่อยู่ภายนอกเท่านั้น

“คิดไม่ถึงเลยว่าคุณหนูรองจะจัดการอะไรได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ แม้แต่ท่านอ๋องอวี้ เมื่อถูกวางยาก็กลับกลายเป็นคนเชื่อฟังอย่างง่ายดาย”

ใบหน้าของแม่นมหลี่เบ่งบานไปด้วยรอยยิ้ม

นางเป็นผู้ผสมยาตัวนั้นลงในชากุ้ยฮวาเองกับมือ

ในเมื่อได้ผลดีขนาดนี้ แม่นมหลี่จึงกลับไปด้วยความสบายใจ

เมื่อสัมผัสได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกหน้าต่างแล้ว ในที่สุดหลินเมิ้งหยาก็ถอนหายใจออกมา

นางคิดจะดันตัวหลงเทียนอวี้ออกเหมือนก่อน แต่จู่ๆ กลับสัมผัสได้ถึงไอร้อนและลมหายใจที่หนักหน่วง อีกทั้ง…หัวใจของเขายังกระตุกระรัว!

หลินเมิ้งหยาเหลือบสายตาขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่นางจะพบว่าร่างกายของท่านอ๋องผิดแผกไปจากเดิม!

ดวงตาของเขาร้อนผ่าว ราวกับดวงตาของนักล่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อของตนเอง

“ท่านอ๋อง…เป็นอะไรไปเพคะ?”

หลินเมิ้งหยาอ้าปากเอ่ยถามด้วยความตื่นตระหนก ขณะเดียวกัน ลมหายใจอุ่นๆ รินรดร่างของอีกฝ่าย

ริมฝีปากเปิดออก กลิ่นหอมโชยออกมา

หลงเทียนอวี้ก้มหน้าลงอย่างไร้สติ ก่อนจะพุ่งเข้าหาเจ้าของลมหายใจที่ทำให้เขาหลงใหล

หลินเมิ้งหยาที่สัมผัสได้ถึงความอันตราย รีบยกมือขึ้นเพื่อดันร่างที่กำลังยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้นางมากขึ้นทุกทีออก!

ทว่ายิ่งได้สัมผัสร่างกายของหลงเทียนอวี้ นางกลับยิ่งรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่สูงจนผิดปกติ จู่ๆ นางก็ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร!

สัมผัสที่เย็นชื้น ระยะห่างที่เริ่มใกล้ขึ้น ในที่สุด…

สมองของหลงเทียนอวี้ว่างเปล่า มือยื่นเข้าไปจับใบหน้านวลเอาไว้ก่อนจะก้มศีรษะประทับริมฝีปากลงไป!

“อุ๊บ…”

หลินเมิ้งหยาที่ไม่เคยจูบกับผู้ใดมาก่อน รู้สึกเพียงว่าสมองของตนเองกำลังว่างเปล่า ร่างกายของนางแข็งทื่อ!

อุณหภูมิยิ่งสูงขึ้น ร่างกายและการกระทำของชายตรงหน้ายิ่งร้อนแรง

มือหนายื่นเข้ามาลูบไล้แผ่นหลังของตนเองเบาๆ

ร่างกายที่เคยแข็งทื่อเริ่มอ่อนยวบลงไป

จูบของเขา…ร้อนแรง…ดุดัน…

ร้อนเสียจนหลินเมิ้งหยาที่ไร้ซึ่งประสบการณ์รู้สึกว่าท้องฟ้ากำลังหมุนติ้ว

ทั้งชาติภพก่อนและชาติภพนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้รับความรู้สึกเร่าร้อนจากผู้ชาย

หลินเมิ้งหยารู้สึกราวกับตนเองกำลังเต้นอย่างหนักหน่วง

จุมพิตของหลงเทียนอวี้เปรียบเสมือนคู่เต้นรำที่ยอดเยี่ยมซึ่งกำลังนำพาตนเองเข้าสู่ทำนองเพลงอันแสนสนุก

และยังเหมือนกับความรู้สึกที่กำลังลอยคออยู่กลางทะเลลึกอันสุดเวิ้งว้าง สับสนและมึนงง ราวกับว่าไม่มีทางที่จะว่ายกลับฝั่งได้

คิดไม่ถึงเลยว่ารสสัมผัสจากหลินเมิ้งหยาจะหอมหวานเช่นนี้

หลงเทียนอวี้รู้สึกเหมือนกับว่าตนเองกำลังมึนเมา

เขาเสมือนคนไล่ล่าตามหารสชาติอันแสนบริสุทธิ์ของเหล้าองุ่นชั้นเลิศ ทั้งสดใหม่และน่าหลงใหล เพียงจิบเดียวก็สามารถทำให้สติล่องลอยเพราะความเมามาย

บางทีนี่อาจเป็นฤทธิ์ของยา แต่ก็เป็นครั้งแรกที่สมองของหลงเทียนอวี้เลือนรางเช่นนี้ เขาอยากปลดปล่อยตัวเองและมุ่งหน้าตามหาความสวยงามที่ใจปรารถนา

“หญ้าเชียนหยาง…มีสรรพคุณทำให้มึนงง ก้านหยิ่นเยว่…มีสรรพคุณทำให้มึนงง ต้นเทียนฉีเสิ่นเป่ย…มีสรรพคุณทำให้มึนงง ผลมู่หยางจื่อ…มีสรรพคุณทำให้สมองโปร่ง ส่วนผสมของยาถอนพิษ ต้นหลิงเพี่ยนสามสิบมิลลิกรัม น้ำแข็งก้อนสามสิบมิลลิกรัม นำส่วนผสมทั้งหมดผสมเข้ากับน้ำเย็น หรือสามารถใช้วิธีใช้ปลายเข็มเจาะที่ปลายนิ้ว ติ่งหู จากนั้นปล่อยให้เลือดไหลออกจากร่างกายประมาณสิบห้ามิลลิกรัมก็สามารถถอนพิษได้เช่นกัน”

เอ๋? นี่มันอะไรกัน?

************************

1 ห้องแอบฟังคือห้องที่คนของวังหลวงเช่นขันทีหรือนางในถูกส่งมาเพื่อแอบฟังการเข้าห้องหอของเชื้อพระวงศ์

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

ชีวิตแรกของ “ซูซิงเกอ” จบลงในห้องทดลองที่เธอรัก.. เมื่อตื่นมาอีกครั้ง ซูซิงเกอจึงได้ชีวิตใหม่ในร่างของ “หลินเมิ้งหยา”คุณหนูสมองพิการ ที่มีผู้ปองร้ายเป็นแม่เลี้ยงและน้องสาวของตนเอง! มิหนำซ้ำนางกำลังจะถูกส่งตัวไปแต่งงานกับ “หลงเทียนอวี้” ท่านอ๋องแสนเย็นชา ที่ต้องแต่งงานทางการเมืองกับนาง โดยที่เขาก็ไม่ได้เต็มใจ ช่างเป็นการเกิดใหม่ ที่แสนวิเศษจริงๆ! เอาละ! จะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ไม่ได้ นางหาใช่คนที่จะปล่อยให้ชะตาชีวิตเป็นไปตามลิขิตอย่างหลินเมิ้งหยาเสียเมื่อไหร่ เพราะนางคือ..วายร้ายจอมแก้แค้นซูซิงเกอ นางจะใช้ความรู้สารพัดพิษที่มี จัดการพวกมันเอง เริ่มจากยัยน้องสาวตัวดีก่อนละกัน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset