เมื่อเดินไปบนถนนที่วุ่นวาย เฉินเฉินกุมขวดน้ำระฆังสวรรค์ไว้ในมือ
อาจารย์ของเขาบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะเพิ่มสถานะการฝึกตนไวเกินไป เมื่อร่างกายของเขาอาจจะไม่สามารถปรับตัวกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันได้ทัน เพียงเวลาไม่นาน เขาก็จะทรงพลังเกินกว่าที่จะใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ใช้สมบัติสวรรค์เพื่อช่วยในการฝึกตนของเขา
ยังไงก็ตาม วันนี้…
เฉินเฉินส่ายหัวและดื่มน้ำระฆังสวรรค์ทีเดียวหมดขวดตอนที่เขาเดินไปบนถนน
พลังปราณของเขาลุกไหม้ขึ้นทั่วทั้งร่าง สถานะการฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนที่เขาจะเดินจากไป สถานะการฝึกตนของเขาก็เพิ่มขึ้นจากระดับกลางของขั้นสร้างรากฐานมาเป็นขั้นท้ายของขั้นสร้างรากฐาน
แน่นอนว่าเขาไม่ได้กลัวฉีปู่ฝาน ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้วเขาสามารถที่จะจัดการกับฉีปู่ฝานที่อยู่ขั้นสูงสุดของขั้นสร้างรากฐานได้ แม้ว่าเขาจะอยู่ขั้นกลางก็ตาม
เขากลัวกับคนที่เขาต้องเผชิญหน้าหลังจากจัดการกับฉีปู่ฝานต่างหาก
หลังจากที่โยนขวดทิ้งไปแล้ว เฉินเฉินก็เร่งความเร็วขึ้น
ลมเย็นพัดผ่านไป
หัวใจเฉินเฉินเยือกเย็นเหมือนกับน้ำแข็งและเจตนาสังหารของเขาไม่มีอะไรหยุดได้
สำหรับการพนันหินวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อนแล้ว เขาไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด
‘ข้าจะต้องแลกเลือดเนื้อของจางจีเพื่อตั๋วพนันหินวิญญาณเนี่ยนะ?’
เขาไม่ได้เป็นคนต้องการหินวิญญาณมากเท่าไหร่
…
ในบ้านดอกไม้พระจันทร์
ในยามค่ำคืน แสงแดดของพระจันทร์ทอดตกลงมา ซึ่งได้แสดงให้เห็นแขกมากมายนับไม่ถ้วน
กู่ฉินเจิ้งมองไปที่เหล่าแขกผู้มีเกียรติที่แต่งตัวมีสีสันอย่างมีความสุข
เธอเลือกพนันได้ถูกต้อง!
เธอได้ชวนฉีปู่ฝานมาพักที่บ้านดอกไม้พระจันทร์และทำเงินได้มากมาย!
ฉีปู่ฝานได้เอาชนะหลินจินไปวันนี้ มันทำให้เขามีชื่อเสียงมากจนเป็นอันดับสองของผู้สืบทอด ในตอนนี้เขาเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก
ราชาองค์ใหม่ที่อยู่อันดับแรกกำลังพักในพระราชวัง ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ออกไปไหนสักเท่าไหร่
ด้วยเหตุผลนี้แล้ว ฉีปู่ฝานเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของผู้สืบทอดที่อยู่ด้านนอกแห่งนี้!
แต่ว่าคนอย่างเขายังเลือกที่พักอยู่ในบ้านดอกไม้พระจันทร์ ซึ่งมันเป็นเกียรติสำหรับกู่ฉินเจิ้งอย่างมาก
ไม่เพียงแต่พวกเธอจะเอาชนะคู่แข่งในอุตสาหกรรม แต่ร้านอาหารและโรงเตี๊ยมอย่างหอปราณม่วง
มันเห็นได้ชัดว่าบ้านดอกไม้พระจันทร์จะเติบโตขึ้นอย่างมากมาย ถ้าสำนักหลัวโยวสำเร็จที่จะกลายเป็นหนึ่งในสามสิบหกในอนาคต
ยังไงก็ตาม เมื่อเธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เธอรู้สึกโกรธกับสิ่งที่เธอได้รับหลายวันที่ผ่านมา
พูดตามจริงแล้วฉีปู่ฝานเป็นสุภาพบุรุษและหน้าตาหล่อเหลา ยังไงก็ตามเขาเป็นคนที่เหี้ยมโหดและเย่อหยิ่ง เขาเป็นที่นับถือและเป็นเรื่องยากที่จะตีสนิทด้วย
ถ้าเขาไม่ได้เป็นผู้สืบทอดระดับสูงแล้ว เธอคงไล่เขาไปแล้วละ
เพียงแค่เธอกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ คนที่มีหน้าตาคุ้นเคยก็ปรากฏตัวขึ้น
“เขามาทำอะไรที่บ้านดอกไม้พระจันทร์กัน?”
