โจวฉานและโจวเฟิงต่างมองหน้ากันสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะพยักหน้าพร้อมกัน
หลังจากนั้นโจวเฟิงพุดต่อ “พวกเราไปยังรัฐจินได้ครับ แต่พวกเราต้องรออีกสองวัน หลังจากผ่านไปสองวัน สำนักอสูรทั้ง 36 สาขาจะเริ่มแผนการกับรัฐจิน เมื่อถึงตอนนั้นแล้วทั้งสองฝ่ายจะต่อสู้กันอย่างเต็มกำลัง ถ้าพวกเรารอจนถึงตอนนั้นและเข้าไปยังรัฐจิน มันจะปลอดภัยกว่า”
“ยังไงก็ตาม พวกเราจะไปที่รัฐจินเพื่ออะไรกันครับ?”
เฉินเฉินมีแผนหลายอย่างอยู่ในหัว แต่เขาไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้ เนื่องจากว่ามันมีหลายจุดที่เขาสามารถทำได้โดยการใช้ระบบ ด้วยเหตุนี้แล้วเขาจึงได้ตอบคำตอบคร่าวๆ
….
ทั้งสามคนต่างหยุดกันในอาณาเขตของสาขาที่สอง
วันต่อมา ข่าวของเจ้าสำนักเทียนหยุนเซี่ยวอู่โยวกลับมานั้นแพร่กระจายไปทั่วรัฐจิน
นอกจากนี้แล้ว แม้แต่ผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุน เฉินเฉินก็ยังมีชีวิตอยู่ เขากลับมายังสำนักเทียนหยุนพร้อมกับการได้รับบาดเจ็บสาหัส
“เฉินเฉินยังมีชีวิตอยู่!”
ในสาขาสอง หยวนฉิงเทียนขดตัวอยู่ตรงมุมห้องอย่างตื่นตระหนก มันเหมือนกับว่าเขาได้รับบาดแผลทางจิตใจอย่างหนักหน่วงมา
อันเฉินและอันฉิงที่อยู่ข้างเขาพยายามที่จะปลอบประโลม แต่มันก็ไม่ได้ผลอะไรเลยสักนิด
เมื่อถึงจุดนี้แล้ว พวกเขาทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากผู้ฝึกตนระดับก่อกำเนิดวิญญาณทั้งสองคน โจวเฟิงและโจวฉาน
หลังจากตรวจดูหยวนฉิงเทียนแล้ว โจวฉานและโจวเฟิงต่างส่ายหัว
“นายน้อยของสาขานั้นตื่นเต้นมันเป็นเพราะเฉินเฉิน เนื่องจากว่าทะเลจิตของเขาถูกทำลายลงไป จนมันทำให้เขานั้นเอาแต่ครุ่นคิดถึงแต่เฉินเฉิน อาการป่วยทางจิตของเขาจะรักษาได้ก็จริง แต่ข้าเกรงว่ามันมีหนทางเดียวคือการจัดการเฉินเฉินด้วยตัวของเขาเองเนี่ยสิ”
“ไม่! ผมจะไม่สู้กับเฉินเฉิน! เขาหน้าด้านมากเกินไป!” หยวนฉิงเทียนคำรามออกมา ตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ไม่กี่ชั่วขณะต่อมา หยวนฉิงเทียนก็กลับมาเป็นปกติและความกลัวในดวงตาของเขาเปลี่ยนไปเป็นความมุ่งมั่น
คนที่ยอดเยี่ยมนั้นจะมีความมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว แม้ว่าเขาจะสูญเสียความทรงจำไปทั้งหมดและสภาพสติปัญญาของเขากลายเป็นเด็กแล้วก็ตามที ความมุ่งมั่นและความไม่ย่อท้อของเขายังคงเหมือนเดิม
ตั้งแต่ที่เขาอยู่ในสำนักอู๋ซิ่นมากว่าสิบปี หยวนฉิงเทียนก็เป็นคนที่มีความอดทนสูงมากและเขาก็กล้าหาญมากพอที่จะเผชิญหน้ากับปีศาจในจิตใจของเขาเอง
เมื่อเห็นหน้าตาของเขาแล้ว อันเฉินและอันฉิงต่างใจชื้นขึ้นมา
บึ้ม!
