ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 20: ทำลายตระกูลหวัง

 
ในตอนนี้หวังหู่ไม่ได้อยากฟังเฉินเฉิน และมองแต่ม้าสีขาวที่เขาขี่อยู่
 
นั่นคือม้าของลูกสาวเขาหวังซูฉิน!
 
ก่อนที่เขาจะได้ถามมากกว่านี้ เฉินเฉินก็พูดอย่างใจเย็น “จะไม่รู้จักข้าก็ไม่แปลกหรอก ชื่อของข้าคือเฉินเฉิน เฉินชานเป็นพ่อของข้าเอง ตอนนี้เข้าใจรึยังหล่ะ?”
 
เมื่อได้ฟังดังนี้ สีหน้าของหวังหู่ก็มืดมนขึ้นมาอย่างกระทันหัน
 
เมื่อช่วงเช้า หวังซูฉินบอกว่าเธอจะพาคนบางส่วนไปที่หมู่บ้านหิน แล้วเอาหัวของตระกูลเฉินติดมือกลับมาฝาก
 
แล้วทำไมลูกของเฉินถึงขี่ม้าของลูกสาวเขามาที่หน้าประตูบ้านหล่ะ?
 
นี่มันทำให้เขาสับสนจริงๆ
 
“เจ้าคนชั้นต่ำ ลูกสาวของข้าขอให้เจ้ามาอ้อนวอนข้าที่นี่รึไง? คิดว่าเจ้าสมควรขี่ม้าตัวนั้นหรอ? ลงมาเดี๋ยวนี้นะ!”
 
หวังหู่กรอกตา ด้วยความคิดที่ว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ดีแล้ว
 
ความเป็นไปได้อย่างการที่ตระกูลหวังทุกคนถูกกวาดล้างนั้น มันไม่ได้อยู่ในการพิจารณาของเขาด้วยซ้ำ
 
ใครจะไปคิดหล่ะว่าจะมีเซียนมาจากหมู่บ้านชาวนาจนๆ
 
“อวดดีนัก! หวังหู่ เจ้ากล้าดียังไงถึงมาดูหมิ่นพี่ใหญ่ของข้า? ข้าจะสู้กับเจ้าให้ตายไปข้าง!”
 
เฉินเฉินไม่ได้ตอบสนองอะไร แต่จางจีกลับโกรธแทนเขา เขาชักดาบออกมาแล้วชี้ไปที่หวังหู่พร้อมกับตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ
 
หวังหู่กับพ่อบ้านเจามองหน้ากันและจากนั้นก็มองไปที่จางจีเหมือนกับว่าเขาเป็นเด็กที่สมองพิการ
 
พวกเขาคิดว่าเด็กคนนี้เสียสติไปแล้ว เขามีอายุ 20 ปีและเป็นลูกชายของตระกูลหลัก แต่เขากลับเรียกเด็กหนุ่มที่สวมเสื้อผ้ากระสอบ และดูน่าจะมีอายุไม่ถึง 18 ปีว่าพี่ใหญ่หรอ?
 
มันต้องมีอะไรผิดปกติกับตัวเขาแน่ๆ
 
ในขณะที่มองจางจีที่ดูซื่อสัตย์กว่าเหลาเฮยของเขา เฉินเฉินก็พูดไม่ออกเล็กน้อย เขาชี้นิ้วไปแล้วเปลวเพลิงก็ออกมาจากนิ้วของเขา และเปลี่ยนคนคุ้มกันที่หน้าประตูให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
 
ตั้งแต่ที่เขาเรียนรู้วิธีการควบคุมไฟ เฉินเฉินก็ได้พัฒนาจากการต่อสู้ระยะประชิดเป็นการโจมตีในระยะที่ไกลขึ้น
 
และเมื่อเทียบกับการเตะ วิชาการควบคุมไฟนี้ขั้นสูงกว่าและงดงามกว่ามาก มันแบ่งแยกเขาออกจากระดับมนุษย์ในทันที และยังสร้างความตกใจให้ผู้คนด้วย
 
เมื่อเห็นเช่นนี้ สถานการณ์ก็เงียบลงอย่างกระทันหัน แม้แต่เสียงเข็มตกก็ยังได้ยิน
 
ไม่ว่าจะเป็นคนคุ้มกัน หวังหู่ หรือพ่อบ้านเจา สายตาของทุกคนกลมโตเหมือนกับกระดิ่งทองแดง ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นเลย
 
เด็กหนุ่มที่ขี่ม้าสีขาวตรงหน้าพวกเขา… เป็นเซียนหรอ?
 
