จางจีวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลหวัง แล้วออกมาด้วยร่างกายที่เปื้อนเลือดหลังจากนั้นไม่นาน
“พี่เฉิน ข้าจัดการงานเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
“ถ้างั้นก็ไปที่บ้านของเจ้ากันเถอะ” เฉินเฉินตอบกลับ
“เอ่อ….แต่มันยังมีของมีค่าอยู่ในคฤหาสน์หวังนะครับ ถ้า…” จางจีพูดด้วยความเขินอายเล็กน้อย
“พวกมันก็แค่วัตถุทางโลก ตอนนี้ปล่อยเอาไว้ก่อนเถอะ ถ้าพวกเราไปถึงบ้านของเจ้าช้าเพราะพวกมันนี่ไม่ดีเลยนะ อาจจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้” เฉินเฉินอธิบายอย่างอบอุ่นเหมือนกับว่าเป็นพี่ชายแท้ๆ
จางจียิ่งรู้สึกตื้นตันกับคำพูดของเขา จากนั้นก็หันไปมองพ่อบ้านเจา
“พี่เฉิน พ่อบ้านเจานั้นทำธุรกิจอันตรายอยู่หลายอย่างและเคยเป็นมันสมองของกองโจรขี่ม้า พวกเราควรกำจัดเขาไหมครับ?”
เฉินเฉินส่ายหัวแล้วสะกิดม้าให้เดินไปหาพ่อบ้านเจาพร้อมกับถามเขาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “ตาแก่เจา ข้าขอถามหน่อย ในตระกูลจางใครเป็นหนอนบ่อนไส้ให้แก?”
เมื่อได้ฟังดังนี้ ร่างกายของพ่อบ้านเจาก็เริ่มสั่น
เขารู้ว่าเซียนคนนี้กำลังแทรกแซงเรื่องระหว่างตระกูลจางกับตระกูลเจา!
ตระกูลเจาจบสิ้นแล้ว!
เมื่อเทียบกับจางจีที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด เซียนที่กำลังยิ้มอยู่และเรียกเขาว่า ‘ตาแก่เจา’ คนนี้น่ากลัวกว่าเยอะ
“หนอนบ่อนไส้หรอครับ? ได้ยังไงกัน? มีคนทรยศอยู่ในตระกูลของข้าหรอ?” จางจีถามด้วยความไม่เชื่อ
พ่อบ้านเจามองเขาด้วยความดูถูก จากนั้นก็ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คนๆนั้นคือ…ลูกพี่ลูกน้องของจางจี อู๋เหว่ยครับ”
“หรอ? แล้วทำสัญญากับเจ้านั้นเอาไว้แค่ไหน?” เฉินเฉินถามต่อ
“หลังจากจัดการตระกูลจางได้… เขาจะได้ตัวคุณหญิงน้อยจางไป รวมทั้งทรัพย์สมบัติของตระกูลจางครับ” พ่อบ้านเจาไม่กล้าปกปิดความจริง ถึงยังไง พื้นเพก็เป็นโจรขี่ม้า เขาไม่ได้เป็นคนที่ซื่อสัตย์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ไม่มีทางหน่า… ได้ยังไงกัน… เจ้าต้องล้อเล่นแน่ๆ! ที่ลูกพี่ลูกน้องของข้าได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเป็นเพราะท่านพ่อรับเขามาเลี้ยง เขาทำแบบนั้นได้ยังไงกัน!?”
จางจีสั่นไปทั้งตัวเหมือนกับว่าเขาถูกฟ้าผ่า ในเวลานี้เขาดูสีหน้าไม่สู้ดีเลย
เฉินเฉินถอนหายใจในขณะที่มองจางจี
เด็กคนนี้ยังอ่อนต่อโลกและยังรู้จักสังคมไม่ดีพอ ‘เด็กเกินไป ง่ายเกินไป และใส่ซื่อเป็นบางครั้ง’ เขาคิด
“พวกเราไปที่บ้านของเจ้าแล้วดูเองก็ได้ว่าพ่อบ้านเจาพูดความจริงรึเปล่า” เฉินเฉินพูด
“ยังไงหล่ะครับ?”