แต่ว่าวินาทีต่อมานั้นเอง หยวนฉิงเทียนก็ล้มลงคุกเข่าทั้งสองข้างลงต่อหน้าเฉินเฉิน
“ศิษย์พี่! ถ้าท่านสามารถจัดการข้าได้ในการโจมตีครั้งเดียวได้แล้ว ท่านจะสามารถจัดการกับเฉินเฉินได้อย่างแน่นอน ศิษย์พี่ ได้โปรดให้ข้าได้อยู่ข้างท่านและได้เรียนรู้วิชาจากท่านเพื่อเอาชนะปีศาจในจิตใจข้าด้วยเถิด!”
เฉินเฉินพูดไม่ออกกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า
‘เจ้ากำลังให้ข้าสอนวิธีที่เอาชนะตัวของข้าเองเนี่ยนะ? เพ้อฝันเกินไปแล้ว!’
ยังไงก็ตาม อันเฉินและอันฉิงที่อยู่ด้านข้างต่างตื่นเต้นกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็น
พวกเขาต่างพึมพำออกมา “มันคล้ายกันมากเลย! ยี่สิบปีก่อน ฉิงเทียนก็คุกเข่าต่อหน้าเจ้าสำนักคนก่อนและอ้อนวอนเขาให้ได้มีโอกาสเข้าไปในดินแดนลึกลับ! ในเวลานั้นเอง ฉิงเทียนก็มีข้อขัดแย้ง เนื่องจากการทะเลาะกันของครอบครัว เขาธรรมดามาก แต่เจ้าสำนักนั้นประทับใจกับเขา
“ในตอนสุดท้ายแล้วเขายังได้รับวิชาพลางตัวศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนลึกลับ….ไม่เพียงแค่เขาจะสามารถแก้แค้นครอบครัวของเขาได้แล้ว เขาจะได้อาสาที่จะไปยังรัฐจินอีก…”
เฉินเฉินพูดไม่ออก
เมื่อเห็นเฉินเฉินดูไม่ได้ใส่ใจอะไร อันฉิงและอันเฉินต่างอ้อนวอนเขาด้วยเช่นกัน
“นายน้อยครับ ฉิงเทียนกำลังก้าวเดินไปบนเส้นทางเก่าของเขาและบางทีสภาพจิตใจและความคิดของเขาอาจจะเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็วด้วยก็ได้ พวกเราไม่กล้าที่จะหวังให้ท่านสอนเขาด้วยวิชาขัดเกลาร่างกาย แต่พวกเราหวังว่าจะให้เขาได้ติดตามท่านไป ได้โปรดตอบตกลงด้วยครับ นายน้อย!”
“อืม…” เฉินเฉินตอบออกมาอย่างช่วยไม่ได้
วิชาพลางตัวศักดิ์สิทธิ์ของหยวนฉิงเทียนนั้นยิ่งทรงพลังกว่าแต่ก่อนและจุดอ่อนของเขานั้นมีเพียงแค่ตอนที่เขาโจมตีเท่านั้น
นั่นหมายความว่าเขาไม่โจมตีจะไม่มีใครพบเจอ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใครก็ตามพยายามที่จะแอบดูแล้ว พวกเขาก็จะสามารถแอบดูได้เป็นเวลานาน ตราบเท่าที่พวกเขาอยู่เฉยๆ
วิชาแบบนี้มันมีประโยชน์กับเขา แน่นอนว่าเฉินเฉินจะไม่ใช้มันเพื่อแอบดู
“ขอบคุณมากครับท่านศิษย์พี่! ถ้าท่านมีคำสั่งอะไรในอนาคต ข้าจะทำอย่างดีที่สุด ตราบเท่าที่ข้าทำได้!”
หยวนฉิงเทียนตื่นเต้นมาก หลังจากการต่อสู้เมื่อครั้งก่อน ชายที่ตัวโตและไร้เทียมทานก็โผล่ขึ้นมาในความคิดของเขา
เขาคนนั้นคือเฉินเฉินที่สวมหน้ากาก!
เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาคิดถึงชื่อที่หวาดกลัวนี่แล้ว เขาคงรู้สึกโดนคุกคาม แต่ความกลัวที่อยู่ในหัวใจของเขาก็จะหายไปทันทีที่เขาคิดถึงแสงสีทองนั่น
เขาสัมผัสได้ถึงความปลอดภัยแล้วเมื่อศิษย์พี่ตกลงที่จะยอมให้เขาติดตามไปด้วย
เฉินเฉินยิ้มและตบไหล่หยวนฉิงเทียนอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างจริงจัง “ข้าไม่ได้ให้ใครตามข้าง่ายๆหรอกนะ ตั้งแต่ที่ข้ายอมให้เจ้าตามข้ามาแล้ว ข้าจะดูแลเจ้าเอง ข้าการันตีได้เลยว่าตราบเท่าที่เจ้าทำงานขยันขันแข็ง เจ้าจะเอาชนะเฉินเฉินได้อย่างแน่นอน!”
“ขอบคุณครับศิษย์พี่!” หยวนฉิงเทียนตื้นตันใจมาก เขาขอบคุณเฉินเฉินอย่างมาก
ทั้งสองคนต่างมองตากันและเงียบงัน
‘ในอนาคต ข้าจะให้เขาท้าชิงข้าและข้าจะยอมแพ้ทันที นั่นก็ไม่ใช่การผิดสัญญาใช่ไหม?’ เฉินเฉินคิดในใจและหันไปมองทางอื่น
…
วันต่อมา สาขาที่เหลือทั้งสามสิบกว่าต่างเริ่มจู่โจม ยกเว้นสาขาแรกและสาขาสอง
นอกจากนี้แล้ว ราชวงศ์ของรัฐโจวได้ส่งกองกำลังกว่าหนึ่งล้านคนเพื่อโจมตียังพื้นที่ของรัฐจินอีก ซึ่งยึดครองเมืองใหญ่แปดเมืองในเวลาแค่หนึ่งวัน
ทั้งแปดเมืองนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคืออาณาเขตของสำนักที่เข้าร่วมกับสำนักอู๋ซิ่น
สำนักเหล่านี้ต่างตกอยู่ในอันตรายและสำนักอู๋ซิ่นก็เริ่มวุ่นวายมากยิ่งขึ้น
ในวันนี้ เฉินเฉินก็ได้มาถึงชายแดนของรัฐโจวและรัฐจินอีกครั้งหนึ่ง
โจวฉานและโจวเฟิงต่างเดินทางมาพร้อมกับเขา ควบคู่ไปกับหยวนฉิงเทียนที่ถือพัด
ผู้อาวุโสทั้งสองมองไปยังหยวนฉิงเทียนที่มีรอยยิ้มกว้างบนหน้า ทั้งสองต่างพูดไม่ออก
“นายน้อยครับ…นี่มันจะเหมาะสมเหรอครับ?”
“มันไม่มีอะไรไม่เหมาะสมหรอก เขาน่าจะมีความสุขกับการเป็นเด็ก พูดตามจริงแล้วสาขาที่สองได้บอกว่าประสบการณ์ในอดีตก่อนหน้านี้อาจจะไม่เหมาะสมกับการเติบโตของเขา” เฉินเฉินพูดอย่างสบายๆ
“ยังไงก็ตาม…เขาคือนักฆ่านะครับ”
“ตามคำพูดโบราณ ปราศจากการทำลาย มันจะไม่มีการสร้างขึ้นมา ถ้าพวกเราปล่อยให้เขาพัฒนาตัวไปเหมือนกับแต่ก่อน เขาก็จะเป็นเหมือนกับหยวนฉิงเทียนคนก่อนและมันก็จะไม่มีอะไรพัฒนา มันเป็นเรื่องยากที่จะให้คนๆหนึ่งเติบโตขึ้นและมีแรงมุ่งมั่น หลังจากที่เขาตายไป ดังนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้!”
ผู้อาวุโสทั้งสองพูดไม่ออก ตั้งแต่ที่เฉินเฉินทำให้เซี่ยวอู่โยวถอยกลับไปได้ พวกเขาก็พบว่าเฉินเฉินนั้นโน้มน้าวใจได้ดีมาก นอกจากนี้แล้วคำพูดของเขายังเหมาะสมและน่าเชื่อถืออีก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถปฏิเสธได้
“พวกเราจะไปไหนกันต่อครับ?” โจวเฟิงถาม
“ไปยังสำนักเทียนหยุน พวกเขาอยู่ตัวคนเดียวแล้วและยังเป็นที่ที่สำนักอู๋ซิ่นต้องการจะยึดครองอีก ถ้าพวกเราไปยังสำนักเทียนหยุนแล้ว พวกเขาจะเริ่มระวังเกี่ยวกับเรา ด้วยเหตุนี้แล้ว สำนักเทียนหยุนจะรวมตัวกับสำนักพยัคฆ์ขาวและอีกสามสำนักที่เหลือ”
เฉินเฉินตอบกลับอย่างใจเย็น
แน่นอนว่าเขาเป็นคนเดียวที่รู้ความคิดของตัวเอง
เมื่อได้ยินคำพูดแล้ว โจวฉานและโจวเฟิงต่างเหมือนจะเข้าใจ
“ท่านฉลาดมากเลยครับ นายน้อย!”
ด้วยเหตุผลบางอย่าง คำพูดคำเดียวต่างปรากฏขึ้นมาในหัวของพวกเขาพร้อมกัน
‘ทะเยอะทะยานและมีความสามารถ!’
‘นายน้อยของสาขาอาจจะยังเยาว์วัย แต่เขารู้ถึงสิ่งที่เขาจะต้องทำ แต่พวกเรายังไม่รู้เป้าหมายที่แท้จริงของเขาในการมายังรัฐจินเลยด้วยซ้ำ’
ไม่ว่ายังไงก็ตาม พวกเขาต่างรู้สึกว่าเฉินเฉินต้องการที่จะเผชิญหน้ากับสำนักอู๋ซิ่นจริงๆ
…
ยังไงก็ตามมันมีสิ่งที่พวกเขายังไม่รู้
ในเวลานี้เอง เรือดำยักษ์พุ่งผ่านท้องฟ้าภูเขาเทียนหยุน มันปลดปล่อยแรงกดดันที่น่าหวาดหวั่นออกมามาก
ยอดเขาทั้งหมดของสำนักเทียนหยุนต่างเปิดค่ายกลป้องกันภูเขาและลูกศิษย์ที่อยู่ในค่ายกลต่างมองไปที่เรือยักษ์บนท้องฟ้า
ผู้อาวุโสคนหนึ่งเดินออกมาจากเรือ ใบหน้าของเขาซีดขาวและเขาดูเย่อหยิ่งมาก
“สำนักเทียนหยุน จงฟังให้ดี! พวกเจ้ามีเวลาครึ่งวันในการรวบรวมผู้ฝึกตนที่อยู่ในขั้นก่อสร้างรากฐานและตามข้ามายังแนวหน้าเพื่อต่อสู้กับสำนักอสูร ไม่อย่างงั้นแล้ว วันนี้จะเป็นจุดจบของสำนักเทียนหยุน!”
ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 117: การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ได้ถือกำเนิดขึ้น
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!”
เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที
“ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?”
“ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!”
เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา
แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว!
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ!
การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ!
‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง
“มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!”
หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา
เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย
ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน?
ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า
เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ
เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน
ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข
เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน
เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’
“อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง”
นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้
“ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ”
อะไรนะ?!
เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา
เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง
‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม
ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา
“ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่”
เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม
หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย
‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา
เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน?
นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้!
ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
“รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ”
เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้
ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน…
“เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!”
เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที
ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน
Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since.
Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.”
Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”