เฉินเฉินถอนหายใจ มีความเป็นไปได้มากมายที่จะมีสมบัติคล้ายๆกันนี้อยู่ในโลกใบนี้ แต่รูปลักษณ์ที่ดูธรรมดาของพวกมันได้ปกปิดพลังที่แท้จริงเอาไว้ทำให้พวกมันหมดประโยชน์ตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมาจนกระทั่งสูญสลาย
“ถ้าแกเป็นกอหญ้า ข้าก็พอจะกลั้นใจกินเข้าไปได้อยู่ แต่แกเป็นอุจจาระเพราะฉะนั้นข้าคงกินไม่ได้หรอก”
เฉินเฉินส่ายหัวโดยไม่สนใจกองอุจจาระแล้วเริ่มทดลองการทำงานอื่นของระบบ
ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว ดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆลดระดับลงจนตอนนี้เป็นเวลาค่ำแล้ว
เหล่าชาวนาได้กลับบ้านของตนพร้อมกับอุปกรณ์ทำสวนของพวกเขา
…
“ระบบ หาคนที่หน้าตาดีที่สุดในระยะสิบเมตรให้ข้าหน่อย!”
“ท่านเจ้าของ ได้โปรดมองเข้าไปในกระจกค่ะ”
เมื่อได้ฟังคำตอบของระบบ เฉินเฉิน ก็มองเข้าไปในกระจกทองแดงเล็กๆที่อยู่ที่บ้านด้วยความรู้สึกค่อนข้างพึงพอใจ
หลังจากมองไปที่กระจก สีหน้าของเฉินเฉินก็เปลี่ยนไป วันนี้เขามัวง่วนอยู่กับการทดลองระบบ จนลืมทำอาหารให้พ่อแม่ของเขาไปเลย!
ในขณะที่เขากำลังซาวข้าวอย่างลุกลี้ลุกลนนั้นเอง พ่อของเขาเฉินชานและแม่ของเขาฉินโหลวก็มาถึงบ้านพอดี
“เอ่อ… ท่านพ่อ ท่านแม่…วันนี้ข้าลืมเตรียมอาหาร” เฉินเฉินสารภาพด้วยความเขินอายเล็กน้อยในตอนที่เขาเห็นสีหน้าอันเหนื่อยล้าของพ่อแม่
ในทันทีที่เขาพูดออกมาเช่นนั้น ก็มีเสียงนึงดังมาจากข้างนอกบ้านโดยไม่มีโอกาสให้พ่อแม่ของเขาได้ตอบกลับ
“ไม่เป็นไร วันนี้เจ้ามากินข้าวที่บ้านป้าก็ได้นะ”
เสียงนั้นดังมาจากคุณป้าร่างท้วมคนนึงที่พึ่งจะเข้ามาในห้อง
คุณป้าคนนี้เป็นเพื่อนบ้านของพวกเขา และแม่ของเอ้อหยา เฉินเฉินเรียกเธอว่าป้าหลี่
เฉินชานและฉินโหลวถอนหายใจในตอนที่ได้ฟังเช่นนี้ วันนี้พวกเขารู้สึกไม่อยากอาหารเลยจริงๆ
ฤดูเก็บเกี่ยวกำลังมาถึงในเร็วๆนี้ แต่เขื่อนต้นน้ำกลับมีปัญหา ส่งผลให้แปลงเกษตรทั้งหมดในหมู่บ้านหินถูกน้ำท่วม ดังนั้นจึงแทบไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยในปีนี้
และถ้าเป็นแบบนี้หมู่บ้านหินจะจ่ายค่าเช่าที่ดินได้ยังไงกัน?