“ถ้าใครเคยฆ่าคนเพื่อตระกูลหวังก็จงปลิดชีวิตตัวเองซะ ส่วนใครที่ไม่เคยฆ่าคนเพื่อพวกมันก็จงไสหัวไปเดี๋ยวนี้เพื่อรักษาชีวิตของพวกเจ้าเอาไว้
 
“ในส่วนของคนตระกูลหวัง ทุกคนจะต้องตายวันนี้”
 
เฉินเฉินดึงมือของเขากลับมา น้ำเสียงของเขาราบเรียบและดูไม่แยแส
 
กลุ่มคนคุ้มกันที่ปกติจะดุร้ายเหมือนหมาป่า พวกเขาได้กลายสภาพเป็นแกะในทันที มีดของพวกเขาตกลงพื้นด้วยความหวาดกลัวและทุกคนก็คุกเข่าขอความเมตตาจากเฉินเฉิน
 
ในโลกนี้ การเผชิญหน้ากับพลังของเซียนนั้นเป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นจริงๆ
 
“ทุกคนที่ข้าบอกว่าออกไปได้ ออกไปซะ วันนี้ฆ่าไม่อยากทำบาปจากการฆ่าคนมากเกินจำเป็น” เฉินเฉินสั่งในขณะที่นั่งอยู่บนหลังม้า และแอบภาวนาอยู่ในใจ
 
เขาอดนึกถึงตัวเอกในหนังกำลังภายในจากชีวิตก่อนของเขาไม่ได้ ในทันทีที่พวกเขาถูกประกาศชื่อ อย่างเช่น ‘เฉียวฟงเหนือ’ หรือ ‘มู่หยงใต้’ ผู้คนก็จะพากันหวาดกลัว (ตัวละครจากเรื่องมังกรหยก)
 
“ข้านี่น่าสมเพชจังเลยนะเริ่มมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ยังไม่ได้ซักฉายาเลย”
 
ในขณะที่กำลังคร่ำครวญกับเรื่องนี้ คนคุ้มกันบางคนก็ได้โยนอาวุธของพวกเขาทิ้งและเตรียมหนี
 
“ระบบ ในกลุ่มนี้มีใครบ้างที่สมควรตาย?” เฉินเฉินถามในใจในขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวหนี
 
“ห้าเมตรทางซ้าย หกเมตรทางขวา และแปดเมตรทางขวาค่ะ….” ระบบรายงานมาห้าคนในรอบเดียว
 
ห้าคนที่ว่านี้ไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้น และไม่ได้ตั้งใจจะปลิดชีวิตของตัวเองด้วย
 
เฉินเฉินเย้ยหยัน แล้วยิงไฟใส่คนคุ้มกันหนึ่งในห้าคนนั้น และเผาเขาเป็นเถ้าถ่านในทันที
 
“ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ถึงเรื่องชั่วร้ายที่เจ้าเคยทำลงไปนะ ถ้าเลือกฆ่าตัวตาย อย่างน้อยเจ้าก็จะได้มีร่างไร้วิญญาณเหลืออยู่ครบ ลองคิดดูดีๆสิ”
 
เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉินเฉิน บางส่วนที่เคยฆ่าคนมาก่อนก็ทรุดลงกับพื้นด้วยขาที่อ่อนแรง หลังจากนั้นซักพัก พวกเขาก็หวาดกลัวมาก และควบคุมการขับถ่ายไม่ได้อีก
 
โลกนี้มีความเชื่ออยู่ว่าการถูกฝังเมื่อตายไปแล้วคือการตายที่ดีที่สุด และพวกที่ตายโดยไม่เหลือร่างก็จะไม่ได้กลับมาเกิดใหม่ ดังนั้นการเผาเป็นเถ้าถ่านในสายตาของพวกเขาจึงน่ากลัวกว่าการฆ่าตัวตายหลายเท่า
 
ก่อนหน้านี้ ในตอนที่เฉินเฉินเตะคนตายในหมู่บ้านหิน คนคุ้มกันของหวังบางคนยังกล้าต่อสู้กับเขาจนตัวตาย แต่ตอนนี้ ด้วยการใช้วิชาควบคุมเพลิง เขาก็ทำให้คนคุ้มกันพวกนี้กลัวจนเสียสติได้แล้ว
 
“ท่านเซียน! ข้าสำนึกผิดแล้ว! เกิดชาติหน้าข้าจะทำตัวเป็นคนที่ดีขึ้น!” หนึ่งในคนคุ้มกันตะโกนออกมา จากนั้นก็ปาดคอตัวเอง
 
คนที่เหลือต่างก็กลัวกันหมด และนอนหมอบอยู่กับพื้นเหมือนหมาตาย ไม่สามารถที่จะทำการฆ่าตัวตายได้
 
พวกเขาไม่มีทางออก เซียนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาน่ากลัวเกินไป และพวกเขาก็ไม่สามารถปกปิดได้ด้วยว่าพวกเขาเคยฆ่าคนมาก่อน สำหรับพวกเขา เขาก็เหมือนกับเทพที่ไม่สามารถขัดขืนได้
 
ในส่วนของคนคุ้มกันที่มีบาปน้อยกว่า พวกเขาได้หนีหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
 
ในที่สุดหวังหู่กับพ่อบ้านเจาก็ตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาทั้งคู่ค่อนข้างกลัวเลยทีเดียว
 
พ่อบ้านเจาหยุดพูดถึงเรื่องการแต่งงาน เขาปาดเหงื่อออกจากหน้าผากแล้วพูด “ท่านเซียน ข้าแค่ผ่านทางมา ข้าไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหวังนี้ ลาก่อน!”
 
