ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 8 ตอนที่ 1
ถึงแม้จะได้ยินคำขอโทษจากทั้งสองแล้ว ครูฮันจาก็ยังทำหน้าไม่พอใจอยู่
“ทำไมถึงได้ชอบเก็บขยะไว้นัก?” เขาบ่นออกมา
เดนมิรู้สึกได้ ว่าคงต้องโดนบ่นไปอีกสักพักแน่ ๆ ขณะที่เธอกำลังจะถอนหายใจนั้นเอง
“ครูครับ”
“อ่า บาง จุงฮยุก” ครูทักหลังเห็นเด็กหนุ่ม
เดนมิเองก็หันไปมองด้วยความโล่งใจ บาง จุงฮยุก เด็กหนุ่มดั้งแหมบ กำลังกล่าวทักทายครูฮันจา
“ขอโทษนะครับ เดี๋ยวพกวเราจะช่วยกันเก็บกวาดเอง” เขากล่าว
“อ่า ๆ เก็บกวาดให้เรียบร้อยล่ะ” ครูกล่าวกับเด็กหนุ่มก่อนจะเดินกลับไปด้านนอก
“ครับครู”
ดีที่จุงฮยุกมาถึงทันเวลา เพราะครูฮันจานั้นเป็นคนที่แบ่งแยกชัดเจนมากเวลาเกลียดใคร โชคดีที่จุงฮยุกไม่ได้อยู่บนรายชื่อนั้น
“มาถูกจังหวะเลย” เดนมิบอก
“ว่าแล้วว่าต้องมีเรื่อง ยิ่งเวลายูนจังเป็นแบบนี้”
ยูนจังหันมามองด้วยใบหน้าสำนึกผิด
“การจะเก็บกวาดของพวกนี้ให้หมดทันทีน่ะ คงจะลำบากไปหน่อย ตอนนี้หอประชุมบนชั้น 5 ว่างอยู่ เราเอาของไปไว้ที่นั่นกันก่อนเถอะ” เขาบอกเพื่อนทั้งสอง
“เราไปใช้ได้เหรอ?” เดนมิถาม
“ขออนุญาตมาแล้ว”
“โอ้ สมเป็นจุงฮยุก”
เดนมิตบบ่าของเพื่อนชายด้วยความซาบซึ้ง
“เราต้องทำตัวดี ๆ หน่อย เพราะคณาจารย์หลาย ๆ ท่านมองเราไม่ดีนัก” จุงฮยุกกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น
เดนมิและยูนจังต่างทำท่าทางสำนึกผิด เพราะพวกเธอเองก็รู้เรื่องนี้ดี
“ไปกัน เอาชุดลงแล้วขนราวไปก่อน ระหว่างนั้นก็หยิบฉากไปด้วย คงต้องทำไปแบบนี้ก่อน”
จุงฮยุกลงมือยกราวแขวนชุดขึ้นไปบนชั้น 5 เดนมิจึงเขย่าให้ยูนจังตื่นจากภวังค์ความเศร้า
“เก็บกวาดกัน”
“อืม”
เดนมิได้แต่ส่ายหน้าระหว่างมองยูนจังเดินไปด้วยท่าทางไร้ชีวิตชีวา เด็กสาวคงนึกถึงปีก่อน เดนมิเองก็มองไปรอบ ๆ ห้องชมรมที่ดูกว้างขึ้นถนัดตา ห้องชมรมที่เต็มไปด้วยความทรงจำกับเหล่ารุ่นพี่ ที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว
“เฮ้อ ทำงาน ๆ” เดนมิกล่าวพร้อมหยิบชุดชุดใหญ่ติดมือไปด้วย
* * *
“ฮาน มารุ”
“ครับครู”
“เก็บไว้ฟังตอนพักเท่านั้นนะ”
ครูประจำชั้นของเขาโยนเครื่อง MP3 มาให้มารุ มารุรับมาและโบกเครื่องให้โดจินได้เห็นพร้อมรอยยิ้ม
“เหอะ ไอ้บ้า ต้องรอจนครบอาทิตย์ก่อนถึงจะคืนมาให้เหรอ?” โดจินบ่นอุบ
“อย่างน้อย ๆ ก็ได้คืนนะ” มารุตอบ
“แกมันใจดีเกิน”
“อย่าลืมสิว่าแกเป็นคนที่ทำให้โดนยึด”
“…ลูกอมหน่อยปะเพื่อน?”
