“บอกว่าไงนะ เรื่อง MP3 น่ะ?” ครูถาม
“…” โดจินได้แต่อ้าปากพะงาบ ๆ โดยไม่สามารถตอบอะไรกลับไปได้
“เอามานี่”
“คือ ขอโทษครับครู ผมจะไม่ฟังแล้ว”
“แน่ะ กล้ามาเถียงเรอะ?”
ครูใช้ไม้เรียวในมือทิ่มเข้าไปที่ไหล่ของโดจิน ทำให้โดจินต้องถอยหลังไปเล็กน้อย สีหน้าของเด็กหนุ่มก็ดูแย่ไม่แพ้กัน เขาหันมามองทางมารุ มารุพยักหน้ากลับและทำท่าทางชี้ไปยังครู
“น-นี่ครับ”
“เอาจดหมายจากพ่อแม่มาถ้าอยากได้มันคืน เข้าใจไหม?”
ครูกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง
“ขอโทษนะ” โดจินหันมาขอโทษมารุด้วยสีหน้าอันเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไร”
“จะไปเอาคืนมาให้เอง สัญญาเลย”
“อยู่เฉย ๆ สักพักเดี๋ยวมันก็คืนให้เองแหละ”
มารุนั้นไม่ได้รู้สึกรีบร้อนอะไรขนาดนั้น ถึงร่างกายเขาจะเป็นเด็กมัธยมปลาย แต่ความคิดของเขานั้นเป็นของคุณพ่อชาวเกาหลี แม้ความทรงจำจะหายไป แต่ประสบการณ์ต่าง ๆ ไม่ได้หายตามไปด้วย เพราะฉะนั้น เขาคงไม่มาโกรธแค้นอะไรกับเรื่องแบบนี้หรอก
“มองไปข้างหน้าเถอะ เดี๋ยวจะโดนด่าอีก”
โดจินพยักหน้ารับ ตอนนั้นเอง
[ทีแรกเห็นหน้าก็กลัวอยู่นิดหน่อย แต่ดูเหมือนจะเป็นคนดีนะ ค่อยยังชั่ว]
มารุเห็นอะไรแปลก ๆ ลอยอยู่บนหัวของโดจิน
* * *
‘ทำไมถึงมองมาแบบนั้นกันนะ’
โดจินรู้สึกกังวลกับสายตาแปลก ๆ ของมารุที่จ้องมองมาทางเขา เอาเข้าจริง ๆ พอโดนเพื่อนร่วมห้องมองมาแบบนั้นมันยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดเข้าไปใหญ่
‘โกรธที่ของโดนยึดไปเหรอ’ มารุหันหน้าหนีไป แต่หน้าตาของเขาดูแปลก ๆ มารุเริ่มขยี้ตาตัวเองเบา ๆ ราวกับเขาเพิ่งไปเห็นอะไรแปลก ๆ มา
‘โดนอะไรเข้าตาเหรอ?’ เขาสงสัย โดจินรู้สึกมึนงงนิดหน่อย แต่จะยังไงก็ช่าง เขาต้องหันหน้ากลับไปหากระดาน เพราะเขาไม่อยากโดนด่าว่าไม่ตั้งใจเรียน
* * *
‘นั่นมันอะไรน่ะ?’
มารุนั้นเห็น ‘สิ่งนั้น’ ลอยอยู่บนหัวของโดจิน เขาพยายามกระพริบตาอยู่หลายครั้งเพราะคิดว่าตัวเองแค่ตาฝาดไป แต่มันก็ไม่หายไป
‘กล่องคำพูด?’
ฟองอากาศสีชมพูลอยอยู่บนหัวของโดจิน ราวกับว่าเขาหลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูน ทำให้มารุนึกถึงคำพูดหนึ่งของหญิงสาวขึ้นมาได้ ว่าตัวเขาจะได้รับความสามารถบางอย่าง
‘หรือว่า… ความคิดเหรอ?’ เขาได้แต่สงสัย แต่เพราะมารุได้เจอประสบการณ์เหนือธรรมชาติแบบสุด ๆ มาแล้ว เขาจึงไม่คิดว่าอะไรแบบนี้จะเป็นเพียงแค่ภาพหลอนของตัวเอง ถ้าเป็นสมัยก่อนเขาคงคิดว่าตัวเองกำลังจินตนาการกล่องคำพูดพวกนั้นอยู่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว มารุมองไปที่โดจินอีกครั้ง แต่กล่องคำพูดก็หายไปแล้ว
‘มันมีเงื่อนไขอะไรบางอย่างรึเปล่านะ?’
กล่องคำพูดนั้นหายไปในพริบตา ราวกับว่ามันทำให้เขาอ่านใจคนได้…
“วันนี้เรามีกันแค่คาบเช้า อย่ามาหลับให้เห็นนะ ปีนี้ตั้งใจเรียนกันด้วยล่ะ เข้าใจไหม?” ครูพูด
“ครับ” คำขานตอบจากทั้งห้องเริ่มยานลงบ้างแล้ว
ครูเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเสียงเดาะลิ้น แน่นอนว่าเขาเอาเครื่อง MP3 ไปด้วย
“ขอโทษจริง ๆ นะ ฉันแค่จะลองฟังมันสักนิดเอง” โดจินเริ่มขอโทษทันที
เขาดูท่าทางจะคิดมากกับเรื่องอะไรพวกนี้ เขาเป็นคนที่ทำผิดแล้วรู้จักขอโทษ เรื่องนั้นทำให้มารุรู้สึกดีอย่างมาก เพราะคนแบบนี้ในชีวิตวัย 45 ปีของเขามีไม่มากนัก
เทียบกับเรื่องที่เขาต้องเผชิญมาในอดีตแล้ว โดจินนั้นเรียกได้ว่าเป็นเทวดาเลย
“ไม่ต้องคิดมากน่า เดี๋ยวอีกไม่กี่วันมันก็คืนให้เอง” มารุกล่าว
“ใช่ไหม? ควรคืนเนอะ?”
“ถ้าไม่คืนก็แค่ไปซื้ออันใหม่มาก็พอ ไม่ได้แพงอะไรขนาดนั้นสักหน่อย”
“เอ๋ ไม่แพง? นั่นมันรุ่นใหม่ราคาตั้งเกือบสองแสนห้าหมื่นวอนเลยไม่ใช่เหรอ?”
“อ่ะ” มารุยิ้มขึ้นมาเล็ก ๆ ด้วยความประหลาดใจ ตอนนี้เขาเป็นนักเรียนมัธยมปลาย และ MP3 ตอนนี้มันกำลังเป็นที่นิยมเอามาก ๆ ทำให้ราคาสูงสุด ๆ MP3 เครื่องเมื่อกี้เองก็เป็นของขวัญที่พ่อแม่ของเขาซื้อให้หลังจากจบมัธยมต้น
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ได้คืน” มารุรีบเปลี่ยนท่าที
“อ่า อืม แกบ้านรวยเหรอ?”
“แค่จะทำเท่เท่านั้นแหละ ถ้าไม่ได้คืนตายแน่ ๆ “
“เหรอ? อ่า ขอโทษจริง ๆ “
“ไม่ต้องขอโทษกันหรอก เพื่อนกันเอง”
เพื่อน แค่ได้พูดคำนี้ออกมามารุก็รู้สึกดีแล้ว เพราะเป็นคำที่ไม่ได้ใช้มานาน ใช่แล้ว เพื่อนสมัยมัธยมน่ะคือเพื่อนแท้ เพื่อนที่สามารถเจอกันได้ทุกเมื่อ โทรหาได้ทุกเวลา โดยไม่ต้องมีเหตุผลอะไร
“เพื่อน? อ่า พวกเราเพื่อนกัน” โดจินใช้ไหล่มากระแทกมารุเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มอันสดใสบนใบหน้า
ด้วยนิสัยเป็นกันเองขนาดนี้ เด็กหนุ่มคงสามารถเป็นเพื่อนกับคนทั้งห้องได้ในเวลาแค่อาทิตย์เดียว
“วันนี้ยังต้องเรียนจริง ๆ เหรอ?” โดจินถามด้วยความไม่สบายใจ
“คงงั้น”
“เราโรงเรียนอาชีวะนะ วิชาเรียนคงไม่ยากมากใช่ไหม?”
ทั้งสองคนคุยกับต่อระหว่างรอครูภาษาเกาหลีเข้าห้อง เรื่องที่พูดกันนั้นค่อย ๆ หันเหไปทางเกม และทั้งสองคนก็ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาเล่นเกม MMO เดียวกันอยู่ อรรถรสในการคุยจึงยิ่งเมามันมากขึ้นหลังพวกเขารู้ว่ามีเรื่องให้คุยกันยาว