เขาได้สาปแช่งตระกูลหวังไป 18 ชั่วโคตรซ้ำไปซ้ำมาในใจของเขา แล้วเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจางจีถึงยอมรับเด็กหนุ่มคนนี้เป็นพี่ใหญ่
 
คนที่มีฐานะเป็นเซียนนั้น ไม่ต้องพูดถึงที่จางจีเรียกเขาว่าพี่ใหญ่หรอก เขาสามารถทำให้พ่อบ้านเจาที่อายุอยู่ในช่วง 50 ปี เรียกว่าท่านผู้อาวุโสได้ด้วยซ้ำ!
 
“หืม?” เฉินเฉินจ้องมองเขา
 
แค่สายตาเพียงอย่างเดียวก็บังคับให้พ่อบ้านเจาคุกเข่าได้แล้ว
 
“ท่านเซียน ข้าไม่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลหวังจริงๆครับ!”
 
“คุกเข่าต่อไป”
 
“ครับ…” พ่อบ้านเจาตอบกลับ เหงื่อบนหน้าของเขาไหลท่วมเหมือนฝนตก แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะขยับตัวเลยซักนิด
 
ในส่วนของหวังหู่ เขาเองก็กำลังหายใจหอบอยู่ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนของตระกูลหวังที่ถูกส่งไปยังหมู่บ้านหิน
 
ใครจะไปรู้หล่ะว่าความคิดชั่วร้ายที่นึกขึ้นมาได้อย่างกระทันหันจะทำลายทั้งตระกูลของเขา?
 
‘ซูฉินเจ้าทำให้ข้าชิบหาย!’ หวังหู่สบถในใจ จากนั้นก็หยิบมีดจากพื้นขึ้นมาแล้วปาดคอตัวเอง
 
ดวงตาของเฉินเฉินกระตุกกับฉากที่เห็น
 
ในช่วงเวลานี้เอง เขาก็ได้เข้าใจถึงความน่ากลัวของพลังแห่งเซียนในโลกนี้แล้ว
 
เขากลัวว่าน่าจะมีเซียนที่ทำเรื่องไม่ดีอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะทำให้กลุ่มมนุษย์อยู่ในสภาพแบบนี้ได้ยังไงกันหล่ะ
 
“พี่เฉิน… นี่มัน…”
 
ความประทับใจในสายตาของจางจีนั้นเกินกว่าที่จะกลั่นกรองออกมาเป็นคำพูดได้ คำพูดของเขาขาดตอน และเขาก็ไม่สามารถบรรยาความรู้สึกของตัวเองออกมาได้อย่างราบรื่น
 
“ก็แค่เรื่องง่ายๆหน่ะ ไม่ต้องชื่นชมนักหรอก” เฉินเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม
 
จางจีไม่เข้าใจ แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับความชื่นชมของเขาเลย
 
จากนั้นดูเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วเสนอตัว “พี่เฉิน ให้ข้าจัดการพวกที่เหลือเองนะครับ ข้าได้ยินมาว่าหลังจากที่เข้าสู่หนทางแห่งเซียนแล้ว การสังหารมนุษย์เป็นจำนวนมากมันจะดูไม่ดี ไม่อย่างนั้น ท่านจะถูกฟ้าผ่าได้ในตอนที่ท่านไปอยู่บนสวรรค์!
 
“ถ้าท่านเป็นแค่เซียนธรรมดา ก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่ในกรณีของพี่เฉินท่านจะได้ขึ้นไปถึงจุดนั้นอย่างแน่นอน”
 
หลังจากที่พูดออกมาเช่นนี้ จางจีก็ชักดาบของเขาออกมาแล้ววิ่งเข้าไปในตัวคฤหาสน์ของตระกูลหวัง
 
เฉินเฉินประหลาดใจกับแผ่นหลังที่ค่อยๆหายไปของเขา
 
ช่างเป็นน้องเล็กที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!
 
เขาไม่ใช่แค่มั่นใจในตัวพี่ใหญ่ของเขา แต่ยังยอมเสนอตัวและแบ่งปันความกังวลกับเขาด้วย!
 
ที่สำคัญกว่านั้น เขายังนำพาโอกาสดีๆมาให้พี่ชายของเขาอีก
 
น้องเล็กแบบนี้สามารถเทียบได้กับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ได้เลย มันเป็นการพบกันที่น่าเหลือเชื่อและหาไม่ได้อีกแล้ว
 
เขาต้องทำดีกับเขาต่อไปเพื่อทำให้เขาเชื่อฟังยิ่งขึ้น!
 

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset