ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 24 ตอนที่ 1
ตอนแรกมารุนึกว่ามิโซนั้นพูดเล่น ทุกคนก็เช่นกัน แต่หลังจากได้เห็นใบหน้าอันเคร่งขรึมของมิโซ มันก็ทําให้พวกเขาเร่งเดินท่าเป็ดไปหาเธออย่างจริงจัง 60 เมตร มันค่อนข้างไกล และเมื่อทุกคนเดินไปถึงด้านหน้าของเธอ มิโซก็ปรบมือขึ้นแล้วพูด
“คราวนี้เดินกลับ แต่ขากลับให้ผ่อนคลายข้อต่อทุกส่วน
มิโซแสดงตัวอย่างให้พวกเขาได้ดู ด้วยก้าวย่างแต่ละก้าวที่เดินออกไป เธอบิดปล่อยข้อมือและข้อเท้าไปหลายครั้ง หลังจากเดินไปได้ครบสามเก้า เธอก็จะบิดยืดคอด้วย
“เริ่ม
สมาชิกชมรมต่างเดินกลับไปที่เดิมตามคําสั่ง หลังจากพวกเขากลับมาถึงที่ การฝึกตะโกนก็เริ่มอีกครั้ง
“ตะโกนโดยพยายามเปิดลําคอเอาไว้ตลอดเวลา”
อ่า ความรู้สึกแสนประหลาดนี้ ทําให้มารุนึกถึงตอนยังทํางานอยู่ในบริษัทแล้วลูกค้าที่จะลงโฆษณาเดินมาบอกว่า “อยากได้อะไรที่ให้อารมณ์ประมาณนี้” พร้อมรูปในมือ
“อ้าาา
เสียงตะโกนอันบ้าคลั่งเริ่มขึ้นโดยมีจุงฮยุกนํา และทุกคนก็ตะโกนได้ดังกว่าครั้งก่อนมานิดหน่อย พวกเราตะโกนต่อกันมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่อิเซ เมื่อครบแล้วสมาชิกต่างหันไปมองมิโซด้วยความมั่นใจ แต่เธอกลับตอบกลับมา
“เดินเป็ด”
การลงโทษ มารุคิดว่าหญิงสาวน่าจะแค่ต้องการสั่งสอนให้เหล่าสมาชิกชมรมได้รู้สถานะของตัวเอง ถ้าทุกคนเหนื่อยแล้วเธอก็คงหยุดไปเอง
แต่ไม่นานนักมารุก็ได้รู้ว่า สิ่งที่เขาคิด มันไม่ใช่สิ่งที่กําลังเกิดขึ้น
“แฮก แฮก แฮก”
เหงื่อเม็ดใหญ่หยดลงมาจากหน้าผากของเขา ยิ่งมารุได้มองไกลๆแล้ว มิโซยิ่งเหมือนปีศาจเข้าไปใหญ่ หญิงสาวโบกมือให้พวกเขาเข้าไปหา ยังมีคนที่ทนได้อยู่สี่คน รวมมารุด้วย พวกเขาเดินท่าเปิดมาจนถึงจุดหมายได้อย่างยากลําบาก
การฝึกแสนพิสดารนี้ดําเนินติดต่อกันมาถึงหนึ่งชั่วโมงแล้ว จากที่แรกเป็นการฝึกตะโกนแล้วเดินท่าเป็ด ตอนนี้มันกลายเป็นการเดินท่าเปิดวนไปวนมาแทน ไม่มีการตะโกนอีกต่อไป มีแต่การเดินทาเป็ด
“เป็ดร้องก้าบๆแล้วไก่ร้อง?”
“จิ๊บ จิ๊บ”
จุงฮยุก แทยูน มารุ และเกนซุค พยายามอย่างที่สุดของที่สุด หลังจากผ่านช่วง 50 นาทีมา สิ่งที่ยังทําให้พวกเขาไปต่อได้ ก็มีแค่แรงใจเท่านั้น แม้แต่มารุผู้ที่ฝึกกล้ามเนื้อขาด้วยการปั่นจักรยานอยู่ทุกวัน ยังต้องกระอักหลังจากเดินท่าเปิดมานานขนาดนี้ ทั้งสี่คนเดินมาจนถึงมิโซด้วยลมหายใจที่หอบถี่
“มีแววตาที่ดีมากหนุ่มๆ”
มิโซหันมายิ้มให้ อะไรของผู้หญิงคนนี้นะ? มารุกัดฟันเพื่อหยุดขาของตัวจากอาการสั่น
“ว่าไง ยังไหวไหม?”