กู่ฉินเจิ้งสับสน คนที่ก้าวเข้ามาในบ้านดอกไม้พระจันทร์ไม่ได้เป็นใครอื่นนอกจากเฉินเฉิน
เมื่อเห็นเฉินเฉิน กู่ฉินเจิ้งดูซับซ้อนมากมาย เธอเห็นความสามารถในการจัดการธุรกิจของเขาก่อนหน้านี้และเธอรู้สึกกับเขาแตกต่างออกไป
มันเป็นเรื่องที่น่าสงสารที่ฮีโร่มองไปที่ฮีโร่อีกคนหนึ่ง
มันโชคร้ายที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเฉินเฉินที่เป็นผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนจะสนใจมุ่งมั่นกับการทำธุรกิจหอโสเภณี
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วเธอส่ายหัวและเดินไปหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มประจำตัวของเธอที่อ่อนโยน
“ผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุนคะ ทำไมท่านถึงมาที่บ้านดอกไม้พระจันทร์กันคะ? ครั้งนี้ข้าได้เรียนรู้บทเรียนของข้าไปแล้ว ถ้าท่านต้องการจะพักอาศัยแบบๆฟรีแล้ว ข้าจะไม่ยอมค่ะ”
เขาจ้องไปที่กู่ฉินเจิ้งโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าอะไร เฉินเฉินถามออกมาอย่างใจเย็น “ข้ามาหาฉีปู่ฝาน เขาอยู่ที่ไหน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฉินแล้ว กู่ฉินเจิ้งเหลือบจ้องไปบนตึกสูง เธอหันกลับไปมองและสังเกตเห็นรอยยิ้มของเธอที่หายไปและเธอถามขึ้น “ผู้สืบทอดคะ ท่านหาฉีปู่ฝานทำไมกันคะ?”
เฉินเฉินตอบกลับอย่างเย็นชา “จัดการเรื่องที่ค้างกันอยู่”
เขาเมินกู่ฉินเจิ้งไป เขาเดินตรงไปยังตึกสูง
“อ๊า! ผู้สืบทอดคะ ได้โปรดรอก่อนค่ะ ฉีปู่ฝานกำลังเฉลิมฉลองอยู่บนชั้นบนสุดพร้อมกับผู้สืบทอดอีกสองคน ท่านรอจัดการเรื่องที่ค้างอยู่กับเขาพรุ่งนี้ไม่ได้หรอคะ? ข้าไม่อยากให้มีปัญหาที่บ้านดอกไม้พระจันทร์แห่งนี้…”
ในความคิดของเธอแล้ว กู่ฉินเจิ้งต้องการที่จะขวางทางเฉินเฉินไม่ให้เข้าไป ยังไงก็ตามเมื่อเธอกำลังจะเดินเข้าไป ออร่าที่ยอดเยี่ยมของเธอก็ระเบิดออกจากร่างกายของเขา
เธอสัมผัสได้ถึงออร่ามังกรที่น่าหวาดกลัวรวมกับเจตนาสังหารที่น่าหวาดหวั่น!
เมื่อโดนแรงกดดันถาโถมเข้าใส่ กู่ฉินเจิ้งตัวแข็งทื่อและไม่กล้าที่จะขยับตัว
แขกที่อยู่รอบเฉินเฉินต่างแข็งทื่อเหมือนกันกับที่เธอรู้สึกถึงออร่านี้ พวกเขารีบหันหลังเดินออกไป แขกในบ้านต่างเดินออกกันทีละคน
“ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะชดใช้เมื่อเวลามาถึง”
ตึก…ตึก
หลังจากพูดจบ เฉินเฉินเดินขึ้นไปบนบันได ในขณะที่กู่ฉินเจิ้งจ้องมาที่เขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน
‘ผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุนดูแตกต่างไปมาก เขาไม่เหมือนกับสุภาพบุรุษหนุ่มที่เอาแต่ยิ้มอีกแล้ว วันนี้ เขาดูเย็นชา เยือกเย็น เฉยเมยและน่าหวั่นเกรงมาก’
เธอมองเฉินเฉินเดินเข้าไปยังด้านบนของตึก เธอไม่กล้าที่จะหยุดเขาเลยสักนิด ในความเป็นจริงเธอไม่กล้าที่จะส่งเสียงออกมาเลยต่างหาก
ความขัดแย้งกันระหว่างเซียนไม่เหมือนกับการแข่งขันกันระหว่างหอโสเภณี มันไม่ใช่เรื่องที่เธอสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้เลย
…
เฉินเฉินเดินมาถึงบนตึก
มันมีเสียงที่ดังออกมาจากห้องส่วนตัว หนึ่งในนั้นคือเสียงของฉีปู่ฝาน
เสียงของเขาคือสิ่งที่เขาอยากจะได้ยิน
เฉินเฉินเปิดประตูห้องส่วนตัวไปโดยไม่มีความลังเล
ทันใดนั้นเองเสียงดังในห้องก็เงียบลง หญิงสาวมากมายต่างมองไปที่เฉินเฉิน ซึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน
“เฉินเฉิน เจ้ามาทำอะไร? เจ้ามายอมรับความผิดกับข้างั้นเหรอ?”
