ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 119: เป้าหมายคือจักรวาล

“ข้าจับตัวผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุนได้แล้ว!”
 
สำนักอู๋ซินตื่นเต้นอย่างมาก เขาตะโกนดังลั่นก่อนที่เขาจะได้แตะต้องจางจีด้วยซ้ำ
 
ตูม!
 
ในตอนนี้เองก็มีเสียงดังสนั่นบนทองฟ้า และชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่สวมหน้ากากอยู่ก็ปรากฎตัวขึ้นอย่างกะทันหันและเข้าไปหาเขา
 
ศิษย์สำนักอู๋ซินไม่มีเวลาตอบสนองเลยเพราะเขาถูกเตะกระเด็นและแขนของเขาก็สะบัดไปมา
 
“เจ้าเป็นใคร!?!”
 
ในขณะที่มองชายสวมหน้ากากแปลกๆที่จู่ ๆก็ปรากฏตัวขึ้น ศิษย์สำนักอู๋ซินบางส่วนก็ตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธเคืองด้วยสายตาระมัดระวัง
 
“ข้าคือนายน้อยที่พึ่งถูกแต่งตั้งขึ้นใหม่ของสาขาที่หนึ่งสำนักอสูร ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อมาดูหน้าของพวกยอดฝีมือในรัฐจินแต่ข้าคิดไม่ถึงเลยว่ามันกลับมีแต่พวกโง่เง่า”
 
เฉินเฉินพูดกับจางจีอย่างเย็นชา และไม่สนใจคนที่ถามคำถาม
 
“นายน้อยสาขาที่หนึ่งที่พึ่งถูกแต่งตั้งใหม่เหรอ?” ดวงตาของศิษย์สำนักอู๋ซินเป็นประกาย
 
‘นายน้อยของสำนักอสูรสาขาที่สองได้ฆ่าราชาคนใหม่ของรัฐจิน แล้วนายน้อยของสาขาที่หนึ่งจะมีฝีมือยอดเยี่ยมขนาดไหนกัน!?!’
 
ในขณะที่คิดเช่นนี้ ทุกคนก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
 
จางจีจ้องชายสวมหน้ากากกลับไปด้วยความประหลาดใจอย่างสุดขีด
 
‘การเปิดตัวเท่ๆแบบนี้มันคล้ายกับพี่ใหญ่เฉินเฉินมากเลย!’
 
‘แต่ว่า พี่ใหญ่เฉินเฉินจะทำตัววางท่าอย่างเปิดเผยและตระหนักรู้ถึงตัวเองด้วย ชายชุดดำสวมหน้ากากที่อยู่ตรงหน้าข้านี้ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไม่รู้ตัวเองเลยและแอบวางท่าอย่างลับๆ’
 
‘หรือว่าเขาจะเป็น…’
 
ก่อนที่เขาจะได้คิดเกี่ยวกับมัน ชายชุดดำสวมหน้ากากก็พูดอีกครั้ง
 
“ตราบใดที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ก็จงอย่าหยุดดิ้นรน ตราบใดที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ก็แสดงว่ายังมีความหวัง”
 
แม้ว่าชายชุดดำสวมหน้ากากจะกำลังมองท้องฟ้าในตอนที่พูดแบบนั้น แต่จางจีเข้าใจว่ากำลังพูดถึงตัวเขา ลึกๆลงไป เขาก็ได้ยืนยันตัวตนของชายชุดดำสวมหน้ากากตรงหน้าเขาด้วย
 
‘เขาคือพี่ใหญ่เฉินเฉิน!’
 
‘ไม่นึกเลยว่าพี่ใหญ่จะมาช่วยข้าอีกแล้ว!’
 
