ยูนจังหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดต่อ
“เลิกพูดพล่ามกันดีกว่า เราต้องการคนทุกแบบเลยในชมรมการแสดง ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบ คนทำฉาก ผู้กำกับ นักแสดง ใช่แล้ว เราต้องทำฉากกับชุดเอง เพราะพวกเราเป็นชมรมนี่นา”
พล่าม? มารุได้แต่อมยิ้มกับความตรงไปตรงมาของหญิงสาว เด็กคนอื่นเองก็คงจะตกใจเช่นกัน ที่ได้ยินคำนั้นออกมาจากปากของเธอ แต่ยูนจังไม่ได้รับรู้ถึงปฏิกิริยาของผู้ฟังเลย
“มันยาก เพราะเราต้องคอยช่วยกันทำงานหลายอย่างให้มันออกมาได้ เราอาจจะใช้เวลาในการทำฉากมากโข และเย็บชุดเองถ้าหาเช่าไม่ได้ ปีก่อนเราก็ทำฉากของเราเองด้วยค้อนและไม้อัด ปีก่อนมันต้องใช้ร้านอาหารน่ะ กว่าจะทำอะไรที่หน้าตาเหมือนบ้านออกมาได้นะ บางคนต้องเจ็บตัวไปก็มี ลองดูนี่…”
หญิงสาวยื่นมือออกมา และบนมือนั้นมีแผลเป็นยาว ๆ ปรากฏให้เห็นอยู่ที่นิ้วก้อยข้างซ้าย
“นี่ ยูนจัง พูดตามที่เตรียมมาสิ” หญิงสาวอีกคนบอกกับยูนจังพร้อมใช้มือสะกิดให้เธอรู้ตัว ยูนจังกระโดดตกใจราวกับถูกน้ำร้อนราด
ดูท่าจะเป็นพวกที่ชอบพูดออกนอกเรื่องสินะ มารุไม่ได้เกลียดคนแบบนั้น ถึงคนพวกนี้บางครั้งบางทีจะน่ารำคาญ แต่ก็เป็นคนที่ทำให้กลุ่มคนที่ได้อยู่ด้วยสนุกสนาน คนแบบเธอ มักจะฉายแสงอย่างสดใสอยู่เสมอ ยูนจังหายใจเข้าลึกก่อนจะเริ่มพูดอีกครา
“เพราะแบบนั้นแหละเราเลยกำลังพยายามหาสมาชิกใหม่มาเข้าชมรมอยู่ ช่วงแรกคงลำบากหน่อย แต่ฉันยืนยันได้เลยว่ามันจะต้องคุ้มค่า ตอนที่ได้แสดง หลังเตรียมการกันมาเป็นเดือนน่ะ มันรู้สึกยังไงฉันอธิบายมันไม่ถูกเลย ไม่นานพวกนายก็จะเริ่มรักมันเอง”
เธอนั้นช่างสดใส พวกรุ่นพี่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พอได้ยินเธอพูดเรื่องการแสดงก็ยืนตัวตรงยืดอกขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
“แน่นอนว่ามันอาจจะลำบาก ที่ฉันพูดย้ำ ๆ เนี่ยเพราะมีเหตุผลนะ เพราะมันจะไม่ง่าย เราเลยไม่ต้องการให้ใครก็ได้…”
ตอนที่ยูนจังพูดมาถึงตรงนี้ หญิงสาวอีกคนที่ไว้ผมสั้นดูท่าทางห้าว ๆ แต่มีความเป็นกุลสตรีอยู่มากกว่ายูนจัง เพราะถึงขั้นแต่งหน้ามาด้วย ถึงจะแต่งมาเบา ๆ ในระดับที่ถูกครูมองเตือนเท่านั้นก็ตาม
“แน่นอนว่ามันคงจะลำบาก แต่มันไม่ได้มีแต่ความลำบาก การแสดงน่ะเกิดขึ้นมาจากการร่วมมือของคนหลากหลาย นักแสดงไม่ใช่ทุกอย่าง ทีมงานไม่ต้องลำบากมากขนาดที่ยูนจังพูดเพราะพวกเขาจะช่วยแค่ช่วงซ้อมและเตรียมการเท่านั้น ไม่ใช่การแสดงจริง ๆ แต่ถ้าไม่มีพวกเขา การแสดงก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้เพราะฉะนั้นถ้าสนใจ ขอให้มาหาเราได้เลย” หญิงสาวจบการพูดด้วยการโค้งหัวลงเบา ๆ
เท่าที่มารุดูแล้ว เธอดูจะเป็นคนที่นิ่งและใจเย็น ถ้ายูนจังคือคนที่เดินนำหน้าทัพแล้วตะโกนว่า ‘บุก’ คน ๆ นี้ก็คงเป็นคนที่คอยห้ามยูนจัง คนประเภทที่โน้มน้าวเก่ง เมื่อหญิงสาวทั้งสองคนหยุดพูดลง ก็ถึงคราผู้ชายก็ก้าวขึ้นมาพูดบ้าง พวกเขาดูจะเป็นคนขี้อายไปเลยเมื่อเทียบกับสองสาวก่อนหน้า
“พวกเราเป็นทีมงาน พวกเราตัดสินใจจะช่วยชมรมมากขึ้นหลังการแสดงในปีหนึ่ง ถ้าลองมาที่ห้องชมรมเรา พวกนายคงจะได้เห็นอะไรเยอะแยะไปหมดเลย พวกนั้นคือของที่รุ่นพี่เราช่วยกันสร้างมาตลอด อย่างที่เดนมิบอกไป พวกเราพร้อมรับใครก็ตามที่สนใจ พวกเราพร้อมที่จะร่วมงานกับทุกคนไปตลอดหนึ่ง… หรืออาจจะสองปีในชมรมนี้” ชายคนหนึ่งพูด
ส่วนอีกคนก็ก้าวขึ้นมาตาม เด็กหนุ่มคนนี้ดูหน้าแบน ๆ ต่างกับคนแรกที่ดูเท่หน่อย ๆ
“ถ้าสนใจลองเข้ามาหาเราได้ เรามีกระทั่งครูการแสดงจากด้านนอกมาสอนให้ เราเปิดรับจนถึงวันพรุ่งนี้ ถ้าสนใจขอให้มาลองดูก่อน แน่นอนว่าจะลองมาดูที่ห้องชมรมก่อนเลือกก็ได้ และไม่ต้องกังวลเรื่องหน้าตาหรอกนะ ดูหน้าฉันสิ”
เด็กหนุ่มยิ้ม เด็กหนุ่มคนนี้ดูจะมีเสน่ห์ในการพูดมากกว่าคนอื่น