โดจินพยายามเปลี่ยนเรื่องทันที ในที่สุดการทำเวรความสะอาดของพวกเขาก็เสร็จสิ้นลงเสียที คราวนี้มันกินเวลามากกว่าปกตินิดหน่อย เพราะห้องของเขาต้องมาทำความสะอาดห้องน้ำ และไม่มีใครหรอกที่อยากจะขัดส้วม จึงต้องเล่นเกมตัดสินหาคนแพ้
“คนอื่น ๆ เองก็ดูไม่ค่อยสนใจชมรมเท่าไหร่นะ” โดจินสังเกต
“แน่นอน ก็มันยุ่งยากจะตาย”
“แล้วสำหรับแกมันยุ่งยากปะ?”
“ไม่ ออกจะน่าสนุก”
“จริงดิ? งั้นเราก็จะเข้าด้วยกันใช่ไหม?”
“ยังไม่ได้บอกสักคำว่าจะเข้า แค่ไปดูก่อน”
ขณะที่พวกเขากำลังเก็บของใกล้เสร็จ ก็มีใครบางคนมายืนอยู่ด้านหลัง
“ค-คือ” คนที่มานั้น คือเดมยัง ดูเหมือนว่าเขามีเรื่องบางอย่างอยากจะพูด “จ-จะไปชมรมการแสดงกันเหรอ?” เขาถาม
“รู้ได้ไง?”
โดจินถามด้วยท่าทีสงสัย
“ก็ได้ยินที่พูดกัน”
มารุได้แต่พยักหน้ารับ โดจินนั้นเป็นคนที่เสียงดังมาก ถ้าเขาลองเร่งเสียงตัวเองขึ้นอีกหน่อย รับรองว่าคนได้ยินกันทั้งตึกแน่ ๆ น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเลย
“แล้วไง?” โดจินถามพร้อมมองเดมยังหัวจรดเท้า
เดมยังถอยหนีออกไปด้วยท่าทีตื่นกลัว มันก็ไม่แปลกหรอก เพราะเด็กหนุ่มนั้นกลัวคนที่มีท่าทางเหมือนนักเลงเป็นทุนเดิม ส่วนโดจินเองก็มีหน้าตาที่ดูเหมือนนักเลง แม้แต่ในสายตาของมารุ แต่ก็นะ โรงเรียนอาชีวะนั้นไม่มีเด็กเรียนมาเข้าหรอก เดมยังต่างหากที่ผิดแปลกจากพวก
“นี่” โดจินเรียกด้วยท่าทางรำคาญ ทำเอาเดมยังยืนแข็งทื่ออยู่กับที่
“อ-อะไรเหรอ?”
“แกนี่ตลกดีว่ะ”
“ว-ว่าไงนะ?”
“จะกลัวอะไรนักหนา? ฉันไปทำอะไรให้เหรอ?”
“…เปล่า”
“แล้วจะกลัวอะไรขนาดนั้นล่ะ? อยากพูดอะไรก็บอกมาตรง ๆ ฉันเกลียดพวกชอบพูดอ้อมค้อม เข้าใจไหม แค่นึกถึงก็หงุดหงิดแล้วเนี่ย นี่ แก…”
มารุดึงตัวโดจินไว้ ทำให้เด็กหนุ่มเสียหลัก
“เหวอ อะไรวะ?”
“จะทำอะไร?”
“แกสิทำอะไร มาดึงกันแบบนี้”
“อ่า ฉันดึง”
“…..”
“จะโกรธอะไรนักหนาวะ? นี่ เดมยัง มีอะไรจะบอกเราเหรอ?”
“…เปล่า”