ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 17 ตอนที่ 1
‘ให้ตายสิ เดมยัง ทำหน้าอย่างกับว่าตัวจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ’ มารุคิดในใจ
เด็กหนุ่มคงไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมอิเซถึงได้หัวเราะ เพราะใบหน้าของเขามีสีแดงราวกับลูกมะเขือเทศ น่า อย่างน้อย ๆ เขาก็ดูตอบโต้ได้ดี แทจูนและอิเซเองก็ไม่ได้ขี้แกล้งจนล้อเรื่องสีหน้าของเขาเช่นกัน มารุเห็นเด็กอีกคนนั่งที่มุมห้อง อ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่คนเดียว
เขาคือเกนซุค
มารุนั่งสังเกตเกนซุคมาได้สักพักแล้ว เพราะเด็กหนุ่มเป็นคนที่เงียบมาก ๆ มารุเห็นว่าหนังสือที่เด็กหนุ่มอ่านอยู่นั้น เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการแสดง สมาธิจะดีอะไรขนาดนี้ สายตาของเกนซุคไม่เคยละออกจากหน้าหนังสือเลย ทั้ง ๆ ที่มีเสียงคุยรบกวนเขามากมายขนาดนี้
เขามีหน้าผากที่กว้าง ดวงตาโต และดั้งที่โด่งได้รูป ถึงจะยังดูมีความเป็นเด็กอยู่บ้าง แต่ก็หล่อเหลาไม่เลวเลย
มารุหันไปดูสมาชิกชมรมคนอื่น ๆ โซยอนนั่งอยู่ข้าง ๆ เกนซุค เธอมีร่างกายที่อวบ แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด ออกจะน่ารักเสียด้วยซ้ำ ผมสั้นของเธอเองก็ดูเข้ากันดี เธอเรียนเอกเดียวกับเกนซุคและยูริม เอกออกแบบ โซยอนแอบมองหน้าเกนซุคอยู่เป็นระยะ ๆ ช่างน่าเอ็นดูเสียจริง ๆ
อีกด้านหนึ่งยูริม กลับนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตลอด ถึงเธอจะดูไม่ค่อยได้ทำอะไรกับมันมาก เพราะในยุคนี้ มือถือมันไม่มีอะไรให้ทำมากมายหรอก อย่างมากก็ส่งข้อความ หรือเล่นเกมพื้น ๆ สักเกมสองเกม? เธอมีผมสีน้ำตาลดำ แต่มันเป็นสีธรรมชาติ แน่ล่ะ ไม่งั้นคงโดนครูบ่นหูชาแน่
‘แต่เอาจริง ๆ โรงเรียนนี้จะสนใจเรื่องความยาวมากกว่าสี’
ผู้ชายยาวได้แต่ต้องยังเห็นหู ส่วนเด็กผู้หญิงห้ามยาวเกินบ่า ถึงแม้กฎจะออกมาแบบนั้น แต่เหล่านักเรียนก็ยังพยายามใช้ชีวิตโดยไว้ผมให้ยาวที่สุด เท่าที่พอทำได้ เพื่ออยากจะสวยหล่อ ยูริมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมของเธอม้วนอยู่บนบ่า เป็นระดับความยาวที่ครูพอจะปล่อยผ่านไปได้อย่างฉิวเฉียด มารุหันไปเห็นเดมยังอีกครั้ง
“พวกรุ่นพี่ไม่มากันสักทีนะ” เด็กหนุ่มบ่นขึ้น
“อ่า”
“ร้อนปะ?”