เมื่อฉีปู่ฝานเห็นเฉินเฉิน มันมีร่องรอยของความประหลาดใจในดวงตาของเธอ
ด้านข้างเขาคือผู้สืบทอดอีกสองคนที่อยู่ขั้นสูงสุดของขั้นสร้างรากฐาน เขาอยู่อันดับหกและเก้าตามลำดับ พวกเขาต่างหน้าแดงฉานจากการดื่มเหล้า
“ฮ่า ศิษย์พี่ฉี ข้าคิดว่าเขามาที่นี่เพื่อคุยเรื่องพนันกันละ เขาพนันหนึ่งหมื่นหินวิญญาณไปถ้าเขาชนะ เขาจะได้รับแสนห้า…” หนึ่งในผู้สืบทอดพูดขึ้นด้วยดวงตาที่พร่าเบลอ
ผู้สืบทอดอีกคนหนึ่งพูดตามมา
“ไม่แย่เลย ถ้าศิษย์พี่ฉียอมแพ้พรุ่งนี้ เขาจะทำเงินได้มากเลยละ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาแล้ว ฉีปู่ฝานก็ตระหนักได้
มันเห็นได้ว่าเฉินเฉินวางแผนไว้แล้ว เขาตัดสินใจที่จะลงพนันหนึ่งหมื่นก้อนเพื่อชัยชนะของตัวเอง
‘ฮ่า ถ้าไม่ใช่แบบนั้นแล้วเขาจะมาที่บ้านดอกไม้พระจันทร์ทำไมกัน?’
เมื่อมีความคิดนี้ในหัวแล้ว เขาพูดออกมาอย่างเฉยเมย แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความละโมภ “ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ได้นะ แต่ข้าขอแสนห้าหมื่นก้อนจากที่เจ้าจะได้รับพรุ่งนี้ อีกอย่างหนึ่งเจ้าต้องลงมาคุกเข่าก้มกราบข้าสามครั้งเพื่อขอโทษกับการยั่วยุข้า..”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาถูกขัดโดยเฉินเฉิน
“ใครคือคนที่ทำร้ายลูกน้องของข้า?”
คำพูดของเขาเย็นชาจนทำให้ผู้สืบทอดสามคนสร่างเมา หนึ่งในผู้สืบทอดปลดปล่อยออร่าออกมาจากร่างกาย
“เป็นข้าเอง ทำไมละ? เจ้าคิดที่จะล้างแค้นให้กับเจ้าขี้แพ้…”
ในจุดนี้เอง ผู้สืบทอดก็เงียบลง เมื่อเฉินเฉินปรากฏขึ้นด้านหน้าเขาอย่างกับภูติผีก่อนจะทะลุผ่านออร่าที่ป้องกันรอบตัวเขามาและบีบคอเขาด้วยข้างหนึ่ง
เฉินเฉินพูดออกมาอย่างเบาบาง “ข้าทำอะไรได้หรือไง? ข้าจะเอาชีวิตเจ้าไปไงละ
พลังปราณระเบิดออกจากมือของเขาและแสงสว่างวาบขึ้นทั่วทั้งห้อง
บึ้ม!
ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 100: ตายอย่างแน่นอน
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!”
เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที
“ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?”
“ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!”
เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา
แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว!
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ!
การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ!
‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง
“มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!”
หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา
เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย
ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน?
ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า
เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ
เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน
ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข
เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน
เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’
“อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง”
นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้
“ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ”
อะไรนะ?!
เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา
เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง
‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม
ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา
“ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่”
เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม
หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย
‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา
เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน?
นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้!
ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
“รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ”
เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้
ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน…
“เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!”
เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที
ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน
Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since.
Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.”
Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”