“พวกเจ้ามัวรออะไรอยู่!?! จัดการเขาสิ! ถ้าเจ้าจับเฉินเฉินไม่ได้ พวกเจ้าทุกคนตาย!” ยอดฝีมือระดับก่อกำเนิดวิญญาณทั้งสองคนของสำนักอู๋ซินตะคอกอย่างขุ่นเคืองในตอนที่พวกเขาเห็นว่าพวกศิษย์ไม่ทำอะไรเลย
 
ในการต่อสู้สองต่อสามนั้น พวกเขาคงจะไม่สามารถยื้อเอาไว้ได้นานนัก ถ้าพวกเขาหนีไปล่ะก็ ศิษย์สำนักอู๋ซินที่เหลืออยู่ก็มีแต่ตายเท่านั้น
 
กลุ่มศิษย์สำนักอู๋ซินที่อยู่ด้านล่างเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขาในทันที โดยไม่สนใจตัวตนของชายชุดดำสวมหน้ากาก พวกเขาก็จับกลุ่มรุมในทันที
 
ในขณะที่มองกลุ่มศิษย์ขั้นสร้างรากฐาน เฉินเฉินก็ส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นยชาแล้วออกหมัดส่งพวกเขากระเด็นออกไป
 
ในตอนนี้ ยอดฝีมือระดับแก่นทองคำบางส่วนได้วิ่งเข้ามาแล้วและโจมตีเฉินเฉินด้วยพลังทั้งหมดของพวกเขา
 
ตูม!
 
ด้วยเสียงดังสนั่น เฉินเฉินก็ส่งพวกเขากระเด็นไปก่อนที่จะชนเข้ากับจางจี
 
ก่อนที่จางจีจะสามารถตอบสนองได้ เขาก็กระเด็นไปหลายสิบเมตรด้วยกันกับรถเข็น
 
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขาลงมาถึงพื้น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่เขาจินตนาการเอาไว้มันไม่เกิดขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ว่า รถเข็นได้เละเป็นซากแล้ว
 
“ยอดฝีมือระดับแก่นทองคำกล้ามาโจมตีคนหนุ่มแบบนี้ได้ยังไง? ช่างไร้ยางอายจริงๆ!”
 
เฉินเฉินลุกขึ้นและหันหลังวิ่งไปด้วยความรีบร้อนโดยไม่ได้หันกลับมามองจางจีด้วยซ้ำ
 
ในขณะที่มองแผ่นหลังของเฉินเฉิน จางจีก็มีสีหน้าที่ซับซ้อนเพราะเขาสัมผัสได้ว่าในตอนนี้มีบางอย่างอยู่ในอ้อมแขนของเขา
 
ผู้อาวุโสแก่นทองคำมองหน้ากันด้วยความตกใจ พวกเขาไม่มั่นใจว่าจับตัวจางจีหรือชายชุดดำสวมหน้ากากจะดีกว่า
 
ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจได้ เสียงอันน่ากังวลก็ดังมาจากบนฟ้า!
 
“นายน้อยสาขา! เป็นอะไรไหมครับ!?”
 
“ข้าไม่เป็นอะไร พวกเจ้าสองคนไปลุยต่อเถอะ พวกเจ้าไปฆ่าไอ้พวกชั่วสองคนนั่นจากสำนักอู๋ซินจะดีกว่า! พวกกระจอกข้างล่างทำอันตรายข้าไม่ได้หรอก!
 
เฉินเฉินตะโกนตอบในขณะที่เขาไล่ล่าศิษย์ขั้นสร้างรากฐานของสำนักอู๋ซิน ไม่นานนัก เขาก็จัดการพวกเขาและขยี้จนหมดสภาพด้วยกำลังของตัวเอง
 
ยอดฝีมือขั้นก่อกำเนิดวิญญาณสองคนของสำนักอู๋ซินที่อยู่บนฟ้าออกเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในตอนที่พวกเขาเห็นว่าศัตรูนั้นน่าเป็นห่วงอย่างแท้จริง
 
ถ้าพวกเขาจับเฉินเฉิน มันก็จะมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้แต่ถ้าพวกเขาจับนายน้อยสาขา มันก็จะส่งผลกระทบกับสถานการณ์ของสองประเทศ
 
นายน้อยสาขาของสำนักอสูรนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆเพราะเขาโจมตีเซียนระดับแก่นทองคำได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นยอดฝีมือที่ต้องมีความสำคัญกับสำนักอสูรแน่ๆ
 
ในอีกด้านนึง เฉินเฉินมีกลุ่มศิษย์สำนักเทียนหยุนคอยปกป้องอยู่แต่เมื่อเทียบกันแล้ว นายน้อยสาขาของสำนักอสูรไม่มีใครปกป้องเลย
 
ด้วยความคิดนี้เอง ผู้อาวุโสสำนักอู๋ซินจึงตะโกนดังลั่น “จับตัวนายน้อยสาขาของสำนักอสูรก่อน! ใครก็ตามที่จับมันได้จะได้รับรางวัลเป็นหินวิญญาณ 10,000 ก้อน!”
 