“พวกเราค่อยคุยระหว่างทาง แล้วก็พาพ่อบ้านเจาไปกับเราด้วย”
…
ไม่นานนัก ทั้งสองก็ไปถึงคฤหาสน์ตระกูลจาง
ณ จุดนี้คนคุ้มกันที่ประตูกำลังระแวดระวังอย่างเต็มที่
“นายน้อยกลับมาแล้ว!”
แม้ว่าร่างกายจะเปื้อนเลือด แต่คนคุ้มกันก็จำจางจีได้และรีบเปิดประตูให้เขา
พอลงมาจากม้า จางจีก็สั่งคนคุ้มกันในขณะที่ชี้ไปที่พ่อบ้านเจา “จับตาดูเจ้านี่เอาไว้ให้ดีด้วย”
“ครับ!”
โดยไม่พูดอะไรให้มากความ คนคุ้มกันก็มาดึงตัวพ่อบ้านเจาไป
หลังจากนั้น จางจีก็เดินไปอยู่ข้างเฉินเฉิน เป็นการส่งสัญญาณว่า ‘เชิญครับ’
“พี่เฉิน เชิญก่อนเลยครับ!”
เฉินเฉินยิ้ม และแทนที่จะเช็ดเลือดบนหน้าของจางจีเขากลับละเล็งจนแทบจำหน้าเขาไม่ได้
“ทักษะการแสดงของเจ้ายังไม่พอนะ เพราะฉะนั้นทำให้หน้าของเจ้าอ่านไม่ได้จะดีกว่า ในตอนที่พวกเราเข้าไปแล้ว ก็ทำตามที่ข้าสอนหล่ะ ด้วยวิธีนี้ พวกเราจะได้เห็นกันว่าลูกพี่ลูกน้องของเจ้าเป็นคนทรยศรึเปล่า”
“ครับ!” จางจีตอบกลับ
ณ ตอนนี้ เขายังไม่เชื่อสนิทใจว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาเป็นคนทรยศ
ทั้งสองเข้าไปในตัวอาคารหลักของตระกูลจาง ก่อนที่เฉินเฉินจะได้ชื่นชมกับความงามข้างใน คนๆนึงก็วิ่งออกมากอดจางจีในทันทีโดยไม่พูดอะไร
“ลูกพี่ลูกน้อง! เจ้าเป็นอะไรไหม? ทำไมร่างกายถึงเลอะเลือดขนาดนี้หล่ะ?”
เฉินเฉินมองคนๆนี้ เขาเป็นเด็กหนุ่มอายุใกล้เคียงกับเฉินเฉิน สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง และดูเล่นใหญ่จริงๆ
เห็นได้ชัดเลยว่าคนๆนี้ก็คืออู๋เหว่ย ลูกพี่ลูกน้องของจางจี
“ระบบ แถวนี้มีคนที่คิดร้ายกับตระกูลจางไหม?”
“สองเมตรตรงหน้าท่านค่ะ”
เมื่อได้ฟังคำตอบของระบบ เฉินเฉินก็รู้สึกพอใจ
ด้วยการเริ่มต้นที่ดีนี้ ตอนนี้เขาก็สามารถทดสอบได้ด้วยความมั่นใจที่มากว่าเดิมมาก
…
ไม่นานนัก ก็มีอีกหลายคนวิ่งออกมาจากหลังบ้าน คนที่นำมาเป็นชายวัยกลางคนที่มีร่างกายกำยำ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหยาบกร้าน และดูคล้ายกับจางจี
เห็นได้ชัดเลยว่าคนๆนี้คือพ่อของจางจี จางเต๋อ
จางเต๋อเป็นผู้ชายสายทหาร และสร้างครอบครัวมาได้ขนาดนี้ด้วยผลงานทางการทหาร
อย่างไรก็ตาม เขาเป็นคนที่ค่อนข้างซื่อ
ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีลูกชายที่ใสซื่อแบบนี้ หรือมองข้ามการคำนวณทั้งหมดและประกาศสงครามกับตระกูลเจาที่มีอำนาจมากกว่าแค่เพราะลูกชายของเขาถูกโจมตีจนทำให้ทั้งตระกูลต้องเจอกับวิกฤตแบบนี้หรอก
เฉินเฉินสังเกตสมาชิกตระกูลจางทุกคนอย่างเงียบๆ
แม่ของจางจีนั้นดูเหมือนกับผู้หญิงทั่วๆไป ที่ไม่ได้มีจุดเด่นเป็นพิเศษ
ในอีกด้านนึง น้องสาวของจางจีดูเหมือนกับพันธุกรรมผิดเพี้ยนจนทำให้เธอดูน่าอัศจรรย์จริงๆ ในวัยแค่ 18 นี้ เธอดูเหมือนกับดอกลิลลี่ที่ผุดขึ้นจากน้ำ เป็นความงดงามที่ชัดเจน
และด้วยสีหน้าเป็นห่วงในขณะที่เธอมองน้องชายนั้น มันก็ยิ่งทำให้เธอดูน่ารักขึ้นไปอีก
แค่นี้ก็อธิบายเจตนาของอู๋เหว่ยได้แล้ว แม้แต่เฉินเฉินก็ยังรู้สึกหวั่นไหวเลย
เฉินเฉินคิดเรื่องพวกนี้ในใจ และอดยิ้มออกมาไม่ได้
“ว่าแต่เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นใคร…?”
จางเต๋อเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นเฉินเฉิน และถามคำถามนี้กับจางจี
จางจีผละออกมาจากอู๋เหว่ยในทันทีแล้วแนะนำเฉินเฉินอย่างเป็นทางการ
“คนๆนี้เป็นพี่ชายคนใหม่ที่ข้าพึ่งทำความรู้จัก พี่เฉินเฉินครับ! เขาช่วยชีวิตของข้าเอาไว้! ศิลปะการต่อสู้ของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าเลย! และตอนนี้ เขาก็ยินดีที่จะช่วยตระกูลของเราด้วย!”
คำพูดของเขานั้นจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการสั่งสอนมาจากเฉินเฉิน
จางเต๋อไม่ได้ดูถูกเขากับแค่เพราะเสื้อผ้าโทรมๆของเฉินเฉิน นอกจากนี้ เขายังกำหมัดแน่นและประกาศออกมา “หนุ่มน้อย เจ้าคือผู้มีพระคุณของตระกูลจางสำหรับการที่ช่วยชีวิตลูกชายของข้า! ตระกูลของข้าจะทำทุกอย่างที่พวกเราทำได้เพื่อช่วยเหลือเจ้า ต่อให้นั่นหมายถึงการวิ่งเข้าหากองไฟก็ตาม!”