ในยุคนี้การไม่จ่ายค่าเช่าที่ดินถือเป็นเรื่องใหญ่ บทลงโทษที่เบาที่สุดก็คือถูกทำร้าย ถูกขับไล่ออกจากที่ดินเกษตร และถูกเปลี่ยนเป็นผู้ลี้ภัย ส่วนบทลงโทษที่หนักที่สุดนั้นหมายความว่าจะต้องขายลูกของตัวเอง ถูกเนรเทศออกไปเป็นพันไมล์ และจะไม่มีวันได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ในตอนนั้นเองเฉินชานก็พูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “ลูกเฉิน ทำไมลูกไม่แต่งงานกับเอ้อหยาซะหล่ะ?”
“หา?”
เฉินเฉินตกตะลึงในตอนที่เขาได้ฟังเช่นนี้ เอ้อหยาอายุแค่ 14 ปี แม้ว่าการแต่งงานในวัยเท่านี้จะถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติในโลกนี้ แต่ชายหนุ่มหน้าตาดีมีการศึกษาอย่างเขาจะยอมรับเรื่องแบบนั้นได้ยังไงกัน?
นอกจากนี้ ตั้งแต่ตอนที่เขายังเด็กไม่มีอะไรที่พวกเขามีร่วมกันเลย แล้วทำไมถึงต้องแต่งงานทั้งๆที่ไม่เคยมีเหตุการณ์ความรักหวานๆระหว่างกันหล่ะ?
เอ้อหยาโผล่หน้าออกมาจากข้างหลังป้าหลี่ ท่าทีของเธอดูเขินอาย
ลูกสาวของชาวนาคนนี้ไม่ได้น่ารักนัก เธอมีผิวแทนดูสุขภาพดี และมีรูปร่างค่อนไปทางผอม
เมื่อเห็นสี้หน้าของเอ้อหยา เฉินเฉินก็มีความคิดนึงผุดขึ้นมา เด็กสาวคนนี้แอบชอบเขาหรอ? เธอเคยบอกกับป้าหลี่รึเปล่า?
อันที่จริงหน้าตาของเขาโดดเด่นมากในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนแอบชอบเขา แต่ว่า…
“ระบบ ในรัศมีสิบเมตรมีใครรักฉันบ้าง?” หลังจากทดลองกับระบบมาแล้วระดับนึง เฉินเฉินก็สามารถถามคำถามนี้ในใจได้
“มีสามเป้าหมายค่ะ”
หัวใจของเฉินเฉินแทบวูบเมื่อได้ฟังคำตอบของระบบ ตามที่คาดเอาไว้เอ้อหยาตกหลุมรักเขา!
สองในสามของเป้าหมายต้องเป็นพ่อแม่ของเขาแน่ๆ ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่จะไม่รักลูกของตัวเอง
ส่วนอีกคนนึง มันจะเป็นใครได้หล่ะถ้าไม่ใช่เอ้อหยา? หรือว่าจะเป็นป้าหลี่…
“โดดเด่นเกินไปนี่มันก็ไม่ดีจริงๆนะ…” เฉินเฉินพึมพำกับตัวเองแล้วครุ่นคิดว่าจะปฏิเสธการแต่งงานที่ไม่ได้มาจากความรักนี้ยังไงดี
ในตอนนั้นเอง ระบบก็เริ่มระบุตำแหน่งของเป้าหมาย
“สองเป้าหมายอยู่ตรงหน้าท่าน ส่วนอีกเป้าหมายนึง เดินออกไปข้างหน้าสองเมตรแล้วจากนั้นก็เลี้ยวซ้ายไปอีกห้าเมตรค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ เฉินเฉินก็ตกตะลึง
แน่นอนว่าตรงหน้าเขาก็คือพ่อกับแม่ แต่อีกเป้าหมายนึงมันไม่ตรงกับตำแหน่งที่เอ้อหยาอยู่
ด้วยการเดินตามตำแหน่งที่ระบบบอกโดยไม่ทันรู้สึกตัว เฉินเฉินก็มาถึงเล้าหมูอีกครั้งและยืนอยู่ตรงหน้ากองขี้หมู
เขามองไปที่เหลาเฮยที่อยู่ในเล้าหมูในขณะที่เหลาเฮยเองก็มองกลับมาหาเขา
มนุษย์กับหมูมองหน้ากันด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง ในช่วงเวลานี้ เฉินเฉินมีความรู้สึกที่ซับซ้อนในใจของเขา
เหลาเฮยเจ้าหมูตัวนี้รักเขาจริงๆ มันช่างน่าตื้นตันอะไรอย่างนี้!
ด้วยเหตุผลบางประการ จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าเหลาเฮย เจ้าหมูดำตัวนี้ มีความน่ารักและมีความอ่อนโยนอยู่ในดวงตาของมัน
“เหลาเฮย ที่ข้าดูแลเจ้ามาหลายปีไม่ได้สูญเปล่าสินะ! ไม่อยากเชื่อเลยว่าตอนนี้เจ้าจะเติบโตขึ้นมาได้ขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสามารถผลิตอุจจาระที่โดดเด่นแบบนั้นออกมาได้” เฉินเฉินพูดอย่างอ่อนโยนในขณะที่เดินไปหาเหลาเฮยแล้วลูบหัวของมัน
“อู้ดๆ…”
เหลาเฮยร้องออกมาสองครั้งหลับตาแล้วคลอเคลียที่มือของเฉินเฉินอยู่ซักพัก ท่าทีของมันแสดงให้เห็นถึงความดีอกดีใจ
เฉินเฉินยิ้มในตอนที่เห็นภาพนี้ ครอบครัวของเขาได้เลี้ยงเจ้าหมูตัวนี้มาเกือบสิบปีแล้ว มันเป็นเรื่องปกติที่มันจะมีความรู้สึกผูกพันกับเขา
แต่ถ้าเอ้อหยาไม่ได้ชอบเขา ทำไมพ่อของเขาถึงพูดเรื่องแต่งงานกับเอ้อหยากับเขาหล่ะ?
เมื่อนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เขาก็เดินเข้าไปในบ้านอีกครั้ง
ข้างในนั้น พ่อแม่ของเขากำลังพูดคุยกับป้าหลี่อยู่
“ถ้าหากครอบครัวของข้าจ่ายค่าเช่าไม่ไหว พวกเราก็ยังพอสละหมูเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อยู่ แต่ครอบครัวของเจ้า….”
แม่ของเขาเฉินโหลวมองไปที่เอ้อหยาในขณะที่พูด
ป้าหลี่ดูเหมือนใกล้จะร้องไห้แล้ว
เจ้าของที่ดินของหมู่บ้านหินนั้นเป็นคนใจจืดใจดำ ถ้าป้าหลี่จ่ายค่าเช่าไม่ไหว พวกเขาก็น่าจะเอาตัวเอ้อหยาไปแล้วขายเธอให้กับซ่องโสเภณี
เธอเป็นแม่ม่ายและไม่ได้มีพละกำลังอะไรนัก การที่เธอเลี้ยงเอ้อหยามาได้ถึงขนาดนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และถ้าเอ้อหยาถูกขาย เธอคงจะเอาตัวรอดได้ไม่นานนัก
ข้างนอกห้อง เฉินเฉินพอจะเดาเรื่องส่วนใหญ่ได้แล้ว
เห็นได้ชัดว่า มีปัญหาที่แปลงเกษตรของหมู่บ้านหิน และพวกเขาก็ไม่สามารถจ่ายค่าเช่าที่ดินในส่วนของปีนี้ได้
พ่อแม่ของเขาเป็นห่วงว่าเอ้อหยาจะถูกลักพาตัวและถูกจับขายให้กับซ่องโสเภณี ดังนั้นพวกเขาก็เลยเสนอให้เขาแต่งงานกับเธอ
ในอดีตพ่อของเอ้อหยาใจดีกับครอบครัวของพวกเขามาก ดังนั้นการตัดสินใจของพ่อแม่ของเขาจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
ในโลกนี้ ชาวนาทั่วๆไปจะไม่สามารถออกจากหมู่บ้านได้เลย และคู่แต่งงานที่เป็นไปได้ก็มีแค่เพื่อร่วมงานในหมู่บ้านที่มีกันอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น และถึงยังไงมันก็เหมือนกับว่าพ่อแม่ของเขาคงวางแผนจะจับเขาแต่งงานกับเอ้อหยามาตั้งแต่แรกแล้วด้วย
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเฉินเฉินอาจจะยอมรับชะตากรรมของเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้เขามีระบบเสริมคนที่จะกลายเป็นอมตะในอีกไม่ใช้ก็เร็ว แล้วเขาจำเป็นต้องยอมแต่งงานเพื่อแก้ปัญหาของคนอื่นด้วยหรอ?
แบบนั้นมันคงจะไม่ยุติธรรมกับสถานะของเขา
เมื่อคิดได้แบบนี้ เขาก็ตรงดิ่งเข้าไปในบ้านแล้วพูดขึ้น “ท่านพ่อ ท่านแม่ มีปัญหาเรื่องค่าเช่าที่ดินสินะครับ? พวกเรายังมีเวลาอีกสามวันก่อนที่จะถึงกำหนดจ่ายใช่ไหม? ในสามวันนี้ ข้าจะหาเงินที่เพียงพอต่อการจ่ายค่าเช่าเอง ข้าทำได้ครับ!”
“ค่าเช่ามันมีราคากว่าพันเหรียญเลยนะ เจ้าจะไปทำได้….” ฉินโหลวถูกขัด
เฉินเฉินสบัดมือแล้วพูด “ท่านแม่ ท่านยังจำนักบัญชีที่ร้านยาเฮ่เฟิงในมณฑลได้ไหมครับ? เขาบอกว่าข้ามีพรสวรรค์เรื่องตัวเลขก็เลยอยากรับข้าไปเป็นเด็กฝึกหัด ข้าจะไปหาเขา บางทีข้าน่าจะพอขอเบิกเงินล่วงหน้ามาได้บ้าง”
“แต่ว่า….”
“ไม่มีแต่ครับ ตอนนี้ข้าอายุสิบหกแล้ว จะให้ข้าอยู่บ้านเฉยๆตลอดทั้งวันคงไม่ได้อีกแล้ว นอกจากนี้ เหลาเฮยมันเป็นหมูนิสัยดี อย่าขายมันเลยนะครับ” เฉินเฉินพูดด้วยรอยยิ้มแล้ววิ่งตรงไปที่ทางเข้าหมู่บ้าน
หมู่บ้านหินอยู่ห่างจากมณฑลแค่สิบไมล์ เขาน่าจะไปถึงที่นั่นตอนย่ำค่ำพอดี
“ลูกเฉิน! ไปพรุ่งนี้ไม่ดีกว่าหรอ? กลางคืนมันอันตรายนะ!” พ่อแม่ของเขาตะโกนเรียกด้วยความเป็นห่วงจากข้างหลัง
“ไม่เป็นไรครับ!” เฉินเฉินตะโกนตอบแล้วเร่งฝีเท้า
จัดการตอนกลางคืนมันง่ายกว่าสำหรับเขา ส่วนเรื่องของความปลอดภัยหน่ะหรอ? จะมีอะไรให้กังวลอีกหล่ะ? เขายากจน! จะมีใครที่ไหนอยากมาปล้นเขากัน?
ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 2: ใครรักข้าในรัศมีสิบเมตร?
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!”
เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที
“ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?”
“ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!”
เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา
แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว!
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ!
การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ!
‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง
“มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!”
หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา
เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย
ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน?
ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า
เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ
เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน
ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข
เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน
เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’
“อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง”
นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้
“ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ”
อะไรนะ?!
เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา
เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง
‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม
ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา
“ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่”
เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม
หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย
‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา
เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน?
นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้!
ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
“รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ”
เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้
ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน…
“เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!”
เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที
ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน
Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since.
Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.”
Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”