“ไม่นะ”
“ฉันโคตรร้อนเลย”
ขณะที่พูดเดมยังก็หันหน้าไปมองยูริมด้วย มารุได้แต่นึก ว่าถ้าเธอหันมาสบตาเข้าพอดี เรื่องจะเป็นยังไงนะ แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปยุ่งให้มันมากนัก
เพราะเดี๋ยวหน้าจะแดงเป็นลูกมะเขือเทศอีก น่าสงสารแย่
เด็กหนุ่มกำลังคุยกับเหล่าคนหน้าตาดีในชมรม และก็คุยได้อย่างลื่นไหลด้วย โดจินเองก็เข้าไปเนียนในกลุ่ม จะว่าไป โดจินเองก็หน้าตาดีไม่เบา เพียงแต่ท่าทางการทำตัวโดยปกติของเขานั้น มันไม่ทำให้ความหล่อได้แสดงออกมาให้เห็นนัก
ถึงจะหล่อไม่เท่าแทจูนก็ตาม แน่นอนว่าแทจูนนั้นหล่อ มากพอที่จะเป็นนายแบบโฆษณาได้สบาย ๆ ถ้าเทียบกัน เกนซุคดูหล่อเข้ม แทจูนคงหล่อแบบดูสบายตา น่าสนุก คงต้องเนื้อหอมมากแน่ ๆ
มารุเห็นอิเซหัวเราะอย่างสนุกสนานกลางวงสนทนา เธอและแทจูนดูสนิทกันมาก แม้จะไม่ได้เรียนเอกเดียวกันก็ตาม คงเพราะพวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแล้ว เอาจริง ๆ อิเซทำให้เขานึกถึงยูนจังขึ้นมา
ไม่สิ แค่คล้าย เธอเป็นเหมือนยูนจังแบบลดเสียง แต่ถ้าเทียบกับยูนจังแล้ว ไม่ว่าจะใคร ก็คงกลายเป็นคนเงียบครึมไปทันที อิเซเองก็มีผมที่ยาวประบ่า ดูท่าทางจะเนื้อหอมเช่นกัน
สายตาของมารุสบเข้ากับอิเซ ทำให้มารุต้องหันหลบ
‘สนุกจริง’
เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการสังเกตคนอื่นมันน่าสนุกขนาดนี้ พวกเขาดูแตกต่างกันไปด้วยตำแหน่งของดวงตา จมูก ใบหน้า
แต่ไม่ใช่แค่นั้น ทุก ๆ อย่างตั้งแต่การเคลื่อนไหวของดวงตา สายตาที่มองคนอื่น วิธีการยิ้ม ทำให้เขารู้ว่าท่าทางของร่างกายนั้นมันแสดงออกความรู้สึกออกมามากมายแค่ไหน จนตอนนี้ เขาก็ยังพอบอกความรู้สึกของคนอื่นได้ แม้ไม่ต้องเข้าไปคุยด้วย ยิ่งกับเดมยังที่อ่านออกง่ายมาก ๆ แล้วด้วย มีเพียงยูริมเท่านั้นที่เขามองไม่ค่อยออก
“เออ นี่ พวกเรา” แทจูนถาม เรียกความสนใจของคนในห้อง “มีใครมาเพื่อเป็นผู้กำกับบ้างไหม?”
ใครที่สุด ก็มีคำถามที่สร้างสรรค์มาเสียที
“ฉันอยากลองแสดงดูนะ ถึงจะได้เป็นแค่ตัวประกอบก็ช่าง”
“เป็นตัวประกอบก็ได้ สำหรับฉันนะ”
เดมยังและโดจินผลัดกันตอบ
“ฉันด้วย”
“ฉันอยากเป็นตัวละครรอง ตัวที่มีบทสำคัญ หรือเป็นตัวเอกเลยก็ยิ่งดี”
ยูริมตอบกลับมาสั้น ๆ ส่วนโซยอนนั้นสารภาพถึงแผนการใหญ่ของตัวเอง
“ตัวละครสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นบทไหนก็ตาม”
เกนซุคตอบอย่างตรงไปตรงมา ทำให้แทจูนถึงกับต้องปรบมือให้ แต่หน้าของเขาก็ไม่เปลี่ยนอารมณ์ ทำให้มารุนึกถึงรูปปั้นโมอายขึ้นมา เอาจริง ๆ ก็เหมือนอยู่นะ
“งั้นฉันก็อยากเป็นตัวละครสำคัญเหมือนกัน” อิเซลอกคำตอบของเกนซุค ทำให้เขาหันมามองเธอ
“อ่า เอาเลย แล้วมารุล่ะ?” แทจูนหันมาถาม
มารุคิดอยู่สักพัก โชคดีที่เขาไม่ได้ใช้เวลาคิดนานมาก
“ทีมงาน” เขาตอบ