เฉินเฉินขมวดคิ้ว เนื่องจากพวกเขาเป็นพ่อลูกกัน คำพูดของพวกเขาจึงเหมือนจนน่าประหลาดใจเช่นกัน
“การช่วยเหลือเมื่อมีความจำเป็นมันคือส่วนหนึ่งในความรับผิดชอบของข้าครับ ท่านจาง ท่านไม่ต้องสุภาพกับข้าขนาดนี้ก็ได้”
“ข้าไม่ได้สุภาพ ข้าจริงจังมาก คุยกันที่นี่คงไม่ดีเท่าไหร่ ช่วยตามเข้ามาข้างในเถอะ” จางเต๋อพูดอย่างจริงจังแล้วชี้ไปที่ห้องรับแขก
เฉินเฉินพยักหน้าแล้วเดินตรงไปตามทางที่เขาชี้
ในตอนที่เดินผ่านอู๋เหว่ยไปนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงความเป็นศัตรูอย่างชัดเจน
ข้างในห้องรับแขก เฉินเฉินถูกพาไปยังที่นั่งของแขกในขณะที่มีคนใช้คนนึงเข้ามาเสิร์ฟน้ำชาให้เขา
เฉินเฉินพยักหน้าแล้วจิบชาจากแก้ว อากัปกิริยาของเขานั้นทั้งงดงามและเป็นสง่า
สายตาของทุกคนนั้นแสดงให้เห็นถึงความประหลาดใจในตอนที่เห็นภาพนี้
เฉินเฉินเงยหน้ามองด้วยความสับสนอย่างบอกไม่ถูก พวกเขาเป็นอะไรกัน?
อย่างไรก็ตาม เขาก็เข้าใจเหตุผลในวินาทีต่อมา
จางเต๋อจับแก้วของเขาแล้วดื่มมันหมดรวดเดียว แสดงให้เห็นถึงความไม่ค่อยมีมารยาท
ผู้หญิงหลายคนรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก และพยายามจะจิบชาให้เหมือนกับเฉินเฉิน แต่พวกเธอก็ไม่สามารถลอกเลียนลักษณะการจับที่งดงามของเขาได้ ทำให้มันดูแปลกตั้งแต่แรกเห็น
‘ตระกูลจางเป็นตระกูลสายทหาร พวกเขาน่าจะไม่ได้รับการสั่งสอนในเรื่องนี้…. และน่าจะไม่รู้จักพิธีดื่มชาด้วย’ เฉินเฉินคิดในใจ
เมื่อเทียบกับเขาที่มีประสบการณ์ของโลกสมัยใหม่ จางที่ถูกเรียกว่าเป็นตระกูลใหญ่นั้นดูค่อนข้างหยาบไปหน่อย
เขาทำสิ่งที่เขาทำตามปกติ เขาก็แค่ทำตามที่เขาเคยเห็นมาในชีวิตก่อน อย่างน้อยในแง่ของมารยาทการดื่มชา เขาก็อาจจะทำให้คนพวกนี้หวั่นเกรงได้เป็นอย่างดีแล้ว
“น้องชาย เจ้าค่อนข้างมีสเน่ห์เลยนะ ข้าขอถามหน่อยสิว่าเจ้ามาจาก-”
แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ ในที่สุดจางจีที่นั่งอยู่ข้างๆก็ได้ทำในสิ่งที่เขารออยู่
ณ จุดนี้ เขาแค่อยากยืนยันว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาเป็นคนทรยศในตระกูลจางรึเปล่า
ดังนั้น เขาจึงตะโกนออกมาสุดเสียง “ท่านพ่อ! ท่านแม่! พี่เฉินเป็นคนที่รักความยุติธรรมมากและข้าก็รู้สึกคุยถูกคอกับเขาเป็นอย่างดี พวกเราให้เสี่ยวหยาแต่งงานกับเขาดีไหมครับ?”
ผรืดด!!
เมื่อได้ฟังคำพูดของเขา ทุกคนที่ทำเป็นจิบชาก็อดพ่นมันออกมาจากปากของพวกเขาไม่ได้
ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 21: ให้เสี่ยวหยาแต่งงานกับเขา
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!”
เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที
“ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?”
“ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!”
เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา
แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว!
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ!
การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ!
‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง
“มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!”
หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา
เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย
ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน?
ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน
แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า
เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ
เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน
ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข
เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน
เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’
“อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง”
นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้
“ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ”
อะไรนะ?!
เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา
เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง
‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม
ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา
“ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่”
เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม
หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย
‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา
เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน?
นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้!
ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา
“รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ”
เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้
ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน…
“เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!”
เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที
ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน
Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since.
Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.”
Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”