“ ครับ”
เสียงของพวกเขาไม่เหลือความมั่นใจอยู่แล้ว แต่ก็แน่ล่ะ เพราะเดินกันมาตั้งหนึ่งชั่วโมง
“นั่งพักได้ และพวกที่เหลือ หันหน้าหากําแพง”
มิโซตะโกนข้ามฟากหอประชุมไปหาพวกที่เหลือ เสียงของเธอดังไม่มีตก คนอื่นๆที่ยอมแพ้ไปก่อนหันหน้ากลับมาหาเธอ
“วิ่งมานี่”
“ครับ/คะ”
สมาชิกคนอื่นๆ ต่างพากันวิ่งมาอย่างสุดแรง พวกนั้นหันมามองคนทั้งสี่ที่นั่งเหนื่อยอยู่อย่างรู้สึกผิด
“คนที่ยอมแพ้คนแรก”
“ครับ”
เดมยังตอบกลับด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติเพราะความกลัว
“มีเครื่องดื่มเกลือแร่วางอยู่ข้างประตู ไปหยิบมา”
“ครับ”
เดมยังวิ่งไปที่ประตูหลัง มารุมองดูเด็กหนุ่มด้วยความเหนื่อยหอบ เขาไม่เคยเห็นเด็กอ้วนคนนี้วิ่งได้เร็วแบบนั้นเลย
อีก อีก
เหล่าสมาชิกต่างพากันแบ่งเครื่องดื่มให้กัน ในที่สุด ก็ถึงเวลาพักเสียที ทั้งสี่คนผู้เหลือรอดจนสุดท้ายต่างพากันนวดขาของตัวเองพร้อมร่ําร้องด้วยความเจ็บปวด
“ขอพูดอะไรหน่อยนะ ตอบมาตามตรงล่ะ เข้าใจไหม?”
“ครับ/คะ”
“พวกปีสอง
“ครับ/คะ”
“ปีก่อนไปเล่นที่งานเทศกาลไหนมาบ้าง?”
“เราไปงานหนึ่งที่มีจังหวัดเป็นเจ้าภาพ อีกงานมีมหาวิทยาลัยกังวูเป็นเจ้าภาพ”
ยูนจังตอบกลับมา ตอนที่เธอตอบคําตอบเหล่านั้นออกมา เธอค่อยดูเหมือนเป็นประธานชมรมหน่อย
“แล้วงานแข่งระดับภาคล่ะ?”
“ ไม่ได้ไปค่ะ”
“หมายถึงไปไม่ได้รึเปล่า?”
ยูนจังกัดริมฝีปากตัวเองเมื่อได้ยินคําพูดนั้น ดูเหมือนว่าเธออยากจะพูดอะไรสวนกลับไป
“ไม่คิดว่าพวกน้องปีหนึ่งมันควรได้รู้บ้างเหรอ ว่าชมรมชื่อดังอย่างชมรมการแสดงทําไมถึงกลายสภาพเป็นแบบนี้”
“…”
“นั่ง”
ยูนจังนั่งลง มิโซเองก็นั่งลงบนเก้าอี้พับของตัวเองเหมือนกัน
“นี่ ปีหนึ่ง”
“ครับ/คะ”
“รู้ไหมว่าในเกาหลีใต้มีเวทีการแสดงสําหรับเหล่านักแสดงวัยรุ่นอยู่ทั้งหมดกี่ที่?”
ไม่มีใครตอบ มารุเองก็ไม่ทราบเช่นกัน
“จริงเหรอ? ไม่มีเลย? แค่เดามาก็ได้”
เกนซุคยกมือขึ้น
“ว่าแล้ว เอาสิ ลองบอกมาหน่อย”
“มีงานประกวดระดับชาติ ที่จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการและสภาศิลปกรรมเกาหลี
“ใช่”
“แล้วก็มีงานที่จัดโดยเหล่ามหาวิทยาลัยต่างๆ งานดังๆก็อย่างเช่นงานประกวดของมหาวิทยาลัยกังวู มหาวิทยาลัยโฮเอชอน และมหาวิทยาลัยจุคยัง”
“ดีๆ”
“และก็มีงานเฉพาะเครือข่ายและงานประกวดระดับภาค เพื่อคัดเลือกตัวแทนไปแข่งระดับประเทศ”
“อธิบายได้ดี เยี่ยมมาก” มิโซปรบมือให้ ทําให้เหล่าปีหนึ่งต่างพากันปรบตาม