ในทันทีที่คำสั่งของเขาถูกประกาศออกมา ยอดฝีมือแก่นทองคำสามหรือสี่คนก็เข้ามาล้อมเฉินเฉิน
 
“พวกเจ้ากำลังรังแกคนอ่อนแอด้วยจำนวนอยู่นะ ลาล่ะ!”
 
เมื่อเห็นแบบนี้ เฉินเฉินก็ตะโกน แล้วหันหลังวิ่งหนีไป
 
ยอดฝีมือแก่นทองคำของสำนักอู๋ซินจำนวนหนึ่งกำลังไล่ตามเขา และไม่นานนัก ทั้งกลุ่มก็หายไปไกล
 
ทั้งสองคนที่อยู่บนฟ้า โจวเฟิงกับโจวฉางต่างก็รู้สึกเป็นห่วงและอยากจะให้หนึ่งในพวกเขาตามไปช่วยเฉินเฉิน
 
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เอง ยอดฝีมือขั้นก่อกำเนิดวิญญาณทั้งสองคนของสำนักอู๋ซินก็ทุ่มสุดตัวด้วยกำลังทั้งหมดของพวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถยื้อทั้งสองคนและเซี่ยวอู่โยวเอาไว้ได้
 
จางจีถูกพาไปยังที่ปลอดภัยในเวลาไม่นานนัก
 
“ท่านผู้สืบทอด พวกข้าจะออกไปปกป้อง และช่วยเหลือศิษย์คนอื่นด้วย!” ศิษย์สำนักภายในกลุ่มหนึ่งรีบออกไปอีกครั้งในทันทีหลังจากที่วางจางจีลง
 
ไม่นานนัก จางจีก็ถูกทิ้งไว้คนเดียวที่พื้นที่ฝั่งนี้
 
จางจีเอาของที่อยู่ในแขนของเขาออกมาอย่างเงียบๆ ซึ่งมันก็คือแหวนเก็บของที่ถูกพันเอาไว้ด้วยกระดาษแผ่นหนึ่ง
 
หลังจากที่เปิดโน้ตกระดาษ เขาก็เห็นว่ามันคือลายมือของเฉินเฉิน
 
“จางจี ข้าพบวิธีฝึกตนดีๆในสำนักอสูรที่จะทำให้คนฝึกวิชาอมตะไขว่คว้าสวรรค์ได้แม้จะไม่มีจุดตันเถียนก็ตาม”
 
“ในการที่จะฝึกวิชานี้ เจ้าจำเป็นต้องปล้นชิงโชคแห่งสวรรค์และซึมซับมัน ถ้าให้พูดง่ายๆ มันก็คือการดูดซับสมบัติสวรรค์นั่นล่ะ”
 
“ข้าได้อ่านและพบว่ายิ่งเจ้าดูดซับสมบัติไปมากเท่าไหร่ เจ้าก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น อันที่จริง แม้กระทั่งการทะลวงระดับขั้นการฝึกตนก็ยังต้องใช้สมบัติสวรรค์ที่เฉพาะเจาะจงด้วย”
 
“ก็นะ ข้าไม่ได้ขลาดแคลนสมบัติอยู่แล้วเพราะฉะนั้นวางใจได้และจงตั้งใจฝึกให้ดี เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ของที่อยู่ในแหวนเก็บของนี้เพียงพอที่จะทำให้เจ้าฝึกตนจนกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งพอๆกับข้า”
 
“จางจี เจ้ามันคนดวงดี การที่มาอยู่ใต้ปีกของข้าจะจำกัดการพัฒนาของเจ้า ตอนนี้ข้าอยู่ในสำนักอสูร เจ้าสามารถปลดปล่อยตัวเองได้แล้ว จงกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นและเดินบนเส้นทางของตัวเอง จำเอาไว้ เป้าหมายในอนาคตของพวกเราก็คือจักรวาล!”
 
ในขณะที่มองข้อความสั้นๆนี้ จางจีก็รู้สึกตื้นตันจนน้ำตาไหล
 
‘พี่ใหญ่ต้องเสี่ยงอันตรายอย่างมากในสำนักอสูรแต่เขาก็ยังคิดถึงข้าขนาดนี้ เขาถึงกับมอบมรดกที่แข็งแกร่งเช่นนี้ให้กับข้าด้วย’
 
‘นอกจากนั้น…เขายังเลือกที่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองเพื่อมอบแหวนเก็บของวงนี้ให้กับข้าต่อหน้ายอดฝีมือขั้นก่อกำเนิดวิญญาณด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เขายังลงทุนรับการโจมตีจากเซียนแก่นทองคำ!’
 
‘ความเป็นพี่น้องนี้มันช่าง…’
 
จางจีเช็ดน้ำตาและนึกถึงความยากลำบากที่เฉินเฉินเผชิญ และก็มีแต่จะรู้สึกตื้นตันมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาอดที่จะให้คำสาบานอย่างเงียบๆไม่ได้
 
‘นับจากนี้ไป ข้าต้องกลายเป็นยอดฝีมือที่อยู่เหนือทุกคน! ต่อให้จะต้องเจอความลำบากมากมาย ข้าก็จะใช้ทุกวิถีทาง’
 
‘มีแค่ตอนนั้นเท่านั้นที่ข้าจะสามารถตอบแทนความใจดีของพี่ใหญ่ได้’
 

 
ในอีกด้านนึง เฉินเฉินวิ่งออกมาได้ห้าหรือหกพันเมตรแล้วและเขาก็ค่อยๆลดความเร็วลง ในท้ายที่สุดนั้น เขาก็หันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับยอดฝีมือแก่นทองคำที่กำลังไล่ตามเขามา
 
“เซียนแก่นทองคำขั้นกลางสามคน? พวกเจ้าดูถูกข้าอยู่นะ”
 
เฉินเฉินยิ้มอย่างเยือกเย็น
 
เซียนแก่นทองคำคนนึงรู้สึกหวาดหวั่นในตอนที่เขาเห็นความนิ่งของเฉินเฉิน
 
ความรู้สึกถึงลางไม่ได้กำลังครอบงำจิตใจของเขาและเขาก็พึมพำออกมา ‘หรือว่าพวกเราจะมาเจอกับดักเข้าให้แล้ว?’
 
“เจ้าเป็นใคร? เจ้าคือนายน้อยสาขาที่หนึ่งของสำนักอสูรใช่ไหม!?”
 
เฉินเฉินส่ายหัวแล้วหัวเราะคิกคัก “ไม่ใช่ ข้าไม่ได้เป็นแค่นายน้อยสาขาที่หนึ่งของสำนักอสูร แต่ข้ายังเป็นเจ้าสำนักอสูรในอนาคต และราชาของรัฐเฉินด้วย! ข้าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากเลยใช่ไหมล่ะ!?!”
 
“ราชาของรัฐเฉิน?” เซียนแก่นทองคำสับสนเพราะพวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อสถานที่แบบนั้นมาก่อน
 
“อ๋อ ข้าตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนชื่อประเทศของข้าเป็นรัฐเฉินหลังจากที่ข้าควบรวมรัฐจินกับรัฐโจวได้ในอนาคต พวกเจ้าคิดว่ายังไง? ฟังดูดีไหมล่ะ?” เฉินเฉินอธิบาย
 
ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำหลังจากที่ได้ยินมัน!
 
พวกเขาเคยเห็นคนไร้ยางอายมาก่อนแต่ไม่มีใครเลยที่ไร้ยางอายเท่าเฉินเฉิน!
 
ในขณะที่พวกเขากำลังเดือดพล่านด้วยความโกรธและให้ความสนใจกับชายหน้าด้านที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา คนๆหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่าพร้อมกับแสงวาบ!

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset